ตอนที่ 775 ซิงซิง ข้าจะต้องไปที่ที่ไกลมาก

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ตี้เสียทรงคิดไม่ถึงเลยว่าพลังที่พระองค์ต้องการใช้ทำลายเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายตกตายไปด้วยกันชนิดที่ว่าปลาตายตาข่ายขาด จะถูกนางดูดซับไปได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้? 

 

 

พระองค์เบิกเนตรโต พระขนงขมวดแน่น กระบี่แสงจันทร์ของจีเฉวียนแทงลึกเข้ามาอีกสามส่วน ใกล้จะแทงทะลวงเข้ามาในพระเศียรครึ่งหนึ่ง 

 

 

ตี้เสียไม่สนสนใจความเจ็บปวดอีก พระองค์กัดพระทนต์แน่น รวบรวมจิตเทพและจิตมารที่กำลังจะแตกสลายของตนเอง เป็นพลังครั้งสุดท้าย พระหัตถ์โบกออกไป พลังพุ่งเข้าใส่ตู๋กูซิงหลัน 

 

 

สิ่งที่เขาไม่อาจได้มาครอบครอง ใครก็อย่าคิดว่าจะได้ไปเลย! 

 

 

แม้จะเป็นพลังสุดท้ายที่ดวงวิญญาณกำลังใกล้จะแตกสลาย ก็เกินพอที่จะทรงใช้สังหารใครสักคน 

 

 

เพียงแต่ว่าผู้ที่พระองค์ทรงเลือกให้ตายในครั้งนี้ ก็คือตู๋กูซิงหลัน 

 

 

ต่อให้ทรงต้องตาย ก็จะขอลากนางไปด้วย! 

 

 

นางอย่าได้คิดว่าจะมีโอกาสอยู่ร่วมกับบุรุษอื่นไปตลอดกาล! 

 

 

คนเขาว่ากันว่าสุนัขจนตรอกยังกระโดดข้ามกำแพงได้ กระต่ายตื่นตูมยังรู้จักกัดคน อย่าว่าแต่ผู้ที่เป็นถึงจักรพรรดิสวรรค์เลย 

 

 

พลังขุมนี้ ยังไม่ทันสัมผสถูกร่างกายของตู๋กูซิงหลัน เสื้อผ้าของนางก็ถูกเป่าจนกระจายแล้ว 

 

 

เหมือนกับกำลังเผชิญกับหมื่นดาบพันกระบี่ ผิวเนื้อถูกบาดจนเจ็บปวด สมองส่งเสียงลั่นไปหมด แม้แต่สติสัมปชัญญะก็ยังถูกบีบจนใกล้จะเป็นผง  

 

 

แม้แต่เปลวเพลิงสีทองที่อยู่ด้านหลังพวกเขา ก็ยังต้องอ่อนกำลังลงไปในพริบตา พลังที่น่าสะพรึงกลัวนั่นทำให้หัวใจของทุกคนถึงกับกระตุกวาบ 

 

 

“หลันหลัน!” 

 

 

“อาหลัน!” 

 

 

“หวังเฟย!” 

 

 

คนทั้งกลุ่มโถมเข้ามาอย่าบ้าคลั่ง แต่ว่าพลังทรงอานุภาพที่ตี้เสียใช้ชีวิตเพื่อแลกมา กลับเป็นเหมือนกำแพงป้องกันที่ไม่สามารถทำลายได้ สกัดกั้นพวกเขาทั้งหมดเอาไว้แต่เพียงภายนอก 

 

 

ตู๋กูซิงหลันรู้สึกเหมือนกับว่าทั่วร่างกำลังถูกฉีกกระชากออก นางพยายามใช้ไม้คทาสีดำต้านทานเอาไว้ จนไม้คทาสีดำที่แข็งแกร่งไร้ที่เปรียบเสมอมาถึงกับส่งเสียงปริแตก 

 

 

เดิมทีมันกำลังใช้พลังดูดซับพลังของตี้เสียอย่างสุดกำลัง พริบตาเดียวก็ถูกนำมาใช้สกัดกั้นขุมพลังแลกชีวิตอีก ครั้งนี้จึงเกินกำลังไปมากนัก 

 

 

ตู๋กูซิงหลันปิดตาลง ปลดปล่อยพลังวิญญาณทั้งหมดในร่างออกไป ในมือของนางปรากฏยันต์โลหิตทีเดียวพร้อมกันสิบใบ ทั้งยังขับเคลื่อนพลังของหยกสรรพชีวิตในร่างกายออกมา พริบตานั้นแดนสวรรค์ที่ถูกไฟสงครามครอบคลุมจนมีแต่เมฆดำมืดมิด ระเบิดแสงที่สว่างไสวไปทั่วทุกทิศทาง 

 

 

นางเองก็คิดจะแลกชีวิตกับตี้เสียเช่นกัน 

 

 

ถือเสียว่า ….เพื่อสรรพชีวิตในใต้หล้า เพื่อเหล่าผู้คนที่นางรัก 

 

 

สายตาของตู๋กูซิงหลัน หันไปมองหาจีเฉวียนที่อยู่ข้างกายอย่างตัดสินใจแล้ว 

 

 

จีเฉวียนไหนเลยจะต้องให้นางมามองหาเขากัน? 

 

 

เมื่อมองไปก็ได้เห็นเรือนร่างที่งดงามไร้ที่เปรียบอย่างที่สุดร่างนั้น 

 

 

เขาบดบังอยู่ที่ด้านหน้าของตู๋กูซิงหลัน อาศัยร่างกายของตนต้านทานพลังที่แลกมากับการสลายดวงวิญญาณของตี้เสีย 

 

 

สองมือนั้นโอบกอดตู๋กูซิงหลันเอาไว้ในอ้อมอก 

 

 

ไม่รอให้นางได้มองดูเขาแม้แต่แวบเดียว ฝ่ามือที่ใหญ่โตของจีเฉวียนก็ปิดดวงตาของนางเอาไว้ 

 

 

“อย่ามอง ไม่ต้องกลัว” 

 

 

“ข้าจะปกป้องเจ้าเอง” 

 

 

ดวงตาของตู๋กูซิงหลันถูกเขาปิดเอาไว้อย่างมิดชิด จีเฉวียนต้านท้านพลังจากตี้เสียเอาไว้ทั้งหมด 

 

 

แม้จะเป็นเช่นนั้น นางก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัว 

 

 

แม้ว่าดวงตาจะถูกปิดเอาไว้ แต่ว่าหูยังคงได้ยินเสียงอย่างชัดเจน 

 

 

แม้แต่เสียงฉีกขาดที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่องจากร่างกายของจีเฉวียน ที่ดังขึ้นพร้อมๆกับกลิ่นคาวเลือด 

 

 

เป็นกลิ่นเลือดที่ตู๋กูซิงหลันคุ้นเคยที่สุด 

 

 

นางร้อนใจแล้ว แม้อยากจะขยับตัว แต่ว่าร่างกายกลับถูกจีเฉวียนโอบเอาไว้อย่างแนบแน่น 

 

 

ริมหูได้รู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา เพียงแต่เสียงลมหายใจที่เดิมทีอบอุ่นอ่อนโยนนั้น ตอนนี้กลับเย็นยะเยือกปานน้ำแข็ง 

 

 

“นับจากวันนี้ไป ใต้หล้านี้จะไม่มีผู้ใดกล้ารังแกเจ้าอีกแล้ว” 

 

 

ที่ด้านนอกของเขตอาคม ผู้คนทั้งหมดล้วนมองเห็นฉากนี้ 

 

 

พวกเขาเห็นภาพทั้งหมดอย่างชัดเจน ฝ่าบาททรงปกป้องหวังเฟยเอาไว้ในอ้อมอก 

 

 

แต่ว่าร่างกายของหมิงอ๋องนั้น….. 

 

 

พลังที่ตี้เสียแลกกับการยอมใช้จิตวิญญาณที่แตกสลายนั่น ช่างน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว! 

 

 

กำแพงวังทั้งสี่ด้านพังทลายลงมา และแตกสลายไปในอากาศ 

 

 

ตี้เสียมองเห็นจีเฉวียนโอบกอดตู๋กูซิงหลันเอาไว้ในอ้อมอก ในสมองก็ต้องปรากฏภาพที่เคยเกิดขึ้นในยุคบรรพกาลขึ้นมาอีกครั้ง ภาพที่จู่ฮว๋ายรับเอาทัณฑ์สวรรค์ในครั้งสุดท้ายเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว 

 

 

เขาถึงกับตกตะลึงไปแล้ว พอมองเห็นภาพที่จีเฉวียนปกป้องตู๋กูซิงหลัน ในพระทัยก็ต้องบังเกิดความรู้สึกที่สับสนขึ้นมา 

 

 

เกลียดชัง โกรธแค้น และยังมีความอิจฉาที่อธิบายไม่ถูก 

 

 

แต่ว่าจีเฉวียนย่อมไม่ให้โอกาสใดๆกับเขาทั้งสิ้น 

 

 

แผ่นหลังของเขากลายเป็นเลือดเนื้อที่แหลกเละ พลังวิญญาณทั่วร่างพวยพุ่งออกมา กระบี่แสงจันทร์ที่อยู่ด้านหลังของเขา รับพลังทั้งหมดในร่างเข้าไป 

 

 

และแทงซวบลงไปในหน้าผากของตี้เสีย 

 

 

เดิมทีพระเศียรก็ถูกแทงไปแล้วครึ่งหนึ่ง พอกระบี่แสงจันทร์แทงเข้าไปก็ยิ่งเบาโหวง 

 

 

อย่าว่าแต่กระบี่นี้ยังมีพลังทั้งหมดของจีเฉวียน ที่ต่อให้เหล่าเทพทั้งแดนสวรรค์รวมกำลังกัน ก็ยังคงไม่อาจต้านทานเอาไว้ได้ 

 

 

พลังที่แลกมากับวิญญาญแตกสลายของตี้เสียย่อมแข็งแกร่ง แต่ว่าพลังทั้งหมดในร่างของจีเฉวียน ไหนเลยจะอ่อนแอได้กัน? 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นพลังนี้ยังมีอานุภาพที่น่ากลัวว่าตี้เสียอีกหลายเท่าด้วยซ้ำไป 

 

 

เดิมทีตี้เสียก็ปลดปล่อยพลังสุดท้ายในชีวิตออกไปแล้ว ตอนนี้เมื่อกระบี่ของจีเฉวียนแทงทะลุพระเศียร พริบตานั้นร่างกายของเขาก็เปลี่ยนแข็งทื่อเหมือนแผ่นกระเบื้อง แตกสลายออกเป็นผง  

 

 

ทั้งจิตเทพและจิตมารของเขาก็ถูกจีเฉวียนทำลายจนหมดสิ้น สลายกลายเป็นเถ้าธุลีไปในอากาศ 

 

 

“ไม่…ไม่ อย่าได้…” ฮว๋ายยู่มองดูตี้เสียสูญสลายกลายเป็นเถ้าธุลีไปต่อหน้าต่อตาของนาง นางถึงกับสติหลุดลอย 

 

 

เขาไม่มีทางตาย ….เขาคือตี้เสียนะ คือบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในหกภพภูมิ เขาจะตายได้อย่างไร? 

 

 

นางคุกเข่าอยู่ข้างเศษขี้เถ้าของตี้เสีย ในมือกอบขี้เถ้าเหล่านั้นเอาไว้ พยายามจะเรียกเขาคืนมา 

 

 

แต่ว่าสายลมหนาวเย็นที่พัดมา ทำให้ขี้เถ้าเหล่านั้นกระจัดกระจายไปในท้องฟ้าที่มืดมิด 

 

 

พริบตานั้น ทุกสิ่งเหมือนเหลือแต่ความสงบนิ่ง 

 

 

ไอมารในแดนสวรรค์ค่อยๆสลายไป เหล่าเทพที่ถูกไอมารครอบงำค่อยๆได้สติคืนมา 

 

 

ทั้งหมดมองดูภาพเบื้องหน้าราวกับว่ากำลังตกอยู่ในความฝัน 

 

 

เทียนตี้ จักรพรรดิสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา ….กลับตายใต้คมกระบี่ บุรุษผู้นั้น ช่างน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงไหน 

 

 

สายตาของผู้คนทั้งหมดหันไปมองอยู่ที่ร่างของตู๋กูซิงหลันและจีเฉวียน 

 

 

เผ่าภูติล้วนเทิดทูนและ ตื่นเต้น 

 

 

เหล่าเทพในแดนสวรรค์ทั้งหวาดกลัวและยำเกรง 

 

 

ไม่มีผู้ใดกล้ารบกวนแม้แต่ผู้เดียว 

 

 

ตู๋กูซิงหลันรู้สึกได้ทันทีเลยว่า ร่างกายของจีเฉวียนเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง 

 

 

คราวนี้ จีเฉวียนค่อยยอมปล่อมมือของนางที่กำเอาไว้แนบแน่นมาตลอด 

 

 

ตู๋กูซิงหลันมองขึ้นไป ก็เห็นดวงหน้าที่งดงามของเขา ปราษจากสีเลือดใดๆ 

 

 

นางมองไม่เห็นว่า แผ่นหลังของจีเฉวียนกลายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ถึงเพียงไหน ทั้งยังมีเปลวเพลิงสีดำเผาผลาญราวกับจะกลืนกินเขาเข้าไป 

 

 

จีเฉวียนกอดนางเเอาไว้ พยายามจะดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน 

 

 

สายตาที่มองดูนาง ดวงตาหงส์มีแต่ความอบอุ่น อ่อนโยน และรักถนอมอย่างที่สุด 

 

 

“ซิงซิง ข้าคงต้องไปยังที่ที่ไกลแสนไกล เนิ่นนานถึงจะกลับมาได้….” 

 

 

เขาขยับปลายนิ้ว ทัดปอยผมที่ข้างหูนาง 

 

 

หัวใจของตู๋กูซิงหลันเจ็บแปลบ นางคว้ามือของเขาเอาไว้แน่น 

 

 

“เจ้าจะไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่กับข้าเท่านั้น!” 

 

 

นางร้อนใจไปหมดแล้ว พอคว้ามือของเขาเอาไว้ ในมือก็มีแต่เลือดเต็มไปหมด 

 

 

เป็นเลือดของจีเฉวียน เป็นเลือดที่ไหลซึมออกมาจากผิวหนังของเขา 

 

 

นางเกลียดเขาเหลือเกิน! 

 

 

แม้ว่าตนเองจะต้องทุกข์ทรมานเพียงไร ก็ไม่ต้องการให้เขาได้รับบาดเจ็บ 

 

 

เหมือนกับความรักที่จู่ฮว๋ายมีต่อซีเหอ ตนเองยินยอมรับทัณฑ์สวรรค์ เพียงขอให้เขาปลอดภัยไปชั่วชีวิต 

 

 

แต่จีเฉวียนไหนเลยจะมิได้รักนางอย่างลึกล้ำเช่นกัน? 

 

 

จีเฉวียนมองดูที่นางร้อนใจจนสองตาแดงก่ำ แต่ริมฝีปากของเขากลับไม่เอ่ยอะไรแม้แต่ครึ่งคำ เพียงมองดูนางแล้วยิ้มออกมา เขาพยายามจะใช้เวลาที่เหลืออยู่รักษาภาพลักษณ์ที่งดงามเอาไว้ เพื่อยามที่นางคิดถึงเขาจะได้จดจำแต่ภาพที่สวยงามของเขา 

 

 

แต่ว่าเลือดของเขายิ่งทีก็ยิ่งซึมออกมามากมาย มากเสียจนแม้ว่าตู๋กูซิงหลันจะถ่ายทอดพลังเข้าไปก็ยังไม่อาจหยุดเลือดเหล่านั้นเอาไว้ได้ 

 

 

…………