บทที่ 2173 นับถือนายเป็นลูกผู้ชายตัวจริง
“ฉันเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยความสงสัย “ฉันทำอะไรล่ะ ฉันก็คิดเผื่อพี่ใหญ่เหอแล้วไง แน่นอน ถ้าหากลูกพี่เหอไม่อยากกินของสดใหม่ งั้น…จะเอาแบบไม่สดใหม่ก็ได้นะ ฉันตามใจคุณเลย”
เวลานี้ ทุกคนจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น และอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า ชื่อเสียงของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยคนนี้ ไม่ใช่ได้มาโดยเปล่าประโยชน์เลยจริงๆ แม้แต่เหอเปียวขาใหญ่ของรัฐอิสระก็ยังต้องตกอยู่ในกำมือของไป๋เฟิงแล้ว
เหอเปียวคนนี้ก็น่าสงสารเหลือเกิน ถึงแม้จะบอกว่าเขาไม่เคยพ่ายแพ้ในเกมพนัน แต่ว่า…ระดับความหน้าไม่อายนี้ เกรงว่าเมื่อเทียบกับผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแล้ว ยังห่างกันอีกหลายขุม
เมื่อคิดดูอย่างละเอียดแล้ว ในรัฐอิสระ พันธมิตรอู๋เว่ยเป็นแบบไหนกันล่ะ
ชื่อเสียงลือชาฉาวโฉ่เป็นประเภทที่ไล่ทุบหนูเฒ่าข้ามถนน เข่นฆ่าปล้นสะดม ไม่ชั่วไม่ทำ
พูดให้ยิ่งใหญ่คือ พันธมิตรอู๋เว่ยชิงฟ้าคว้าดินได้ พูดให้เบาลงมาหน่อยคือ เรื่องลักเล็กขโมยน้อย พันธมิตรอู๋เว่ยก็ทำมาไม่น้อยแล้ว โดยเฉพาะผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยที่อยู่ตรงหน้า ขาใหญ่บางคนของรัฐอิสระเคยเห็นเธอแซงคิวที่ร้านแป้งทอดอย่างผ่าเผยชอบธรรมมาเองกับตา
กับคนไร้คุณธรรม ทำการทุจริตอย่างรุนแรงในสังคม ไม่มีศักดิ์ศรีใดๆ ทั้งนั้นประเภทนี้…ใครไปพนันกับเธอ แบบนั้นจะไม่ซวยไปแปดชั่วโคตรเลยเหรอ
“นับว่าฉันมองได้ชัดเจนแจ่มแจ้งดีแล้ว เหอเปียวเอ๋ย แกคิดว่าแกจะแข่งกับผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยว่าใครมีทักษะพนันที่ยอดเยี่ยมกว่าล่ะสิ…ฮ่าๆ น่ากลัวว่าผู้นำไป๋จะไม่ได้คิดแบบนี้น่ะสิ เห็นได้ชัดว่าเธอคิดจะแข่งกับนายว่าระหว่างพวกนายสองคน ใครจะหน้าไม่อายกว่ากัน”
พอเยี่ยหวันหวั่นได้ยิน จึงเหลือบตามองขาใหญ่คนที่พูดแวบหนึ่ง คนแบบนี้น่าเบื่อซะจริง เอาแต่พล่ามไร้สาระอะไรอยู่ได้
“พี่ใหญ่เหอ ฉันว่า ถ้าแกกล้าเอาชนะจริงๆ แบบนั้นแกจะหน้าไม่อายยิ่งกว่าผู้นำไป๋แล้ว จะเอายังไง นายก็คิดให้ดีๆ สักหน่อยเถอะ”
“พี่ใหญ่เหอ กลัวอะไรล่ะ เอาเลย ก็แค่ขี้กองหนึ่ง กินมันซะ แล้ววันหน้าฉันจะนับถือแกว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง!”
เมื่อเห็นว่าผู้คนพูดจาเย้ยหยัน ใบหน้าของเหอเปียวก็มืดครึ้มลงยิ่งกว่าเดิม
“ว่ายังไงล่ะ พี่ใหญ่เหอ อย่าทำให้คนอื่นเสียเวลาสิ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
หลังจากเหอเปียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ได้มองไปที่เยี่ยหวันหวั่น แล้วร้องเฮอะอย่างเย็นชา จากนั้นจึงปลดตราพยัคฆ์ขาวบนเอวโยนให้เยี่ยหวันหวั่น
“หวา…พี่ใหญ่เหอ รู้สึกผิดจังเลย” เยี่ยหวันหวั่นรับตราพยัคฆ์ขาวไว้ หัวเราะฮี่ๆ แล้วเอ่ยขึ้นมา
“ไป๋เฟิง...เธอมันหน้าไม่อายจริงๆ”
หลังจากเหอเปียวถลึงตาใส่เยี่ยหวันหวั่นอย่างดุดันแวบหนึ่ง ก็หันหลังเดินออกไป
“พี่ใหญ่เหอชมเกินไปแล้ว พี่ใหญ่เหอค่อยๆ เดินนะ วันหลังถ้ามีของดีอะไรอีก พวกเราก็มาเดิมพันกันอีกได้นะ!” เยี่ยหวันหวั่นมองแผ่นที่ห่างออกไปของเหอเปียว และรีบตะโกนบอก
“ไสหัวไป! ชาตินี้ฉันจะไม่เดิมพันอะไรกับคนอย่างเธออีกแล้ว”
เหอเปียวร้องด่าโดยไม่เหลียวกลับมาเลย
“นายดูสิ…พี่ใหญ่เหอคนนี้เล่นพนันไม่ได้เรื่องเลย ทำไมแค่แป๊บเดียวก็แพ้ไปแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นทอดถอนใจใบหน้าเต็มไปด้วยความจนปัญญา
“เธอแน่มาก”
ซือเซี่ยยกนิ้วโป้งให้เยี่ยหวันหวั่นทันที
เมื่อเห็นดังนั้น ขาใหญ่คนหนึ่งก็มองไปที่ซือเซี่ย “ซือชุน ฉันเห็นนายไร้เดียงสาขนาดนี้ อย่าไปคลุกคลีกับผู้นำไป๋คนนี้เกินไปนะ นายเคยได้ยินประโยคนนี้ไหม ใกล้ชาดเปื้อนแดงใกล้หมึกเปื้อนดำ ถ้านายติดตามผู้นำไป๋ จะกลายเป็นก้อนถ่านเอานะ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าชื่อซือเซี่ย ซือเซี่ย ซือเซี่ยโว้ย!” ซือเซี่ยตะคอก
“งั้นซือชุนเป็นใครกัน”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าซือชุนเป็นใคร! ถ้าใครเรียกฉันว่าซือชุนอีก ฉันจะเผาคลังทรัพยากรซะ!” ซือเซี่ยเอ่ย
….
“เอาละ เลิกโวยวายกันซะ”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพลางขมวดคิ้ว “ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะหารือกับทุกคนสักหน่อย”
—————————————————————————-
บทที่ 2174 ซื้อตั๋วเรือ
“ผู้นำไป๋ เธอมีเรื่องดีๆ เหรอ”
“เป็นเรื่องดีแน่นอน” เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่ฝูงชน “ทุกคนอยู่ในสถานที่ผีสางนี่…ไม่คิดอยากอยากออกไปข้างนอก กลับไปที่รัฐอิสระกันเหรอ”
พอสิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าของทุกคนก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ใครจะยินดีอยู่ในสถานที่สมควรตายแบบไหน แต่ถ้าคิดจะออกไป ก็เป็นเรื่องเพ้อฝันของคนโง่แล้ว
“ผู้นำไป๋ เกาะแห่งนี้ล้อมรอบด้วยท้องทะเล บนเกาะไม่มีต้นไม้เลยสักต้น ต่อให้คิดจะต่อเรือหนีก็เป็นไปไม่ได้ ออกไปงั้นเหรอ…จะออกไปยังไง จะให้ว่ายน้ำกลับไปรึไง” ขาใหญ่คนหนึ่งส่ายหน้า
ถ้าสามารถหนีออกจากเกาะแห่งนี้ได้จริงๆ พวกเขายอมแลกได้ทุกสิ่ง เว้นก็แต่ชีวิต!
“ไม่ถึงขนาดว่าต้องว่ายน้ำหรอก…” ในเวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นยิ้มอย่างลึกลับแวบหนึ่ง “เพียงแต่…ไอ้ของประเภทเรือน่ะ ฉันมี”
พอได้ยินเยี่ยหวันหวั่นบอกว่ามีเรือ ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
“ผู้นำไป๋ เรื่องล้อเล่นแบบนี้จะพูดเหลวไหลไม่ได้นะ เธอมีเรือจริงๆ เหรอ?!”
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว ฉันมีเรือแน่นอน ต่อให้ฉันใจกล้าแค่ไหน ก็ไม่กล้าล้อลูกพี่ทุกคนเล่นหรอกน่า” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพร้อมกับพยักหน้า
“เรืออยู่ที่ไหน”
“เรืออยู่ที่ไหน ทุกท่านไม่จำเป็นต้องร้อนใจไปหรอก…ฉันไป๋เฟิงเรื่องอื่นไม่กล้าพูด แต่วันนี้กล้ารับประกันได้ ขอแค่ทุกท่านประสงค์ ฉันรับประกันเลยว่าสามารถพาทุกคนออกไปได้แน่” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ผู้นำไป๋ เป็นความจริงเหรอ!”
ใบหน้าของขาใหญ่คนหนึ่งเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
“จริงอยู่แล้ว ถ้าฉันโกหกแม้แต่ครึ่งคำ พวกคุณอัดฉันให้ตายได้เลย โอเคไหม” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ไม่ว่าจะจริงหรือหลอก ถ้าสามารถออกไปได้ พวกเราต้องอยากออกไปแน่อยู่แล้ว”
“ใจเย็นๆ ก่อน” เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองขาใหญ่มากมายที่อยู่ในห้องขัง แล้วยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง “เรื่องนี้…คิดจะไปน่ะไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ว่า…ตั๋วเรือน่ะต้องซื้อเอานะ”
“ซื้อตั๋วเรืองั้นเหรอ”
ทุกคนต่างก็ผงะไป
“แน่นอนว่าต้องซื้อตั๋วเรือสิ ฉันไม่ได้ทำการกุศลนะ อยากซื้อก็ซื้อ ไม่ซื้อก็แล้วแต่” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ยังมีอีก ตั๋วเรือมีจำกัด คนไหนให้ราคาสูงคนนั้นได้ไป!”
“แม่งเอ้ย ไป๋เฟิง เธอบอกมาเลยว่าเท่าไร เธอเปิดราคามาเลย ขอแค่ได้ออกไป ฉันไม่ต่อรองแน่นอน!”
“ราคาเท่าไรก็ได้ทั้งนั้น แล้วแต่เธอจะกำหนดเลย!”
….
ด้วยเหตุนี้ เหล่าขาใหญ่จึงได้ซื้อตั๋วเรือที่ราคาแพงเสียดฟ้าที่สุดในชีวิตของพวกเขา
เมื่อเห็นใบรายชื่อแต่ละแผ่นที่อยู่ในมือ แถมยังมีสัญญากู้ยืมที่ขาใหญ่แต่คนลงนามไว้ เยี่ยหวันหวั่นก็ยิ้มหน้าบานเหมือนดอกไม้ ไม่เสียทีที่เธอลงสนามเลย ครั้งนี้…กำไรแล้วจริงๆ!
เวลานี้ บริเวณนี้เหลือแค่เยี่ยหวันหวั่นกับไห่ถังสองคนแล้ว
“อู๋โยว...ที่เธอบอกเมื่อกี้จริงหรือหลอก มีเรือจริงๆ เหรอ” ไห่ถังมองเยี่ยหวันหวั่น พลางขมวดคิ้วเอ่ยถาม
คนพวกนั้นถูกขังไว้ในสถานที่ผีสางแห่งนี้มานานเกินไปแล้วจริงๆ เยี่ยหวันหวั่นมอบความหวังให้พวกเขา ถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีเรือ ก็ไม่อยากจะนึกถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเลย
“ไห่ถัง มีเรือแน่นอน เธอก็ไม่ใช่คนโง่นี่ ถ้าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น ยังไงก็ต้องถูกคนพวกนั้นเล่นถึงตาย” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็บอกเล่าต้นสายปลายเหตุให้ไห่ถังฟัง
หลังจากที่ได้รู้ว่าพันธมิตรอู๋เว่ย ตระกูลเนี่ย ถึงขั้นที่มีอาชูร่าด้วยต่างก็พุ่งเป้ามาที่เกาะแห่งนี้ ไห่ถังก็พลันมีสีหน้าแปลกใจ ที่แท้การที่เยี่ยหวันหวั่นถูกจับมาก็เป็นกลยุทธ์แผนซ้อนแผน…
“ใช่แล้ว ไห่ถัง ฉันยังมีอีกเรื่องที่อยากรบกวนเธอ…” เยี่ยหวันหวั่นกระซิบกับไห่ถัง
“เรื่องอะไรเหรอ เธอพูดมาได้เลย” ไห่ถังพยักหน้าตอบรับ
จากนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็ขยับเข้าไปก้าวหนึ่ง กระซิบข้างหูไห่ถัง
—————————————————————————————