เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1535
“เข้าสู่วิถีแล้ว!”
ลู่ฝานสะบัดเปลวเพลิงในมือทิ้ง มองโลกแล้วสูดหายใจลึก
ไม่ว่าจะเป็นนักบู๊หรือผู้ฝึกชี่ นี่คือก้าวที่สำคัญที่สุด
คนมากมายพยายามตลอดชีวิต แต่ก็ไม่สามารถก้าวข้ามได้ อีกทั้งมีคนอีกมากมายทุ่มสุดตัวเพื่อก้าวนี้ หวังแค่วิถีแห่งสวรรค์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนวันนี้เขาสามารถผ่านมันได้อย่างง่ายดาย ง่ายจนแม้แต่ลู่ฝานเองก็ยังไม่อยากเชื่อ
แม้ตอนสุดท้ายที่ดึงสัญลักษณ์ฟ้าดินเข้าร่างกายจะเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วทุกอย่างยังราบรื่นมากอยู่ดี
สิ่งที่ทำให้ลู่ฝานตกใจที่สุดคือสัญลักษณ์ห้าธาตุฟ้าดินไม่ได้ประทับบนร่างกายเขา แต่ทำไมลู่ฝานรู้สึกเหมือนตัวเองเข้าสู่แดนปราณฟ้าแล้วจริงๆ มีวิถีที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง
อย่าบอกนะว่าอันที่จริงสัญลักษณ์ห้าธาตุไม่มีประโยชน์อะไรเลย
เชื่อมโยงกับเมื่อกี้ที่กระบี่อู๋หมิงลอยออกมาจากแหวนเอง รวมถึงเงาตาเฒ่ากระจอกที่โผล่เข้ามาในหัวเขาแบบงงๆ
ลู่ฝานรู้สึกว่าข้างในเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด
แต่เขาหาต้นสายปลายเหตุไม่เจอ ลู่ฝานมองแหวนตัวเองแล้วเงียบอยู่นาน
ฟ้าดินกลับมาสงบเหมือนเดิม แสงอาทิตย์ปัดเป่าเมฆดำออกไป
หน้าตำหนักปรึกษาหารือ แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
มีเพียงลู่ฝานที่ยืนอยู่ตรงนั้น มีพลังลึกลับแผ่ซ่านออกมาทั้งตัว
ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสห้าแทบไม่อยากเชื่อ
ความมืดเมื่อกี้บดบังพวกเขาจนหมด
จากวิทยายุทธระดับอริยปราชญ์ของเขา สัมผัสถึงความน่ากลัวในความมืดมิดนั้น นี่เป็นเรื่องที่จินตนาการไม่ออกเลย ลู่ฝานไม่ใช่ขุนพลังสุดเหนือฟ้า มีความสามารถอะไรถึงปล่อยพลังที่แม้แต่อริยปราชญ์ก็สู้ไม่ได้
ทั้งสองเหาะลงมาข้างหน้าลู่ฝาน มองลู่ฝานตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาประหลาด
“ทะลุระดับแล้วเหรอ”
ผู้อาวุโสห้าเสียงแหบพร่าเล็กน้อย เหมือนยังไม่หายตกใจ
ลู่ฝานพยักหน้าแล้วพูดว่า “ทะลุระดับเล็กน้อย ขอบคุณผู้อาวุโสห้าที่ให้โอกาส!”
ผู้อาวุโสสามจับมือลู่ฝาน จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกเหมือนมีพลังจะเข้ามาในตัวเขา
เขายังไม่ทันทำอะไร พลังแห่งโลกในตัวเริ่มปั่นป่วนขึ้นมา
พลังของผู้อาวุโสสามโดนกลืนกินทันที
ผู้อาวุโสสามชักมือกลับด้วยความตกใจ “นายทำความเข้าใจวิถีอะไรได้กันแน่”
ลู่ฝานยิ้มแต่ไม่พูดอะไร พลังแห่งโลกในตัวค่อยๆ สงบลง
ปราณชี่ในตัวกำลังเคลื่อนไหวและแข็งแกร่ง เมื่อลู่ฝานผ่านก้าวที่สำคัญนี้ได้ ลู่ฝานรู้สึกว่าพลังแห่งโลกในตัวเริ่มโดนปราณชี่ของเขาดูดซับ
นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีมากไม่ใช่เหรอ
ลู่ฝานคำนับแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสทั้งสอง ฉันเหนื่อยนิดหน่อย ขอกลับไปพักผ่อนได้ไหม เหมือนฉันทำความเข้าใจอยู่ที่นี่หลายวันแล้ว”
เหมือนผู้อาวุโสห้ามีอะไรมากมายที่อยากถาม แต่คำพูดติดอยู่ตรงปาก ผู้อาวุโสห้าไม่ได้ถามออกมา
ทันใดนั้นผู้อาวุโสห้าพูดว่า “ไปเถอะ อย่าลืมการประลองกับจินเซ่าเหยียนพรุ่งนี้ล่ะ”
ลู่ฝานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วเดินออกไป
มองด้านหลังลู่ฝาน ผู้อาวุโสสามพูดเบาๆ ว่า “มีความลับยิ่งใหญ่อยู่บนตัวเด็กคนนี้”
ผู้อาวุโสห้าพยักหน้าพูดว่า “ใช่ แต่ฉันไม่เข้าใจความลับพวกนี้ นี่เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกันแน่”
ผู้อาวุโสสามครุ่นคิดอยู่นาน ผู้อาวุโสห้าก้มหน้ามองไปทางพื้นที่ลู่ฝานยืนเมื่อกี้
ตรงนั้นมีรอยเท้าหนึ่งคู่ชัดเจน จมลึกลงไปในแร่หิน
ผู้อาวุโสห้าขมวดคิ้วเบาๆ เขาย่อตัวลงแล้วยื่นมือไปสัมผัสรอยเท้านั้น
ประกายประหลาดนัยน์ตาสว่างไสว ผู้อาวุโสห้าพึมพำว่า “เหมือนว่าร่างกายนี้แข็งแกร่งมาก!”
……