ความรู้สึกบนใบหน้าอู๋เทียนอิ้วดูแข็งทื่อไปในทันที รอยฝ่ามือที่ชัดแจ๋วตรงแก้ม ให้มองเห็นกันอย่างเด่นชัด
สีหน้าของเขาถึงอารมณ์โกรธอย่างที่สุดด้วยความอับอาย ทั้งหน้าเร่าร้อนเดือดพล่าน เพราะรู้สึกว่าทุกคนกำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่
ในความเป็นจริงก็ใช่เป็นอย่างนั้น คนที่มีอยู่มากมายต่างมองเขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
ก่อนหน้านี้ที่เขายังอยู่กับทีมงานละครนี้ เขามักคุยโม้มาตลอดว่าเขาสนิทกับพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนี้มาก จนใครต่อใครหลายคนก็เชื่อ แต่มาตอนนี้ ก็เท่ากับตบหน้าตัวเองเข้าให้รุนแรง
เซี่ยเหอก็ให้รู้สึกงุนงง ไม่คิดว่าซุนจื้อเจียวจะลงไม้ลงมือกับอู๋เทียนอิ้วได้ ทำให้มีความรู้สึกที่ดีกับซุนจื้อเจียวขึ้นมาเป็นเท่าทวี
“ประธานซุนคะ คุณจะพบดิฉัน คงจะมีเรื่องอะไรใช่ไหมคะ?คุณว่ามาเถอะคะ ถ้าดิฉันทำให้ได้ ก็จะไม่ปฏิเสธคะ”
น้ำเสียงเซี่ยเหอดีขึ้นไปมาก
เดิมทีหล่อนคิดห่วงแต่ว่าที่ซุนจื้อเจียวหาหล่อนนั้น ก็เพราะอู๋เทียนอิ้ว ที่คิดจะแก้แค้นกับหยางเฉิน
ตามสภาพเวลานี้ ดูแล้วมันไม่ใช่
สีหน้าหนาวเยือกของซุนจื้อเจียวคลายลง ยิ้มน้อย ๆ “เซี่ยเหอ พูดอย่างไม่โกหกนะ ฉันชื่นชอบความสามารถในลีลาการแสดงของเธอ ถ้าเธอไม่รังเกียจ ฉันหวังอยากให้เธอมาอยู่กับบริษัทการบันเทิงซุนซื่อ ฉันรับรองได้เลยว่าเธอต้องดังไประดับโลกเลย”
เซี่ยเหอก็มีคิดถึงความเป็นไปได้อยู่แล้วในเรื่องนี้
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ หล่อนอาจจะตอบรับปากไปเพื่อหยางเฉิน แต่ในเวลานี้ หล่อนรู้แล้วว่าหยางเฉินเป็นประธานใหญ่ของซิงเฉินมีเดีย
การที่หล่อนอยูกับซิงเฉินมีเดีย ก็คือการได้ช่วยหยางเฉิน แน่นอนว่าหล่อนไม่มีทางที่จะไปบริษัทการบันเทิงซุนซื่อ
“ต้องขออภัยค่ะ ดิฉันต้องการทำงานถ่ายทำให้กับซิงเฉินมีเดียเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องขอบคุณเป็นอย่างสูงในความกรุณา”
เซี่ยเหอเอ่ยปากพูดไป บนใบหน้าก็ได้ใส่ความรู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจไว้ด้วย
สีหน้าของซุนจื้อเจียวบ่งบอกความผิดหวัง “เซี่ยเหอ เธออย่าก้าวทางอนาคตเธอผิดเด็ดขาดนะ เธอควรรู้นะว่าฉันเป็นใคร”
“เบื้องหลังบริษัทการบันเทิงซุนซื่อคือตระกูลซุนซึ่งเป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ถึงแม้ก่อตั้งขึ้นมาไม่นาน แต่ด้วยความสามารถของฉัน ใช้เวลาไปไม่นานมากนัก ก็ทำให้บริษัทการบันเทิงซุนซื่อนี้กลายขึ้นมาเป็นบริษัทการบันเทิงที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ”
“ตอนนี้ถ้าเธอเข้ามา เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเธอ ฉันขอสัญญารับประกันกับเธอนะว่า จะทุ่มเทสินทรัพย์ทั้งหมด มาดูแลสนับสนุนเธอ”
ผู้คนที่อยู่ในบริเวณโดยรอบต่างมีสีหน้าพิศวง คิดไม่ถึงว่าซุนจื้อเจียวจะมาติดต่อขอตัวเซี่ยเหอด้วยตัวเอง ประเด็นสำคัญคือขอเสนอรับประกันที่ดีเลิศขนาดนั้น
ถ้าให้เป็นคนอื่น พวกเขาอาจจะมองว่าเป็นการเขียนเค้กก้อนใหญ่มาหลอกล่อ แต่ซุนจื้อเจียวไม่ใช่ใครอื่น หล่อนเป็นถึงลูกหลานสายตรงของตระกูลซุน และเป็นอดีตผู้จัดการใหญ่ของซิงเฉินมีเดีย
เบื้องหลังของหล่อนกับความสามารถของหล่อน ล้วนรับประกันในสิ่งที่หล่อนพูดออกมาได้ เนื้อแท้ล้วน ๆ ไม่มีน้ำ
แต่ทว่า เซี่ยเหอยังคงส่ายหน้า “ต้องขออภัยคะ!”
มาคราวนี้ รอยยิ้มของซุนจื้อเจียวค่อย ๆ เลือนหายไป หรี่ตาพูดว่า “เธอแน่ใจ จะอยู่กับซิงเฉินมีเดีย”
มองเห็นการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของซุนจื้อเจียว เซี่ยเหอก็ให้รู้สึกกังวลอยู่ แต่หล่อนก็ยังคงส่ายหน้าด้วยจิตใจที่แน่วแน่ “ขอประทานโทษจริง ๆ ชาตินี้ทั้งชาติ จะขออยู่กับซิงเฉินมีเดียเท่านั้น”
ประโยคเดียว ปิดตายช่องทางที่ซุนจื้อเจียวจะพูดต่อ
อู๋เทียนอิ้วกำลังจะพูด แต่นึกขึ้นได้ถึงคำสั่งที่ซุนจื้อเจียวให้ไว้ คงต้องนิ่งเก็บไว้ แต่แววตาเต็มไปด้วยความลุกลี้ลุกลน
หากว่าเซี่ยเหอปฏิเสธ ความหวังจะแก้แค้นของเขาก็ดูจะมีมากขึ้น
ซุนจื้อเจียวไม่พูดอะไร สายตาจ้องอยู่ที่เซี่ยเหอ ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
ครู่ใหญ่ หล่อนจู่ ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา “ก็ได้ ในเมื่อเธอยืนยันจะอยู่กับซิงเฉินมีเดีย ฉันก็จะไม่หักหาญใจเธอ”
เซี่ยเหอจึงได้โล่งใจไปในที่สุด รีบพูด “ท่านประธานซุน ขอบคุณท่านมากคะ!”
อู๋เทียนอิ้วรีบสอดขึ้นมาว่า “พี่สาว พี่อุตส่าห์ลดตัวลงมาเชิญหล่อนด้วยตัวเอง หล่อนปฏิเสธได้ยังไง?”
“เผียะ!”
ซุนจื้อเจียวก็เลยตบเข้าไปอีกสองฉาด หรี่ตาพูดไปว่า “ข้าจะทำยังไง ต้องให้แกมาสอนด้วยเรอะ?”
อู๋เทียนอิ้วสีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกน้อยใจ แต่ครั้งนี้ ทำให้เขากลัวเป็นที่สุดแล้ว ไม่กล้าต่อปากแต่อย่างใด ได้แต่ส่ายหน้าถี่ ๆ
ซุนจื้อเจียวก็เลยไม่มีอะไรต้องสั่งสอน อู๋เทียนอิ้วอีก หันกลับไปมองเซี่ยเหอ ยิ้มจนตาหยีว่า “เธอปฏิเสธการขอเชิญเธอเข้าร่วมซิงเฉินมีเดีย ของฉันก็ได้ แต่เธอคงไม่น่าจะปฏิเสธนะ ถ้าฉันจะขอเลี้ยงมื้อค่ำเธอสักมื้อ?”
เซี่ยเหอให้รู้สึกตะลึง ตั้งสติคิด ซุนจื้อเจียวหมายความว่ายังไงกัน
และหล่อนก็แสดงความดีใจออกมา ผงกหัวต่อ ๆ “ได้คะ ขอเพียงเป็นความพอใจของประธานซุน ดิฉันไปทานข้าวด้วยได้ทุกเวลาคะ”
ในสายตาของหล่อน ซุนจื้อเจียวก็คือผู้ให้การสนับสนุนระดับยิ่งใหญ่ จะไปกระทบกระทั่งไม่ได้
อีกทั้ง ซุนจื้อเจียวกับอู๋เทียนอิ้วก็เป็นพวกเดียวกัน ถ้าหากอู๋เทียนอิ้วยังคิดจ้องเล่นงานหยางเฉินไม่ยอมเลิกรา คงจะต้องยืมมือซุนจื้อเจียวต่ออีกเป็นแน่
แต่ถ้าหากหล่อนเองไปตีสนิทกับซุนจื้อเจียว ในไม่ช้านี้คงน่าจะหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้อู๋เทียนอิ้วยืมมือซุนจื้อเจียวเล่นงานหยางเฉินได้?
ในสายตาของหล่อน ตระกูลซุนของซุนจื้อเจียวมีพื้นหลังที่ยิ่งใหญ่น่ากลัวมาก หล่อนไม่อยากเป็นเหตุทำให้หยางเฉินต้องเดือดร้อน
“ตกลง คืนนี้หนึ่งทุ่ม ฉันจะไปรอเธอที่ร้านอาหารหนานเซียงหยวน!”
ซุนจื้อเจียวยิ้มน้อย ๆ หยิบเอานามบัตรออกมาใบหนึ่งส่งให้เซี่ยเหอ “นี่เป็นนามบัตรของฉัน ในนั้นมีเบอร์โทรศัพท์ของฉัน”
“ได้คะ คืนนี้ดิฉันจะไปพบคุณตามเวลานัด”เซี่ยเหอรับนามบัตร ยิ้มแล้วตอบ
“ตกลง พบกันคืนนี้!”
ซุนจื้อเจียวหัวเราะยิ้ม ๆ หันหลังกลับเดินจากไป
บรึม!
เสียงคำรามลั่นของเครื่องยนต์ เฟอร์รารีแดงกลายเป็นแสงสายฟ้าแลบแปลบ หายไปจากสายตาฝูงชนอย่างรวดเร็ว
อู๋เทียนอิ้วงงอึ้งอยู่กับที่ในขณะนั้น คนที่เขาขอให้มาช่วย ไปเสียแล้วแบบนี้นะ
ไม่เพียงแต่ไม่ได้แก้แค้นให้เขา กลับจะเชิญชวนเซี่ยเหอไปกินข้าวด้วยหรือนี่?
“อู๋เทียนอิ้ว แกนี่มันช่างน่าเศร้าจริง ๆ นะ!”
“ใช่เลยนะ แกว่าเอาพี่สาวแกมาช่วยล้างแค้นให้ สุดท้ายกลับตบแกไปหลายฉาด ฮา ๆ ๆ ๆ!”
ช่วงเวลานั้น เสียงหัวเราะดังกันครื้นเครงในกลุ่มทีมงานละคร
อู๋เทียนอิ้วแค้นใจจนอยากหารอยแยกบนพื้นเพื่อจะแทรกมุดหนีไป ถลึงตาอย่างแค้นเคืองใส่กลุ่มคน “พวกแกหัวเราะไปเถอะ มันมีเวลาที่พวกแกต้องเสียใจในภายหลัง!”
พูดแล้วก็รีบขึ้นรถจากไป
“เซี่ยเหอ ยินดีด้วยนะ!”
หยวนหย่าฉีเดินเข้ามาหา หัวเราะไปพร้อมพูดว่า “ซุนจื้อเจียวเบื้องหลังที่ลึกไกลมาก ถ้าเกาะขาหล่อนไว้ได้ อนาคตของเธอนี่ไร้ขีดจำกัดเลยนะ!”
“ใช่เลย ซุนจื้อเจียวเป็นคนของตระกูลซุน อีกทั้งในอดีตยังเคยเป็นผู้จัดการใหญ่ของซิงเฉินมีเดีย ความสามารถโดดเด่นมาก มีแหล่งที่มาของทรัพยากรมากมาย”
“ถ้าหล่อนยอมช่วยเธอนะ เธอก็ได้ทะยานบินสูงแน่เลย ไม่ใช่สิ ตอนนี้เธอก็บินขึ้นแล้ว ต้องบอกว่าต่อไปการบินของเธอต้องพุ่งเร็วเป็นที่สุด”
พวกดาราขาใหญ่มุงกันเข้ามา แต่ละคนพูดกันต่างก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น
เซี่ยเหอยิ้มเจื่อน ๆ “เพียงขอให้ประธานซุนไม่เอาเรื่องกับฉัน ฉันก็พอใจแล้ว”
ที่หล่อนพูดคือจากใจจริง ขอเพียงไม่ไปทำให้หยางเฉินต้องเดือดร้อน ก็เป็นที่พอใจแล้ว
“เอาละ ทุกคนกลับเข้าไปเตรียมพร้อมกันได้แล้ว ฉากต่อไปกำลังจะเริ่มเดี๋ยวนี้แล้ว”
ขณะนั้นเองเสียงผู้กำกับหลี่พูดออกมา เหล่าบรรดาดาราขาใหญ่ก็รีบแยกย้ายกันออกไป
“ผู้กำกับหลี่ ฉันก็จะไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เลยคะ”
เซี่ยเหอพูดจบ ก็เตรียมเดินออกไป
“เดี๋ยวรอเดี๋ยว!”
ผู้กำกับหลี่เรียกเซี่ยเหอไว้ในทันทีนั้น
เซี่ยเหอก็ชะงัก “ผู้กำกับหลี่เรียกดิฉันทำไมหรือคะ?”
ผู้กำกับหลี่ผงกหัว เอ่ยปากพูด “คืนนี้เธอจะไปกินข้าวกับซุนจื้อเจียวหรือ?”
เซี่ยเหออึ้งไปนิดหนึ่ง แล้วผงกหัว “แต่ผู้กำกับหลี่วางใจเถอะ ดิฉันเพียงแต่ไปเป็นเพื่อนกินข้าวด้วยกันกับหล่อน จะไม่ไปตกลงเข้าร่วมงานกับบริษัทการบันเทิงซุนซื่อเด็ดขาด”
หล่อนยังคงเข้าใจว่าผู้กำกับหลี่ห่วงว่าตนจะไปตกลงเข้าไปอยู่กับบริษัทการบันเทิงซุนซื่อ
ผู้กำกับหลี่กลับส่ายหน้า “ผมไม่ใช่จะมาขัดขวางเธอที่จะอยู่กับบริษัทการบันเทิงซุนซื่อ เพียงแต่จะเตือนเธอไว้ นังผู้หญิงชื่อซุนจื้อเจียวคนนี้ ไม่ใช่ธรรมดานะ”