อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1157 สกัด
ผ่านไปอีกนาน สมรภูมิถึงจุดดุเดือด ตระกูลไป๋หลี่นองเลือด เศษแขนขาเกลื่อนกลาด
กระนั้นเจ้าบ้านไป๋หลี่และเหล่าสุดยอดผู้อาวุโสที่มีฐานะและอำนาจสูงในตระกูลไป๋หลี่ก็ยังไม่ออกมา
กู้ชูหน่วนได้กลิ่นตุๆ เล็กน้อย
นางมองทางเขตต้องห้ามของตระกูลไป๋หลี่ แล้วมองประตูใหญ่ของตระกูลไป๋หลี่
ระหว่างการต่อสู้เมื่อครู่ ผู้อาวุโสตระกูลไป๋หลี่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือหลายครั้ง
บรรดาผู้ดูแลไม่มาช่วยยังแล้วไป
แต่กลับไม่มีสำนักใหญ่มาเสริมเลย
เป็นราชินีสกัด?
หรือเวินเส้าหยีสกัด?
“ซี่ๆ…”
ราชางูเห่าตัวหนึ่งเลื้อยมา พุ่งมาหากู้ชูหน่วนด้วยความตื่นเต้น พูดซี่ๆ “นายหญิงๆ ท่านกังวลเกินไปแล้ว ในรัศมีร้อยลี้ไม่มีกำลังคนกลุ่มใหญ่มาสมทบเลย พวกเรานั่งอยู่นั่นตั้งนานก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ร่วมรบด้วยเถอะ กำจัดตระกูลไป๋หลี่ก่อน”
“สักคนก็ไม่มีเลยหรือ”
“เออ…ก็มียอดฝีมือสองสามคนเข้าใกล้อยู่ แต่…ข้าเห็นพวกเขาไม่คิดจะช่วย ก็เลยไม่ได้สกัดพวกเขาไว้ พี่น้องพวกนั้นของข้ากำลังเฝ้าอยู่ ถ้าพวกเขาลงมือ พวกเราก็จะลงมือทันที”
“พวกไป๋หลี่ป้าล่ะ อยู่ที่ไหน”
“พวกเขาอยู่ในห้องลับเขตต้องห้าม นายเคยบอกข้าว่าเขตต้องห้ามอยู่ที่ไหน ไม่อย่างนั้น ข้าจะพาท่านไป?”
“เจ้าเสือน้อย พาพลพรรคเสือของเจ้าไปสู้ด่านหน้า พวกเราจะไปเจอไป๋หลี่ป้าด้วยกันสักหน่อย”
“ได้เลย”
“นายหญิงของนาย แล้วพวกเราล่ะ”
“เฝ้าต่อ ถ้ามีคนมาสมทบ ไม่ว่ามันเป็นใคร ขวางเอาไว้ทั้งหมด”
ราชางูเห่ายังอยากพูดอะไร แต่ตรงหน้าไหนเลยยังมีเงาของกู้ชูหน่วนอยู่ ดังนั้นจึงได้แต่จากไป
มันเป็นราชางูเห่าผู้สูงส่ง กลับได้เป็นแค่กองหนุน ดังนั้นมันจึงมองคนอื่นต่อสู้ด้วยความอิจฉา ความรู้สึกเช่นนี้มันช่างอัดอั้นจังเลยหนา
จุดไกลๆ
ผู้เฒ่าหนิงมองแสงเพลิงตระกูลไป๋หลี่พุ่งขึ้นฟ้า ได้กลิ่นคาวเลือดแทงจมูก รวมถึงศพที่ล้มลงทีละหนึ่ง ถอนหายใจอย่างไร้สุ้มเสียง
หนิงเทียนโย่วที่อยู่ข้างกายเขากล่าวด้วยความหมายลึกซึ้ง “น่าอนาถเกินไปแล้ว ทั้งที่เป็นตระกูลใหญ่แต่กลับถูกสัตว์อสูรกลุ่มหนึ่งล้างเลือด ที่เย้ยหยันที่สุดคือ ตระกูลไป๋หลี่ยังอ้างว่ามีนักฝึกสัตว์ระดับสูงหลายร้อยคน เป็นตระกูลใหญ่ที่สยบสัตว์อสูรโดยเฉพาะ”
สยบสัตว์อสูรไม่ได้
ทั้งกลับเป็นถูกสัตว์อสูรฆ่าล้างตระกูล
นี่ไม่ใช่การเย้ยหยันแล้วยังจะเป็นอะไร
“ท่านปู่ พวกเราต้องช่วยหรือไม่”
“ช่วยอะไร ช่วยอย่างไร เจ้าไม่เห็นหรือว่ารอบๆ นอกจากกับดักที่นังเด็กมู่หน่วนนั่นทำขึ้นแล้ว ยังมีกับดักอื่นอีกหลายจุด”
“หา…อยู่ที่ไหน ทำไมข้าไม่เห็นล่ะ”
ผู้เฒ่าหนิงตบศีรษะเขา “ทำไมข้าถึงมีหลานโง่งมอย่างเจ้าได้ ตอนที่ตระกูลไป๋หลี่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เจ้าสำนักหลายแห่งคิดจะยื่นมือเข้าช่วย แต่ถูกคนฆ่าตายในชั่วพริบตา นี่หมายถึงอะไร หมายถึงนอกจากนังเด็กนั่น ยังมีคนต้องการกวาดล้างตระกูลไป๋หลี่อีก และคนผู้นี้ไม่เพียงมีฝีมือน่ากลัว และยังมีอิทธิพลน่ากลัวด้วย”
“เจ้าไม่เห็นหรือ ตระกูลซ่างกวนกับตระกูลเวินยังปิดประตูไม่พบคน ถ้าพวกเราตระกูลหนิงยื่นมือเข้าช่วย น่ากลัวว่าหลังจากตระกูลไป๋หลี่ถูกกวาดล้างตระกูล ต่อไปก็คงถึงตาตระกูลหนิงแล้ว”
หนิงเทียนโย่วตะลึง “ท่านปู่ ท่านคงไม่ได้พูดเกินจริงกระมัง”
“เจ้าเห็นท่าทางข้าเหมือนกับพูดเกินจริงหรือ”
“ถ้าอย่างนั้นใครอยากช่วยมู่หน่วนหรือ หรือจะเป็นเซียวหยู่เซวียน เพราะนอกจากเขาเซียวหยู่เซวียน ก็เหมือนว่าจะไม่มีใครช่วยนางอย่างนี้อีกแล้ว”
“ถึงเซียวหยู่เซวียนจะเก่ง แต่เขาจะเก่งอย่างไรก็แค่ตัวคนเดียว จะวางกับดักมากมายอย่างนั้นได้อย่างไร แล้วจะกำจัดคนที่คิดไปช่วยพร้อมกันในเวลาเดียวกันได้อย่างไร”
ในแคว้นน้ำแข็งมีคนที่มีความสามารถนี้
นอกจากตระกูลซ่างกวน ตระกูลเวิน ก็มีแต่ราชินีและขุนนางที่อยู่ในราชสำนักแล้ว
หนิงเทียนโย่วเอ่ย “ไม่ว่าเป็นใครที่ช่วยมู่หน่วน อย่างไรเสียก็คือคนดี ตระกูลไป๋หลี่ทำเรื่องชั่วช้าสามานย์มากมาย สมควรกำจัดนานแล้ว วันนี้ล้างตระกูลก็ล้างตระกูลเถอะ สงสารแต่คนรับใช้บริสุทธิ์พวกนั้นเท่านั้น”