อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1156 ดาบประสานกระบี่
กระทิงไฟเก้าเขาเข่นฆ่าจนหัวใจเหิมกล้า อ้าปากพ่นทะเลเพลิงออกมา ครอกคนตระกูลไป๋หลี่จนร้องอเนจอนาถ
กระทิงไฟเก้าเขาตะโกน “มาเลย มาหนึ่งคน ฆ่าหนึ่งคน มาสองคน ฆ่าสองคน วันนี้ข้าจะให้ตระกูลไป๋หลี่นองเลือดเป็นสายธาร”
ผู้อาวุโสโกรธจนเป่าหนวดขึงตา
แต่ไรมาตระกูลไป๋หลี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เคยถูกคนหยามอย่างนี้เมื่อไร
แต่บัดนี้สัตว์อสูรที่พวกเขาดูถูกที่สุด กลับกล้าเผาตระกูลพวกเขา ช่างน่าขันสิ้นดี
เมื่อเห็นคนตระกูลไป๋หลี่เพลี่ยงพล้ำอย่างหนัก ผู้อาวุโสก็เค้นคำพูดออกมาจากมุมปากแบบกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน “โอหัง กำแหง นักฝึกสัตว์ตั้งค่าย”
นักฝึกสัตว์พลันเข้าใจ กำลังจะตั้งค่าย ใช้พลังจิตสยบสัตว์อสูรทั้งหมด
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์สะบัดหางแรงๆ ไปอีกครั้ง
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ร่างเขื่อง ยาวถึงร้อยกว่าเมตร หางของมันใหญ่เท่ากะละมังล้างหน้าหลายใบ
นักฝึกสัตว์บริกรรมคาถา กลับไม่เป็นผลกับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ จึงได้แต่โต้กลับและป้องกัน
แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เร็วเกินไป
ไม่รอให้พวกเขาต่อต้าน ก็ตบปลิวไปทีละคน ตายคาที่
ผู้อาวุโสตระกูลไป๋หลี่ออกมาทีละคน
เมื่อเห็นสัตว์อสูรชนิดต่างๆ เข่นฆ่าคนตระกูลไป๋หลี่
และเห็นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่มีเก้าหัวใหญ่ กัดนักฝึกสัตว์ตายฉับๆ ไม่หยุด สะบัดหางอย่างสบายใจเฉิบ แต่ในความเป็นจริง สะบัดหนึ่งที คร่าชีวิตนักฝึกสัตว์หลายคน
ราวกับมันรับมือกับนักฝึกสัตว์ ยืนอยู่ข้างหน้า เปิดทางที่สัตว์อสูรต่างๆ จำนวนมากข้างหลังโดยเฉพาะ
“น่าโมโหชะมัด จัดการเจ้าตัวตะกละนั่นก่อน”
“ขอรับ”
ผู้อาวุโสตระกูลไป๋หลี่รู้ คิดจะกำจัดสัตว์อสูรทั้งหมด นอกเสียจากจะสยบหรือฆ่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก่อน มิเช่นนี้ก็ไม่มีนักฝึกสัตว์คนไหนเป็นคู่ต่อสู้ของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์
ผู้อาวุโสใหญ่สองสามคนใช้วิทยายุทธ์ของตนเอง ร่วมบุกไปทางเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์
แต่อย่างไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ ก็ปรากฏเงาปีศาจขึ้นมาสองสาย
แสงเย็นทอประกาย ผู้อาวุโสระดับสี่ขั้นสูงและระดับห้าขั้นต้นถึงกับถูกปาดคอโดยตรง
“ฉับๆๆๆ…”
ทุกคนไม่เห็นอะไรชัดเจนทั้งสิ้น ผู้อาวุโสก็ล้มลงไปทีละคนแล้ว ชั่วพริบตา ผู้อาวุโสตระกูลไป๋หลี่ตายไปแล้วเกือบสิบคน
น่ากลัว…
น่ากลัวเกินไปแล้ว…
ความเร็วนั่นอีก เร็วเกินไปแล้วกระมัง
“อุ๊ก…”
ผู้อาวุโสถูกปาดคออีกคนหนึ่งแล้ว
เมื่อนั้นทุกคนจึงเห็นชัดเจน
สองคนที่สังหารพวกเขานั้น
คือหนุ่มน้อยสองคน
คนหนึ่งหน้าตาหมดจด อายุอานามไม่มาก หน้าเหมือนตุ๊กตา ดูไร้เดียงสา
อีกคนหน้าตาหล่อเหลา อายุไม่มากเหมือนกัน แผ่กลิ่นอายเย็นเฉียบ ซึมกะทือ ปฏิเสธคนเข้าใกล้ เนื้อตัวไม่มีอุณหภูมิสักนิด ดูไม่เหมือนคนเป็น แต่กลับเหมือนคนตาย
วิทยายุทธ์ล้ำเลิศ…
วิชาตัวเบาเร็วยิ่ง…
“พวกเจ้าคือใคร ทำไมต้องสังหารผู้อาวุโสตระกูลไป๋หลี่ของพวกเราด้วย”
“ลงไปถามยมบาลเถอะ”
ฝูกวงและเลว่อิ่ง คนหนึ่งใช้กระบี่คู่ อีกคนใช้ดาบคู่
ดาบประสานกระบี่ ร่วมมือกันอย่างรู้ใจ ทิศที่ไปล้วนแตกพ่าย
ต่อให้ผู้อาวุโสตระกูลไป๋หลี่ร้ายกาจอย่างไร ก็เอาชนะดาบประสานกระบี่ของพวกเขาไม่ได้
ขอเพียงมีคนเข้าใกล้ นอกจากความตายก็คือไร้ชีวิต
ผู้อาวุโสถูกฝูกวงและเลว่อิ่งบดขยี้จนตาย
นักฝึกสัตว์ถูกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ทับตาย
สัตว์อสูรยิ่งสู้ยิ่งแกร่ง
ส่วนคนของตระกูลไป๋หลี่ยิ่งสู้ยิ่งจนตรอก
ตระกูลไป๋หลี่หลั่งเลือดเป็นสายธารในชั่วขณะ
เจ้าเสือน้อยฮึกเหิมอยากสู้ “นายหญิง ข้าก็อยากร่วมวงด้วย”
“รีบอะไร…ประเดี๋ยวยังมีให้สู้อีก”
เพราะตระกูลไป๋หลี่สั่งสมมานับพันปี มียอดฝีมือนับไม่ถ้วน ห่างไกลกับจำนวนคนในตอนนี้
ไป๋หลี่ป้าก็ยังไม่ได้ออกมา
พวกสุดยอดผู้อาวุโสก็ยังไม่ได้ออกมาเหมือนกัน
โดยเฉพาะ…
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์บอก ตระกูลไป๋หลี่ก็มียอดฝีมือระดับหกคนหนึ่งเหมือนกัน
และตระกูลอื่นจะเสริมตระกูลไป๋หลี่หรือไม่ก็ยังไม่แน่
นี่คือศึกหนัก และนางต้องชนะเท่านั้น