บทที่ 956 ปล่อยวาง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 956 ปล่อยวาง

สำหรับม็อกโกแล้ว อันที่จริงเจเคซึ่งอายุน้อยที่สุดในบรรดาทั้งสี่คน เป็นน้องชายที่เป็นแฟนคลับของเขา

ตอนนั้น พวกเขาเติบโตขึ้นมาในกรมทหาร ม็อกโกอายุแก่กว่าพวกเขาสองสามปี และเป็นผู้นำทีมของเด็กๆ คอยพาพวกเขาเหล่านี้ไปเล่น ซึ่งในจำนวนนี้ก็มีเจเค และเปรมไตร

แต่น่าเสียดาย ตอนนี้เปรมไตรก็ไม่อยู่เสียแล้ว

ม็อกโกถือแก้วเหล้านี้อยู่ในมือ ในสมองก็คิดถึงเรื่องในอดีตเหล่านี้ และมองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้าซึ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมยกเว้นคน

“ฉันอยากลาออกจากทุกตำแหน่งในกองทัพ แล้วไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ”

“อะไรนะ?”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา เจเคที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็เบิกดวงตาคู่นั้นกว้างขึ้นอย่างทันที!

ลาออกจากทุกตำแหน่งในกองทัพ?

แล้วไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ?

งั้นเขาอยากจะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเทวเทพใช่หรือไม่? เขาไม่ยินยอมเป็นคนของตระกูลเทวเทพอีกต่อไปแล้ว?

เจเคถูกทำให้ตกใจมากจนพูดไม่ออกอยู่หลายวินาที

“พี่ใหญ่ พี่….จำเป็นต้องทำแบบนี้เหรอ? เป็นเพราะพี่สามเหรอ? แต่พี่ก็ไม่จำเป็นต้องไปจากบ้านตระกูลเทวเทพเพราะเหตุผลนี้ใช่ไหมล่ะ? นี่คือบ้านของพี่นะ”

พี่สามก็คือแสนรัก

แต่หลังจากที่ผู้ชายคนนี้ได้ฟังแล้ว กลับแกว่งแก้วเหล้านั้นที่ถืออยู่ : “นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ฉันก็แค่เบื่อหน่ายกับชีวิตแบบนี้แล้ว”

เจเค : “…….”

เป็นอีกครั้งที่เขามองดูผู้ชายคนนี้ภายใต้แสงไฟเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืดอยู่ในห้องส่วนตัวนี้ โดยไม่รู้จะพูดอะไร

หลังจากที่เกิดเรื่องของตระกูลเทวเทพ อันที่จริงเขาเองก็กังวลใจมากมาโดยตลอดเกรงว่าพี่ชายทั้งสองคนนี้สุดท้ายแล้วจะกลายเป็นแก้แค้นกันเอง เปรมไตรพี่สองก็ได้เสียชีวิตไปแล้วเพราะเรื่องของตระกูลพวกเขา เขาจึงไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกระหว่างพี่น้องพวกเขา

แต่เมื่อตอนที่เขาได้ยินสิ่งที่พี่ใหญ่คนนี้พูดแล้ว ว่าเขาไม่ได้โทษพี่สามแสนรัก

ทันใดนั้น หัวใจของเขาก็เกิดความสับสนขึ้นมา

เขารู้ว่า พี่ชายที่เขาติดตามมาตั้งแต่เล็กๆ เป็นคนที่มีความชอบธรรมคิดถึงส่วนรวม และยังเป็นคนใจกว้างให้อภัยมาโดยตลอด แต่เขารู้หรือไม่ว่า ตอนที่เขาได้ยินสิ่งเหล่านี้ ช่างทำให้คนรู้สึกสงสารจับใจจริงๆ?

ในที่สุดเจเคก็ไม่พูดอะไรอีก

ลุกยืนขึ้นมา เขาเตรียมที่จะไปเรียกเหล้าเข้ามาเพิ่มอีกหน่อย

แต่จู่ ๆ ตอนที่เขาเดินไปถึงประตู กลับพบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดเดรสสีดำ หน้าตาดูสะสวยปรากฏตัวยืนอยู่ตรงนั้น

“เจเค พี่ชายของฉันล่ะ? เขาอยู่ที่นี่กับคุณใช่ไหม?”

“หา?”

เจเคอึ้งไปทันที

ขวัญเมือง?

ทำไมเธอมาหาถึงที่นี่ได้ล่ะ?

เจเคมองดูผู้หญิงคนนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปแล้วรีบปิดประตูห้องส่วนตัวนี้ทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น

“เขาไม่อยู่ที่นี่!”

“ฉันไม่เชื่อ!” ขวัญเมืองที่รู้จักเขาไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย

“พวกคุณสองสามคนใส่กางเกงตัวเดียวกันมาตั้งแต่เล็กจนโต ตอนนี้เปรมไตรเสียชีวิตไปแล้ว เขาไม่อยู่ที่เรด พาวิเลี่ยน นอกจากมาหาคุณที่นี่เขายังจะไปไหนได้อีก?”

เธอด่าและยื่นมือมาผลักเจเคให้ออกไป

และแล้ว เมื่อเธอผลักออกและเปิดประตูบานนั้น แว๊บแรกก็เห็นชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างขาวยาวๆ คนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวนั้นอยู่ในห้องส่วนตัวท่ามกลางแสงไฟสลัวจริงๆ

หากไม่ใช่คนที่เธอกำลังตามหาจะเป็นใครได้อีก?

“พี่ชาย พี่อยู่ที่นี่จริงด้วย พี่รู้ไหมพ่อแม่ฉันตามหาพี่กันแทบจะบ้าอยู่แล้ว?”

ในที่สุดเธอก็ตามหาผู้ชายคนนี้เจอแล้ว ความปลาบปลื้มใจก็ผุดขึ้นมาในดวงตา ทันใดนั้น เธอก็รีบพุ่งกระโจนเข้าไปหาเขา

สองวันมานี้ พ่อแม่ของเธอกำลังตามหาเขาอยู่จริงๆ

ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด เป็นเพราะหลังจากจบงานศพวันนั้น พ่อแม่ของเธอถามขึ้นว่าเขามีความคิดยังไงต่อไป จากนั้น เขาก็บอกพ่อแม่ของเธอว่า อยากลาออก แล้วไปอยู่ต่างประเทศ

เขาเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม?

คิดที่จะลาออก และยังไปอยู่ต่างประเทศ? !

ขวัญเมืองรีบวิ่งมาตรงหน้าของชายคนนี้ : “พี่ชาย….”

ม็อกโก : “……..”

เขาที่ดื่มไปแล้วจำนวนไม่น้อย หลังจากที่สายตาจ้องมองดูอยู่สักพัก ในที่สุด เขาก็มองเห็นหญิงสาวที่จู่ ๆ วิ่งมาตรงหน้าเขาได้อย่างชัดเจนแล้ว

“ขวัญ? เธอมาได้ยังไง?”

“อืม” เมื่อขวัญเมืองได้ยินชื่อเรียกนี้ ก็ยิ่งรู้สึกดีใจและน้อยใจขึ้นมาอีกทันที

“ฉันมาตามหาพี่ค่ะ พี่ชาย เรากลับบ้านกันเถอะ พ่อแม่ฉันรอพี่อยู่ตลอดเลยนะ” เธอพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า จึงไม่ต้องพูดถึงเลยว่าลักษณะท่าทางจะทำให้คนหลงรักได้เพียงใด

พ่อแม่เสียชีวิตทั้งคู่ ญาติในครอบครัวเป็นห่วงตัวเองมากขนาดนี้

ถ้าพูดตามหลักแล้ว นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้คนรู้สึกดีใจมาก

แต่เมื่อม็อกโกได้ฟังแล้ว กลับไม่มีความหวังที่จะกลับไปพร้อมเธอเลยแม้แต่นิดเดียว จะมีก็แต่ความต่อต้าน และยังมีความรังเกียจเล็กน้อยที่ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

“ฉันไม่กลับ เธอกลับไปเองเถอะ ไปบอกพ่อแม่ของเธอ ต่อไปนี้อย่ามาหาฉันอีก”

“แต่……”

“พอแล้ว เดี๋ยวฉันให้เจเคจัดการหารถให้เธอคันหนึ่ง”

ม็อกโกขัดจังหวะเธอ และโบกมือเรียกทันที เพื่อให้เจเคที่ยืนอยู่ด้านหลังไปจัดการหารถส่งหญิงสาวคนนี้กลับเมืองหลวง

จัดการแบบนี้เป็นเรื่องปกติมาก

เพราะอย่างน้อยตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว เธอยังเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อีกทั้งทั้งสองคนก็เป็นญาติกันอีก

แต่เขากลับไม่รู้เลยว่า การจัดการแบบนี้ ในสายตาของผู้หญิงคนนี้กลับเป็นการปฏิบัติต่อเธอชนิดที่แบบห่วงใยมากเป็นพิเศษ จนกระทั่งเธอไม่อยากกลับไป

ในทางกลับกันหลังจากที่จ้องมองดูชายคนนี้อยู่พักหนึ่งราวกับงอกรากอยู่ตรงนั้น ก็เห็นว่าในที่สุดเธอก็กัดฟัน

เธอมาที่นี่ในคืนนี้ อันที่จริงไม่มีใครรู้เลยว่า นั่นคือคำสั่งของพ่อแม่เธอที่ให้เธอจับตัวเขากลับไป ถ้าหากไม่ได้ งั้นก็คงต้องใช้วิธีพิเศษ

การตัดสินใจแบบนี้ของม็อกโก ทำให้ตระกูลโชคศักดาได้รับความกระทบกระเทือนมากจริงๆ

รู้หรือไม่ ในตอนแรก หลังจากที่ได้รู้ข่าวทั้งพ่อและแม่ของม็อกโกเสียชีวิต พวกเขาหวังว่าเขาสามารถที่จะต่อสู้แข่งขันกับแสนรักเพื่อให้รู้ไปว่าใครจะแพ้จะชนะ แต่ม็อกโกกลับไม่ได้คิดเช่นนี้เลย