แม้ว่าการต่อสู้ของเขาในวันนี้เกือบจะทัดเทียมเสมอเหมือนกับเทพมารธรรมดา แต่ภายใต้แรงอาฆาตที่แน่นหนาของเทพมารผู้แข็งแกร่งมากมายขนาดนี้ ก็ทำให้รู้สึกเหมือนแบกภูเขาใหญ่เป็นแสนลูกอยู่ หายใจลำบากยิ่งนัก

เทวทูตจื่อเยียนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย “เจ้าแน่ใจนะว่าทำลายมันแล้วจริงๆ ?”

หลัวซิวพยักหน้าด้วยสีหน้าเซ็ง และพูดอธิบายว่า :“กองกำลังทั้งหมดตามฆ่าข้า มีเพียงการทำลายม้วนหยกถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้ เนื่องจากเนื้อหาในม้วนหยก มีเพียงข้าคนเดียวที่รู้”

นี่เป็นทางหนีทีไล่เดียวที่หลัวซิวเหลือไว้ให้ตัวเอง ถ้าหากเขาไม่สามารถหนีการไล่ฆ่าของกองกำลังทั้งหมดไปได้ ดังนั้นการที่กองกำลังทั้งหมดต้องการรู้ว่าสมบัติชิ้นนั้นของเทพสงครามเอกภพอยู่ที่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้

เขารู้ดีว่า ถ้ากองกำลังใดกองกำลังหนึ่งได้ม้วนหยกไปครอง และรู้สถานที่ตั้งของสมบัติ เขาก็จะสูญเสียคุณค่าการใช้ประโยชน์ทันที ถึงขนาดที่เพื่อรักษาความลับเอาไว้ อาจจะฆ่าปิดปากเขาก็ได้

ในโลกปัจจุบัน ใจคนยากแท้หยั่งถึง หลัวซิวเองก็จำเป็นต้องหาวิธีปกป้องเอาไว้

เมื่อได้ยินว่า ถึงแม้หลัวซิวจะทำลายม้วนหยกไปแล้วแต่เขารู้เนื้อหาในม้วนหยก บรรดาเทพมารที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างผ่อนคลายจิตใจลง

“พ่อหนุ่มเจ้าเล่ห์ รีบพูดเนื้อหาในม้วนหยกออกมา ไม่งั้นจะค้นหาจิตวิญญาณของเจ้า !” ผู้แข็งแกร่งของเผ่าปีศาจพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ด้วยสีหน้าท่าทางที่แข็งแกร่ง

“ท่านกำลังขู่ข้าเหรอ ?”

หลัวซิวยิ้มเย็นชา “คนอยู่ในเหตุการณ์มากมายขนาดนี้ ข้าจะไม่บอกเจ้า แล้วเจ้าจะทำอะไรข้าได้?”

“เจ้ามันกล้าหาญมาก กล้าพูดแบบนี้กับเทพอย่างข้า?” ผู้แข็งแกร่งของเผ่าปีศาจโกรธจัด เส้นแสงสีดำส่องออกมาจากดวงตา ราวกับอาวุธที่มีประสิทธิภาพ ส่องสังหารหลัวซิว

ใบหน้าของหลัวซิวยิ้มเย็นชา ไม่รู้จริงๆว่าเผ่าปีศาจตนนี้ฝึกตนมาเป็นเทพได้อย่างไร เป็นคนที่สมองเรียบง่าย มือไม้โง่เขลาจริงๆ

เขาไม่จำเป็นต้องลงมือ หลิวหงเทียนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ยกมือฝ่ามือม่านแสงขึ้น เพื่อมาบดบังเส้นแสงสองเส้นของแข็งแกร่งของเผ่าปีศาจเอาไว้

ตอนนี้เนื้อหาในม้วนหยกมีเพียงหลัวซิวคนเดียวเท่านั้นที่รู้ ก่อนที่จะได้รู้เนื้อหาในม้วนหยก ตนไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายเขาเด็ดขาด

แม้แต่หลัวซิวจะยินยอมบอกเนื้อหาในม้วนหยกให้ฝ่ายใดทราบ ทั้งหมดต้องมาจากการตัดสินของตน

“เจ้าโง่ !” หลัวซิวไม่ยอมถอย เขาเสียดสีอย่างไม่หยุดยั้งโจมตีผู้แข็งแกร่งของเผ่าปีศาจที่ลงมือผู้นั้น

“เจ้ารนหาที่ตาย !”

ผู้แข็งแกร่งของเผ่าปีศาจโกรธจัด ในฐานะที่ตนเป็นผู้แข็งแกร่งของเผ่าปีศาจ เคยได้รับความอัปยศนี้เมื่อไหร่กัน ?

“ส่งเสียงเอะอะโวยวาย !”

เทวทูตจื่อเยียนขมวดคิ้ว ยกมือหยกขึ้นมาโบก เส้นแสงสีดำโจมตีไปยังผู้แข็งแกร่งของเผ่าปีศาจตนนั้น ไปกระแทกผนังของหอคอยฝึกตนจงยางจนพัง ร่างกายของเขาลอยออกไปไม่รู้ไกลเท่าไหร่

ผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารตนหนึ่งถูกโจมตีจนลอยออกไป เหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของบรรดาเทพมากมายที่นั่งอยู่ ทำให้ห้องลับเงียบสงัดขึ้นมาทันที

สำหรับเทวทูตจื่อเยียนแล้ว กลับดูเหมือนว่าได้ทำเรื่องเล็กน้อยลงไป ดวงตาคู่นั้นของนางจับจ้องมาที่หลัวซิว

“เจ้าทำลายม้วนหยกไปแล้ว ตอนนี้มีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่รู้เนื้อหาในม้วนหยก พูดออกมาสิ เจ้ามีเงื่อนไขอะไร?”

ตอนที่พูดถึงตรงนี้ มีรอยยิ้มเล็กๆบนริมฝีปากของนาง นางจะเดาไม่ออกที่ไหนกัน ว่าหลัวซิวต้องการฉวยโอกาสนี้ในการใช้ประโยชน์จากมัน

ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์ปีศาจ หรือเผ่าพันธุ์มาร การที่ต้องการจะได้รู้เนื้อหาในม้วนหยก ต่างก็จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนกันทั้งนั้น

และทั้งหมด ก็เป็นสิ่งที่หลัวซิววางแผนไว้ก่อนแล้ว

มันจะดีกว่าถ้าเขาสามารถค้นหาสมบัติที่เทพสงครามเอกภพทิ้งไว้ได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าไม่ได้ แน่นอนว่าจะต้องเอาเบาะแสเกี่ยวกับสมบัติชิ้นนั้นมาขายในราคาที่ดี !