บทที่ 963 อันที่จริงเขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังต่อต้านอยู่

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 963 อันที่จริงเขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังต่อต้านอยู่

เขายังถามว่าใครจะแต่งงาน?

แสนรักจ้องมองดูเขา แค่ประโยคนี้ ความโกรธเต็มหน้าอกที่มีก็ติดค้างอยู่ในลำคออย่างนั้น และไม่พูดออกมาอีกเลย

ในทางกลับกัน ไชยันต์ที่กำลังคุยหารือเรื่องนี้อยู่กับท่านสมเกียรติ เมื่อได้ยินดังนี้แล้ว ก็หันจ้องเขม็งมาทางนี้อย่างไม่สบอารมณ์ทันที

“แกว่ามีใครที่ต้องแต่งงานอีกล่ะ? แน่นอนว่าก็คือแก แกหลานนอกคอกถึงทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ หรือว่าแกคิดจะไม่รับผิดชอบเขางั้นเหรอ?”

เขาก็ด่าขึ้นมาอีก

ม็อกโกขมวดคิ้ว แล้วหันศีรษะไปทางเขา

“ปู่ตรวจสอบแน่ชัดแล้วเหรอ?”

“เหลวไหล!”

ไชยันต์โกรธมากอีกแล้ว และด่าเขาต่อหน้าทุกคน

สีหน้าของม็อกโกขาวซีดลงเล็กน้อย

แต่ไม่นานนัก เขาก็สงบสติลงได้ จากนั้นก็เริ่มโต้แย้งกลับ : “ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่รับผิดชอบต่อเรื่องนี้ แต่ว่า การรับผิดชอบนั้นมีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องแต่งงาน!”

“อะไรนะ? ไม่แต่ง? แล้วแกคิดจะทำยังไง?”

“แล้วแต่เธอจะเอ่ยขอเงื่อนไขอะไร หากผมทำให้ได้ ผมก็จะทำให้สำเร็จ”

ม็อกโกมองดูยังชายชราคนนี้ เขาที่ตื่นและได้สติเรียบร้อยแล้ว ตอบคำถามนี้อย่างไม่เย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตน

เมื่อคำพูดจบลง ไชยันต์ยังดีหน่อย แต่ผู้เฒ่าตระกูลโชคศักดาที่เดิมทีวางแผนว่าจะต้องปีนป่ายต้นไม้ใหญ่อย่างตระกูลเทวเทพอีกครั้งให้ได้อย่างแน่นอน ทันใดนั้นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“เหลวไหล! เธอเป็นสาวสวยงามสะพรั่งที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่ง ตอนนี้นายทำให้เสียหายแล้ว นายยังกล้าดีพูดคำแบบนี้ออกมาอีกเหรอ? นายไม่แต่งงานกับเธอ หรือว่าต่อไปเธอยังจะสามารถแต่งกับคนอื่นได้อีกงั้นเหรอ?”

“ผม………..”

“ฉันจะบอกนายให้นะไอ้เด็กเมื่อวานซืน เรื่องของวันนี้ นายต้องแต่ง ไม่แต่งก็ต้องแต่ง มิฉะนั้น อย่ามาโทษฉันที่ปล่อยข่าวนี้ออกไป ทำให้ตระกูลเทวเทพของพวกนายเสียหน้า!”

ใครก็ไม่คาดคิดว่า ตาแก่ตระกูลโชคศักดานี้ ในตอนสุดท้ายจะข่มขู่ขึ้นมาอย่างหน้าไม่อายและน่ารังเกียจได้ขนาดนี้

ในตอนนั้นสีหน้าม็อกโกก็ขาวซีดลงไป!

เขาจ้องดูที่ชายแก่คนนี้ ทันใดนั้นความโมโหในทรวงอกก็ปะทุขึ้นมา แม้แต่กระดูกนิ้วมือเขาก็กำไว้แน่นจนได้เสียงดังกร๊อบแกร๊บ ซึ่งแทบรอไม่ไหวที่จะพุ่งเข้าไปข้างหน้าแล้วบิดคอเขาให้หักทันที

บิดหักแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้ว

“งั้นท่านลองดูเลยไหมครับ?”

เมื่อปู่หลานสองคนของที่นี่เองก็ถูกชายแก่หน้าด้านไร้ยางอายคนนี้ทำให้โมโหจนสั่นไปทั้งตัว

ทันใดนั้น ตอนที่พวกเขาดูเหมือนต่างพากันลืมเรื่องราวตรงหน้า ก็มีเสียงหนึ่งที่เฉียบแหลมกว่าคมมีดลอยมา

ม็อกโกเงยหน้าขึ้นมาทันที แล้วมองไปยังชายคนนี้

คือแสนรัก!

เขายืนอยู่ตรงนั้น มือทั้งคู่ยังคงล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างสบายๆ แต่มาพร้อมกับความเย็นยะเยือก เขาจ้องมองมาที่พวกเขาทางนี้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าที่แยกสัดส่วนชัดเจนล้วนแต่เผยให้เห็นถึงความเหน็บหนาวเข้าถึงกระดูกยิ่งกว่าตอนฤดูหนาว

สายตาของท่านสมเกียรติก็มองดูอยู่ที่ตัวเขาทันที : “นายพูดอะไรอยู่? นายคิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ?!!”

แสนรักหัวเราะเยาะ : “มีอะไรที่ต้องกล้าหรือไม่กล้า? ตอนนี้ผมก็สามารถทำให้ท่านสมหวังได้”

จากนั้นเขาโบกมือ ไม่นาน ด้านหลังก็มีคนเข้ามา

“คุณชายเล็ก”

“ไปหานักข่าวสองสามคนมา บอกไปว่าตระกูลเทวเทพของเรามีเรื่องจะประกาศนิดหน่อย อ่อใช่แล้ว บอกรองผู้นำเดชาอีกทีว่า ให้เขาพาเจ้าของ ไนท์คลับ แห่งนั้น และผู้รับผิดชอบของโรงแรมก็พามาด้วยกัน ถึงตอนนั้นในงานแถงงข่าวสามารถใช้ประโยชน์ได้”

“!!!!”

ใครก็ไม่คาดคิดว่า สุดท้ายชายคนนี้จะทำการตัดสินใจแทนชายแก่คนนี้โดยตรง

ม็อกโกตะลึง!

ไชยันต์เองก็เบิกกว้างดวงตาแก่ๆ ทั้งคู่!

มีเพียงแค่ท่านสมเกียรตินี้ หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว เมื่อความเย่อหยิ่งผยองได้หายวาบไปจากบนใบหน้าแก่ๆ ของเขาแล้ว สีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาวเทาไปอย่างสิ้นเชิง

เขายังถึงกับจัดงานแถลงข่าวกับนักข่าว?

เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?

เขารู้หรือไม่ว่า ตอนนี้ที่ทำข่าวอื้อฉาวแบบนี้ออกมาก็คือม็อกโกคนตระกูลเทวเทพของพวกเขา เขาประโคมข่าวเอิกเกริกขนาดนี้ เขาไม่กลัวว่าทำให้ตระกูลเทวเทพเสียหน้าอีกเหรอ?

เขาทั้งตกใจทั้งโมโห จนมือเท้าอยู่ไม่นิ่งในที่สุด!

ความจริงของเรื่องนี้เป็นอย่างไรกันแน่ แท้จริงแล้วเขารู้ชัดเจนยิ่งกว่าใครๆ

หลังจากที่มินตราเสียชีวิตไปแล้ว ต้นไม้ใหญ่ที่ตระกูลโชคศักดาไว้พึ่งพิงก็เท่ากับล้มลงไปแล้ว

ดังนั้น ถ้าหากพวกเขายังอยากอยู่ในสังคมชั้นสูงของเมืองหลวงนี้ต่อไป วิธีเพียงหนึ่งเดียว คือยังคงต้องจับตระกูลเทวเทพไว้ให้แน่น และม็อกโกในเวลานี้ก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ตระกูลเทวเทพที่โง่เง่า ในเวลานี้ ยังมีคนหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนนี้โผล่ออกมา

เขาจ้องเขม็งดูแสนรัก!

“ได้ นับว่าตระกูลเทวเทพพวกนายมีความสามารถ ตระกูลเทวเทพพวกนายยอมเสียหน้าได้ แต่ตระกูลโชคศักดาของพวกเรายังต้องรักษาหน้านะ! ไชยันต์ฉันจะบอกนายให้นะ ตระกูลโชคศักดาจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ แบบนี้แน่!”

ในที่เขาก็เปลี่ยนคำพูดแล้ว ก่อนที่การ์ดนั้นจะก้าวเท้าออกจากประตูใหญ่ของเรด พาวิเลี่ยน

ไชยันต์ : “………”

มองดูชายแก่ที่ออกไปอย่างโมโหหัวรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความงุนงง สมองของเขาคือว่างเปล่าไปอย่างสิ้นเชิง

กลับไปแบบนี้?

เรื่องนี้…..ไม่เอาเรื่องแล้ว?

เขานั่งตะลึงอยู่ตรงนั้นหลายวินาที

ในทางกลับกัน ม็อกโกหลังจากที่เขาเห็นชายแก่คนนี้กลับไปแล้ว เขานั่งอยู่ตรงนั้นและละสายตากลับมา แล้วมองกูผู้ชายฝั่งตรงข้ามที่ช่วยแก้สถานการณ์แทนเขาอย่างเงียบๆ

“ขอบคุณ”

“เหอะเหอะ……..”

แสนรักไม่อยากคุยกับเขาเลยแม้แต่น้อย เขาหันหลังแล้วออกไปด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ดูเคร่งขรึม

มีเพียงเส้นหมี่ที่ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดมาโดยตลอดอยู่ที่ประตูทางนั้น หลังจากที่เห็นผู้ชายคนนี้ออกมา เธอก็เดินเข้ามาหาแล้วกอดแขนของเขาไว้แน่นอย่างเห็นอกเห็นใจ

“ที่รัก ทำไมคุณไม่บอกกับเขา? ผู้หญิงที่แท้จริงเมื่อคืนคนนั้นคือพี่สาว”

“ทำไมต้องบอก?”

“เพราะว่าพี่เองก็เห็นแล้ว เขาไม่ยอมแต่งงานกับยัยนิษานั่นน่ะสิ ยินดีที่จะชดใช้ความเสียหายยังไงก็ได้ และยังไม่เสียดายที่จะมีปัญหากับคุณท่าน ก็เพราะไม่ยอมแต่งงานกับเธอ”

“แล้วไงล่ะ? มีผลลัพธ์ไหม?”

ถึงตอนสุดท้าย เขาก็แค่ย้อนถามประโยคนี้มาเท่านั้น

เส้นหมี่ฟังจบ ในที่สุดก็เงียบลง……….