บทที่ 964 ศักด์ศรี

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 964 ศักด์ศรี

เรื่องนี้มีผลลัพธ์ไหม?

คำตอบคือไม่มี!

เพราะว่าไม่มีใครคนไหนที่จะผ่านด่านพ่อแม่ไปได้ ดีก็ดี ชั่วก็ช่าง ท้ายที่สุดคนที่ให้ชีวิตตัวเองมา เสียชีวิตไปแล้ว จะทำให้พวกเขานอนตายตาไม่หลับในสัมปรายภพได้อย่างไรกัน?

เส้นหมี่กลับเดอะวิวซีเป็นเพื่อนกับผู้ชายคนนี้

สองวันต่อมา ท้ายที่สุดตระกูลโชคศักดาทางนั้นก็ไม่ได้เล่นลูกไม้ตุกติกอะไร นับตั้งแต่ที่แสนรักทำให้ตกใจครั้งนั้นที่เรด พาวิเลี่ยนแล้ว โดยพื้นฐานแล้วแม้แต่ผายลมพวกเขาก็แทบไม่กล้าผายออกมาเลย

สองวันต่อมา ในที่สุดไชยันต์ก็รู้เรื่องที่ม็อกโกส่งรายงานการลาออกกับค่ายทหารแล้ว

“ไอ้หลานนอกคอกนี่!! มันคิดจะต่อต้านใช่ไหม? ใครให้มันทำแบบนี้? มันคิดจะให้ฉันโกรธตายใช่ไหม? ฉันตายแล้วมีข้อดีอะไรกับมัน? หา?!”

หลังจากที่ได้บินข่าวนี้แล้ว เขาทั้งเจ็บปวดทั้งโมโห ทุบสิ่งของทุกอย่างในห้องหนังสือทิ้งทั้งหมด แม้แต่พื้นก็ยังสั่นสะเทือน

รองผู้นำเดชาเห็นฉากนี้แล้ว ก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด

อันที่จริงไม่มีใครรู้ สำหรับหลานชายคนโตคนนี้ ไชยันต์มีความเสียดายเล็กน้อยในด้านความสามารถของเขา แต่ก็ไม่เคยดูแคลนเลย เขาก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจลงบนตัวเขา

รองผู้นำเดชามองดูท่าทางที่เขาโมโหอย่างนั้น เป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่อง จึงรีบปลอบใจเขา

“คุณท่านครับ ท่านอย่ากังวลใจไปเลย รายงานการลาออกฉบับนั้นได้ถูกสกัดกั้นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก็เพราะว่าคนในเขตทหารพบเข้า จึงรีบนำข่าวนี้มาบอกพวกเรา สิ่งสำคัญที่ต้องจัดการตอนนี้คือคุณชายม็อกโกทางนั้น จะต้องให้เขาล้มเลิกความคิดนี้ให้ได้”

รองผู้นำเดชาเตือนสติชายชราคนนี้

ไชยันต์ได้ฟังแล้ว จึงยืนขึ้นท่ามกลางความเพ่นพ่านนั้น ประคองไว้กับโต๊ะสงบสติอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เขาพูดออกมาหนึ่งประโยคโดยที่ยังไม่หายโมโหว่า : “ไปหาตัวไอ้หลานนอกคอกนั่นมาให้ฉัน!”

“ครับ คุณท่าน”

รองผู้นำเดชาโล่งอก จากนั้น ไม่นานนักเขาก็ออกไปจากเดอะวิวซี เพื่อไปตามหาม็อกโก

บังเอิญว่าในเวลานี้เส้นหมี่ก็ที่ตัดกิ่งดอกไม้อยู่ในสวนดอกไม้พอดี เพื่อเตรียมที่จะนำไปเสียบในแจกันดอกไม้ชั้นบน ก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในห้องหนังสือ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ม็อกโกจะลาออกจากทุกตำแหน่งในกองทัพ?

เธอร้อนใจ หลังจากที่เห็นรองผู้นำคนนี้ออกไปอย่างเร่งรีบ ทิ้งกรรไกรลง แล้วเธอก็นำดอกไม้เหล่านั้นขึ้นไปชั้นบน

“ที่รัก ที่รัก แย่แล้วค่ะ ม็อกโกเกิดเรื่องอีกแล้ว!”

เธอรีบวิ่งขึ้นมา ยังไม่ทันที่ตัวเธอจะเข้าไปถึงในห้องนอนชั้นสาม ก็ได้ตะโกนอยู่ด้านนอกแล้ว

เพียงแต่ว่า คำเรียกที่รักนี่………..

ผู้ชายคนนั้นที่กำลังยืนอยู่ตรงริมหน้าต่างพลิกอ่านดูสมุดบันทึกของตัวเองเมื่อก่อนเล่มนั้น หลังจากที่ได้ยินเสียงเรียกนี้ ภายใต้แสงสีทองบางๆ ใบหน้าด้านข้างเหมือนดั่งรูปปั้นแกะสลักขมวดคิ้ว กลับกลายเป็นว่าไม่ค่อยหล่อสักเท่าไหร่

ยัยบื้อนี่การตอบสนองจะช้าไปถึงไหนกันแน่?

“ที่รัก?”

เส้นหมี่ที่วิ่งเข้ามาพร้อมดอกไม้ในมือ ได้ยินว่าในห้องนอนไม่มีใครตอบรับกับตัวเอง เธอจึงเดินมาถึงข้างหลังของชายคนนี้ และเรียกออกมาด้วยเสียงออดอ้อน

ซึ่งช่างเหมือนกับเจ้าแป้งนุ่มอย่างหนูรินจังลูกสาวของพวกเขา

ดังนั้นกล่าวคือ ความซื่อบื้อ และความอ่อนของหนูรินจัง ไม่ใช่ว่าไม่มีที่มา

ในที่สุดแสนรักก็หันหน้ากลับมา เขาวงสมุดบันทึกในมือลง ดวงตาสีดำสวยงามที่ดูเหมือนแทบจะกลืนกินคนเข้าไปได้นั้น ยังแฝงด้วยความขี้เกียจมองดูเธออย่างเลื่อนลอย

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“เมื่อสักครู่ฉันได้ยินรองผู้นำเดชาพูดว่า ม็อกโกได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในกองทัพแล้ว ที่รัก คุณว่าเขาจะทำอะไร? อยู่ดีดีก็ลาออกจากตำแหน่ง เขาจะไม่เป็นทหารแล้วเหรอ?”

เส้นหมี่รีบพูดในสิ่งที่ตัวเองเพิ่งได้ยินเหล่านั้นออกมา

เมื่อพูดถึงการตัดสินใจแบบนี้ของม็อกโก นอกจากความสงสัยของเธอแล้ว มากไปกว่านั้นคือไม่สามารถเข้าใจได้ และยังมีโกรธเล็กน้อย เพราะเธอรู้ว่า ที่เขาทำอย่างนี้ สำหรับตระกูลเทวเทพ และสำหรับตัวเขาเองมันหมายความว่าอะไร

แต่เรื่องที่ทำให้เธอต้องประหลาดใจมากคือ หลังจากที่ผู้ชายคนนี้ได้ฟังแล้ว กลับไม่มีสีหน้าอารมณ์ที่แปลกใจอะไรเลย

“มีอะไรให้ต้องแปลกใจ เขาก็เป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร!”

“หา?”

เส้นหมี่ตกตะลึงมาก

เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร?

ความหมายของเขา ฟังดูเหมือนรู้จักคนคนนี้ดีมาก และรู้ด้วยว่าเขาจะต้องทำแบบนี้

แต่เมื่อสองสามวันก่อน ตอนที่พ่อแม่ของม็อกโกเพิ่งจะเสียชีวิต เขาไม่ใช่ว่าเครียดอยู่ตลอดเวลา? พูดหรือทำอะไรก็ไม่ได้ใจเย็นเหมือนที่ผ่านมา มักจะมีแต่ความกระสับกระส่ายอยู่ตลอด?

ผลคือตอนนี้มาบอกกับเธอว่า เขาก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร?

เส้นหมี่มองดูผู้ชายคนนี้ที่หน้านิ่วคิ้วขมวด แต่จริงๆ แล้วสามารถรู้สึกได้ถึงบนตัวของผู้ชายมีความผ่อนคลายลงแล้ว ทันใดนั้น เหมือนว่าเธอฟังเข้าใจแล้ว

“อืม ที่รัก แล้วตอนนี้พวกเราควรทำยังไง? จะปล่อยให้เขาลาออกไปแบบนี้จริงๆ เหรอ?”

“ลาออกอะไร? เลี้ยงดูกว่าเขาจะโตขนาดนั้น คือเลี้ยงหมาเหรอ?” ชายคนนี้กัดฟันกรอดแล้วทิ้งประโยคนี้ออกมา ไม่นานนัก เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไป

เส้นหมี่เหงื่อไหลโชก!

เปรียบเทียบแบบนี้……..ไม่มีใครเหมือนแล้วจริงๆ

แต่เขาก็พูดถูกจริงๆ ชายชรานั่นอุตส่าห์ทุ่มเทฝึกฝนชายคนนั้นมานานหลายปี จะบอกว่าละทิ้งก็ละทิ้งไปได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเป็นเพราะคู่สามีภรรยาพวกเขา เขาก็ไม่สามารถทำแบบนี้ได้

หัวใจดวงนี้ของเส้นหมี่ก็รู้สึกวางใจ

จากนั้นเธอก็ไม่ได้ยุ่งเรื่องนี้อีก แต่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วส่งข้อความวีแชทข้อความหนึ่งไปหาผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ไกลถึงเมือง A

【เส้นหมี่ : พี่สาว ตอนนี้พี่ทำอะไรอยู่เหรอ?】

【แสงดาว : มีธุระ?】

เธอตอบกลับอย่างรวดเร็ว ซึ่งดูเหมือนว่ากำลังรอข่าวจากเธอทางนี้อยู่ตลอด

เส้นหมี่รู้สึกเจ็บปวดใจอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว อดกลั้นไว้ แล้วเธอก็รีบส่งตอบกลับเธอไป