บทที่ 2203 พวกคุณออกเงินออกแรง
ช่วงเที่ยงของวันที่สี่ ผู้เฒ่าสายหลักมาเยือนพันธมิตรอู๋เว่ยอีกครั้ง
ภายในห้องประชุม เยี่ยหวันหวั่นมารับรองผู้เฒ่าสายหลักโดยตรง
“ฮึ่ม…ผู้นำไป๋ ฉันจำได้ว่า ก่อนหน้านี้พวกเราลงนามในหนังสือร่วมศึกกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ” ชายชราสายหลักจ้องเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยถาม
พอได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าสายหลัก เยี่ยหวันหวั่นก็ยกมุมปากขึ้นนิดๆ แล้วกล่าวไปว่า “เรื่องนั้นไม่ลืมแน่นอน สายหลักรักษาคำพูด ฉันก็ไม่ผิดคำพูดแน่”
“อืม แต่ก็น่าแปลกอยู่บ้าง บนหนังสือร่วมศึกเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า พอลงนามในหนังสือร่วมศึกแล้ว พันธมิตรอู๋เว่ยต้องประกาศว่าเข้าร่วมกับฝั่งสายหลักภายในสามวัน นี่ผ่านไปสี่วันแล้ว แต่ทางพันธมิตรอู๋เว่ยกลับไม่มีความเคลื่อนไหวเลยสักนิด ผู้นำไป๋ คุณว่าแบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเกินไปหน่อยเหรอ” ผู้เฒ่าสายหลักจ้องเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยออกมา
“ผู้อาวุโสพูดอะไรน่ะ หรือว่าผู้อาวุโสไม่รู้ สองสามวันมานี้ พันธมิตรอู๋เว่ยเราเปิดศึกกับกลุ่มอำนาจกลุ่มหนึ่งแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นมองผู้เฒ่าสายหลัก แล้วกล่าวพลางยิ้มน้อยๆ
“โอ้…ผู้นำไป๋พูดถึงคนที่เลื่อมใสในกลุ่มเดธโรส…เลยตั้งชื่อกลุ่มอำนาจว่าเดธโรสกลุ่มนั้นน่ะเหรอ…” ผู้เฒ่าสายหลักเอ่ยพร้อมกับทำท่าทางใช้ความคิด
“ใช่แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นรีบพยักหน้ารับ
“ผู้นำไป๋ เท่าที่ฉันรู้มา กลุ่มเดธโรสนั่น ก็แค่กลุ่มที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน ไม่ว่าจะเป็นด้านกำลังทรัพย์ก็ดี กำลังคนก็ช่าง ไม่มีทางเทียบกับพันธมิตรอู๋เว่ยได้เลย อีกย่าง พันธมิตรอู๋เว่ยประกาศศึกกับเดธโรส นี่เกี่ยวอะไรกับการประกาศเป็นพันธมิตรร่วมศึกกับสายหลักล่ะ” ผู้เฒ่าเอ่ยถามต่อไป
“ผู้อาวุโส พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ก่อนอื่น ผู้อาวุโสประเมินเดธโรสต่ำเกินไปแล้ว ถึงแม้จะเพิ่งก่อตั้งขึ้นได้ไม่นาน แต่ก็มีกำลังทรัพย์มหาศาลภายในระยะเวลาสั้นๆ มีผู้แข็งแกร่งเข้ามาร่วมมากมาย ภาพรวมไม่ด้อยไปกว่าพันธมิตรอู๋เว่ยของฉันเลย อีกอย่าง…ผู้อาวุโสก็พูดเองนี่ พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราลงนามร่วมศึกกับสายหลักแล้ว ความร่วมมือนี้ เขียนเอาไว้ชัดเจน เป็นข้อตกลงระหว่างสองฝ่าย ถ้าสายหลักมีศึกสงคราม พวกเราพันธมิตรอู๋เว่ยจะสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไข และไม่อาจบิดพลิ้วได้ มีเงินให้เงิน มีคนให้คน…แบบเดียวกันนั่นแหละ และถ้าพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราเกิดศึกสงคราม สายหลักก็ต้องให้การสนับสนุนโดยไม่มีเงื่อนไขเหมือนกัน…” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพลางยิ้มน้อยๆ
พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ผู้เฒ่าสายหลักจึงใคร่ครวญดู นิ้วมือเคาะลงหน้าโต๊ะเบาๆ จ้องมองเยี่ยหวันหวั่น “งั้น…ผู้นำไป๋หมายความว่ายังไง”
“ไม่ได้หมายความว่ายังไงหรอก…เอาละ พันธมิตรอู๋เว่ยของเราจะประกาศเป็นพันธมิตรร่วมศึกกับสายหลักในทันที”
ระหว่างที่พูด เยี่ยหวันหวั่นก็เรียกผู้อาวุโสใหญ่เข้ามาในห้องประชุมเลย
“ผู้นำ”
ผู้อาวุโสใหญ่ยืนอยู่ด้านข้าง พลางจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น
“ผู้อาวุโสใหญ่ รีบไปออกประกาศที นับจากนี้ไปพันธมิตรอู๋เว่ยจะสนับสนุนสายหลักอย่างไร้เงื่อนไข…” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ได้ครับผู้นำ ผมเข้าใจแล้ว” ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้า จากนั้น ก็มองไปทางผู้เฒ่าจากสายหลักแวบหนึ่ง “งั้น…ในเมื่อเป็นแบบนี้ คงต้องขอให้สายหลักช่วยออกเงินออกแรงในศึกของพันธมิตรอู๋เว่ยของเราที่กำลังจะเริ่มขึ้นด้วย”
ผู้เฒ่าสายหลักมุ่นคิ้วนิดๆ ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยคนนี้ คิดจะใช้เล่ห์กลกับเขางั้นเหรอ
ตอนนี้ สายหลักกำลังเตรียมตัวทำศึกกับสายรองด้วยความตึงเครียด จะมีกำลังคนกำลังทรัพย์ไปช่วยพันธมิตรอู๋เว่ยแก่งแย่งชิงดีกับกลุ่มอำนาจอื่นได้ยังไง
อีกอย่าง ตอนแรกที่สายหลักให้พันธมิตรอู๋เว่ยลงนามร่วมศึก เป้าหมายคืออยากให้พันธมิตรอู๋เว่ยมาสนับสนุนสายหลักของพวกเขา แต่ทำไมเมื่อมาถึงที่พันธมิตรอู๋เว่ยแห่งนี้ กลับกลายเป็นต้องการให้สายหลักของพวกเขามาให้ความช่วยเหลือแทนล่ะ?! มุกตลกระดับโลกอะไรกัน
——————————————–
บทที่ 2204 นึกห่วงพวกคุณ
“ผู้อาวุโสใหญ่”
ในเวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นปรายตามองผู้อาวุโสใหญ่แวบหนึ่ง “นายพูดอะไรน่ะ สายหลักยังต้องให้พวกเราคอยเตือนอีกรึไง”
ระหว่างที่พูด เยี่ยหวันหวั่นก็ฟาดหนังสือลงนามร่วมศึกลงบนโต๊ะประชุม แล้วเอ่ยขึ้นว่า “หนังสือร่วมศึกฉบับนี้ เขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เมื่อพวกเราเปิดศึกกับเดธโรสแล้ว สายหลักจะไม่หือไม่อือได้ยังไงล่ะ นี่คือหนังสือลงนามที่รับรองโดยสภาตุลาการเชียวนะ ผู้อาวุโสใหญ่นายเสียมารยาทเกินไปแล้ว”
พอได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสใหญ่ก็รีบพยักหน้า มองไปที่ผู้เฒ่าสายหลัก ใบหน้าเต็มไปด้วยความสำนึกผิด “ครับ…ผู้นำพูดถูกแล้ว เป็นผมที่ไม่คิดให้ดีๆ หนังสือลงนามฉบับนี้ของพวกเรา ผ่านการรับรองจากสภาตุลาการแล้ว…สายหลักไม่มีทางยืนมองอยู่ด้านข้างแน่นอน ไม่อย่างนั้นแล้ว จะเป็นการขัดต่อเจตจำนงของสภาตุลาการ เป็นความผิดของผมเองที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วนก็เริ่มปากมากแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง แล้วพูดว่า “นั่นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว…นายว่า โชคของพวกเราพันธมิตรอู๋เว่ยไม่เลวเลยใช่ไหม ถ้าไม่ได้ลงนามในหนังสือร่วมศึกฉบับนี้ไว้ พอสู้กับเดธโรสขึ้นมา จะต้องเสียงเงินเสียทอง เสียกำลังคนไปมากแน่ๆ แต่ตอนนี้ก็เยี่ยมไปเลย มีสายหลักคอยช่วยเหลือ แบบนั้นพวกเราก็สามารถบดขยี้เดธโรสได้สบายๆ ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องทรัพยากรและกำลังคนแล้ว!”
“ใช่ครับ ที่ผู้นำพูดมาก็มีเหตุผล กลุ่มอำนาจอย่างพวกเราก่อศึกทำสงครามต่างก็ต้องใช้เงินกันทั้งนั้น และตอนนี้มีสายหลักออกเงินออกแรงให้แล้ว…” ใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่เปี่ยมด้วยความจริงจัง
จากนั้น เยี่ยหวันก็โบกมือไล่ “ผู้อาวุโสใหญ่…งั้นจะมัวโอ้เอ้อะไรอีก รีบไปประกาศสิ พอประกาศเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็จะสามารถออกไปสู้กับเดธโรสได้เลย”
“ได้ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ…รอให้ให้ประกาศเรียบร้อยแล้ว เงื่อนไขที่ระบุอยู่ในหนังสือลงนาม ก็จะมีผลบังคับใช้ทันที”
พอผู้อาวุโสใหญ่พูดจบ ก็หันหลังเตรียมจะออกไป
เมื่อเห็นผู้อาวุโสใหญ่กำลังจะไป จู่ๆ ผู้เฒ่าสายหลักก็ลุกขึ้นมาทันที “รอเดี๋ยว”
เมื่อผู้อาวุโสใหญ่ได้ยินก็ชะงักลง หันกลับมา และมองชายชราสายหลักอย่างไม่เข้าใจอยู่บ้าง
“ผู้อาวุโส ทำไมล่ะ มีปัญหาอะไรเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ฮ่าๆ…” ผู้เฒ่าสายหลักหัวเราะเบาๆ และกล่าวกับเยี่ยหวันหวั่นว่า “เรื่องประกาศน่ะ พวกเรารอไปก่อนเถอะ”
พอได้ยินคำพูดนี้ของผู้เฒ่าสายหลัก เยี่ยหวันหวั่นก็ส่ายหน้าทันที “จะรอไปก่อนได้ยังไง ผู้อาวุโสถึงคุณไม่รีบ แต่ฉันรีบ จะต้องประกาศออกไป พวกเรายังมีศึกรออยู่นะ”
“ไม่รีบๆ…” ผู้เฒ่าสายหลักเอ่ยเสียงเบา
“รีบๆๆ!” เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ “มัวทำเซ่ออยู่ทำละ รีบไปประกาศเร็วเข้า”
“ได้ครับผู้นำ”
ผู้เฒ่าสายหลักรีบเอ่ยทัดทาน “ผู้นำไป๋ เอาแบบนี้เถอะ…ในเมื่อระยะนี้พันธมิตรอู๋เว่ยมีเรื่องงั้นก็จัดการเรื่องราวให้เสร็จก่อนก็ได้ รอให้จัดการเรียบร้อยแล้วค่อยประกาศกันวันหลังก็ยังไม่สาย…”
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่น มองผู้เฒ่าสายหลักอย่างไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง “ฉันว่า…คงไม่ใช่ว่าสายหลักของพวกคุณไม่อยากออกเงินออกแรงหรอกนะ เรื่องนี้ระบุไว้ในข้อตกลงด้านกลยุทธ์สงครามของพวกเราอย่างชัดเจน ว่าจะต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน พวกเราสนับสนุนสายหลัก สายหลักก็สนับสนุนพันธมิตรอู๋เว่ย แล้วทำไมพอพันธมิตรอู๋เว่ยของเรามีศึก สายหลักของพวกคุณก็เริ่มบ่ายเบี่ยงแล้วล่ะ จะดีร้ายยังไงก็เป็นถึงสายหลักนะ ไม่ค่อยเหมาะสมรึเปล่า”
ผู้เฒ่าสายหลักเอ่ยว่า “ผู้นำไป๋น่าจะเข้าใจความหมายของฉันผิดไป และเข้าใจสายหลักผิดไปด้วย นี่เป็นหนังสือลงนามร่วมศึกที่ได้รับการรับรองจากสภาตุลาการเชียวนะ พวกเราจะกล้าบิดพลิ้วได้ยังไง…ถ้าผู้นำไป๋ต้องการให้พวกเราสายหลักสอดมือเข้าช่วยจริงๆ ก็ได้แน่นอน…เพียงแต่ พวกเรากำลังนึกห่วงในชื่อเสียงของผู้นำไป๋และพันธมิตรอู๋เว่ยอยู่”
“นึกห่วงพวกเรางั้นเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นกุมคาง “ถ้างั้นขอให้ผู้อาวุโสพูดมาหน่อยสิ”
————————————————————–