บทที่ 2201 เรื่องความหน้าไม่อายจะแพ้ไม่ได้
พันธมิตรอู๋เว่ยก็ดี หรือจะเป็นตระกูลเนี่ยก็ช่าง จะเอาอะไรไปสู้กับสภาตุลาการล่ะ
ต่อให้เป็นสายหลักและสายรอง พอเจอสภาตุลาการ ก็ยังต้องนอบน้อมเกรงอกเกรงใจ…
ตอนนี้ ดูเหมือนชักจะยุ่งยากแล้ว
แต่ว่าสภาตุลาการอะไรนั่น เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่เคยพบมาก่อนเลย สรุปแล้วร้ายกาจแค่ไหน เธอก็ไม่ทราบแน่ชัด
“เสี่ยวเฟิง สภาตุลาการเป็นผู้ควบคุมกฎระเบียบของสิบสองเขตในรัฐอิสระ” เวินจื่อหรานที่อยู่ด้านข้างเปิดปากพูด “สิบสองเขตรัฐอิสระ ต่างก็ต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมายและระเบียบของสภาตุลาการ รวมถึงการห้ามใช้อาวุธสงคราม ก็เป็นกฎที่สภาตุลาการสั่งห้ามอย่างชัดเจน หากฝ่าฝืน สภาตุลาการจะออกหน้าโดยตรง ใครก็ให้ความช่วยเหลือคนที่ละเมิดกฎไม่ได้”
“ข้อนี้ฉันรู้” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
ในความทรงจำของเยี่ยหวันหวั่น ในอดีต เนี่ยอู๋หมิงผู้เป็นพี่ชายเกือบจะได้เป็นที่ปรึกษาของสภาตุลาการแล้ว แต่ว่า เนี่ยอู๋หมิงในช่วงเวลานั้นได้ปฏิเสธไป
เยี่ยหวันหวั่นไม่เคยคาดคิดเลยว่า สภาตุลาการจะน่าหวั่นเกรงขนาดนี้
“โชคดีที่ฉันเตรียมการไว้ก่อนแล้ว เรื่องความหน้าไม่อาย ฉันจะแพ้สายหลักได้งั้นเหรอ” มุมปากของเยี่ยหวันหวั่นยกโค้งขึ้นนิดๆ ก่อตัวเป็นรอยยิ้มเยียบเย็น
….
รุ่งเช้าวันต่อมา
ณ บ้านตระกูลเนี่ย
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นรอคอยด้วยความร้อนรนกระวนกระวาย ในที่สุดหัวหน้าตระกูลและนายหญิงตระกูลเนี่ยก็กลับมาแล้ว
เวลานี้ ภายในห้องโถงใหญ่ของตระกูลเนี่ย หัวหน้าตระกูลและนายหญิงนั่งประจำตำแหน่ง เยี่ยหวันหวั่นก็อยู่ข้างกายของผู้อาวุโสทั้งสอง
มองจากสภาพของนายหญิงและหัวหน้าตระกูลแล้ว ดูเหมือนสายหลักจะไม่ได้ทำอะไรพวกเขาทั้งสองคน น่าจะกักตัวเอาไว้เฉยๆ แม้แต่บาดแผลภาพนอกสักแห่งก็ไม่มีเลย
“อู๋โยว ครั้งนี้ลำบากลูกมากเลย” นายหญิงเนี่ยเอ่ยพลางจับมือน้อยๆ ของเยี่ยหวันหวั่นไว้
“พ่อคะแม่คะ ทั้งคู่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ” ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
ขอแค่พ่อแม่ปลอดภัย เธอก็เบาใจลงแล้ว ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นไม่อาจสูญเสียญาติใกล้ชิดคนไหนไปได้อีก
“อู๋โยว พี่ชายลูกล่ะ” หัวหน้าตระกูลเนี่ยมองไปรอบๆ ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเนี่ยอู๋หมิงเลย
“พ่อคะ…พี่เขา รับออเดอร์งานหนึ่งไว้นานแล้ว เดินทางไปที่อื่นแล้วค่ะ คงอีกนานกว่าจะกลับมา” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยตอบ
เยี่ยหวันหวั่นออกคำสั่งไว้แต่แรกแล้ว ไม่ให้ใครบอกเรื่องเนี่ยอู๋หมิงกับหัวหน้าตระกูลและนายหญิง ถ้าฝ่าฝืนจะถูกขับออกจากตระกูลเนี่ย
“รีบไปบอกพี่ชายลูก ให้เขากลับมาโดยด่วน เรื่องระหว่างสายหลักกับสายรอง พวกเราก็ไม่สามารถลอยตัวอยู่เหนือเรื่องนี้ได้” หัวหน้าตระกูลเนี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้ว
“พ่อคะ หนูเคยบอกพี่ไปแล้ว แต่ว่า…ตอนนี้พี่ไม่ได้อยู่ในรัฐอิสระ ไปประเทศอื่น ตอนนี้ เป็นเพราะเกิดเรื่องสงครามขึ้น รัฐอิสระก็เลยปิดประเทศไปแล้ว พี่ใหญ่อยากกลับก็กลับไม่ได้…” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
“ไอ้เด็กตัวเหม็นคนนี้!”
หัวหน้าตระกูลเนี่ยส่งเสียงฮึดฮัด “ถ้าตอนนี้พี่ชายลูกได้สักครึ่งหนึ่งของลูก พ่อกับแม่ของลูกคงตายตาหลับแล้ว!”
“พ่อคะ…แม่คะ อันที่จริง พี่เขา…ยอดเยี่ยมมากจริงๆ พ่อแม่อย่าว่าพี่เขาเลยค่ะ ตอนแรกที่เขารับภารกิจ หนูก็เห็นด้วยเหมือนกัน ไม่มีใครรู้นี่นาว่าจะบังเอิญได้ขนาดนี้…พี่เพิ่งไป เรื่องแบบนี้ก็มาเลย” หลังจากเยี่ยหวันหวั่นเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นมา
“ช่างเถอะ” นายหญิงเนี่ยส่ายหน้า “พวกเราเองก็ชินแล้ว เพียงแต่ ศึกระหว่างสายหลักสายรองในครั้งนี้ จะชะล่าใจไม่ได้เด็ดขาด แม่เอนเอียงไปทางสายรองมากกว่า”
พ่อแม่เลือกข้างสายรอง นี่อยู่ในความคาดหมายของเยี่ยหวันหวั่นอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ถูกสายหลักจับตัวไป เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมา ถ้าเลือกสนับสนุนสายหลัก แบบนั้นสิแปลก
“เนี่ยหลิงหลงนังหมาป่าตาขาวคนนั้น…” ดวงตาของหัวหน้าตระกูลเนี่ยส่องประกายยะเยือก “ออกใบสั่งจากตระกูลเนี่ยเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไร ก็ต้องจับตัวนังนี่กลับมาให้ฉันให้ได้!”
ตอนนี้ หัวหน้าตระกูลและนายหญิงยังไม่รู้ข่าวการตายของเนี่ยหลิงหลง
สถานการณ์ช่วงนี้วุ่นวายมาก ถ้าบอกความจริงกับพวกเขาในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ถ้าพ่อแม่ได้รับความสะเทือนใจแล้วเผลอทำอะไรลงไป ผลลัพธ์คงไม่น่าดูชม...
—————————————————————–
บทที่ 2202 เปิดศึกกับเดธโรส
หลังจากอยู่กับหัวหน้าตระกูลและนายหญิงเป็นระยะเวลาสั้นๆ เยี่ยหวันหวั่นก็เดินทางกลับไปที่พันธมิตรอู๋เว่ยทันที
ตามเงื่อนไขการเป็นพันธมิตรร่วมศึก พันธมิตรอู๋เว่ยจะต้องประกาศว่าเข้าร่วมศึกกับสายหลักภายในสามวัน
ทว่า จนกระทั่งเวลาล่วงเลยเข้าสู่วันที่สามแล้ว พันธมิตรอู๋เว่ยกลับยังไม่มีท่าทีใดๆ เลย
ภายในห้องประชุมของพันธมิตรอู๋เว่ย
เวลานี้ สมาชิกระดับสูงทั้งหมดของพันธมิตรอู๋เว่ยต่างก็มากันพร้อมหน้า และนอกจากพันธมิตรอู๋เว่ยแล้ว ยังมีเดธโรสที่เยี่ยหวันหวั่นก่อตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ด้วย
พวกโลลิน้อยและไฮดี้มองเยี่ยหวันหวั่นตาแป๋ว
ผ่านมานานจนป่านนี้ พวกเขาหลงนึกว่าหัวหน้าตระกูลของตัวเองจะหลงลืมพวกเขาไปแล้วเสียอีก
ตอนนี้ เดธโรสพัฒนาไปอย่างที่นับได้ว่าราบรื่น เนื่องจากมีแรงสนับสนุนด้านการเงินจากพันธมิตรอู๋เว่ยมาก่อน จึงบรรเทาแรงกดดันลงไปได้มาก
ในระยะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเดธโรสและกลุ่มอำนาจน้อยใหญ่รอบด้านต่างก็เป็นไปด้วยดี เอื้อเฟื้อมีน้ำใจต่อผู้อื่น ร่วมมือกันทำการค้ามากมาย เดธโรสในปัจจุบันนี้ แตกต่างไปจากเดธโรสในอดีต
ในห้องประชุมเห็นได้ว่า สมาชิกระดับสูงของทางเดธโรส นอกจากหน้าเก่าๆ สามสี่คนนั้น ส่วนใหญ่ต่างก็เป็นคนหน้าใหม่ทั้งสิ้น แต่ความแข็งแกร่งกลับไม่ได้ด้อยกว่าเลย
สายตาของผู้อาวุโสหลายท่านจากเดธโรสมองไปที่ร่างของเยี่ยหวันหวั่น คนที่อยู่ตรงหน้านี้คือผู้นำเดธโรส…ที่พวกเขาเพิ่งได้พบเป็นครั้งแรก
“หลิวอิ่ง”
จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็เรียกหลิวอิ่งที่อยู่ด้านข้าง
เมื่อหลิวอิ่งได้ยันก็ผงกหัวให้เยี่ยหวันหวั่น
“นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป พันธมิตรอู๋เว่ยจะประกาศศึกกับเดธโรส แบบที่ไม่ตายไม่เลิกรา” ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความจริงจัง
“หา?!”
พอสิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น ไม่ว่าจะเป็นระดับสูงของพันธมิตรอู๋เว่ย หรือระดับสูงของเดธโรส ต่างก็มีสีหน้าแตกตื่น นี่…นี่เล่นอะไรอยู่
พันธมิตรอู๋เว่ยประกาศศึกกับเดธโรส แถมยังเป็นแบบไม่ตายไม่เลิกราด้วย ท่านผู้นำของพวกเราเล่นอะไรอยู่กันแน่
จะพันธมิตรอู๋เว่ยหรือว่าเดธโรส ก็เป็นของเธอทั้งคู่ไม่ใช่เหรอไง ตอนนี้มาประกาศศึก…ไม่เท่ากับสู้กับตัวเองหรอกเหรอ
“พี่เฟิง...หมายความว่ายังไง” เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยความไม่เข้าใจ
“ความหมายตามที่พูด” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
ไม่รอให้เป่ยโต่วได้อ้าปากพูดต่อ หลิวอิ่งก็ลุกขึ้นมาทันที “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เดธโรสจะประกาศศึกกับพันธมิตรอู๋เว่ยครับ”
….
ผ่านไปเพียงครึ่งวัน ข่าวการเปิดศึกระหว่างพันธมิตรอู๋เว่ยกับเดธโรส ก็แพร่ไปทั่วรัฐอิสระอย่างรวดเร็ว
กลุ่มอำนาจต่างๆ ในรัฐอิสระ ก็เริ่มให้ความสนใจกับศึกอันไร้ที่มาที่ไประหว่างพันธมิตรอู๋เว่ยกับเดธโรสแล้ว
“เดธโรส…เดธโรสไหนกัน ใช่…เดธโรสที่เป็นกองกำลังระดับโลกกลุ่มนั้นไหม”
“จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงล่ะ ถ้าเป็นเดธโรสกลุ่มนั้นจริง ข่าวคงแพร่ไปทั่วตั้งนานแล้ว อีกอย่างนะ พันธมิตรอู๋เว่ยจะเอาอะไรไปประกาศศึกกับเดธโรสในตำนานกลุ่มนั้นล่ะ เบื่อจะใช้ชีวิตแล้วรึไง”
“นี่ยังต้องถามอีกเหรอ…ต้องเป็นกลุ่มอำนาจใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นแน่ๆ คนก่อตั้งอาจจะเลื่อมใสเดธโรสในอดีต ดังนั้นก็เลยตั้งชื่อกลุ่มอำนาจของตัวเองว่าเดธโรส”
“น่าแปลก กลุ่มอำนาจเล็กๆ ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นอย่างเดธโรส ทำไมจู่ๆ ถึงขัดแย้งกับพันธมิตรอู๋เว่ยได้ล่ะ…อำนาจพื้นฐานของพันธมิตรอู๋เว่ยก็แข็งแกร่งจนน่ากลัวแล้ว แถมเมื่อไม่กี่วันก่อนก็มีประกาศเข้าเป็นกองกำลังหลักกลุ่มที่สี่ของคุกคนบาปอีก…”
กลุ่มอำนาจน้อยใหญ่ในรัฐอิสระพวกนั้น ไม่เข้าใจพฤติกรรมฆ่าตัวตายประเภทนี้ของเดธโรสเลย จึงตั้งตารอชมเรื่องครื้นเครงแล้ว
กลุ่มอำนาจบางส่วนถึงขั้นที่คิดว่า เดธโรสก็แค่วู่วามไปชั่วขณะถึงจะสู้ก็คงสู้ไม่ไหว อีกไม่นานเกรงว่าคงจะไปคุกเข่าโขกศีรษะยอมรับผิดต่อหน้าไป๋เฟิงแล้ว
—————————————————–