ภาค 9 หนึ่งกระบี่ปราบโกลาหลในใต้หล้า บทที่ 824 เรื่องซุบซิบของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ฟู่ถิงมองเกาฉิง ถามขึ้นว่า “เขาแหนเขียว แซ่เกา…ท่านเป็นลูกหลานสายตรงของกษัตริย์ลี้ลับสายเหนือพิสุทธิ์หรือ”

เกาฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้อง กษัตริย์ลี้ลับที่ท่านพูด เป็นท่านย่าทวดของข้าเอง”

เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในวังฝูงมังกรด้านในทะเลเมฆสีม่วงลูบคางของตัวเอง “มรกตท่องฟ้าสายเหนือพิสุทธิ์ มียอดฝีมือที่ได้ชื่อว่ากษัตริย์อยู่จริงๆ เสียด้วย”

เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าว “สายเหนือพิสุทธิ์ขึ้นชื่อในเรื่องมรรคากระบี่มาหลายพันปี ไม่ทราบว่ากษัตริย์ลี้ลับแห่งมรกตท่องฟ้าผู้นี้ เทียบกับกษัตริย์กระบี่บนโลกซ้อนโลกเป็นอย่างไร”

สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิบนโลกซ้อนโลกมีตำแหน่งสูงส่งยิ่ง

ในสามกษัตริย์ นอกจากกษัตริย์ดินกับกษัตริย์เร้นลับแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่ง คือกษัตริย์กระบี่

เทียบกับราชันพระเสาร์กับราชันพระเกตุเมื่อครั้งอดีต หรือกษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับในปัจจุบัน กษัตริย์กระบี่มีอายุกับศักดิ์ฐานะน้อยไปบ้าง

ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ ผงาดขึ้นอย่างแข็งแกร่งในยุคหลังจากเก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุน กลายเป็นบุคคลที่ถูกขนานนามเคียงคู่กษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับ

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างหยอกเย้า “นี่บอกยากยิ่ง ‘กษัตริย์กระบี่’ ฉายานี้ดึงดูดความสนใจนัก”

ครั้งนี้เกาฉิงมองฟู่ถิงอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ปรบมือ “ฟู่ถิง ฟู่ถิง…ข้านึกออกแล้ว ท่านพ่อเคยกล่าวว่า บุคคลที่โดดเด่นในหมู่คนหนุ่มสาวของโลกซ้อนโลกเป็นสตรีคนหนึ่ง ชื่อว่าฟู่ถิง และเป็นบุตรีคนเดียวของจักรพรรดิแพร ผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์”

นางมองฟู่ถิงอย่างสนใจ “เมื่อครู่ท่านบอกว่าเป็นคนของยอดเขาอัศจรรย์บนเขาคุนหลุนใหม่ ที่นั่นเป็นที่พำนักของจักรพรรดิแพรไม่ใช่หรือ”

ฟู่ถิงว่า “แม้พวกเราจะไม่เคยพบหน้า และไม่เคยมีความแค้นกัน แต่ตอนนี้ต่างต้องการเตาวิเศษเตานี้ เช่นนั้นก็เป็นศัตรูไม่ใช่มิตร หากล่วงเกินต้องขออภัยด้วย”

ลูกศิษย์สายเหนือพิสุทธิ์ที่อยู่ตรงข้ามแค่นเสียง “เหอะ ผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์กับผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ทำตัวแข็งกร้าวจนเคยชิน ที่นี่ไม่ใช่โลกซ้อนโลกเสียหน่อย”

ด้านจอมยุทธ์เขาอัศจรรย์มีคนโต้ตอบทันที “ถ้าที่นี่เป็นโลกซ้อนโลก จะยังมีที่ให้พวกท่านเดินหรือ”

อีกฝ่ายหัวเราะ กล่าว “พูดเหมือนกับพวกข้ากลัวพวกท่าน ทุกคนต่างเป็นอริกันมานาน ท่านมีปัญญามาบุกมรกตท่องฟ้าก็ลองมาดูสิ อยากรู้นักว่าท่านจะออกไปได้หรือไม่”

ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมลดราวาศอก ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ปรองดองกันมาแต่แรก ตอนนี้ยิ่งเต็มไปด้วยกลิ่นดินประสิว เพราะเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ

เกาฉิงกลับพิจารณาฟู่ถิงอย่างสนใจ “อายุน้อยยิ่งนัก ไม่ต่างกับข้าเท่าไร…”

ฟู่ถิงเลิกคิ้วเล็กน้อย

น้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่เหมือนการชื่นชม แต่เหมือนประหลาดใจมากกว่า

ได้ยินเกาฉิงพูดต่อว่า “จักรพรรดิแพรมีอายุไม่น้อยแล้ว ได้บุตรีเมื่อชราโดยแท้

“แต่ได้ยินมาว่าจักรพรรดิแพรมีสนมและวังหลังนับไม่ถ้วน ทว่าหลายปีมานี้กลับไม่มีบุตร เหตุใดจู่ๆ จึงได้บุตรีเล่า”

ครั้นเกาฉิงพูดจบ สีหน้าของจอมยุทธ์จากยอดเขาอัศจรรย์ที่อยู่ตรงข้ามก็เปลี่ยนไป

แม้แต่ลูกศิษย์สายเหนือพิสุทธิ์ที่อยู่ข้างนาง ใบหน้าก็กลายเป็นประหลาดพิกลอยู่บ้าง

คำพูดนี้เสียมารยาทเกินไปแล้ว

ต่อให้ทั้งสองฝ่ายจะเป็นศัตรู การพูดถึงยอดฝีมือที่ได้ชื่อว่าจักรพรรดิเช่นนี้ ก็เป็นการลบหลู่กันเกินไป

แต่สิ่งที่ทำให้ลูกศิษย์สายเหนือพิสุทธิ์ที่คุ้นเคยกับเกาฉิงยิ้มอย่างขื่นขมก็คือ เกาฉิงไม่ได้มีเจตนายั่วยุฟู่ถิง หรือกดสภาวะของอีกฝ่าย

นางแค่รู้สึกสงสัยจริงๆ

ก่อนหน้านี้ในตอนที่ได้ยินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฟู่ถิงและจักรพรรดิแพรในมรกตท่องฟ้า เกาฉิงก็รู้สึกสับสนไม่เข้าใจ

ในตอนนี้เมื่อได้เจอฟู่ถิงโดยบังเอิญ จึงถามออกไปตรงๆ เช่นนี้

ทว่าปัญหาก็คือพวกเขาเข้าใจสถานการณ์เช่นนี้ ทว่าจอมยุทธ์จากยอดเขาอัศจรรย์ที่อยู่อีกฝ่ายไม่รู้เรื่อง…

เมื่อพูดจบ บรรยากาศเคร่งเครียดในตอนแรกของทั้งสองฝ่าย ก็พลันจับตัวกันจนแทบจะเป็นของแข็ง ต่างฝ่ายต่างเงียบสงัด

พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในทะเลเมฆสีม่วงต่างสบตากัน ด้วยรู้สึกตกใจ

เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับของตัวเอง

เรื่องอันชวนฝันของจักรพรรดิแพร นับว่าโด่งดังในโลกซ้อนโลกเป็นอย่างยิ่ง

มู่จวินในฐานะผู้อาวุโสจึงไม่ได้เอ่ยถึงตรงๆ ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอยังคงได้ยินจากเขาโถงทอง และเขตตะวันอาคเนย์มาไม่น้อย

จักรพรรดิแพรงามที่ถูกจัดอยู่ในห้าจักรพรรดิ มีชื่อเสียงมาหลายปีผู้นี้ เป็นผู้นิยมเด็ดดมบุปผา มีนิสัยเสเพลรักสนุกเป็นอย่างยิ่ง

ฉายา ‘แพรงาม’ ของเขา ความจริงไม่ได้เกี่ยวข้องกับวรยุทธ์ที่ฝึกฝน

ในตอนที่ฝึกปรือสำเร็จเมื่อครั้งเยาว์วัย เขาได้รับฉายาว่า ‘คุณชายแพรงาม’ เนื่องจากมีหน้าตาหล่อเหล่า มีบุคลิกสง่างาม เหมือนกับเทพเซียน ได้รับการฉายาบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งแห่งโลกซ้อนโลก

เคยมีสตรีมากมายหลายรูปแบบผ่านชีวิตของเขานับไม่ถ้วน ก่อนที่จะถูกเรียกว่าจักรพรรดิ เขาใช้ชีวิตเช่นนั้นมาโดยตลอด

ในจำนวนสตรีเหล่านั้นมียอดฝีมือที่มีพลังฝึกปรือไม่ธรรมดา และมีโฉมสะคราญเหนือมนุษย์ ทั้งยังไม่จำกัดสถานะ สตรีสูงส่งที่มีชื่อเสียง สตรีที่โดดเด่นจากตระกูลใหญ่ สตรีโมสะคราญจากตระกูลเล็กๆ สตรีมากความสามารถมากรัก ไม่มีใครที่ไม่ใช่คนฉลาดเฉลียว

ทว่าคนส่วนใหญ่ในจำนวนนี้ตายจากไปนานแล้ว เนื่องจากอายุขัยของพวกนาง

ทว่าไม่ว่าจะเป็นสตรีเยาว์วัย หรือเป็นแม่เฒ่าแก่ชรา จักรพรรดิแพรล้วนไม่ทอดทิ้ง อยู่กินกับพวกนางจนถึงวาระสุดท้ายถึงชีวิต

ระหว่างนี้ถ้ามีใครคิดจากไป จักรพรรดิแพรก็ไม่ได้รั้งไว้ ทุกคนจากกันด้วยดี

หลายปีมานี้ จักรพรรดิแพรล้วนทำเช่นนั้น

ทว่าจักรพรรดิแพรงามผู้นี้เดินผ่านสวนหมื่นบุปผา กลับไม่มีกลีบติดตัวสักกลีบ

เขามีชื่อเสียงมามากกว่าพันปีแล้ว ชีวิตเช่นนั้นก็ผ่านมาแล้วพันปี

ตามเหตุผล ด้วยความสามารถในการกระจายเมล็ดพันธุ์ไปทั่วใต้หล้าเป็นเวลานับพันปีของเขา ไม่อาจใช้คำว่าบุตรหลานเต็มห้องโถงมาบรรยายได้อีกแล้ว แต่ควรจะเป็นบุตรหลานเต็มใต้หล้ามากกว่า

กระนั้นพันปีมานี้ จักรพรรดิแพรกับไม่เคยมีบุตรหรือธิดาเลย

ดังนั้นคนไม่น้อยจึงเยาะเย้ยและตั้งข้อสงสัยอยู่ในใจ

ทว่าไม่กี่ปีมานี้ ฟู่ถิงก็ได้กำเนิดขึ้นมา

ผู้คนที่เพิ่งได้ยินข่าวนี้ ถึงขั้นสงสัยว่าจักรพรรดิแพรถูกคนสวมเขาหรือไม่

กระนั้นรอฟู่ถิงเติบโต ออกเดินทางฝึกฝน ทุกคนกลับพบว่า นิสัย หน้าตา พรสวรรค์ จะต้องเป็นจักรพรรดิแพรให้กำเนิดนางเองอย่างมิต้องสงสัย ทุกคนจึงค่อยสลัดความคิดเก่าทิ้งไป

แต่การพูดคุยถึงเรื่องนี้ในที่ลับยังเป็นข้อห้าม จะมีสักกี่คนที่พูดถึงเรื่องเหล่านี้ต่อหน้าจักรพรรดิแพรกับฟู่ถิง

จอมยุทธ์ยอดเขาอัศจรรย์ในตอนแรกถึงขั้นสับสน

รอจนพวกเขาได้สติ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจ ดวงตาสองข้างมีไฟโทสะพวยพุ่ง

ฟู่ถิงมองเกาฉิงอย่างเงียบๆ ครู่ต่อมาค่อยกล่าวอยางราบเรียบว่า “กษัตริย์ลี้ลับเป็นย่าทวดของแม่นางเกา เช่นนั้นปู่ทวดของท่าน คงเป็นจักรพรรดิน้ำพุหลง หลงซิงเฉวียนกระมัง”

จู่ๆ ได้ยินนางพูดเช่นนี้ จอมยุทธ์ยอดเขาอัศจรรย์ที่อยู่รอบๆ ก็ประหลาดใจเหลือแสน

ฟู่ถิงเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของจักรพรรดิแพร ทราบความลับที่คนทั่วไปไม่ทราบ เรื่องหลายเรื่องแม้จะเป็นคนในสำนักก็ไม่รู้

เกาฉิงได้ยินก็พยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “ถูกต้อง มิผิด”

ฟู่ถิงถามเรียบๆ “เช่นนั้นขอถามหน่อยว่า เหตุใดแม่นางเกาจึงใช้แซ่ตามย่าทวด ไม่ใช้แซ่หลงของจักรพรรดิน้ำพุ”

ครั้งนี้ถึงคราวสีหน้าของพวกลูกศิษย์สายเหนือพิสุทธิ์แปรเปลี่ยนบ้างแล้ว

เกาฉิงงงงัน “ท่านตากับท่านพ่อต่างใช้แซ่ของย่าทวด ข้าจึงต้องใช้ตาม”

ฟู่ถิงว่า “นั่นเป็นเพราะว่าจักรพรรดิน้ำพุหลง สู้กษัตริย์เร้นลับไม่ได้ เป็นสามีที่สั่งสอนภรรยาไม่ได้มากกว่ากระมัง”

คนผู้หนึ่งที่อยู่ข้างเกาฉิงแค่นเสียง “จักรพรรดิน้ำพุเดิมทีเป็นผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ซึ่งอยู่ในโลกซ้อนโลกของพวกท่าน เป็นเพราะไม่ต้องการจะเกลือกกลั้วกับพวกท่านอีก จึงมายังฟ้าท่องรกตของพวกเรา ทั้งยังได้เกี่ยวดองกับกษัตริย์ลี้ลับเป็นสามีภรรยา ครองรักกันมาถึงปัจจุบัน ท่านรู้เรื่องมากขนาดไหนถึงมาเยาะเย้ยถากถางกัน”

ด้านในทะเลเมฆ พวกเยี่ยนจ้าวเกอต่างตาเป็นประกาย

การปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่านี้ ได้จุดนิสัยอยากรู้อยากเห็น และวิญญาณแห่งการสอดรู้สอดเหตุในใจของพวกเขาขึ้นมาแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอคิดจะเงยหน้าตะโกนว่า ‘เอาเรื่องซุบซิบของบุคคลที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้มาอีก!’