ตอนที่ 1052: โหยวเยว่ยอมรับอาจารย์

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1052: โหยวเยว่ยอมรับอาจารย์

โหยวเยว่นิ่งอึ้งไปทันทีเมื่อนางได้ยินแบบนั้น นางจ้องไปที่นางฟ้าเฮายู่อย่างสับสนในขณะที่ความเหลือเชื่อปรากฎขึ้นที่ใบหน้าของนาง

โหยวเยว่เคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานของนางฟ้าเฮายู่จากคนอื่นมานานแล้ว นางฟ้าเฮายู่เป็นความมหัศจรรย์ เป็นอัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อนในการฝึกฝน นางใช้เวลาสองพันกว่าปีเท่านั้นเพื่อที่จะไปถึงขั้นสูงสุดของเซียนจักรพรรดิ และห่างอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นที่จะก้าวข้ามมันไปได้ แม้แต่ในครั้งโบราณกาลก็ยังไม่มีใครเทียบกับความเร็วในการฝึนฝนของนางได้

หลังจากที่ถึงขั้นสูงสุดของเซียนจักรพรรดิแล้ว นางก็บินไปที่ดวงจันทร์ที่ห่างไกลด้วยตัวของนางเอง นางไปเหยียบบนดินแดนที่ไม่คุ้นเคนที่น้อยคนนักจะเคยได้ไป และนางก็ได้เก็บรวบรวมทรัพยากรที่มีค่าเพื่อมาสร้างโถงศักดิ์สิทธิ์ ความสามารถของนางเยี่ยมมากและพลังของนางเหนือกว่าอื่นใดแม้แต่ในหมู่เซียนจักรพรรดิด้วยกัน มีน้อยคนนักที่จะเทียบกับนางได้

ในตอนนี้ นางฟ้าเฮายู่ที่ยิ่งใหญ่ต้องการที่จะรับนางเป็นศิษย์ ความยินดีเป็นที่สุดเติมเต็มไปทั่ววิญญาณของนาง ทำให้นางยากที่จะกลับมาตั้งตัวได้ในเวลาอันสั้น

การที่ได้เซียนจักรพรรดิเป็นอาจารย์นั้นเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมากและควรค่าแก่การภาคภูมิใจ แม้แต่ในทั่วทั้งทวีป นี่ก็เป็นอะไรที่คนทุกคนไม่ต้องคิดเลย โหยวเยว่ไม่เคยคิดเลยว่านาง คนที่ห่างไกลจากคำว่าอัจฉริยะ จะถูกถามว่าต้องการเป็นลูกศิษย์หรือไม่จากเซียนจักรพรรดิจริง ๆ

นางฟ้าเฮายู่ยังคงสงบ นางไม่ได้แสดงอารมณ์ใดใดและนางถามขึ้นมาอีกครั้ง “โหยวเยว่ เจ้าปรารถนาที่จะรับข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าหรือไม่ ? “

โหยวเยว่สงบลงในที่สุด นางกดอารมณ์ที่ปั่นป่วนของนางเอาไว้และถามออกไปอย่างสงบ “นางฟ้าเฮายู่ ข้าเข้าใจว่าความสามารถของข้าไม่ได้ใกล้เคียงกับอัจฉริยะเลย ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าทำไมนางฟ้าเฮายู่ถึงเลือกข้าให้เป็นลูกศิษย์ของท่าน ? ท่านไม่กลัวว่าความคืบหน้าในอนาคตของข้าจะทำให้ชื่อของท่านมีมลทินอย่างนั้นหรือ?”

“เจ้าพูดถูก พรสวรรค์ของเจ้าไม่ได้ติดหนึ่งในพันเลยและไม่ได้ใกล้เคียงกับอัจฉริยะเลย อย่างไรก็ตาม เจ้ารู้ไหมว่าวิธีการฝึกฝนที่ข้าใช้มันมหัศจรรย์เพียงใด ? มันเป็นวิธีการฝึนฝนของท่านพ่อของข้า เทพจันทรา ที่เขาใช้เวลาหลายหมื่นปีในการพยายามสร้างมันมาเป็นพิเศษให้กับข้า มันมหัศจรรย์มากแม้แต่ถ้าคนที่มีพรสวรรค์ธรรมดาฝึกก็ยังทำให้มีอนาคตที่สดใสได้”

“อีกทั้งยังมีโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าทำงานอย่างหนักในการสร้างมันมาตลอดหลายปี ข้าได้ผนึกแก่นแท้ของดวงจันทร์ลงไปในมัน ข้าเพียงแค่ต้องใช้ส่วนหนึ่งของมันในการปรับปรุงร่างกายของเจ้าโดยการใช้ทักษะลับและเจ้าก็จะเกิดใหม่ ดังนั้นร่างของเจ้าก็จะพร้อมสำหรับการฝึกฝน” นางฟ้าเฮายู่ยืนยัน

“อะไรนะ วิธีการฝึกฝนของท่านถูกสร้างมาโดยท่านพ่อของท่านเมื่อหลายหมื่นปีก่อน ? ข้าเคยได้ยินมาว่าอายุขัยของเซียนจักรพรรดิมีหมื่นปีเท่านั้น พ่อของท่านเป็นจอมยุทธที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิอย่างนั้นหรือ ? ” โหยวเยว่จ้องไปที่นางฟ้าเฮายู่อย่างประหลาดใจ

แววแห่งความเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่ตาของนางฟ้าเฮายู่เมื่อนางได้ยินคำว่าเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ นางพูด “ขอบเขตดั้งเดิมไม่มีแล้ว ถ้าพลังงานดั้งเดิมในโลกนี้ไม่ถูกผนึกไว้ที่ขอบอวกาศที่ห่างไกล ข้าก็คงถึงขอบเขตดั้งเดิมไปนานแล้ว เช่นเดียวกับพ่อของข้า เจ้าจะเข้าใจหลังจากที่เจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า”

โหยวเยว่คุกเข่าลงทันทีแล้วพูด “ข้าเป็นหนี้ในความกรุณาของนางฟ้าเฮายู่ ข้า โหยวเยว่ ปรารถนาที่จะเป็นศิษย์ของท่าน ขอคารวะท่านอาจารย์” โหยวเยว่โขกคำนับ 9 ครั้งให้กับนางฟ้าเฮายู่

นางฟ้าเฮายู่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อยบนใบหน้าลวงตาของนาง นางพูด “ศิษย์ที่เชื่อฟังของข้า ลุกขึ้นเร็ว เจ้าจะเป็นศิษย์คนแรกของข้า”

หลังจากนั้นพลังที่มองไม่เห็นก็ยกโหยวเยว่ขึ้น หลังจากนั้น นางฟ้าเฮายู่ก็พูดต่อ “คทาเทพเจ้าจันทราที่อยู่ในมือของเจ้าเป็นคทาที่ข้าทำขึ้นมาหลังจากเก็บรวมรวมวัตถุดิบมาตามความปรารถนาของท่านพ่อของข้า ในตอนนี้ อาจารย์ของเจ้าไม่จำเป็นต้องใช้มันแล้ว ข้าได้ผนึกพลังแสงจันทร์ส่วนหนึ่งไว้ในคทา ดังนั้นเอามันติดตัวไว้กับเจ้าในภายภาคหน้าด้วย มันจะช่วยปกป้องเจ้า”

โหยวเยว่สำรวจดูคทา มันทำมาจากผลึกที่ไม่รู้จักและมันเบาเหมือนขนนก นางไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของมันเลย คทาทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยชั้นพลังแสงจันทร์จาง ๆ ซึ่งเปล่งแสงมัว ๆ ออกมา นางมองเห็นลวดลายธรรมดาบนคทาได้ลางลาง

“ท่านอาจารย์ ศิษย์มีคำถาม ใครก็ตามที่ได้คทาไปและมาถึงที่นี่จะได้เป็นลูกศิษย์ของท่านอย่างนั้นหรือ ? ” โหยวเยว่ถาม

นางฟ้าเฮายู่ยิ้มอย่างภูมิใจแล้วพูดออกมา “ไม่มีใครในโลกที่มีสิทธิ์ได้เป็นศิษย์ของข้า และข้าไม่คิดว่าจะรับศิษย์เลยก่อนหน้านี้ เมื่อจู่ ๆ โถงศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน ข้าก็มีความตั้งใจของข้า คทานั้นไร้ประโยชน์กับคนที่ถือมัน พวกเขาไม่สามารถเอาออกจากโถงไปได้อยู่แล้ว แต่ข้าเปลี่ยนใจด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งทำให้ข้ามีข้อยกเว้นที่จะรับเอาเจ้าเป็นศิษย์”

“เพราะเจี้ยนเฉิน ? ” โหยวเยว่หยั่งเชิงถาม นางเหมือนจะจำเหตุผลที่นางฟ้าเฮายู่รับนางเป็นศิษย์ได้ มันเป็นเพราะเจี้ยนเฉิน

“เอาล่ะ อย่าถามอีกเลย ศิษย์รักของข้า ทั้งหมดที่เจ้าต้องเข้าใจมีเพียงอาจารย์ของเจ้านั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเจ้า ร่างเดิมของอาจารย์ได้ถูทำลายไปแล้วและข้ามีอยู่ได้ในรูปของวิญญาณในตอนนี้ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอาจารย์ถึงมีความสามารถจำกัดมากเพื่อจะช่วยเจ้าเมื่อเจ้าเผชิญกับอันตรายในอนาคต อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าฝึกฝนด้วยวิธีการของข้า ข้าจะให้เข้าควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ โถงศักดิ์สิทธิ์เป็นอะไรที่ข้าภูมิใจมากตอนที่ข้าสร้างมันมาเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นมันจึงแข็งแรงมาก มันยังมีอาคมกับดักในโถงอีก ดังนั้นตราบที่มันยังปกป้องเจ้าอยู่ แม้แต่จอมยุทธในขอบเขตดั้งเดิมก็จะวุ่นวายอยู่สักพัก”

“ชื่อของวิธีการฝึกฝนคือกระจกเทพจันทรา ถ้าฝึกมันด้วยร่างกายที่พิเศษ อัตราการฝึกจะเพิ่มขึ้นเร็วมาก ให้อาจารย์ช่วยเจ้าในการทำให้เจ้าเกิดใหม่ด้วยแก่นแท้ของดวงจันทร์ที่ซ่อนอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์นี้ ข้าจะส่งมอบวิธีการฝึกฝนให้เจ้าหลังจากนั้น จากนั้นเจ้าจะสามารถควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์และช่วยคนที่เจ้าต้องการจะช่วย”

แม้ว่านางฟ้าเฮายู่จะอยู่ในรูปของวิญญาณ นางก็ยังควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่ นางคิด แล้วแก่นแท้ของดวงจันทร์ที่เข้มข้นก็มารวมกันจากรอบ ๆ และเข้ามาใกล้โหยวเยว่เหมือนสายรุ้งอย่างช้า ๆ หลังจากนั้น ทั้งหมดก็เข้าไปในร่างของนาง เพื่อเพิ่มความสามารถของนางโดยการปรับแต่งร่างกายของนาง

ในขณะที่นางดูโหยวเยว่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นของแก่นแท้ของดวงจันทร์ นางฟ้าเฮายู่ก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในความมึนงงทันที นางคิด ” ท่านพ่อ ลูกสาวของท่านยังไม่ตาย ในไม่ช้า ข้าจะสามารถกลับไปอยู่ข้างท่านได้ และจากนั้นข้าจะบอกท่านเกี่ยวกับแผนการของหนานป้อเทียน”

“หนานป้อเทียนมีความทะเยอทะยานมาก เขาต้องการที่จะเอาตำแหน่งของท่านที่เป็นผู้นำของโถงเทพจันทรา ในตอนนี้ หลายปีได้ผ่านไปแล้ว ข้าอยากรู้ว่าเจ้าสบายดีหรือไม่ ? โถงเทพจันทราตกอยู่ในมือของหนานป้อเทียนหรือยัง…” ในขณะที่นางคิด ใบหน้าลวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความกังวลมาก

….

ในเวลาเดียวกัน อาคมกับดักใหญ่ก็ยังอยู่ที่ชั้นที่หนึ่งของโถงศักดิ์สิทธิ์เหมือนก่อนหน้านี้ มันกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของโถงตรงที่ที่มีรูปปั้นตั้งอยู่

คนกลุ่มใหญ่ยืนอยู่อย่างเสียดายในจุดที่ใกล้กับที่กับดักตั้งอยู่ บางคนยังสลดใจ เหมือนว่าวิญญาณของพวกเขาได้หายไป

คนเหล่านี้ได้ถูกส่งลงมาจากชั้นบนสุดด้วยพลังของโถงศักดิ์สิทธิ์ ในตอนนี้ ทุกคนเข้าใจว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกเอาไปโดยโหยวเยว่ ผู้ที่หายไปจากบัลลังก์พร้อมกับคทาที่อยู่ในมือแล้ว ซึ่งทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความเสียดายและความสลดใจ

ซี่หวังและเสือขาวยืนอยู่ด้วยกัน วัตถุเซียนขนาดเท่ากำปั้นลอยอยู่เหนือหัวของเสือขาวในขณะที่มันหมุนอยู่ช้า ๆ ในตอนนี้ ทั้งคู่เต็มไปด้วยเลือดและอยู่ในสภาพย่ำแย่ อาการบาดเจ็บของพวกเขาค่อนข้างหนัก

“ข้าไม่คิดว่านางฟ้าเฮายู่จะยังมีชีวิตอยู่ โหยวเยว่ต้องถูกนางฟ้าเฮายู่พาไปแน่ นางน่าจะปลอดภัยใช่หรือไม่ ? เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะควบคุมหรือเข้าไปยุ่งได้” ซี่หวังพูดด้วยเสียงแหบแห้ง เขาทำท่าทางช่วยไม่ได้

เสือขาวยังสง่างามเหมือนก่อนหน้านี้ และยืนเงยหน้าขึ้น มันจ้องเขม็งไปที่มิติของกับดักที่อยู่ตรงหน้ามันด้วยความกังวลที่อยู่ในตาของมัน ไม่มีใครรู้ว่าเจี้ยนเฉินจะสามารถออกมาจากมิติกับดักได้ไหมในตอนนี้ที่สถานการณ์ของโหยวเยว่ก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด