บทที่ 2211 มีสิ่งที่เรียกว่ายางอายอยู่อีกเหรอ
เล่าลือกันไปสารพัด บอกว่าพวกเขาถูกซ้อมจนฉี่แตกอึราดอะไรก็มี
ตัวคนนั่งอยู่ที่บ้าน แต่เคราะห์กลับหล่นใส่หัวเสียได้
ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงมาเพื่อคิดบัญชีกับเยี่ยหวันหวั่น
“บัดซบ! นี่ก็ไร้ยางอายเกินไปแล้วรึเปล่า!” เจียงหลีเฮิ่นสบถด้วยความโกรธ
ใบหน้าของผู้เฒ่าสายหลักแช่มชื่นขึ้นมาเล็กน้อย “ไป๋เฟิง เธอได้ยินไหม ผู้นำเจียงบอกว่าไร้สาระ! แสดงว่าเธอ…”
ไม่ทันรอให้ผู้เฒ่าสายหลักได้พูดจบ ซือเยี่ยหานที่เงียบมาโดยตลอดจัดกระดุมข้อมือเล็กน้อย จู่ๆ ก็เอ่ยขัดตาเฒ่าคนนั้นอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ผู้เฒ่าเซวีย ตอนแรกคนที่กำหนดให้ทำหนังสือลงนามคือคุณ แต่ตอนนี้ คุณไม่เพียงแต่ละเมิดข้อสัญญา เห็นคนจะตายกลับไม่ช่วยเหลือ ถึงขั้นที่กลับดำเป็นขาว ช่างไร้ยางอายเกินไปแล้วจริงๆ เกรงว่าจะเสื่อมเสียถึงหน้าตาสายหลักของคุณแล้ว”
เมื่อซือเยี่ยหานเอ่ยประโยคนี้ออกมาอย่างผ่าเผย รอบข้างก็เงียบสงัดไปทันใด คางของเจียงหลีเฮิ่นแทบจะหล่นลงไปกองกับพื้นแล้ว เซี่ยเชียนชวนก็เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แม้แต่เยี่ยหวันหวั่นก็มีสีหน้ามึนงงเช่นกัน
ส่วนตาเฒ่าคนนั้น ลมหายใจขาดห้วง ใบหน้าแดงจัด ตะลึงจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
เขาไม่คาดคิดเลยจริงๆ ว่า นายแห่งอาชูร่าจะพูดแบบนี้…พูดจาไร้เหตุผลแบบนี้ก็เป็นด้วย!
ผู้เฒ่าสายหลักเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก “คุณ…คุณ…นายแห่งอาชูร่า…ผู้นำของอาชูร่าที่ยิ่งใหญ่อย่างคุณไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนถ่อยต่ำช้าแบบนี้…”
ซือเยี่ยหานตอบนิ่งๆ “ผู้เฒ่าเซวีย ไว้พบกันใหม่เถอะ ส่งแขก”
เป่ยโต่วผงะไปแวบหนึ่ง รีบขานรับ และให้ลูกน้องพาผู้เฒ่าออกไปส่ง
หลังจากกลุ่มคนจากสายหลักไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็โผเข้าไปหาที่รักของตัวเองทันทีเอ่ยชื่นชมด้วยสองตาเปล่งประกาย “ว้าว! ที่รัก ทำไมคุณเจ๋งขนาดนี้!”
เมื่อหญิงสาวโผเข้ามาหาแววตาของชายหนุ่มก็พลันอ่อนลงในทันใด จากนั้นก็ยื่นมือใหญ่ๆ ออกไป ลูบหัวหญิงสาวด้วยความเอ็นดู
เจียงหลีเฮิ่นไม่อยากจะเชื่อเลย โกรธจนตัวสั่นแล้ว จากนั้นก็ชี้นิ้วสั่นๆ ไปที่ซือเยี่ยหานแล้วร้องด่า “บัดซบ! เจ้าเก้า! นายเป็นอะไรน่ะ! นายถูกลักพาตัวแล้วยังจะมัวกะพริบตาอยู่อีก!”
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ พลางปรายตามองเขาอย่างเยือกเย็นแวบหนึ่ง
เจียงหลีเฮิ่นเอ่ยด้วยความโมโหชิงชัง “ใกล้ชาดเปื้อนแดงใกล้หมึกเปื้อนดำจริงๆ สิน่า! นายถูกผู้หญิงคนนี้ชักจูงจนกลายเป็นอะไรไปแล้ว! ฉันไม่คิดเลยจริงๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่านายจะหน้าไม่อายได้ขนาดนี้! ฉันมองนายผิดไปแล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นหอมแก้มซือเยี่ยหานทีหนึ่ง จากนั้นก็เหลือบมองเจียงหลีเฮิ่น “จุ๊ๆ ฉันก็โคตรจะนึกไม่ถึงเลยจริงๆ นะ เจียงหลีเฮิ่นว่าคุณจะไร้เดียงสาพอๆ กับตาเฒ่าคนนั้น!
คุณคิดว่าหลังจากที่รักของฉันอยู่กับฉันมานานขนาดนี้แล้ว จะยังมีสิ่งที่เรียกว่ายางอายอยู่อีกเหรอ ขอฉันฉอดคุณสักหน่อยได้ไหม คุณคิดอะไรอยู่กันแน่ ตอนแรกฉันคิดว่าคุณแค่หน้าตาขี้เหร่ไม่ได้เรื่องเท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าคุณจะด้อยสติปัญญาด้วย! เฮ้อ…”
เส้นเลือดบนหน้าผากเจียงหลีเฮิ่นเต้นตุบๆ ทันที และระเบิดอารมณ์ออกมา “เวรเอ้ย! เธอว่าใครขี้เหร่!”
เยี่ยหวันหวั่นคิดในใจ เธอพูดเหตุผลไปมากมายขนาดนั้น ความสนใจของคนๆ นี้กลับอยู่ตรงประโยคที่เธอบอกว่าเขาขี้เหร่แค่นั้นเหรอ
“ยัยเด็กสมควรตาย เธอมานี่เลยนะ เธอมาคุยกับฉันให้รู้เรื่อง! เธอว่าใครขี้เหร่! เธอมองหน้าฉันแล้วพูดอีกรอบสิ!” เวลานี้เจียงหลีเฮิ่นหลงลืมประเด็นที่จะโต้แย้งกับเธอว่าใครหน้าไม่อายไปหมดแล้ว ประเด็นเปลี่ยนไปอยู่ที่หน้าตาของเขาแล้ว
เพียงแต่ เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจเขาเลย ความสนใจทั้งหมดต่างก็ไปอยู่ที่ร่างซือเยี่ยหานแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยว่า “คุณเก้า ขอบคุณนะคะ…”
ต่อมาเธอถึงได้รู้ว่า ที่แท้การผ่านทางมารอบนั้นของเขามีความหมายแฝงอยู่มากมายขนาดนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา แผนการของเธอคงไม่ราบรื่นขนาดนี้แน่นอน
ตอนนี้เพื่อตัวเองแล้วเขาสละได้แม้กระทั่งยางอาย…
เมื่อได้รับคำขอบคุณจากหญิงสาว สองตาของซือเยี่ยหานก็หรี่ลงนิดๆ “จะให้โอกาสเธออีกครั้ง”
ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นด้วยเปี่ยมรอยยิ้ม จากนั้นก็พูดใหม่อย่างว่าง่าย “จุ๊บๆ รักคุณที่สุดเลย!”
—————————————————————————————
บทที่ 2212 สับขาหลอกไปทั่ว ปกปิดคนทั้งโลก
พอเห็นซือเยี่ยหานถูกเยี่ยหวันหวั่นผู้หญิงคนนี้ฉอเลาะจนหลงใหลได้ปลื้ม เจียงหลีเฮิ่นก็กัดฟันจนแทบร้าวแล้ว
“เวรเอ้ย! ในที่สุดฉันก็นึกออกแล้วว่าเธอเป็นใคร! เธอคือเด็กสาวที่อยู่ในเขตหวงห้างของอาชูร่าในปีนั้นใช่ไหม” เจียงหลีเฮิ่นพลันนึกถึงเรื่องปีนั้นขึ้นมาได้
เยี่ยหวันหวั่นมองฟ้าแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “หือ เขตหวงห้ามอาชูร่าเหรอ เขตหวงห้ามอะไรกัน”
เจียงหลีเฮิ่นถลึงตาใส่เธอ “เสแสร้งกับฉันให้มันน้อยๆ หน่อย ต่อให้เธอกลายเป็นเถ้าฉันก็จำเธอได้!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออกและยังกลอกตาใส่เขาทีหนึ่ง ปีนั้นก็แค่พูดไปประโยคเดียวว่า ‘คุณเก้าทำไมคุณมีเพื่อนขี้เหร่แบบนี้ด้วยล่ะ’ หมอนี่กลับจำมาจนถึงทุกวันนี้ พิลึกเอาเรื่องเลย
ความแค้นเก่าใหม่บวกรวมกัน เจียงหลีเฮิ่นก็พลันเห็นเยี่ยหวันหวั่นขัดหูขัดตายิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็ก้าวไปอยู่ข้างกายซือเยี่ยหาน แล้วเอ่ยกับซือเยี่ยหานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้าเก้า นายบอกว่าเด็กสาวที่หลงเข้าไปในเขตหวงห้ามเป็นคนดีไม่ใช่เหรอ นายบอกว่าเธอไร้เดียงสามากและวางเฉยต่อเรื่องทางโลกไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงกลายเป็นนางมารไปได้ล่ะ
แม่เด็กคนนี้! คือวายร้ายน้อยแห่งพันธมิตรอู๋เว่ย เดี๋ยวก็เป็นแบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ย เดี๋ยวก็กลายเป็นคุณหนูรองตระกูลเนี่ย เดี๋ยวก็เป็นครูฝึกปีศาจแห่งโรงเรียนชื่อเยียนด้วย! สับขาหลอกไปทั่ว ปกปิดคนทั้งโลก! ไว้ใจไม่ได้เด็ดขาดนะ! เจ้าเก้า นายเชื่อเธอขนาดนี้ได้ยังไง”
เยี่ยหวันหวั่นโมโหสุดๆ เวรเอ้ย สับขาหลอก ปกปิดคนทั้งโลกอะไรกันยะ!
เขาพูดแบบนี้งั้นเหรอ
เมื่อซือเยี่ยหานได้ยิน ก็ส่งสายตาตักเตือนเจียงหลีเฮิ่นที่พูดพล่อยๆ ไม่หยุด “หุบปาก”
เจียงหลีเฮิ่นเอ่ยต่อไปด้วยความไม่พอใจ “เจ้าเก้าอย่าได้หลงใหลในใบหน้าของผู้หญิงคนนี้เชียวนะ นายลืมเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้สวมเขาให้นายไปแล้วเหรอ
นายเชื่อกระดาษผุๆ แผ่นเดียวจริงๆ รึไง เชื่อผลพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกอะไรนั่นงั้นเหรอ คิดว่าเด็กที่ใกล้จะห้าขวบคนนั้นเป็นลูกของนายใช่ไหม ถ้าเกิดว่าเป็นของคนอื่นล่ะ ไม่เท่ากับนายช่วยเลี้ยงลูกให้คนอื่นเหรอไง”
“เจียงหลีเฮิ่น!!!”
เยี่ยหวันหวั่นถกแขนเสื้อ เตรียมจะเข้าไปอัดเจียงหลีเฮิ่นคนนี้ให้กระเด็น ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงอ้อแอ้สายหนึ่งแว่วมาจากทางประตู… “แม่ครับ!”
ถังถังลูกรัก!?
เวลานี้ ถังถังคล้ายจะเพิ่งตื่นนอน ยืนขยี้ตาอยู่ตรงประตูอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
เมื่อได้ยินเสียงของถังถัง ความโกรธเคืองบนใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็สลายหายไปในทันใด ยิ้มร่าดั่งบุปผาแล้วปราดเข้าไปอุ้มเจ้าตัวน้อย
“ลูกรักมาได้ยังไงจ๊ะ หิวแล้วเหรอ ขอโทษนะจ๊ะ แม่มีธุระติดพันน่ะ เดี๋ยวจะไปกินข้าวกับลูกทันที!” เยี่ยหวันหวั่นว่าพลางหอมแก้มเจ้าตัวน้อย
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็มองไปที่ซือเยี่ยหานแวบหนึ่ง แล้วส่งสายตาให้ถังถัง “ลูกรัก คุณพ่อมาแหน่ะ!”
เมื่อพ่อหนูน้อยได้ยิน ถึงได้หันไปมองซือเยี่ยหานที่อยู่ข้างๆ แล้วเอ่ยเรียกเสียงอ้อแอ้ “พ่อครับ”
ซือเยี่ยหานตอบรับสั้นๆ “อืม”
เยี่ยหวันหวั่นมองสองพ่อลูก พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ลูกรัก ไปสิจ๊ะ ให้พ่ออุ้มนะ”
พ่อหนูน้อยที่ยามปกติอยู่ต่อหน้าซือเยี่ยหานแล้วหยิ่งมาก แต่เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ก็พยักหน้าอย่างว่าง่ายทันที เดินเตาะแตะไปหยุดตรงหน้าซือเยี่ยหาน กางสองแขนสั้นๆ ป้อมๆ ออก “พ่ออุ้มอุ้ม”
ซือเยี่ยหานมองลูกชายที่พออยู่ต่อหน้าเยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งว่าง่ายน่าเอ็นดูและเชื่อฟัง ก็เงียบงันไป
หรือว่าวิธีการอยู่ร่วมกันของเขากับลูกชายจะมีปัญหา
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มก็ย่อตัวลง อุ้มพ่อหนูน้อยขึ้นมาอย่างอ่อนโยนนุ่มนวลสุดๆ
เวลานี้ เจียงหลีเฮิ่นและเซี่ยเชียนชวนที่อยู่ด้านข้างต่างก็อึ้งไปแล้ว…
เจียงหลีเฮิ่นและเซี่ยเชียนชวนจ้องตากันอยู่สองคน และตะลึงงันไปทั้งคู่
—————————————————————————————