บทที่ 1752.1 เพราะหน้าตาไม่ดี (1)

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

ในตำหนักนารีสวรรค์ เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ที่เดินเอ้อระเหยลอยชายอยู่ในสวนดอกไม้กำลังลูบท้องตัวเองด้วยสีหน้ารักใคร่เอ็นดู จวนหัวหน้าภาคแดนรัตติกาลต้องการธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์หนึ่งหมื่นคัน ฝ่าบาทก็อนุญาตแล้ว ส่งคนไปเบิกออกมาแล้ว เป็นครั้งแรกที่ฝ่าบาทตามใจนางทุกอย่างขนาดนี้ นางรู้ว่าตัวเองได้อาศัยบารมีลูกในท้องแน่นอน เจ้าตัวเล็กในท้องคือที่พึ่งของนางใน

 

“เหนียงเหนียง หนิวโหย่วเต๋อหัวหน้าภาคแดนรัตติกาลส่งข่าวมาแสดงความขอบคุณในความเมตตาของเหนียงเหนียงเพคะ” เอ๋อเหมยที่เดินอยู่ข้างนางถือระฆังดาราพร้อมกล่าวรายงาน

 

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่พยักหน้าขานรับยิ้มบางๆ ตัวเองมีแรงสนับสนุนใหญ่ขนาดนี้ หนิวโหย่วเต๋อรู้จักสำนึกบุญคุณก็ดีแล้ว เรื่องปราสาทดำเนินจันทร์ใช่ว่านางไม่อยากช่วย แต่นางไม่มีหนทางแล้วจริงๆ

 

ใครจะคิดว่ายังไม่ทันดีใจ เอ๋อเหมยก็บอกอีกว่า “หนิวโหย่วเต๋อรายงานขึ้นมาอีก ว่าคนในจวนหัวหน้าภาคไม่อาจอยู่รับค่าจ้างที่แดนรัตติกาลโดยไม่ทำงาน กอปรกับกำลังพลค่อนข้างน้อย จะต้องฝึกฝนทัพใหญ่และเพิ่มศักยภาพทัพใหญ่ เตรียมจะส่งทหารไปรักษาการณ์ที่น้ำพุวังเวงเพคะ”

 

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่พยักหน้า เผยรอยยิ้มพึงพอใจ “สมกับเป็นคนที่เชี่ยวชาญการศึก ขนาดยังไม่ทันสร้างจวนหัวหน้าภาค ก็เอ่ยถึงเรื่องฝึกฝนทัพใหญ่กับเพิ่มศักยภาพทัพใหญ่แล้ว ดูกำลังพลท้องถิ่นของคนอื่นสิ รู้จักแต่ตักตวงผลประโยชน์ในพื้นที่ ไม่แปลกใจที่หนิวโหย่วเต๋อประกาศว่าสามารถโจมตีคนบางพวกให้กลายเป็นสวะไร้ประโยชน์ได้ หนิวโหย่วเต๋อไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!”

 

ไม่ใช่แค่ไม่ทำให้นางผิดหวัง ทั้งยังทำให้นางดีใจมากด้วย นางก็แค่อยากควบคุมกำลังพลที่แข็งแกร่งสักกลุ่มเพื่อเรียกใช้งานได้ทุกเมื่อไม่ใช่หรือ

 

เมื่อได้ยินแบบนี้ เอ๋อเหมยก็อึกอักเหมือนอยากจะพูดบางอย่าง แต่ได้ยินเพียงเซี่ยโห้วเฉิงอวี่กล่าวอย่างสบายใจว่า “บอกเขาไป นี่คือเรื่องที่อยู่ในขอบเขตหน้าที่ของเขา ส่วนรายละเอียดว่าจะจัดวางกำลังพลยังไง ก็ให้เขาตัดสินใจเองตามเห็นสมควร ไม่ต้องรายงานข้าอีกแล้ว ข้าเชื่อว่าเขาจะทำได้ดี”

 

เอ๋อเหมยจำเป็นต้องเตือนนาง “ไม่ใช่แค่ส่งทหารไปรักษาการณ์ที่น้ำพุวังเวงเพคะ หนิวโหย่วเต๋ออยากจะเฝ้าเก็บภาษีทางเข้าทั้งน้ำพุวังเวง”

 

“เก็บภาษี?” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่หันกลับมาอย่างงุนงง “เฝ้าเก็บภาษีที่ทางเข้าน้ำพุวังเวง? เก็บภาษีอะไร?”

 

เอ๋อเหมยตอบว่า “หนิวโหย่วเต๋อบอกว่าการฝึกฝนทัพใหญ่กับเพิ่มศักยภาพทัพใหญ่จะเอาแต่พูดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องปฏิบัติจริงด้วย ยิ่งจำเป็นต้องมีทรัพยาการจำนวนมากสนับสนุน ดังนั้นเขาอยากจะส่งทหารไปเฝ้าทางเข้าน้ำพุวังเวง ไม่ว่าใครที่ไปล่าสัตว์ที่น้ำพุวังเวงก็ต้องจ่ายภาษีก่อน ไม่อย่างนั้นก็ห้ามเข้าเพคะ”

 

“…” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่สูดหายใจลึกด้วยความตกตะลึง ใต้หล้ามีนักพรตนับไม่ถ้วน แต่น้ำพุวังเวงกลับมีเพียงแห่งเดียว ในแต่ละปีมีคนเข้าไปล่าสัตว์ที่น้ำพุวังเวงไม่รู้ตั้งเท่าไร เป็นธุรกิจชั้นเลิศที่ทำให้ร่ำรวยจริงๆ นางขมวดคิ้ว “เขาไม่รู้เชียวเหรอว่าตำหนักสวรรค์เป็นผู้อนุญาตให้ล่าสัตว์ที่น้ำพุวังเวงได้อย่างอิสระ? มันใช่เรื่องเหรอที่เขาจะมาควบคุมทางเข้าออกแล้วเก็บภาษี?”

 

เอ๋อเหมยตอบว่า “หนิวโหย่วเต๋อบอกว่าเขาไม่ขัดขวางอิสระในการล่าสัตว์ แต่ไม่ว่าคนที่เข้าออกจะมีฐานะอะไร ขอเพียงจ่ายภาษีก็จะเข้าไปได้ ส่วนตอนออกมาอีกฝ่ายจะล่าได้อะไรมาบ้าง เขาก็จะไม่สนใจถามถึงแล้ว อีกทั้งหลังจากจ่ายภาษีแล้วจะได้รับการคุ้มครองจากจวนหัวหน้าภาคด้วย”

 

“คุ้มครอง?” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ขมวดคิ้ว “คุ้มครองอะไรกัน? สถานที่ที่คนเข้าออกมากมายขนาดนั้น เขาจะคุ้มครองหวเหรอ? ในน้ำพุวังเวงอันตรายขนาดไหน เขาอยู่ที่ตลาดผีมานานขนาดนี้จะไม่รู้เชียวหรือ? อย่าบอกนะว่าเขาอยากจะให้กำลังพลตัวเองไปตายข้างใน?”

 

เอ๋อเหมยตอบว่า “กำลังพลแค่เฝ้าเก็บภาษีตรงทางเข้า ไม่เข้าไปคุ้มครองในน้ำพุวังเวงเพคะ แค่คุ้มครองอยู่ข้างนอก เขาบอกว่าพอออกจากน้ำพุวังเวงแล้วเกิดเรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็กบ่อยเกินไป ถ้าทุกคนจ่ายภาษีสนับสนุนนิดหน่อย เขาก็จะส่งกำลังพลไปควบคุมด้านนอกน้ำพุวังเวง อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าด้านนอกน้ำพุวังเวงจะไม่เกิดเหตุการณ์ปลาใหญ่กินปลาเล็ก”

 

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่กล่าวเสียงต่ำ “คนที่สามารถไปล่าสัตว์ถึงน้ำพุวังเวงได้ล้วนเป็นพวกยอมแลกด้วยชีวิต ถ้าจะพูดให้ชัดก็คือในมือไม่มีทรัพย์สินอะไร ไม่อย่างนั้นใครจะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตเข้าไปล่าสัตว์ล่ะ คนอื่นเขาขายชีวิตแลกเงินเล็กน้อย แต่เขากลับจะเก็บภาษี คนในใต้หล้าจะยอมเหรอ?”

 

เอ๋อเหมยบอกอีกว่า “ในด้านนี้เขาก็บอกมาแล้วเช่นกัน เขาบอกว่าเพราะในน้ำพุวังเวงมีอันตรายที่คาดเดาไม่ได้เยอะ ถึงได้มีคนเจตนาไม่บริสุทธิ์มากมายเฝ้ารออยู่นอกน้ำพุวังเวง รอให้คนในน้ำพุวังเวงออกมาแล้วค่อยปล้น ในแต่ละปีมีคนที่ไม่ตายในน้ำพุวังเวงแต่กลับมาตายข้างนอกเยอะมาก ที่จริงสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ไปล่าสัตว์ สิ่งที่น่ากลัวว่านั้นไม่ใช่ในน้ำพุวังเวง แต่เป็นพวกปลาใหญ่กินปลาเล็กข้างนอกต่างหาก แต่ขอเพียงแค่ทุกคนจ่ายภาษีนิดหน่อย เขาก็จะส่งทัพใหญ่ไปล้อมปราบนอกน้ำพุวังเวงทันที แบบนี้คนที่เข้าไปล่าสัตว์ก็จะได้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยตรงทางเข้าออก อีกทั้งคนในจวนหัวหน้าภาคก็จะมีกำลังทรัพย์มารักษาศักยภาพของตัวเองเอาไว้ด้วย เขาบอกว่าเป็นเรื่องดีที่ต่างฝ่ายต่างได้ คงไม่มีคนต่อต้านมากเท่าไร อย่างน้อยพวกเราก็สามารถมองข้ามคนส่วนน้อยที่คัดค้านไปได้เลย นี่เป็นเรื่องดีสำหรับคนส่วนใหญ่ เหตุใดจึงไม่ยินดีทำ นอกจากนี้

 

หนิวโหย่วเต๋อก็บอกอีกว่า กำลังพลใต้สังกัดจวนหัวหน้าภาคมีแต่คนพลังสูงๆ แต่ยศต่ำจนน่าประหลาด ถ้าอาศัยค่าจ้างเล็กน้อยพวกนั้นฝึกตน ก็น้อยจนไม่พอยัดซอกฟันด้วยซ้ำ ตอนทุกคนยังไม่เข้ามาอยู่จวนหัวหน้าภาคแดนรัตติกาล ต่างคนต่างอยู่ในที่ที่ไม่มีใครควบคุม จึงสามารถออกไปแอบหารายได้เสริมเลี้ยงชีพได้ แต่ตอนนี้มาอยู่ภายใต้ความดูแลเดียวกันแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ทุกคนแยกย้ายกันไปเพ่นพ่านทำงานเสริมส่วนตัว แต่ก็ไม่สะดวกจะขอให้ตำหนักสวรรค์ออกเงินจ่ายค่าจ้างอีก ยศที่มีก็เห็นๆ กันอยู่ ไม่มีทางเปิดกระเด็นขอเรื่องนี้ได้เลย เพื่อไม่เป็นการเพิ่มปัญหายุ่งยากให้เบื้องบน จึงทำได้เพียงวางกลยุทธ์ชั้นต่ำนี้”

 

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ขมวดคิ้วมุ่น มีหรือที่นางจะไม่รู้ว่ากำลังพลจวนหัวหน้าภาคแดนรัตติกาลยศต่ำ ส่วนใหญ่มีวรยุทธ์ระดับบงกชรุ้งขึ้นไป แต่กลับได้ค่าจ้างของเทพแห่งภูผา เทพแห่งผืนดิน ถ้าวรยุทธ์ระดับบงกชขาว บางกชเขียวหรือบงกชแดงก็ยังพอถูไถไปได้ แต่ถ้าอยากเติมเต็มความต้องการในชีวิตประจำวันของกลุ่มกำลังพลระดับบงกชรุ้ง ก็ถือว่าไม่พอยัดซอกฟันจริงๆ เมื่อเวลานานไปก็อาจจะเกิดปัญหาจริงๆ

 

“ส่งกำลังพลไปควบคุมและเก็บภาษีตรงทางเข้าน้ำพุวังเวง จะไม่ทำให้คนในใต้หล้าพากันร้องทุกข์เหรอ?” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ถามความเห็นเอ๋อเหมย เพราะนางไม่รู้เรื่องทางน้ำพุวังเวงเลย ก่อนแต่งงานเข้าวังสวรรค์ก็เคยไปเที่ยวเล่นมาก่อน แต่นางก็รู้ว่าการไปโดยมีกลุ่มยอดฝีมือคุ้มครองนั้นต่างกับพวกที่ไปล่าสัตว์ นางเองก็กังวลชื่อเสียงของราชินีสวรรค์เช่นกัน

 

เอ๋อเหมยบอกอีกว่า “ที่หัวหน้าภาคหนิวบอกก็เป็นเรื่องจริงเพคะ ด้านนอกน้ำพุวังเวงเกิดเหตุการณ์ปลาใหญ่กินปลาเล็กไม่น้อยเลย ถ้าเขาสามารถรักษาความปลอดภัยข้างนอกได้ การเก็บภาษีก็ไม่ถือว่าทำเกินไป เกรงว่าคงจะมีคนหวังให้เรื่องนี้สำเร็จจริงๆ”

 

“ทางบ้านมีความเห็นยังไงบ้าง?” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ถาม

 

“ทางบ้านไม่แสดงความเห็นใดๆ เพคะ” เอ๋อเหมยตอบ

 

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่เข้าใจแล้ว เรื่องนี้ไม่กระทบต่อผลประโยชน์ของตระกูลเซี่ยโห้ว จึงไม่ได้สนใจอะไร ปล่อยให้นางตัดสินใจเอง แต่นางก็ยังมีอีกฝั่งหนึ่งต้องกังวล นั่นก็คือฝั่งประมุขชิง ถ้าระหว่างสองฝั่งนี้มีฝั่งใดฝั่งหนึ่งไม่พอใจ นางก็จะใช้ชีวิตลำบากแล้ว

 

พอนึกว่าจะต้องไปหาประมุขชิงอีก เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ก็ปวดหัวนิดหน่อย เพราะไปหาหลายครั้งติดต่อกันแล้ว นางจึงตอบอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้าไปบอกหนิวโหย่วเต๋อว่าให้รายงานทุกเรื่องมาพร้อมกันเลย รายงานมาทีละเรื่องแบบนี้ ไม่รู้จักจบจักสิ้นบ้างรึไง?”

 

เอ๋อเหมยใช้ระฆังดาราจัดการตามที่สั่งทันที หลังจากติดต่อจนได้รับการยืนยันจากเหมียวอี้แล้ว ก็รายงานอีกครั้งว่า “หนิวโหย่วเต๋อบอกว่าตอนนี้เรื่องที่อยู่ตรงหน้าก็มีแค่เรื่องนี้กับเรื่องเลือกสถานที่สร้างจวนหัวหน้าภาค ถ้าแก้ปัญหาสองเรื่องนี้เสร็จแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่มีเรื่องสำคัญอื่นใดเพคะ”

 

เรื่องสร้างจวนหัวหน้าภาค เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ไม่สามารถจัดการได้แล้ว เรื่องที่เกี่ยวข้องกับปราสาทดำเนินจันทร์ ประมุขชิงไม่ยอมรับปากง่ายๆ แต่เรื่องเก็บภาษีประมุขชิงกลับอนุญาตแล้ว แน่นอนว่าเซี่ยโห้วเฉิงอวี่สิ้นเปลืองคำพูดขอร้องไปไม่น้อย นางเองก็เข้าใจถึงความลำบากของกำลังพลที่วรยุทธ์สูงแต่ค่าจ้างต่ำ กังวลว่าถ้าปล่อยให้นานไป สถานการณ์แบบนี้จะทำให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้กำลังพลสักกลุ่มมาไว้ในมือ ไม่ว่าจะถูกตระกูลเซี่ยโห้วควบคุมหรือไม่ แต่นางก็ไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ

 

เพราะเรื่องนี้ นางจึงแข็งใจออกหน้าช่วยเหลือแล้วจริงๆ

 

ประมุขชิงตอบตกลงก็ส่วนตอบตกลง เพียงแต่เขาออกเสียงเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ ในเมื่อเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ดึงดันจะทำอย่างนี้ เช่นนั้นเจ้าก็ต้องจัดการเองโดยใช้นามของตำหนักนารีสวรรค์ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นก็ต้องรับผิดชอบเอง ขณะเดียวกันก็ยังพูดเหน็บแนมด้วยว่า “เจ้าลูกลิงใต้สังกัดเจ้านี่ใช้ได้จริงๆ เพิ่งจะรับตำแหน่งแท้ๆ เพิ่งจะขึ้นตำแหน่งก็จะหาทางรวยแล้ว เขาให้ผลประโยชน์เจ้าเท่าไรเจ้าถึงออกแรงช่วยเขาขนาดนี้?”

 

จวนท่านปู่สวรรค์ สวนต้องห้าม เว่ยซูเข้ามาแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นเซี่ยโห้วท่าเอามือไขว้หลังเดินเอ้อระเหยอยู่ในสวน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงรีบเดินเข้ามารายงานข่าว

 

“พันธมิตรทะเลดาว? หนิวโหย่วเต๋อเกี่ยวข้องกับพันธมิตรทะเลดาวแล้วเหรอ?” เซี่ยโห้วท่าหยุดเดินด้วยความงง “เขาคิดจะทำอะไร?”

 

เว่ยซูตอบว่า “คุณชายหกได้รับรายงานจากหัวหน้าพันธมิตรทะเลดาวฉู่อันเทียน บอกว่าสวีถังหรานลูกน้องของหนิวโหย่วเต๋อไปหาเขา อยากจะรวมกลุ่มทำงานกับฉู่อันเทียน คุณชายหกอยากจะถามความเห็นของนายท่านขอรับ ว่าควรจะตอบตกลงหรือไม่?”

 

“ร่วมงานกันยังไง?” เซี่ยโห้วท่าถาม

 

เว่ยซูตอบว่า “พันธมิตรทะเลดาวสนับสนุนเรื่องกำลังคน ส่วนสวีถังหรานจะใช้สถานะขุนนางคุ้มกันให้ คาดว่าคงจะสมคบกันทำเรื่องที่บอกใครไม่ได้”

 

เซี่ยโห้วท่าหัวเราะหึหึ “หนิวโหย่วเต๋อคนนี้โลภไม่เบา ฝั่งนี้จะดักเก็บภาษีตรงทางเข้าน้ำพุวังเวง ทางนั้นยังจะทำงานผิดกฎหมายอีก”

 

เว่ยซูตอบว่า “ก็พอจะเข้าใจได้ขอรับ ในมือมีนักพรตระดับบงกชรุ้งขึ้นไปหนึ่งแสน แถมยศต่ำอีก ถ้าคิดจะอาศัยค่าจ้างคงที่พวกนั้นเลี้ยงชีพก็น่าขำแล้ว ต้องเที่ยวหากอบโกยไปทั่วเพื่อเลี้ยงดูแน่นอนขอรับ”

 

เซี่ยโห้วท่าเอามือไขว้หลังเดินไปข้างหน้าต่อ หลังจากครุ่นคิดได้สักพัก ก็พยักหน้าบอกว่า “แจ้งไปทางคุณชายหก ว่าให้พันธมิตรทะเลดาวตอบตกลง ดูว่าหนิวโหย่วเต๋อจะเล่นลูกไม้อะไรกันแน่”

 

“ขอรับ!” เว่ยซูเอ่ยรับ

 

ส่วนเหมียวอี้หลังจากได้รับอนุญาตจากเบื้องบนแล้ว ก็เรียกรวมสมาชิกที่เกี่ยวข้องมาแจกงานเรื่องเก็บภาษีทันที ส่วนเรื่องสร้างจวนก็วางไว้ก่อนชั่วคราว รีบจัดการงานในมือให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปหาเรื่องปราสาทดำเนินจันทร์ ในเมื่อปราสาทดำเนินจันทร์ไม่ให้ความร่วมมือ เขาก็ขี้คร้านจะเกรงใจแล้ว ไม่สนหรอกว่าเบื้องหลังเจ้าจะซับซ้อนหรือไม่ ในเมื่อหาสถานที่เหมาะสมในแดนรัตติกาลไม่ได้ ถ้าไม่ให้ไปหาเจ้าแล้วจะให้ไปหาใคร?

 

หลังจากประกาศเรื่องเก็บภาษีตรงทางเข้าน้ำพุวังเวง คนทั้งจวนหัวหน้าภาคก็ฮึกเหิมกระปรี้กระเปร่า มีช่องทางหารายได้แล้ว

 

หลังจากเรียดกลุ่มลูกน้องมาปรึกษาจนร่างแผนแล้ว ก็ส่งคนไปติดประกาศทั้งตลาดผีทันที ประกาศว่าตั้งแต่นี้ไปน้ำพุวังเวงจะถูกควบคุมโดยจวนหัวหน้าภาคแดนรัตติกาลอย่างเป็นทางการ ทุกคนที่เข้าไปล่าสัตว์ต้องจ่ายค่าซื้อทาง ถ้าไม่จ่ายเงินก็ไม่ให้ผ่าน ออกกฎห้ามปล้นชิงนอกน้ำพุวังเวง ถ้าจับได้จะประหารไม่ละเว้น!

 

ทันที่ประกาศข่าวนี้ออกไป ก็เกิดเสียงฮือฮาใหญ่โตที่ตลาดผี ไม่นานก็คึกโครมทั้งใต้หล้า หนิวโหย่วเต๋อโด่งดังอีกแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่ชื่อเสียงที่ดีสักเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นคำด่า

 

เหมียวอี้ไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก จะให้เฝ้าอยู่ในทำเลทองมองดูคนอื่นมาร่ำรวยในอาณาเขตตัวเอง แต่กำลังพลของตัวเองกลับกินแกลบเหรอ แบบนี้มีอย่างที่ไหนกัน?

 

ถ้าไม่ติดว่าไม่อยากมีเรื่องกับตึกศาลาสัตยพรต เขาก็สามารถนำกำลังพลไปควบคุมประตูดวงดาวบริเวณทางเข้าแดนรัตติกาลได้เลย แม้แต่คนที่เข้ามาตลาดผีก็ยังต้องเก็บภาษีด้วยซำ

 

………………………………………