ตอนที่ 1056: โหยวเยว่ปรากฏตัว

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1056: โหยวเยว่ปรากฏตัว

เจี้ยนเฉินเผยท่าทีลังเลเล็กน้อยในขณะที่เขามองดูเซียนราชาทั้งหมดรีบวิ่งออกไป เขาไม่ได้ออกไปทันที และเขาก็มองไปรอบ ๆ แทน เขาพบว่าพื้นที่ทั้งหมดค่อนข้างว่างเปล่าและไม่มีคนอื่นที่อยู่ที่นี่เลยนอกเหนือจากคนที่ติดอยู่ในกับดัก

“นางฟ้าเฮายู่ที่เคารพ ข้าขอถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของคนอื่นที่เข้ามาในโถงศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินป้องมือไปที่วิญญาณของนางฟ้าเฮายู่ ในตอนนี้ คนที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือโหยวเยว่

สายตาของนางฟ้าเฮายู่หยุดอยู่ที่เจี้ยนเฉิน สายตาของนางก็ปรากฏความประหลาดใจที่คนอื่นไม่สามารถสังเกตเห็นได้ อย่างไรก็ตาม นางก็พูดเย็นชาเหมือนก่อนหน้านี้ “พวกเขาทั้งหมดออกไปแล้ว ! “

เจี้ยนเฉินโล่งใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วเขาก็ออกไปพร้อมกับเฮยยู่และหงเหลียน เจี้ยนเฉินยอมแพ้ความคิดที่จะยึดเอาโถงศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ที่รู้ว่านางฟ้าเฮายู่ยังมีชีวิตอยู่ นางเหลือแค่วิญญาณในตอนนี้ แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่กล้าที่จะประเมินค่านางต่ำ

เจี้ยนเฉิน เฮยยู่ และหงเหลียนออกไปพร้อมกับ คารา ลอท และคาซด้า เจียนฉง ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลผู้พิทักษ์ออกไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว

เมื่อทุกคนออกไป โถงศักดิ์สิทธิ์ก็สงบลงเหมือนก่อนหน้านี้ มีเพียงวิญญาณของนางฟ้าเฮายู่เท่านั้นที่ยังอยู่เหนือรูปปั้นในห้องที่สลัว ๆ

“ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าพวกเขาไปได้อาวุธและเกราะพลังงานดั้งเดิมมาจากที่ไหน แต่ถ้าข้าถามพวกเขาไปตอนนี้ พวกเขาก็ไม่น่าจะบอกข้า พวกเขาอาจจะหลอกข้าอีกด้วย เมื่อดูจากความสัมพันธ์ที่ดีของพวกเขากับเจี้ยนเฉิน ข้าจะได้ติดต่อกับพวกเขาค่อนข้างบ่อยในอนาคตแน่ ในตอนนั้น ข้าแค่ค่อยถามจากศิษย์รักของข้า โหยวเยว่ เกี่ยวกับพลังงานดั้งเดิม มันน่าจะง่ายกว่ามาก”

“ยังไงซะก็ผ่านไปหลายปีแล้ว ข้าไม่สนหรอกที่จะต้องรออีกสองสามวัน…”

“เจี้ยนเฉินนั้นฝึกฝนพลังบรรพกาลอยู่แน่ เขาเดินอยู่ในเส้นทางการฝึกฝนที่ต่างจากคนธรรมดา เขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานดั้งเดิมเพื่อที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาเลย ดังนั้นข้าหวังว่าเขาจะบรรลุถึงขอบเขตดั้งเดิมได้โดยเร็ว แบบนั้น ข้าก็จะสามารถกลับบ้านได้ผ่านทางเขา…”

“ข้าหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับโถงเทพจันทรานะ ท่านพ่อ ท่านต้องรอจนกระทั่งลูกกลับไปให้ได้นะและจากนั้นก็ทำลายแผนการของหนานป้อเทียน”

..

ด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโสสูงสุดจากตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบเริ่มลังเลว่าจะใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิหรือไม่ ประตูของโถงศักดิ์สิทธิ์เหวี่ยงเปิดออกในตอนนี้ และเซียนราชาที่ติดอยู่ในกับดักก็ออกมายืนที่ประตู พวกเขาทั้งหมดมองไปที่โลกด้านนอกอย่างตื่นเต้น เหมือนว่าพวกเขารอดตายจากหายนะมา

“พวกเขาออกมาแล้ว ! ” คนจากตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและคนจากตระกูลโบราณบางคนก็ตื่นเต้นด้วยเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดบินไปทางโถงศักดิ์สิทธิ์ และพาเซียนราชาที่สูญเสียพลังงานกลับมา

รุยจิน ซี่หวังและพยัคฆ์ปีกเทวะก็มาถึงตรงหน้าทางเข้าเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นว่าเฮยยู่ และหงเหลียนทั้งคู่สูญเสียพลังงานทั้งหมดไป ใบหน้าของรุยจินก็เปลี่ยนไปทันที “ข้าไม่คิดเลยว่าความแข็งแกร่งของพวกเจ้าจะลดลงขนาดนี้ ดูเหมือนอันตรายในโถงศักดิ์สิทธิ์จะเกิดกว่าที่ข้าคาดเอาไว้ พวกเจ้าทั้งสองน่าจะกลับเข้าไปในมิติของวัตถุเซียนเพื่อพักฟื้นก่อน”

หลังจากนั้น เฮยยู่และหงเหลียนทั้งคู่ก็เข้าไปในมิติของวัตถุเซียนเพื่อที่จะฟื้นฟูพลังงานที่ลดลงของพวกเขา

“น้องเจี้ยนเฉิน พลังงานของข้าก็ลดลงเช่นกัน ดังนั้นมันจึงไม่สะดวกที่ข้าจะกลับไป ข้าอยากจะรู้ว่าข้าสามารถอยู่ในมิติเซียนสักสองสามวันเพื่อฟื้นตัวได้ไหม” คารา ลอทพูดกับเจี้ยนเฉิน

“แน่นอน!” เจี้ยนเฉินตกลงอย่างไม่ลังเล เขารู้ค่อนข้างดีว่าตระกูลคารานั้นมีศัตรูมากมาย มันคงยากที่แม้แต่จะหนี ถ้าคารา ลอทเจอกับพวกนั้นในสถานการณ์แบบตอนนี้

คาซด้า เจียนฉงก็ขอเข้าไปในมิติวัตถุเซียนเพื่อที่จะฟื้นฟูกำลังของเขาด้วยหลังจากที่คารา ลอทถูกพาไป ในตอนท้าย เขาก็ถูกส่งเข้าไปในมิติวัตถุเซียนเช่นกัน

คาซด้า เจียนฉงเหมือนกับคารา ลอท พวกเขาทั้งคู่สูญเสียพลังงานไปและไม่กล้าที่จะรีบร้อนกลับไป

เจียงหยาง ซู หยวนเซียวเข้ามาช่วยผู้อาวุโสสูงสุดและมาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉิน เขาถามทุกข์สุขของเจี้ยนเฉินด้วยความห่วงใยก่อนที่จะรีบจากไปพร้อมกับผู้อาวุโสสูงสุด

เซียนผู้คุมกฎจากตระกูลโบราณทั้งหมดก็มาช่วยหัวหน้าตระกูลของตนเอง และจากไปจากโถงศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน บางส่วนกลับไปที่ตระกูลของพวกเขา ในขณะที่คนอื่นที่เหลือยังอยู่ พวกเขาต้องการที่จะเห็นว่าโถงศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นของใครในตอนท้าย

ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบบางส่วน นิกายยิหยวน ตระกูลเจียงหยาง และอารามจิตพิสุทธิ์ก็เลือกที่จะจากไป เหลือเพียงตระกูลผู้พิทักษ์อีก 7 ตระกูลที่ยังอยู่ ในขณะที่คนจากเมืองทหารรับจ้างก็ยังอยู่ต่อเช่นกัน หลายคนห่วงเรื่องโถงศักดิ์สิทธิ์มาก

เจี้ยนเฉินเลิกคิดเกี่ยวกับโถงศักดิ์สิทธิ์ เขาพูดกับรุยจิน “โหยวเยว่สบายดีหรือไม่ ผู้อาวุโสรุยจิน ? “

รุยจินส่ายหน้าพลางตอบว่า “โหยวเยว่ยังไม่ออกมาเลย”

“อะไรนะ? โหยวเยว่ยังไม่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินตกใจหลังจากได้ยินและเริ่มกังวล

คลื่นพลังงานที่ทรงพลังปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของพวกเขาในตอนนี้ เขาหันไปทันทีเพื่อมองไปเมื่เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เขาพบว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ได้หยุดดูดซับพลังแสงจันทร์และสั่นอย่างรวดเร็ว มันกลายเป็นขนาดเท่ากำปั้นในไม่เวลาไม่ถึงวินาที มันกลายเป็นโถงศักดิ์สิทธิ์ขนาดเล็กที่ประณีตมาก

เมื่อไม่มีโถงศักดิ์สิทธิ์บังอยู่ หญิงที่สวยงามในชุดสีม่วงก็ปรากฎขึ้นมาต่อหน้าทุกคน

“เยว่เอ๋อ ! ” เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความยินดีเมื่อเขาเห็นคนผู้นี้ เพราะว่านี่คือโหยวเยว่

โหยวเยว่ขยับมือและโถงศักดิ์สิทธิ์ก็ลอยอย่างเชื่อฟังเข้ามาในมือของนาง ร่างของนางทั้งร่างปกคลุมไปด้วยพลังแสงจันทร์มัว ๆ ทำให้นางต่อต้านสภาพแวดล้อมที่เฉพาะตัวของมิติด้านนอกได้

โหยวเยว่เห็นเจี้ยนเฉินและใบหน้าของนางก็ตื่นเต้น “เจี้ยนเฉิน เจ้ากลับมาได้อย่างปลอดภัยในที่สุด ไม่ได้ทำให้เจ้าผิดหวัง ข้าควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จและช่วยเจ้าออกมาจากมันได้”

เจี้ยนเฉินก้าวออกไปเพียงก้าวเดียวและไปปรากฏขึ้นที่ข้าง ๆ นาง เขาเคลื่อนไปหลายร้อยเมตร เขารู้สึกประหลาดใจอย่างพอใจในขณะที่เขาจ้องไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มที่อยู่ในมือของนาง เขาถามออกมาอย่างเหลือเชื่อ “เยว่เอ่อ เจ้าพูดว่าอะไรนะ ? เจ้าควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จแล้วงั้นหรือ ? “

เยว่เอ๋อรู้สึกยินดีทันทีเมื่อนางเห็นว่าเจี้ยนเฉินประหลาดใจเพียงใด นางพยักหน้า

“ถ้างั้นนางฟ้าเฮายู่…” เจี้ยนเฉินหยุด เขารู้สึกสับสนในใจ เห็นได้ชัว่านางฟ้าเฮายู่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นโถงศักดิ์สิทธิ์จะไปตกอยู่ในมือของคนอื่นได้อย่างไร

“เจี้ยนเฉิน นางฟ้าเฮายู่ได้รับข้าเป็นศิษย์ของนาง นางเป็นอาจารย์ของข้าแล้วในตอนนี้” โหยวเยว่พูอย่างค่อนข้างภูมิใจ นางยิ้มหวานในขณะที่นางมีความสุขมาก

เจี้ยนเฉินอึ้งหลังจากได้ยินแบบนั้น แต่เขาก็ยินดีด้วยเช่นกัน มันยากกว่าการที่ได้โถงศักดิ์สิทธิ์มาเสียอีกในการที่โหยวเยว่ได้เป็นศิษย์ของนางฟ้าเฮายู่

เซียนผู้คุมกฎและเซียนราชารอบ ๆ ได้ยินการสนทนาอย่างชัดเจน เมื่อพวกเขาได้รู้ว่าโหยวเยว่ได้โถงศักดิ์สิทธิ์ไปและยังได้กลายเป็นศิษย์ของนางฟ้าเฮายู่อีก เซียนผู้คุมกฎที่ต่อสู้แย่งคทาก็เสียดายอย่างมากและไม่ปรารถนาที่จะให้เป็นแบบนั้น

เซียนราชามองไปที่โหยวเยว่ด้วยความอิจฉา ผสมกับความโลภลึก ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใน อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดรู้ความสัมพันธ์ระหว่างโหยวเยว่กับเจี้ยนเฉิน ซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่กล้าที่จะทำตามความคิดของตัวเองต่อหน้าเจี้ยนเฉิน

ในอีกมุมหนึ่ง คนของตระกูลผู้พิทักษ์ก็ดูเหมือนจะสงบมาก โถงศักดิ์สิทธิ์อาจจะมีค่ามากสำหรับตระกูลโบราณ แต่พวกมันดูธรรมดามากสำหรับตระกูลผู้พิทักษ์ที่เก่าแก่ แม้ว่าจะไม่นับโถงศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาได้มาจากบรรพบุรุษ แค่ปริมาณที่พวกเขาได้มันมาจากที่อื่นก็มากมายแล้ว สิ่งที่เย้ายวนตระกูลผู้พิทักษ์มากจริงจริงคือวิธีการฝึกฝนของนางฟ้าเฮายู่

ความสามารถของโหยวเยว่ในการฝึกฝนก็เปลี่ยนไปอย่างมากภายใต้การเปลี่ยนแปลงจากแก่นแท้จากดวงจันทร์ด้วยเช่นกัน นางสามารถถูกเรียกว่าอัจฉริยะได้เลยในตอนนี้ ความแข็งแกร่งของนางผ่านระดับเซียน และเซียนปฐพี และเป็นเซียนสวรรค์แล้ว