ตอนที่ 1055: เจ้านายคนใหม่ของโถงศักดิ์สิทธิ์ (3)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1055: เจ้านายคนใหม่ของโถงศักดิ์สิทธิ์ (3)

บรรพชนตระกูลหวงกู่จากไป และประตูก็ปิดลงอย่างช้า ๆ มีเพียงหวงหลวนที่อยู่ในห้องมืดสลัวเท่านั้น

หวงหลวนไม่ได้แสดงท่าทางวิตกหรือกลัวแม้ว่านางจะถูกเชื่อมโยงด้วยตราประทับทาสโลหิต นางสลดมาก นางยินยอมที่จะตายมานานแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่สนใจเลยว่าชีวิตของนางจะไปตกอยู่ในมือของคนอื่น

หวงหลวนกลับไปที่กึ่งกลางห้องและนั่งลง นางมึนงงในขณะที่ความทรงจำก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง นางพึมพำ “เจี้ยนเฉิน ข้าอยากรู้ว่าเจ้าอยู่ที่ไหนกัน เจ้าเป็นอย่างไรในหลายปีที่ผ่านมานี้ ? เจ้าเคยคิดถึงข้าบ้างหรือไม่ ? “

“เจี้ยนเฉิน ทุก ๆ ขณะที่พวกเราอยู่ด้วยกัน เช่นเดียวกันกับเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเรานั้นได้ฝังลึกลงไปในหัวของข้า ข้าจะไม่มีวันลืมเจ้า ทั้งหมดที่จะโทษได้ก็คือโชคชะตาเท่านั้น ข้าไม่สามารถอยู่กับเจ้าได้ตลอดไป ในอนาคต พวกเราอาจจะไม่ได้พบกันเลยก็ได้…”

“ข้าไม่คิดว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกันตอนที่เราแยกจากกันไปเมื่อหลายปีที่แล้ว…”

หวงหลวนเศร้าโศกขึ้นมาทันที น้ำตาสองสายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ลงมาที่แก้มของนาง มันกระทบลงที่พื้นเย็น ๆ และกระเด็นหายไป

ความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้งเต็มไปทั่วทั้งห้อง น้ำตาที่ร่วงหล่นลงไปคือจิตใจที่แตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยของหวงหลวน

..

ในพริบตาเดียว ครึ่งเดือนก็ผ่านไป เซียนราชาทั้งหมดจากตระกูลผู้พิทักษ์และตระกูลโบราณ เช่นเดียวกันกับเซียนผู้คุมกฎ ยืนกันอยู่อย่างกระจัดกระจายกลางอากาศรอบ ๆ โถงศักดิ์สิทธิ์

ในระหว่างเวลาครึ่งเดือนนี้ ไม่มีใครจากไปไหนเลย พวกเขายังอยู่ที่เดิม ในขณะที่คนของตระกูลผู้พิทักษ์และเมืองทหารรับจ้างก็พยายามที่จะคิดหาทางที่จะช่วยคนที่ติดอยู่ด้านใน เซียนผู้คุมกฎที่ยังเหลืออยู่ที่นั่นดูเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นและก็รู้แล้วว่าโถงศักดิ์สิทธิ์จะเป็นของใครในท้ายที่สุด

ในระหว่างช่วงเวลานี้ คนจากตระกูลผู้พิทักษ์ใช้วิธีการนับไม่ถ้วนและความพยายามหลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ผล ความแข็งแรงของโถงศักดิ์สิทธิ์นั้นเทียบกันไม่ได้กับโถงศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา พวกเขาไม่สามารถเปิดโถงศักดิ์สิทธิ์ได้แม้พวกเขาจะพยายามอย่างหนัก พวกเขาไม่สามารถทำให้มันเป็นรอยได้เลยด้วยซ้ำ

“หลายวันก็ผ่านไปแล้วและพวกเขาก็ยังไม่ออกมา ไม่มีข่าวเกี่ยวกับโหยวเยว่เช่นกัน ข้าสงสัยว่าสถานการณ์ด้านในเป็นอย่างไร ถ้าสถานณ์การยังเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะเป็นอันตรายกับคนที่ติดอยู่ด้านใน” ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายเฉินเซียวคำรามออกมา เขาเคร่งเครียดมาก

“พวกเราร้องเรียกมาหลายวันและยังแม้แต่โจมตีไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์อีก แต่โถงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีการตอบสนองเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดที่มันทำคือลอยอยู่และดูดซับพลังแสงจันทร์ ข้าคิดถึงการตายของนางฟ้าเฮายู่ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป คนด้านในต้องเผชิญกับอันตรายถึงตายแน่ นี่เป็นเหตุผลที่ข้าคงต้องพูดว่า ทำไมพวกเรา ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบถึงไม่ใช้สมบัติของพวกเรา ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ และทำลายทางเข้าของโถงศักดิ์สิทธิ์ไปภายในการโจมตีครั้งเดียว ? ” ชายวัยกลางคนร่างกำยำในชุดดำพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหยางจิ

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดของตระกูลผู้พิทักษ์มีท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับการใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ พวกเขาลังเล ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของตระกูลผู้พิทักษ์ไม่ใช่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเก่าแก่ทั่วไป พวกมันเป็นอาวุธที่สร้างและเสริมความแข็งแกร่งจากการหลอมรวมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิหลายสิบอันหรืออาจจะเป็นร้อยผ่านทักษะลับมายาวนานหลายปี มันรวมพลังของพวกเขาไว้ทั้งหมด ดังนั้นมันจึงมีความยิ่งใหญ่มาก การใช้มันจะส่งผลย้อนกลับอย่างรุนแรงกับพวกเขาทั้งหมด และพวกเขาทั้งหมดจะได้รับบาดเจ็บ

เซียนระดับราชาที่ติดอยู่ในมิติกับดักของโถงศักดิ์สิทธิ์ทุกคนได้สูญฮเสียพลังงานไปทั้งหมดและทรุดลงกับพื้นรวมถึงเฮยยู่และหงเหลียนด้วย มีเพียงเจี้ยนเฉินเท่านั้นที่ยังสบายดี พวกเขาดูซีดเซียวและความสิ้นหวังก็เต็มอยู่ในจิตใจของพวกเขา พวกเขาสูญเสียความหวังทั้งหมด เหมือนว่าพวกเขาได้เตรียมใจแล้วว่าต้องติดอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต

ในตอนนี้เอง มิติกับดักก็เริ่มบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ทิวทัศน์รอบ ๆ เริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและบิดเบี้ยว และกลายเป็นภาพมัว

การเปลี่ยนแปลงของมิติกับดักทำให้เซียนราชาที่ไร้พลังรู้ตัว พวกเขาทั้งหมดตะเกียกตะกายขึ้นมานั่ง และจ้องไปที่มิติด้วยความสงสัยและตกใจ

“เกิดอะไรขึ้น ? กับดักกำลังเปลี่ยนไปแล้วกลายเป็นกับดักสังหารเพื่อที่จะสังหารพวกเราทั้งหมดอย่างที่นี่อย่างนั้นหรือ ? ” เซียนราชาถามออกมาอย่างอ่อนแอ ท่าทีของเขาย่ำแย่มาก

ใบหน้าของทุกคนหมองหม่นลงทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น ท่าทีของพวกเขาย่ำแย่ แต่พวกเขาทั้งหมดก็ยังคงจ้องเขม็งไปที่ทิวทัศน์ที่กำลังเปลี่ยนไป

ในไม่ช้า พื้นที่ที่ถูกเสกขึ้นมาจากอาคมก็ได้หายไป มันค่อนข้างมืดสำหรับทุกคนและเมื่อพวกเขาสามารถเห็นรอบ ๆ อีกครั้ง พวกเขาก็พบว่ามันได้กลับกลายเป็นโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ที่มีรูปปั้นของนางฟ้าเฮายู่อยู่ใกล้ ๆ

“กับดักหายไปแล้ว กับดักหายไปแล้ว พวกเรากลับมาอยู่ที่ที่พวกเราอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว…”

“กับดักต้องหมดพลังงานแล้วหายไปแน่ พวกเราเป็นอิสระแล้วในที่สุด พวกเราหลุดมาจากมิติของกับดักบ้านั่นได้แล้ว…”

ทุกคนตื้นตันมากเมื่อพวกเขาพบว่าพวกเขาได้เป็นอิสระ พวกเขาทั้งหมดร้องออกมาอย่างยินดีอย่างควบคุมไม่ได้ เซียนราชาที่ยอมรับในชะตากรรมก็ยิ่งตื้นตัน และพูดไม่ออก

“ข้าจะให้เวลาพวกเจ้า 5 ลมหายใจ ออกไปจากโถงเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะไม่สามารถออกไปได้อีกเลย” ในตอนนี้ เสียงเย็นชาของผู้หญิงดังออกมา ภาพลวงตาของนางฟ้าเฮายู่เกิดขึ้นมาในตอนนี้และลอยอยู่เหนือรูปปั้นที่กลางห้อง เสื้อขาวของนางเหมือนหิมะ และนางดูเหมือนมาจากอีกโลก นางเหมือนเทพเจ้า

“นั่นคือนางฟ้าเฮายู่ ! ” เซียนราชาทั้งหมดร้องออกมาเมื่อพวกเขาเห็นนาง พวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

“ไม่ นางคือวิญญาณ นั่นคือวิญญาณของนางฟ้าเฮายู่ วิญญาณของนางยังมีอยู่จริง ๆ…” เซียนราชามีสัมผัสที่ดี ดีกว่าเซียนผู้คุมกฎมาก พวกเขาสามารถบอกได้เลยว่ามันเป็นวิญญาณของนางฟ้าเฮายู่จากการมองเพียงแค่ปราดเดียว แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแบบนั้น แต่มันก็ยังทำให้พวกเขาตกใจอยู่ดี

เซียนจักรพรรดิมีอายุขัยถึงหมื่นปี เมื่ออายุขัยหมดลงแล้ว ร่างของพวกเขาก็จะเริ่มสลายไปและวิญญาณก็จะกระจายหายไป มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะอยู่ได้นานกว่าหมื่นปี แต่นางฟ้าเฮายู่เป็นคนที่มีชีวิตอยู่มาหลายหมื่นปีแล้วและวิญญาณของนางก็ยังคงอยู่ ไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย

“2 ลมหายใจผ่านไปแล้ว พวกเจ้าเหลืออีก 3 ลมหายใจ” นางฟ้าเฮายู่พูดในขณะที่นางจ้องอย่างเย็นชาไปที่เซียนราชา

ทุกคนไม่สนใจเรื่องนั้นอีกต่อไป พวกเขาไม่สงสัยความสามารถในการที่นางจะขังพวกเขาไว้ตลอดไปได้อีกแล้ว เพราะว่ากับดักก่อนหน้านี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดี พวกเขาพุ่งออกไปเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ แต่พวกเขาก็ได้สูญเสียพลังงานทั้งหมดของพวกเขาไป พวกเขาไม่สามารถบินได้ พวกเขาจึงวิ่งเหมือนคนธรรมดาทั่วไป