ในระหว่างที่ลูก ๆ ทุกคนออกไปตามหาเหล่าผู้สำเร็จเต๋า หลิงตู้ฉิงรั้งอยู่ที่คฤหาสน์สราญรมย์คอยดูบรรดาภรรยาของเขาบ่มเพาะอย่างใกล้ชิด

ด้วยการช่วยเหลือของเจ้าปีศาจแห่งกาลเวลา เมื่อผ่านไป 100 ปี มี่ไลก็เป็นคนแรกในบรรดาภรรยาของหลิงตู้ฉิงที่สำเร็จเต๋า

เมื่อทะลวงระดับกลายเป็นเป็นผู้สำเร็จเต๋าได้อย่างสมบูรณ์ มี่ไลอาสาทำหน้าที่ในการเร่งเวลาให้กับคฤหาสน์สราญรมย์ด้วยตัวเอง เพราะนางมั่นใจว่านางมีอำนาจในการควบคุมเวลาเหนือกว่าเจ้าปีศาจแห่งกาลเวลาแน่นอน

ก่อนหน้านี้ที่เวลาในคฤหาสน์สราญรมย์ต่างกับด้านนอก 10 เท่า เมื่อมี่ไลเข้ามาทำหน้าที่แทนเจ้าปีศาจแห่งกาลเวลา เวลาในคฤหาสน์สราญรมย์แปรเปลี่ยนเป็นต่างกับภายนอก 100 เท่าทันที

อันที่จริงการแทรกแซงกฎแห่งเวลามากขนาดนี้มันถือว่าเกินขอบเขตที่สวรรค์กำหนดไปเรียบร้อย แต่สิ่งที่น่าแปลกประหลาดก็คือกฎของโลกและสวรรค์กลับไม่มีท่าทีจะขัดขวางนางเลย

ด้วยการเร่งเวลาของมี่ไล แค่เวลาผ่านไปอีก 50 ปีของโลกภายนอกหรือเท่ากับ 5,000 ปีเมื่ออยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ บรรดาภรรยาคนอื่น ๆ ของหลิงตู้ฉิงก็กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋า

จ้าวเหมิงลู่สำเร็จเต๋าแห่งกระบี่ เหลียงเฟ่ยเอ๋อสำเร็จเต๋าแห่งการอำนวยพร เย่ชิงเฉิงสำเร็จเต๋าแห่งดวงจันทร์ หลิวเฟ่ยเฟ่ยสำเร็จเต๋าหยินทมิฬ อันที่จริงในตอนแรกหลิงตู้ฉิงวางแผนไว้ว่าจะให้หลิวเฟ่ยเฟ่ยเดินทางไปที่ตำหนักเทพเหมันต์เพื่อใช้เต๋าน้ำแข็งเร้นลับของที่นั่นในการสำเร็จเต๋า แต่เมื่อเขาลองไตร่ตรองดูอีกทีเขาจึงตัดสินใจว่าเต๋ายินทมิฬนั้นเหมาะกับหลิวเฟ่ยเฟ่ยมากที่สุดแล้ว

ไม่เพียงแต่ลูก ๆ และภรรยาของเขาเท่านั้นที่กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋า แม้แต่หมิงจู้ ภรรยาของหลิงยู่ชานก็กลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าเช่นกัน ส่วนหลิงเจิ้นฮุยในยุคนี้เขาทุ่มเทให้กับการอ่านหนังสือของถังชี่หยุนเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเขาจึงบ่มเพาะไม่ทันเป็นผู้สำเร็จเต๋าในยุคนี้ได้ แต่ผลลัพธ์จากการที่เขาอ่านหนังสือของถังชี่หยุนอยู่หลายพันปี ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้จึงนับได้ว่าไม่เป็นรองใครในโลกเบื้องล่างหากไม่นับคนอื่น ๆ ในครอบครัวของเขา

ในเวลา 150 ปีที่ผ่านมา บรรดาลูก ๆ ของหลิงยี่เทียนที่เกิดกับเหล่าสนมของเขาก็แบ่งดินแดนจำนวนมากที่อยู่ใต้อาณัติของอาณาจักรจันทราออกเป็นหลายส่วนเท่า ๆ กันเพื่อที่พวกเขาจะได้แยกกันดูแลได้อย่างทั่วถึง

ส่วนอาณาเขตนภา บรรดาลูก ๆ ของหลิงยี่เทียนและเหล่าสนมต่างปล่อยให้มันคงอยู่แบบเดิมไม่ไปแบ่งแยกอะไร พวกเขาตกลงกันว่าเมื่อไหร่ที่หลิงตู้ฉิง และคนอื่น ๆ ขึ้นไปบนโลกเบื้องบน พวกเขาทุกคนจะร่วมกันดูแลที่นี่โดยที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันในดินแดนแห่งนี้

อีก 50 ปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หลิงยู่ชานเป็นคนแรกที่กลับมาก่อน และรีบมาหาหลิงตู้ฉิงทันที “ท่านพ่อข้ากลับมาแล้ว! แต่ข้าไร้ความสามารถ ข้าหาผู้สำเร็จเต๋าเจอแค่คนเดียวเท่านั้นเอง!”

เมื่อพูดจบ หลิงยู่ชานควักเอาลูกแก้วขนาดเท่ากำปั้นอันหนึ่งออกมา ซึ่งถ้าหากใครมองเข้าไปด้านในลูกแก้ว คนผู้นั้นจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้หลุดเข้าไปอยู่ในมิติอันอ้างว้าง

ดวงตาของหลิงตู้ฉิงเปล่งประกายทันทีเมื่อเห็นลูกแก้วอันนี้ “ถึงแม้ว่าเจ้าจะเจอแค่คนเดียว แต่สิ่งที่เจ้าได้มามันคือแก่นแท้พลังแห่งมิติ! ด้วยแก่นแท้พลังแห่งมิติอันนี้มันจะทำให้อาณาเขตสวรรค์ของพ่อพัฒนาขึ้นไปอย่างมาก ยู่ชาน เจ้าทำได้ดีมากจริง ๆ!”

“ถ้างั้นก็เยี่ยมเลยท่านพ่อ!” หลิงยู่ชานหัวเราะ

เมื่อรับแก่นแท้พลังแห่งมิติมา หลิงตู้ฉิงหลอมรวมมันเข้ากับอาณาเขตสวรรค์ของเขาทันที ซึ่งมันทำให้อาณาเขตสวรรค์ของหลิงตู้ฉิงเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด

จากนั้นแค่เพียงชั่วครู่เดียวรอยแยกมิติก็ปรากฏขึ้นที่กลางคฤหาสน์สราญรมย์ และผู้ที่เดินออกมาจากรอยแยกมิติก็คือ หลิงฟ่างหัว

เมื่อหลิงฟ่างหัวเห็นว่าหลิงตู้ฉิงและหลิงยู่ชานกำลังคุยกันอยู่ นางรีบวิ่งเข้ามาหาทันที “ข้านึกว่าข้าจะเป็นคนแรกที่กลับมาซะอีก ที่ไหนได้กลับเป็นพี่ใหญ่ที่เร็วกว่าข้า! ท่านพ่อ ข้าได้แก่นแท้พลังมา 2 อัน อันแรกเป็นแก่นแท้พลังแห่งเงา อันที่สองเป็นแก่นแท้พลังธาตุดิน แต่ไอ้ผู้สำเร็จเต๋าสองคนนั่นมันดื้อรั้นไม่ยอมมอบให้ข้าดี ๆ แถมพวกมันยังพยายามจะฆ่าข้าอีกต่างหาก ดังนั้นข้าจึงฆ่าพวกมันตายไปทั้งหมด”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “อืม ในเมื่อพวกเขาพยายามฆ่าเจ้า ดังนั้นการที่เจ้าฆ่าพวกเขามันก็ไม่ใช่เรื่องผิด”

จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ทำการหลอมรวมแก่นแท้พลังแห่งเงาและแก่นแท้พลังธาตุดินเข้ากับอาณาเขตสวรรค์ของเขาตามลำดับ

ต่อมาไม่นานลูก ๆ ของเขาก็เริ่มทยอยกันกลับมา ซึ่งแต่ละคนก็มีแก่นแท้พลังแบบต่าง ๆ ติดไม้ติดมือมากันทุกคน บางคนก็ได้มา 1 อันส่วนคนที่ได้มาสูงสุดก็คือ 4 อัน

คนที่ได้มามากที่สุดก็คือ หลิงยี่เทียน เนื่องจากเขาใช้วิธีการขอให้ทำเนียบราชันมนุษย์ออกหาข่าวว่าใครสำเร็จเต๋าบ้างและเมื่อเขาได้รับข้อมูลมา เขาก็รีบออกไปหาผู้สำเร็จเต๋าเหล่านั้นทันที และขอรางวัลจากสวรรค์มาโดยใช้วิธีการแบบทั้งไม้แข็งและไม้อ่อนตามท่าทีของฝั่งตรงข้าม

อันที่จริงความยากของการช่วยพ่อของพวกเขามีเพียงแค่อย่างเดียวก็คือพวกเขาต้องตามหาเหล่าผู้สำเร็จเต๋าให้เจอ ซึ่งโลกนี้มันไม่ใช่เล็ก ๆ และผู้สำเร็จเต๋าบางคนก็เก็บตัวเงียบไม่ยอมปรากฏกายออกมากลัวว่ารางวัลจากสวรรค์ที่ตัวเองได้รับมาจะโดนชิงไป

ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา ตราบใดที่พวกเขาหาตัวผู้สำเร็จเต๋าคนอื่น ๆ เจอมันจะหมายความว่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พวกเขาจะได้สิ่งที่พวกเขาต้องการจากผู้สำเร็จเต๋าเหล่านั้นแน่นอน

เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากบรรดาลูก ๆ หลิงตู้ฉิงจึงกลายเป็นผู้ที่มีรางวัลจากสวรรค์มากที่สุดในยุคนี้ และด้วยการหลอมรวมแก่นแท้พลังต่าง ๆ เข้าไปเป็นจำนวนมาก อาณาเขตสวรรค์ของหลิงตู้ฉิงจึงพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด

ในตอนแรกอาณาเขตสวรรค์ของหลิงตู้ฉิงปกคลุมได้ถึงแค่ระยะ 2,000 ลี้รอบกายเท่านั้น แต่ตอนนี้อาณาเขตสวรรค์ของเขาครอบคลุมไปถึง 8,000 ลี้!

หลิงตู้ฉิงมองไปที่ลูก ๆ ของเขาพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เอาล่ะ ตอนนี้มันได้เวลาที่พวกเจ้าจะต้องขึ้นไปโลกเบื้องบนแล้ว จงรีบไปร่ำลาคนอื่น ๆ เถอะ!”

หลิงยู่ชานและหมิงจู้เดินไปหาหลิงเจิ้นฮุยทันที และบอกให้ลูกชายของพวกเขาตั้งใจบ่มเพาะเพื่อที่ยุคหน้าพวกเขาจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันเหมือนเดิมที่โลกเบื้องบน จากนั้นหมิงจู้เดินไปหาพี่ชายของนาง หมิงซิ่ว เพื่อบอกให้เขาตั้งใจบ่มเพาะเช่นกันเพื่อที่ยุคหน้าพวกเขาจะได้เจอกันอีกที่โลกเบื้องบน

หลิงยี่เทียนแยกตัวไปร่ำลาบรรดาสนมและลูก ๆ ของเขาเช่นกัน จากนั้นเขาก็ย้ำเตือนสนมและลูก ๆ ของเขาให้ตั้งใจบ่มเพาะเพื่อที่ในอนาคตจะได้เจอกันอีกบนโลกเบื้องบน

ส่วนคนอื่น ๆ ที่ยังไม่มีครอบครัว พวกเขาใช้เวลาร่ำลากับคนรู้จักของพวกเขาน้อยมากโดยเฉพาะหลิงฟ่างหัวที่ไม่ได้ไปร่ำลาใครเลย นางเดินเข้ามาหาหลิงตู้ฉิงและพูดขึ้นด้วยสีหน้าสบาย ๆ “ท่านพ่อไม่ต้องกังวล เมื่อขึ้นไปแล้วข้าจะดูแลแม่ ๆ ให้เป็นอย่างดี”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและส่ายหัว “แม่ ๆ ของเจ้ายังไม่ขึ้นไปกับพวกเจ้าตอนนี้ พ่อจะเป็นคนพาพวกนางขึ้นไปพร้อมกับพ่อเอง”

เขาไม่กล้าให้บรรดาภรรยาของเขาขึ้นไปพร้อมกับลูก ๆ ของเขาที่ยังไม่ประสีประสาแน่นอน และถึงแม้โลกเบื้องบนจะมีต้วนฉิง แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพคนเดียวมันก็ไม่พอที่จะปกป้องภรรยาของเขาได้ทั้งหมดแน่

ต้องรู้ว่าร่างกายภรรยาของเขาแต่ละคนนั้นพิเศษไม่เหมือนใคร หรือถ้าไม่คิดถึงเรื่องความพิเศษของร่างกายเอาแค่ประเด็นที่พวกนางเป็นภรรยาของเขามันก็ทำให้โลกเบื้องบนคลุ้มคลั่งได้แล้ว ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือเขาจะต้องเป็นคนพาพวกนางขึ้นไปเอง

“เมื่อขึ้นไปโลกเบื้องบนแล้วพวกเจ้าจงตั้งใจบ่มเพาะให้มากกว่าเดิม เพราะในอนาคตพ่อยังมีเรื่องให้พวกเจ้าช่วยเหลือเพิ่มอีก” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นเตือนพวกเขาครั้งสุดท้าย

“ท่านพ่อไม่ต้องกังวล ข้าจะตั้งใจบ่มเพาะและเมื่อถึงเวลาไม่ว่าท่านพ่อจะให้ข้าช่วยอะไรข้ายินดีทำให้ท่านทั้งหมด!” หลิงว่านถิงหัวเราะ

หลังจากนั้นลูกทั้ง 7 คนรวมไปถึงหมิงจู้และซวนหยวนก็พากันบินขึ้นไปสู้โลกเบื้องบนพร้อมกัน