เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1564
……
วันต่อมาที่เจดีย์ยาเมฆขาว
“เมื่อวานเอาสูตรยาผิดให้ทุกคนกลั่นยาชั้นต้น ผลปรากฏว่าทำให้เราผิดหวังมาก ผ่านไปตั้งหลายปี ผู้ฝึกชี่ของประเทศตันเซิ่งยังเอาแต่กลั่นยาตามสูตรเป๊ะๆ!”
ผู้อาวุโสเคราขาวลูบเคราตัวเองแล้วพูดเสียงดัง
น้ำลายสาดกระจาย สีหน้าโอ้อวด ส่ายหัวไปมา นึกออกเลยว่าตอนเขาเป็นหนุ่มจะน่ารำคาญขนาดไหน
“วันนี้ไม่กลั่นยาชั้นต้นแล้ว เปลี่ยนมากลั่นยาชั้นสูง ก่อนหน้านี้มีคนเจอสูตรยาโบราณจากในซากวัตถุโบราณ บันทึกเกี่ยวกับยาที่สามารถเปลี่ยนคนให้เป็นอะไรก็ได้ในเวลาอันสั้น ชื่อยาคือสวรรค์บันดาลในบัดดล ระดับขั้นของยาน่าจะเป็นยาเซียนระดับหนึ่ง นี่คือสูตรยา พวกนายลองอ่านดู!”
ผู้อาวุโสเคราขาวสะบัดมือโยนสูตรยาออกไปให้ทั้งเจ็ดคนดู
ส่งต่อกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายมาอยู่ในมือลู่ฝาน
เมื่อเห็นสูตรยานี้ ลู่ฝานรู้สึกไร้สาระและตลก
เขาไม่เคยเห็นสูตรยาแบบนี้มาก่อน!
โดยทั่วไปสิ่งจำเป็นสำหรับการกลั่นยาคือสมุนไพร ไม่มีอย่างอื่น
ถ้าเพิ่มของอย่างอื่นก็ไม่ใช่การกลั่นยาแล้ว!
แต่สูตรยานี้ไม่มีสมุนไพรเลยสักอย่าง
ก้อนหิน ต้นไม้ หญ้า แมลง น้ำ ไฟ สัตว์ นก!
ไม่มีของสำหรับกลั่นยาเลยสักอย่าง แต่ของที่ไม่ควรมีกลับมีอยู่บนกระดาษใบนี้ทุกอย่าง
ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนของแต่ละอย่างที่ต้องใช้ วิธีกลั่น กลั่นจนถึงระดับไหนถึงจะเรียกว่าเสร็จ ไม่มีเขียนไว้สักอย่าง มีแต่รูปยันต์บ้าบอที่เข้าใจยากอยู่บนกระดาษ
นี่เรียกว่าสูตรยาเหรอ
ลู่ฝานขมวดคิ้ว ถ้าอริยปราชญ์ด้านยาที่ยืนอยู่ข้างหน้าไม่ใช่คนให้เขา ลู่ฝานคงโยนทิ้งเหมือนขยะไปแล้ว
สีหน้าของคนอื่นก็ไม่ต่างกันเท่าไร เห็นได้ชัดว่าลำบากใจกับสูตรยานี้
ผู้อาวุโสเคราขาวพูดว่า “พวกนายมีเวลาหนึ่งวัน คนที่กลั่นสำเร็จจะผ่านทันที คนที่กลั่นไม่สำเร็จจะไม่ผ่าน ถ้ากลั่นไม่สำเร็จแม้แต่คนเดียว จะเทียบผลกัน ใครใกล้เคียงสุดจะชนะ ของที่ต้องใช้ทั้งหมดอยู่ในจวนอากาศธาตุหมดแล้ว”
สุ่ยโม่หรานตะโกนว่า “ครั้งนี้สูตรยาคงไม่ใช่ของปลอมอีกใช่ไหม อริยปราชญ์ด้านยาเอาแต่ใช้วิธีนี้ มันน่าเบื่อเกินไปหน่อยหรือเปล่า!”
ผู้อาวุโสเคราขาวยิ้มแล้วพูดว่า “พวกนายอาจคิดว่ามันเป็นของปลอม ฉันเข้าใจความคิดพวกนายได้ แต่นี่คือสูตรยาโบราณจริงๆ สิ่งเดียวที่ฉันบอกพวกนายได้คือการกลั่นยาชนิดนี้ ไม่ได้ต้องการแค่ความเข้าใจยา ต้องเข้าใจฟ้าดินด้วย ฉันไม่รู้ว่าผู้อาวุโสของพวกนายเคยพูดประโยคนี้กับพวกนายหรือเปล่า การกลั่นยาก็คือการกลั่นฟ้าดิน! โอเค พวกนายเริ่มได้แล้ว”
มู่จึฉี จินอีหมิง และถู่ห่วงเดินเข้าไปในจวนอากาศธาตุอย่างรวดเร็ว
สุ่ยโม่หรานกับสุ่ยหมิงคงครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นทั้งสองแยกย้ายเข้าไปในจวนอากาศธาตุ
ด้านนอกเหลือแค่ลู่ฝานกับหั่วหลงชิ่ง
หั่วหลงชิ่งมองซ้ายมองขวาแล้วเดินออกไป ตัวหายเข้าไปในจวนอากาศธาตุ
ลู่ฝานยืนอยู่ด้านนอกคนเดียวอีกแล้ว เขายืนนิ่งเพ่งมองสูตรยาในมือ
ผู้อาวุโสตระกูลอื่นพากันมองลู่ฝาน
ผู้อาวุโสตระกูลมู่พูดเบาๆ ว่า “ลู่ฝานยืนอึ้งอยู่ทำไม อย่าบอกนะว่าเจอข้อบกพร่องเหมือนเมื่อวานอีก เขาเจอเรื่องดีเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ”
ผู้อาวุโสตระกูลถู่ที่อยู่ข้างๆ พูดว่า “ผู้อาวุโสมู่ พวกนายเคยสืบที่มาของเด็กคนนี้ไหม”
ผู้อาวุโสตระกูลมู่ส่ายหน้าพูดว่า “กำลังสืบอยู่ เห็นว่าเป็นผู้ดูแลคนใหม่ของตระกูลหั่ว”
ผู้อาวุโสตระกูลจินหัวเราะเบาๆ “ผู้ดูแลอะไรกันล่ะ ยอดฝีมือที่ตระกูลหั่วแอบบ่มเพาะเอาไว้ชัดๆ ไม่แน่อาจเป็นลูกนอกสมรสของผู้อาวุโสสักคนก็เป็นได้”
พวกผู้อาวุโสพยักหน้าเบาๆ คิดว่ามีความเป็นไปได้
ตอนนี้ลู่ฝานเงยหน้าขึ้น ยื่นสูตรยาคืนให้ผู้อาวุโสเคราขาว
ผู้อาวุโสมองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจอะไรแล้วเหรอ”
ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “นิดหน่อย!”