ตอนที่ 2,317 : ยังไม่ตาย!!
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่อาจทำอะไรได้เลย เขาทำได้เพียงมองดูพลังสุริยันที่ก่อร่างเป็นอีกาทองคำ 3 ขา กำลังจะสูญสลายไปเพราะอำนาจพลังของอัสนีทัณฑ์สายสุดท้ายของหายนะสู่สวรรค์เท่านั้น…
ร่างเขาที่ยังคงทะยานเข้าใส่อัสนีทัณฑ์ ได้แต่เร่งเร้าพลังเซียนต้นกำเนิดที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายออกมาทั้งหมด เรียกว่ารีดเค้นมันออกมาทุกหยาดหยด เพื่อจ่ายพลังออกไปช่วยหนุนเสริมพลังของอีกาทองคำ 3 ขา!
อนิจจาไม่ว่าพลังเซียนต้นกำเนิดจะเร่งเร้าออกไปหนุนเสริมมากเท่าไหร่ มันก็ถูกอัสนีทัณฑ์ทำลายหายไปสิ้น!
‘ผู้เฒ่าหั่ว เป็นข้าทำให้ท่านต้องผิดหวังแล้ว…’
ในห้วงเวลาแห่งความเป็นตาย ต้วนหลิงเทียนได้แต่รู้สึกเสียใจเพราะเขารู้สึกว่าได้ทำผิดต่อผู้เฒ่าหั่ว เขาเคยกล่าวสาบานไว้แล้วว่าหนึ่งชีวิตนี้ที่ผู้เฒ่าหั่วสละให้มา เขาจะทะนุถนอมมันให้ดีที่สุด…
‘ยังมีท่านผู้อาวุโสฟงชิงหยาง…เคล็ดบำเพ็ญจิตเต๋ากระบี่สูงสุด ยอดใจกระบี่ ที่ท่านอุตส่าห์เหลือทิ้งไว้ให้ชนรุ่นหลัง…แต่ข้าไร้สามารถกลับฝึกปรือสำเร็จได้เพียงขอบเขตที่ 3! หากท่านล่วงรู้ ใช่ท่านต้องผิดหวังมากหรือไม่?’
ในห้วงเวลาเป็นตาย ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงยอดคนในอดีตกาลที่ทิ้งยอดใจกระบี่เอาไว้ขึ้นมา
อีกทั้งยอดคนผู้นั้น ในใจเขาก็นับถืออีกฝ่ายเป็นอาจารย์ไปแล้ว ยังเป็นอาจารย์เพียงหนึ่งเดียวของเขา!
‘น่าเสียดาย ที่ข้าไม่มีโอกาสได้เรียกท่านว่าอาจารย์ ต่อหน้าท่าน…’
ต้วนหลิงเทียนได้แต่ทอดถอนใจ คิดว่านี่นับเป็นความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเขา
‘ท่านพ่อท่านแม่ เสี่ยวเฟยเอ๋อ เนี่ยนเทียน…’
ไม่ทันรู้ตัวฉากเรื่องราวทั้งผู้คนมากมายก็ผุดขึ้นในความคิดต้วนหลิงเทียน เรียกว่าใบหน้าของคนใกล้ชิดทั้งหมดในชีวิตนี้ ได้ผุดขึ้นมาคนแล้วคนเล่า…
‘เทียนหวู่ เฉวี่ยไน่ ปี้เหยา เซี่ยวหลัน…ลุงเฟิ่ง’
‘ศิษย์พี่ป๋ายลี่…’
เมื่อใบหน้าของคนรู้จักในชีวิตนี้แล่นวาบขึ้นมา ในใจต้วนหลิงเทียนบังเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะรอดชีวิตยิ่งกว่าครั้งใด ยังเป็นความปรารถนาที่รุนแรงอย่างถึงที่สุด!
‘ไม่!!’
‘ข้ายังไม่อยากตาย!!’
‘ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก…ข้ายังต้องตามหาท่านพ่อท่านแม่กับพวกเสี่ยวเฟยเอ๋อยังมีเนี่ยนเทียน ลุงเฟิ่ง ศิษย์พี่ป๋ายลี่…ทั้งหมดล้วนยังอยู่ในภูมิภาคเบื้องล่าง จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้!?’
‘ยังมีเทียนหวู่…ป่านนี้แล้วข้ายังหาเทียนหวู่ไม่พบ ข้าจะตายได้อย่างไร! ข้าสัญญากับลุงเฟิ่งไว้แล้วว่าจะพาเทียนหวู่กลับมา’
……
เมื่อใบหน้าของคนใกล้ชิดทั้งหมดแล่นวาบในหัว ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ชัด ว่ายังมีอีกมากมายหลายเรื่องนักที่เขาต้องกระทำ
แน่นอนว่ายังไม่ใช่แค่ญาติและสหายเหล่านี้
ไม่ว่าจะเป็นเค่อเอ๋อ หรือต้วนซือหลิงลูกสาวของเขา ตอนนี้ชะตากรรมทั้งหมดก็ยังไม่แน่นอน แล้วเขาจะปล่อยวางไปได้อย่างไร…
เขาจะยินยอมให้เค่อเอ๋อต้องตายไปพร้อมกับเขาได้อย่างไร?
หากพวกเขาทั้งคู่ตกตาย แล้วซือหลิงจะอยู่อย่างไร?
‘ไม่! ไม่!!’
‘ข้าตายไม่ได้! ข้ายังตายไม่ได้!!’
‘มีทางไหนอีก! ยังมีวิธีไหนอีก!!’
……
ร่างต้วนหลิงเทียนที่ทะยานตามอีกาทองคำ 3 ขามากระชั้นชิด ในที่สุดก็บรรลุถึงตัวอีกาทองคำ 3 ขา เขาพยายามฝืนรีดเค้นพลังทุกขุมออกมาอย่างเกินขีดจำกัด หมายจ่ายพลังหนุนเสริมประคองสภาพอีกาทองคำ 3 ขาไว้ให้นานที่สุด!
อนิจจาแม้เขาจะทำเต็มที่แล้วแต่เขาก็รู้ดีว่าอีกราว ๆ 10 ลมหายใจอีกาทองคำ 3 ขาต้องสลายหายไปหมดสิ้นแน่
ใจต้วนหลิงเทียนยิ่งมายิ่งร้อนรนกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้แลคล้ายจะเสียสติไปแล้ว
ก่อนหน้าแม้ต้วนหลิงเทียนจะเตรียมพร้อมรับความตาย แต่ไหนเลยเขาจะอยากยอมแพ้แล้วตายตกไปจริงๆ!
เมื่อเผชิญกับวินาทีชีวิต ต้วนหลิงเทียนที่ให้เตรียมใจมาแค่ไหน ก็ยังตื่นตระหนกทั้งแตกตื่น! ยังบังเกิดความไม่ยินยอมถึงที่สุด!
สถานการณ์แห่งความเป็นตาย ไม่ใช่อะไรที่จะเตรียมใจพร้อมรับมือไว้แล้ว ก็จะรับมือได้
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงกระวนกระวายและร้อนใจอย่างถึงขีดสุด กระทั่งความคิดอันแรงกล้าที่อยากจะมีชีวิตรอด ยังถึงกับขับเคลื่อนพลังวิญญาณออกมาอย่างไม่รู้ตัว
นอกจากนี้เลือดในกายเขาก็คล้ายจะกำลังเดือดพล่านขึ้นมา!
‘ไม่ไหว! อีกาทองคำ 3 ขา ทนพลังอัสนีทัณฑ์นี่ได้อีกไม่นานแน่!!’
เพียงพริบตาเวลาก็ผ่านไปแล้วหลายลมหายใจ ยิ่งมาในใจต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งร้อนรนมากขึ้น และยิ่งอยู่ในห้วงแห่งความเป็นตายมากเท่าไร จิต ยิ่งกลายเป็นเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น! กระทั่งพลังวิญญาณบัดนี้เริ่มปะทุออกมาอย่างท่วมท้น เลือดในกายยังคล้ายเดือดพล่านขึ้นมาจริงๆ!!
“หือ?”
และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนคิดว่าเขากำลังจะตกตายอย่างไร้ความหวังนั้น เขาพลันพบว่า…
อยู่ๆพลังในร่างเขาก็เกิดปั่นป่วนขึ้นมา เกล็ดมังกรทั่วร่างเริ่มหดหาย อีกทั้งกรงเล็บมังกรตามมือเท้าเริ่มแปรสภาพกลับสู่มือเท้ามนุษย์ ไม่นานร่างของเขาก็หวนคืนสู่ร่างมนุษย์โดยสมบูรณ์
“นี่มันอะไรกัน?”
ในอดีตทุกครั้งที่เขาแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ มีเพียงต้วนหลิงเทียนควบคุมให้ร่างคืนสภาพด้วยตัวเองเท่านั้น! ร่างนักรบมังกร 9 กรงเล็บของเขา…ไม่เคยหวนคืนสู่ร่างมนุษย์ด้วยตัวเองมาก่อน!!
หลังจากที่ร่างกายหวนคืนสู่ร่างมนุษย์ ต้วนหลิงเทียนพลันสะบัดมือเรียกชุดคลุมสีม่วงออกมาใส่ตามสัญชาติญาณ
‘นี่มัน…’
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เขาใส่ชุดคลุม ต้วนหลิงเทียนก็พบว่า
พลังมังกรในร่างของเขาตอนนี้ กำลังปั่นป่วนไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมา!
โดยปกติแล้วเมื่อต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในร่างมนุษย์ เขาเพียงจ่ายพลังเซียนต้นกำเนิดไปผสานกับพลังมังกรในร่างเพื่อชักนำให้มันหมุนเวียนโคจร เขาก็จะสามารถแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บได้
นี่คือความลี้ลับของการแปลงกายเป็นนักรบมังกร
และพลังมังกรในร่าง ต้วนหลิงเทียนก็ได้รับมันมาจากสระชำระมังกร ในภูมิภาคเบื้องล่างแห่งนี้
ทว่าแต่ไหนแต่ไรมา พลังมังกรในร่างเขาก็คงอยู่อย่างสงบไม่เคยปั่นป่วน
มีเพียงยามเมื่อจ่ายพลังเซียนต้นกำเนิดชักนำเท่านั้น มันถึงจะเคลื่อนไหวโคจรไปทั่วร่างเพื่อทำให้เขาแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บได้
‘มัน…กำลังจะออกไป?’
ไม่ทันไรต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้อีกครั้ง
พลังมังกรในร่างเขาที่กำลังปั่นป่วนนั้น สภาพการณ์ของมันคล้ายจะพุ่งทะยานออกจากร่างเขาไปให้ได้!
เสมือนร่างกายของเขาเป็นคุกที่คอยคุมขัง มังกรที่โหยหาอิสรภาพ!
‘ตาข้า…!’
และก่อนที่พลังมังกรจะพุ่งทะยานออกมาจากร่าง ต้วนหลิงเทียนพลันตระหนักได้ชัดเจนถึงพลังวิญญาณมหาศาลที่เขาเผลอปล่อยออกมาอย่างไม่รู้ตัว! และตอนนี้พลังวิญญาณแทบทั้งหมดกำลังไหลเชี่ยวถ่ายทอดลงสู่ตาของเขาข้างหนึ่ง…ม่านตาพิสดาร!
ม่านตาพิสดารนี้ เกิดขึ้นจากการที่ต้วนหลิงเทียนหลอมดวงเนตรของแร้งมารตาเดียวเข้ากับดวงตาของเขา
และตอนนี้ด้วยพลังวิญญาณแทบทั้งหมดถ่ายทอดลงสู่ม่านตาพิสดาร ก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนบังเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนที่ดวงตาจนถึงขีดสุด!
เจ็บปวดราวกับพลังวิญญาณของเขาแปรสภาพเป็นตะขอเกี่ยวที่ฝังอยู่ในลูกตา และมันกำลังถูกดึงกระชากออกไป!
‘ดูเหมือน…พลังของเนตรแร้งมารตาเดียวทั้งหมด กำลังจะพุ่งออกไปจากตาข้า!’
พริบตาต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้
ซู่มมม!!
ทันใดนั้นในร่างต้วนหลิงเทียนก็เสมือนมีมรสุมก่อเกิด!
เป็นพลังมังกรในร่าง ที่ประหนึ่งทลายพันธนาการได้สำเร็จ มันพุ่งออกจากร่างเขาไม่ต่างอะไรจากพลังเซียนสุริยันก่อนหน้า ทะลักล้นออกไปดั่งเปลวเพลิง พุ่งออกไปควบรวมเป็นกลุ่มก้อน!!
สภาพการณ์ดั่งตอนที่พลังสุริยันพุ่งออกจากร่างเขาไม่มีผิด!
และแทบจะพร้อมกันกับที่พลังมังกรพุ่งออกไปจากร่างของเขาจนหมด
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
……
อัสนีทัณฑ์สุดท้ายของหายนะสู่สวรรค์ ในที่สุดมันก็บดขยี้อีกาทองคำ 3 ขาที่ควบสร้างจากพลังสุริยันจนย่อยยับ!
ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เขาไม่เหลือพลังสุริยันอีกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น
อัสนีทัณฑ์สุดท้ายของหายนะสู่สวรรค์ ยังคงเหลือพลังอยู่อีกมาก แม้มันจะเสียพลังไปจากการทำลายอีกาทองคำ 3 ขาที่ควบสร้างจากพลังสุริยันก็ตาม พลังอำนาจของมันยังคงถาโถมลงมาอย่างเกรี้ยวกราด กลืนพลังมังกรที่พุ่งออกไป และร่างต้วนหลิงเทียนให้หายสาบสูญไปในคราเดียว!!
ประหนึ่งเรือใบลำน้อยที่ลอยคอกลางทะเลคลั่ง สุดท้ายก็ถูกคลื่นยักษ์กลืนหาย!
“ไม่!!!”
เมื่อเห็นอีกาทองคำ 3 ขาถูกอัสนีทัณฑ์ทำลาย ทั้งสายฟ้าเส้นเขื่องยังกลืนร่างต้วนหลิงเทียนจนหายลับตาไป เค่อเอ๋อ ต้วนซือหลิง และก่านหรูเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
ในแววตาทั้ง 3 มากล้นไปด้วยความโศกเศร้า
“พี่เทียน!”
เค่อเอ๋อเผยความปวดปร่าบนใบหน้า แววตาของนางกลับกลายคล้ายปลาตายประหนึ่งสตรีที่จิตใจแหลกสลาย หยาดน้ำตาหลั่งไหลออกมาเป็นสาย จิตใจรู้สึกว่างเปล่า ในหัวรู้สึกอื้ออึงประหนึ่งแผ่นฟ้าได้ถล่มลงมาแล้ว
สำหรับนางนั้น บุรุษของนางเปรียบดั่งผืนฟ้า…
เมื่อบุรุษของนางตกตาย ก็ไม่ต่างใดจากผืนฟ้าถล่มลง..
ตอนนี้…
ด้านต้วนซือหลิงก็ร่ำไห้น้ำตานองหน้าเช่นกัน ด้วยคิดว่าบิดาที่ถูกอัสนีกลืนไปนั้น ตกตายแน่แล้ว
“ฮ่าๆๆๆ!! คราวนี้เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่น มันไม่มีทางหนีความตายได้พ้นแน่!!”
จ้าววังวิญญาณอสุรา ฉีหนานฟง กล่าวออกมาด้วยความสะใจอย่างถึงขีดสุด!!
“ในที่สุด…ต้วนหลิงเทียนก็ตายตก…”
“อัสนีทัณฑ์สุดท้าย ช่างทรงพลังอำนาจน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก! ต้วนหลิงเทียนแม้จะมีพลังมิใช่ชั่วทั้งยังมีเวทย์พลังพิสดารมากมาย แต่ต่อหน้าอัสนีทัณฑ์สุดท้ายก็ยังมิพอ!”
“หากมันรอดจากอัสนีทัณฑ์สุดท้าย ย่อมหมายความว่ามันสามารถบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะ…น่าเสียดาย ที่สุดท้ายมันก็มิอาจผ่านด่านเคราะห์สุดท้ายได้สำเร็จ!”
“เหอะ! ต่อให้มันผ่านด่านเคราะห์ไปได้จนบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้วจะอย่างไร? ด้วยมีท่านประมุขเผ่าอยู่ มันไหนเลยจะรอดพ้นความตาย!!”
“มิผิด! ไหนเลยท่านประมุขเผ่าจะปล่อยให้ผู้ฝึกตนมนุษย์ที่บรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะมีชีวิตรอดออกจากวังเซียนสัญจร…สุดท้ายแล้วมนุษย์ที่บรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะ ไม่เพียงแต่เป็นภัยต่อเผ่าปีศาจมนุษย์เรา แต่ยังเป็นภัยร้ายต่อเผ่าปีศาจทั้งมวล”
……
เมื่ออีกาทองคำ 3 ขา ที่ควบสร้างขึ้นจากพลังสุริยันถูกอัสนีทัณฑ์สุดท้ายทำลาย กระทั่งร่างต้วนหลิงเทียนยังถูกกลืนหายไปในสายฟ้าม่วงเส้นเขื่องอันเป็นอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายสุดท้ายของหายนะสู่สวรรค์ ทุกผู้คนที่ชมดูเรื่องราวก็อดไม่ได้ที่จะพูดกันระงม
ตอนนี้ทั้งหมดคิดว่าต้วนหลิงเทียน สมควรตกตายเพราะอัสนีทัณฑ์สายสุดท้ายไปแน่นอนแล้ว
‘มัน…สุดท้ายก็ล้มเหลว…’
ใบหน้าเย็นชาของหวงเหวินจิ้งซีดลง ในแววตายังเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดประการหนึ่ง
บุรุษเพียงหนึ่งเดียวที่นางรัก พึ่งตกตาย
ยังตกตายต่อหน้าต่อตานาง
ตอนนี้หวงเหวินจิ้งรู้สึกเสมือนหัวใจกำลังกรีดร้องไปด้วยความสูญเสีย
ต่างจากหวงเหวินจิ้งนัก ด้านอวิ๋นฟู่เหย่ที่ยืนอยู่ไม่ห่าง พอเห็นต้วนหลิงเทียนถูกอัสนีทัณฑ์สุดท้ายกลืนหายไป มันอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังร่า กล่าวคำด้วยความสะใจถึงขีดสุด “ฮ่าๆๆ!! เป็นแค่มนุษย์กลับกล้าแฝงตัวเข้ามาในวังเซียนสัญจรของเรา…หาที่ตาย!!”
“นายท่าน…”
“น้องหลิงเทียน…”
ไม่ว่าจะเป็นเผิงไหลหรือหวงฉี่หลิง ต่างพากันหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด ร่างยังสั่นสะท้านไปอย่างไม่รู้ตัว
และในขณะที่ทุกคนคิดว่าต้วนหลิงเทียนตายตกไปเพราะอัสนีทัณฑ์สุดท้ายแน่นอนแล้ว
“มันยังไม่ตาย!!”
จู่พลันมีดังสนั่นจนทำให้ผู้คนตกใจดังขึ้น เสียงนี้ยังดังประหนึ่งฟ้าร้องในหูของทุกคนก็ไม่ปาน! พาลให้ทั้งหมดตะลึงค้างไปทันใด!!
กระทั่งเค่อเอ๋อที่กำลังจะฆ่าตัวตายตามต้วนหลิงเทียนไป ก็หยุดมือลงทันที
“ท่านประมุข…ท่านบอกว่ามันยังไม่ตายหรือ?”
ฉีหนานฟงมองไปยังประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ พลางถามออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ถึงแม้ในใจมันจะรู้คำตอบรางๆ แต่มันยากจะรับเรื่องราวได้!
เพราะเสียงกล่าวดังก้องเมื่อครู่ มันดังออกมาจากปากของประมุขเผ่าพันธุ์ปีศาจมนุษย์!!