ราคาประมูลจากฉินอวี้โม่ทำให้ทั้งโรงประมูลตกอยู่ท่ามกลางความเงียบทันที

สิบล้านแก่นหินวิญญาณมิใช่มูลค่าที่น้อยเลย สำหรับของประมูลที่ผ่านมาก่อนหน้านี้มีเพียงน้อยชิ้นเท่านั้นที่ปิดประมูลในราคาที่สูงถึงเพียงนี้

ทันทีที่หุ่นเชิดตัวตายแทนปรากฏ มันกลับถูกขานราคาสูงถึงสิบล้านแก่นหินวิญญาณซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

“ท่านจอมยุทธ์ผู้นี้ได้เสนอราคาขึ้นมาที่สิบล้านแก่นหินวิญญาณ ไม่ทราบว่ามีผู้ใดที่ต้องการจะเพิ่มราคาอีกรึไม่เจ้าคะ ?”

เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของทุกคน โป๋หย่าก็เอ่ยขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ

“สิบเอ็ดล้าน !”

แน่นอนว่าคนของสามสำนักและเก้านิกายก็สนใจในสมบัติล้ำค่าอย่างหุ่นเชิดตัวตายแทนนี้มาก อย่างไรก็ตาม ราวกับว่าราคาประมูลจากฉินอวี้โม่ทำให้หลายขุมกำลังในดินแดนเข้าใจตรงกันและถอนตัวจากการแข่งขัน เว้นแต่ว่าฉินอวี้โม่จะไม่ขานราคาอีกต่อไป พวกเขาจึงจะพิจารณาเข้าร่วมการประมูลอีกครั้ง

เมื่อสมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจขานราคาขึ้นมา ขุมกำลังอื่น ๆ ที่อยู่ฝ่ายเดียวกับพวกเขาก็เลือกถอนตัวไปโดยปริยาย

ภายในเวลาเพียงครู่เดียว หุ่นเชิดตัวตายแทนก็กลายเป็นการต่อสู้ระหว่างฉินอวี้โม่และจอมยุทธ์ปีศาจ

“สิบห้าล้าน !”

ฉินอวี้โม่ก็ไม่ยอมน้อยหน้าและขานราคาประมูลอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นการเพิ่มราคามากถึงสี่ล้านแก่นหินวิญญาณในคราวเดียว

“ยี่สิบล้าน !”

อย่างไรก็ตาม สมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจก็ปฏิเสธที่จะยอมแพ้และเสนอราคาขึ้นมาอีกครั้งซึ่งเป็นราคาที่สูงลิ่วเช่นกัน

ถึงแม้ว่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างสองคน มันก็ดุเดือดยิ่งกว่าการแข่งขันประมูลวารีรวมจิตก่อนหน้านี้มากนัก

“ฉินอวี้โม่ เจ้าเพียงเป็นแค่มดปลวกจากดินแดนระดับต่ำเท่านั้น อย่าลองดีกับพวกข้าจะดีกว่า !”

หนึ่งในฝ่ายจอมยุทธ์ปีศาจยิ้มเยาะและกล่าววาจาเย้ยหยัน

“ฮ่า ๆ ๆ หากมีเงินก็เสนอราคาขึ้นมา แต่หากไม่มีก็หุบปากไปเสีย อย่ามัวกล่าววาจาไร้สาระอยู่เลย ข้ามาจากดินแดนระดับต่ำแล้วอย่างไร ? พวกเจ้าที่มาจากดินแดนที่มีระดับสูงกว่ายิ่งใหญ่มาจากไหนกัน ?”

ฉินอวี้โม่สาดวาจาโต้กลับอย่างถากถางและไม่คิดไว้หน้าคนของจอมยุทธ์ปีศาจแม้แต่น้อย

“ยี่สิบห้าล้าน !”

นางไม่รอช้าและขานราคาต่อไปทันที นางได้เก็บรวบรวมสมบัติล้ำค่ามากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงผลึกหัวใจมายาจำนวนนับไม่ถ้วน กล่าวได้ว่านางเพียงคนเดียวก็เกินพอที่จะเอาชนะแต่ละขุมกำลังในสามสำนักและเก้านิกาย

ต่อให้จอมยุทธ์ปีศาจมีพื้นเพภูมิหลังที่มั่งคั่งร่ำรวย พวกเขาก็ไม่มีทางเอาชนะนางได้อย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น หลานเผิงก็กล่าวไว้แล้วว่านางต้องจ่ายเพียงครึ่งหนึ่งของราคาปิดประมูลเท่านั้น ฉินอวี้โม่จึงไร้ซึ่งความเกรงกลัว

ต่อให้ขานราคาไปถึงห้าสิบล้านแก่นหินวิญญาณ สำหรับนางแล้วมันก็เทียบเท่าได้กับยี่สิบห้าล้านแก่นหินวิญญาณเท่านั้น

“สามสิบล้าน !”

สีหน้าของบรรดาสมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจบิดเบี้ยวเล็กน้อย พวกเขาไม่ได้สนใจเพียงสิ่งนี้สิ่งเดียวเท่านั้น ทว่ายังต้องการประมูลสมบัติอื่นหลังจากนี้เช่นกัน ราคาสามสิบล้านแก่นหินวิญญาณถือเป็นขีดจำกัดสูงสุดสำหรับหุ่นเชิดตัวตายแทนนี้แล้ว หากขานราคาต่อไป มันจะเกินกว่างบประมาณที่พวกเขาตั้งไว้

“สามสิบเอ็ดล้าน !”

ในเวลานี้ ฉินอวี้โม่ไม่รีบร้อนเพิ่มราคาขึ้นไปสูงนัก ในทางตรงกันข้าม นางขานราคาเพิ่มเพียงหนึ่งล้านแก่นหินวิญญาณซึ่งเป็นจำนวนในระดับค่าเฉลี่ย

“สามสิบสองล้าน !”

ฝ่ายจอมยุทธ์ปีศาจไม่ยอมแพ้และยังขานราคาต่อเพื่อประมูลหุ่นเชิดตัวตายแทนที่ต้องการ การยอมให้ฉินอวี้โม่ได้มันไปมิใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการให้เกิดขึ้น

“สามสิบสามล้าน !”

ฉินอวี้โม่ก็เสนอราคาอย่างไม่รีบร้อนก่อนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เหตุใดครานี้จึงขานราคาช้านักล่ะ ? ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่มีเงินเหลือแล้วสินะ”

“เหอะ มดปลวกจากดินแดนระดับต่ำอย่างเจ้าสู้พวกข้าไม่ได้หรอก !”

คนจากจอมยุทธ์ปีศาจแค่นเสียงเย็นชาก่อนขานราคาต่อไป

“สามสิบห้าล้าน !”

ราคาประมูลของหุ่นเชิดตัวตายแทนเพิ่มสูงถึงสามสิบห้าล้านแก่นหินวิญญาณแล้วและน้ำเสียงของเขาแสดงถึงความไม่สบอารมณ์อย่างรู้สึกได้

“สี่สิบล้าน !”

ฉินอวี้โม่ไม่รอช้าและขานราคาอีกครั้งโดยทบราคาเพิ่มขึ้นจนถึงสี่สิบล้านแก่นหินวิญญาณ

“บัดซบ !”

สีหน้าของสมาชิกทุกคนจากจอมยุทธ์ปีศาจบิดเบี้ยวอย่างที่สุดเมื่อเห็นท่าทางผ่อนคลายของฉินอวี้โม่ นางเป็นเพียงจอมยุทธ์จากดินแดนระดับต่ำเท่านั้น เหตุใดจึงมีทรัพย์สินมากมายเพียงนี้ได้ ?

“อะไรกัน ? ไม่เสนอราคาแล้วรึ ? พวกเจ้าจอมยุทธ์ปีศาจยากจนกันถึงขั้นนี้เลยรึ ?”

หลังจากรอเวลาครู่ใหญ่และยังไม่มีปฏิกิริยาจากอีกฝ่าย ฉินอวี้โม่ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้มยียวน

“เหอะ ข้าจะปล่อยให้เจ้าภูมิใจไปสักพัก เรายังมีสิ่งอื่นที่ต้องการและจะคิดบัญชีกับเจ้าในภายหลัง !”

คนของจอมยุทธ์ปีศาจแค่นเสียงเย็นชาและพยายามสงบสติอารมณ์ไว้

เขาไม่กล้าสู้ราคาอีกต่อไป สี่สิบล้านแก่นหินวิญญาณถือเป็นราคาที่สูงมากเกินไปแล้ว หากจู่ ๆ ฉินอวี้โม่ไม่ต้องการหุ่นเชิดตัวตายแทนอีกต่อไป ทรัพย์สินที่พวกเขานำมาในครานี้คงไม่เพียงพอที่จะประมูลของสิ่งอื่นเป็นแน่

“ยากจนก็คือยากจน เหตุใดจะต้องกล่าววาจาไร้สาระพวกนี้ด้วยเล่า ?”

ฉินอวี้โม่แสยะยิ้มและกล่าววาจาที่ทำให้สมาชิกจอมยุทธ์แทบกระอักเลือดออกมา

“ในเมื่อไม่มีผู้ใดขานราคาต่อแล้ว หุ่นเชิดตัวตายแทนก็จะตกเป็นของท่านจอมยุทธ์ผู้นี้”

โป๋หย่าประกาศผลการประมูลของหุ่นเชิดตัวตายแทน นางทราบดีว่าฉินอวี้โม่เป็นแขกคนสำคัญของตระกูลหลาน แม้ฉินอวี้โม่ต้องจ่ายเพียงครึ่งหนึ่งของราคาประมูล มันก็ยังเป็นราคาที่สูงมากซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง

นางสั่งให้คนนำหุ่นเชิดตัวตายแทนไปส่งที่ห้องพิเศษของฉินอวี้โม่และเริ่มประมูลรายการต่อไป

หลังจากรอเวลาครู่ใหญ่ เด็กรับใช้ก็นำหุ่นเชิดตัวตายแทนมาส่งถึงห้อง

“พี่อวี้โม่ สิ่งของทั้งหมดที่ท่านประมูลมาได้ เราจะคิดยอดรวมทีเดียวหลังจากที่จบงานประมูล”

หลานเผิงสั่งให้เด็กรับใช้กลับไปโดยที่ฉินอวี้โม่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อรับสินค้าเหมือนกับคนอื่น ๆ การคิดบัญชีทั้งหมดหลังจากงานประมูลสิ้นสุดลงก็ยังไม่ถือว่าสายเกินไป

“เข้าใจแล้ว ท่านรับไปเถอะ ศึกษาให้ละเอียดเลยล่ะ ข้าจะรอวันที่ท่านจะประดิษฐ์หุ่นเชิดตัวตายแทนขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วน”

ฉินอวี้โม่พยักศีรษะให้กับหลานเผิงก่อนโยนหุ่นเชิดตัวตายแทนให้กับอวิ๋นซื่อเทียนโดยไม่ตรวจดูด้วยซ้ำ

“เฮ้ นี่เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ข้าขอเวลาศึกษาเพียงแค่ครึ่งปีก็พอ”

อวิ๋นซื่อเทียนกล่าวพร้อมรอยยิ้มและแยกตัวออกไปในมุมหนึ่งของห้องเพื่อเริ่มศึกษาหุ่นเชิดตัวตายแทนโดยไม่สนใจการประมูลอีกต่อไป

“หลานเผิง เจ้าได้สมบัติหายากพวกนี้มาจากที่ใดรึ ?”

ฉินอวี้โม่หันกลับไปมองหลานเผิงและเอ่ยถามอย่างสงสัยใคร่รู้

ไม่ว่าจะเป็นวารีรวมจิตก่อนหน้านี้หรือหุ่นเชิดตัวตายแทน พวกมันล้วนก็เป็นสิ่งที่หายากทั้งสิ้น แม้ศูนย์การค้าจ้าวสมุทรจะมีความสามารถและมีอิทธิพลพอสมควร การรวบรวมของหายากเช่นนี้ก็มิใช่สิ่งที่จะทำได้ง่าย ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือหุ่นเชิดตัวตายแทนนี้ ในเมื่อเหล่านักประดิษฐ์ผู้ทรงพลังดับสลายกันไปแล้วและหุ่นเชิดเหล่านี้ก็หายสาบสูญไปเนิ่นนาน แล้วตระกูลหลานได้มันมาจากที่ใด ?

“พี่อวี้โม่ ข้าจะไม่ปิดบังเรื่องนี้จากท่าน เราได้ของพวกนี้มาจากซากปรักหักพังโบราณ ทางเข้าซากปรักหักพังดังกล่าวถูกซ่อนไว้ลึกลับมากและมีเงื่อนไขที่โหดหิน และของพวกนี้เป็นสิ่งที่ได้มาจากครั้งสุดท้ายที่เราไปที่นั่นเมื่อร้อยปีก่อน”

หลานเผิงกล่าวขึ้นเบา ๆ และไม่คิดปิดบังจากฉินอวี้โม่

สมบัติล้ำค่าที่นำมาในงานประมูลครานี้ล้วนเป็นสมบัติที่ตระกูลหลานได้ครอบครองมาตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลหลานก็หาโอกาสที่เหมาะสมในการนำพวกมันแต่ละชิ้นออกมาประมูล

ตอนนี้สถานการณ์ในดินแดนมหาเทพตกอยู่ในสภาวะชะงักงันและยังไม่มีฝ่ายใดเปิดฉากโจมตี และสิ่งเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ แน่นอนว่าตระกูลหลานไม่ต้องการให้จอมยุทธ์ปีศาจประมูลสิ่งใดกลับไป ทว่าพวกเขาไม่สามารถกำหนดได้ว่าผู้ใดจะชนะการประมูล

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”

ฉินอวี้โม่ก็สนใจในซากปรักหักพังโบราณดังกล่าวพอสมควรและมันอาจเป็นหนึ่งในสมรภูมิรบในอดีต

นางตัดสินใจทันทีว่าหลังจากสิ้นสุดงานประมูลครานี้ นางจะหาโอกาสสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับซากปรักหักพังดังกล่าวและเชื่อว่าอาจมีโอกาสดี ๆ รออยู่ที่นั่น

ภายในห้องโถง การประมูลหลายรายการดำเนินไปอย่างรวดเร็วซึ่งทั้งหมดถูกปิดประมูลไปในราคาที่สูงพอสมควร เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่ การประมูลก็ดำเนินมาถึงรายการที่สามสิบซึ่งเป็นสิ่งของที่ลึกลับชิ้นที่สาม

“ของประมูลรายการที่สามสิบเป็นสมบัติที่ล้ำค่าเช่นกันและมันจะส่วนช่วยทุกท่านได้อย่างมาก”

สิ่งหนึ่งปรากฏในมือของโป๋หย่า ทว่าก่อนที่จะกล่าวแนะนำเกี่ยวกับมัน ‘สิ่งนั้น’ ก็ทำให้ทั้งงานประมูลเกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที…