ส่วนที่ 6 ภาคลมประจิมรุนแรง ตอนที่ 76 สถานการณ์สิ้นหวังหลังจากสามกระบี่

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

เฉินฉางเซิงรู้ว่าต่อให้เขาใช้กระบวนท่าทั้งหมด ก็ไม่อาจที่จะป้องกันคลื่นแห่งการดับสูญนี้ได้

เขามีทางเลือกเดียว ถอย

ปัญหาก็คือยอดฝีมือเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์สามารถเดินทางไปทั่วโลกอย่างอิสระ ความเร็วของพวกเขาสูงกว่าที่คนทั่วไปจินตนาการไว้ มีแต่คนที่มีพรสวรรค์อย่างหนานเค่อ สวีโหย่วหรงหรือจินอวี้ลวี่ที่อาจรักษาความเร็วระดับนั้นได้ระยะเวลาหนึ่ง แต่ใครจะเร็วกว่าไปได้

อู๋ฉยงปี้บินขึ้นไปหน้าแท่นยก แส้หางม้ากำลังจะฟาดลงมา

เฉินฉางเซิงพลันหายตัวไปและปรากฏอยู่ห่างไปหลายจั้งตรงหน้าทางเดินภูเขา กระบี่ไร้ราคีอยู่ในมือ

แรงกดดันของอู๋ฉยงปี้ตามมา กลิ่นอายดับสูญปกคลุมโลกในยามที่มันเคลื่อนไป ทางเดินภูเขาแหลกลงในทันที รอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนกระจายไปบนบันไดหิน

สามารถมองเห็นประกายกระบี่เหนือที่ราบสูง เฉินฉางเซิงอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของประกายกระบี่ ห่างไปสองร้อยกว่าจั้งแล้ว

ปราณแห่งการดับสูญเงียบงันไล่ล่าเขาราวกับเมฆฝน

ตอนที่เขากำลังจะถูกปราณนี้ฟาดใส่ เฉินฉางเซิงก็หายตัวไปอีกครั้ง ใช้เจตจำนงกระบี่น่ากลัวจนเหมือนจะฉีกอากาศได้ เขามาถึงสันหินบริเวณริมที่ราบสูง

แส้หางม้าของอู๋ฉยงปี้ยังไม่ฟาดลงมา เพราะมันไม่อาจเล็งไปที่ร่างกายของเขาได้

เขาไม่ได้มีความเร็วแบบหนานเค่อหรือสวีโหย่วหรง เขาสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วก็เพราะเขาไม่ได้ใช้วิชาตัวเบา แต่ใช้สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญที่สุด เพลงกระบี่

ในตอนที่ค่ายกลกระบี่ของสถานศึกษาหนานซีตกอยู่ในความวุ่นวายและอู๋ฉยงปี้บินผ่านท้องฟ้ามา เขาก็ชักกระบี่ไร้ราคีออก

จากนั้นเขาก็ใช้เพลงกระบี่ออกมาสามท่าโดยไม่ลังเล ไม่มีการหยุดชะงักเลย ไม่จำเป็นต้องคิดเลยสักนิด

เพลงะกระบี่ทั้งสามคือกระบี่แท้นิกายลวง กระบวนท่าสุดท้ายของเพลงกระบี่หลีซานและแขวนดวงสุริยาของเพลงกระบี่เวิ่นสุ่ยสามกระบวนท่า

นี่เป็นเพลงกระบี่ที่เขาเชี่ยวชาญที่สุดสามกระบวนท่า แน่นอนว่าเขาได้เสริมย่างก้าวหยั่งเทวาเข้าไปด้วย

ทุกคนที่เห็นตกใจอย่างล้ำลึก

หลายคนรู้ว่าเฉินฉางเซิงมีพรสวรรค์ในการใช้กระบี่ ถึงกับมีบางคนเรียกเขาว่าปรมาจารย์กระบี่โดยไม่สนใจอายุของเขา

อย่างไรก็ตาม มีไม่กี่คนที่เคยเห็นเขาใช้กระบี่ วันนี้เองที่พวกเขาได้ตระหนักว่าการบำเพ็ญเพียรในวิถีกระบี่ของสังฆราชนั้นยากหยั่งถึงอย่างแท้จริง เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีเต็มกำลังของยอดฝีมือเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ เขาใช้พลังกระบี่เคลื่อนตัวไปรอบๆ ตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติ

เฉินฉางเซิงเดินทางไปหลายลี้ในชั่วพริบตาจนถึงริมหน้าผา เขาสามารถหลบการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของอู๋ฉยงปี้ได้สำเร็จ

แต่พลังกระบี่ของเขาแห้งเหือดแล้ว ที่แย่ยิ่งกว่านั้น เขาถูกอู๋ฉยงปี้บีบไปจนถึงทางตัน แล้วเขาจะถอยหนีต่อไปได้อย่างไร

อู๋ฉยงปี้บินอยู่บนท้องฟ้าด้านบน แรงกดดันของนางอ่อนลงกว่าก่อน แต่จิตสังหารของนางกลับรุนแรงขึ้น!

ฟ้าดินผันเปลี่ยนตามนาง เมฆดำปกคลุมภูเขา ทำให้แสงสลัวลง

เสียงร้องเคียดแค้นดังก้องเมฆดำ สะท้อนไปทั้งฟ้าดิน

“ตาย!”

นางโบกแส้ปัดลงไปที่เฉินฉางเซิง

เส้นใยของแส้หางม้าแผ่ประกายสายฟ้าเล็กๆ ส่งเสียงน่ากลัวในอากาศ

ประกายสายฟ้าส่องต้องแก้มขาวซีดของนาง ที่เปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง นางดูราวกับผีร้ายทำให้คนที่มองเห็นต้องหวาดกลัวจับใจ

ในตอนที่แส้หางม้ากำลังจะถูกตัวเฉินฉางเซิง ประกายกระบี่อีกสายก็ฉายขึ้นบนท้องฟ้าหม่นมัว

ประกายกระบี่นี้ไม่สว่างนัก ดูหม่นมัวทีเดียว แต่มันก็ให้ความรู้สึกพึ่งพาได้

กระบี่ไร้ราคีได้รวมเข้ากับฝักซ่อนคม กลายเป็นกระบี่ยาว

นี่เป็นรูปแบบที่แข็งแกร่งที่สุดของกระบี่ไร้ราคี และยังเป็นรูปแบบที่เฉินฉางเซิงใช้ในยามที่สิ้นหวังที่สุด

ประกายกระบี่ไม่ได้มาจากการกวัดแกว่งกระบี่ แต่มาจากตัวกระบี่เอง

มือซ้ายของเฉินฉางเซิงกำด้ามกระบี่ในขณะที่มือขวาจับปลายกระบี่ตอนที่เขาใช้มันวางขวางอยู่ตรงหน้า

มือของเขามั่นคงอย่างมาก ไม่สั่นแม้แต่น้อย

กระบี่นี้เป็นเหมือนโซ่หรือตลิ่งของแม่น้ำ

มันเป็นเพลงกระบี่ที่สามซึ่งซูหลีสอนให้กับเขา ตอนนี้มีชื่อเสียงก้องโลก เพลงกระบี่โง่งม!

……

……

แส้หางม้าตกลงบนกระบี่

ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ พื้นผิวสว่างจ้าของกระบี่ที่ดูเหมือนกับถูกน้ำชะล้างมาหมื่นครั้ง แสดงร่องรอยที่เล็กมากๆ ของการถูกกัดกร่อน

กระบี่ไร้ราคีถูกหลอมขึ้นจากหนวดมังกรทองที่ล้ำค่าที่สุด มันเรียบลื่นอย่างที่สุดไม่เคยแปดเปื้อนแม้แต่ฝุ่นผงหรือเลือด มันแข็งแกร่งคงทนอย่างที่สุดไม่เคยได้รับความเสียหายจากวัตถุใด หนวดมังกรทองเรียกได้ว่าเป็นวัตถุดิบที่สมบูรณ์แบบในการสร้างกระบี่ นับจากตอนที่กระบี่ไร้ราคีปรากฏขึ้น มันก็ถูกจัดอันดับในอันดับร้อยศาสตรา แต่ตอนนี้มันดูเหมือนจะไม่อาจทนทานได้ เพราะเหตุใด

ร่องรอยการผุกร่อนมาจากสายฟ้าและปราณแห่งการดับสูญรุนแรงที่อยู่ในแส้หางม้า

สายฟ้ากับปราณไม่ได้ทำลายกระบี่ไร้ราคี แต่มันได้ทำลายเจตจำนงกระบี่ที่เฉินฉางเซิงวางไว้

ปราณแห่งการดับสูญมาจากส่วนลึกของทะเลไร้ก้นสามารถทำลายเจตจำนงกระบี่ที่สงบและบริสุทธิ์จากวัดเก่าเมืองซีหนิงอย่างง่ายดาย

นี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างแรกแข็งแกร่งกว่าอย่างหลัง แต่ระดับการบำเพ็ญเพียรของอู๋ฉยงปี้เหนือกว่าเฉินฉางเซิงมาก

อุปสรรคนี้สูงเกินไป และแข็งแกร่งปานเหล็กกล้า ไม่อาจที่จะทะลวงผ่านได้อย่างง่ายดาย ใครที่พยายามจะข้ามมันด้วยความกล้าก็มีแต่จะจบลงด้วยการถูกทุบตีจนยับเยิน

เสียงระเบิดดังก้อง

สายลมโหยหวนพัดไปบนที่ราบสูง ตัดต้นอู่ถงหลายต้นจนเหลือแต่ตอ ผู้บำเพ็ญเพียรสิบกว่าคนที่ไม่อาจหนีได้ทันเวลาถูกส่งลอยไปนอกหน้าผา เสียงร้องโหยหวนของพวกเขาเงียบลงอย่างฉับพลัน คาดว่าเส้นลมปราณน่าจะขาดกลางอากาศ ชีวิตก็ดับลงเช่นเดียวกัน

เจตจำนงกระบี่สลายไป ไร้พลังจะดำรงต่อไป กระบี่ไร้ราคีและฝักซ่อนคมตกลง ฟาดใส่หน้าอกเฉินฉางเซิง

เฉินฉางเซิงล้มลงบนสันหินดังตุบ ส่งเศษหินกระเด็นไปทั่ว ใบหน้าซีดขาว สีหน้าดำคล้ำอยู่บ้าง

หากไม่ใช่เพราะเขาได้ใช้เพลงกระบี่สามกระบวนท่าเพื่อหลบหลีกการโจมตีของอู๋ฉยงปี้ตอนที่มันแข็งแกร่งที่สุด เขาย่อมได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่มีแรงลุกขึ้นอย่างแน่นอน

แน่นอน สาเหตุสำคัยที่สุดก็คือเขาได้อาบด้วยเลือดแท้ของมังกรยักษ์น้ำค้างแข็ง แม้แต่ร่างกายที่ผ่านการชำระไขกระดูกอย่างสมบูรณ์แบบก็ยังไม่อาจทนทานได้

เสียงกรีดร้องเปี่ยมไปด้วยความโมโหระเบิดออกจากปากของอู๋ฉยงปี้

เสียงกรีดร้องนี้เปี่ยมไปด้วยความปีติที่ได้สังหารศัตรูที่เคียดแค้น และยังมีความโกรธแค้นไร้สิ้นสุดอีกด้วย

นางไม่ได้มอบโอกาสให้เฉินฉางเซิงได้ตอบโต้แม้แต่น้อย ไม่ให้โอกาสใครได้ช่วยเขา

แส้หางม้าของนางแผ่คลื่นพลังปราณไร้สิ้นสุดออกมา กลิ่นอายดับสูญตกลงบนร่างเฉินฉางเซิง

บัวสีเขียวนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในอากาศ ตัดขาดออกจากสภาพแวดล้อม

สีหน้าโก่วหานสือเปลี่ยนไป เขาบินไปในอากาศเปี่ยมไปด้วยประกายแสงดาว กระบี่อยู่ในมือแล้วแต่มันเห็นได้ชัดว่าเขาช้าเกินไป

ฮู่ซานสือเอ้อร์กับมหามุขนายกอารามแนดใต้ก็เร่งรุดมา

ศิษย์สถานศึกษาหนานซีประหลาดใจยิ่งกว่า ใบหน้าของพวกนางซีดขาวอ้าปากค้างด้วยความตกใจ พวกนางต้องการจะรีบไปแต่ก็ช้าเกินไป

ในตอนนี้ใครจะช่วยเฉินฉางเซิงได้

น่าประหลาด ถังซานสือลิ่วไม่เคลื่อนไว เขาจ้องมองไปที่จุดสีแดงใจกลางที่ราบสูง มือกำของวิเศษที่มีพลังป้องกันสูงที่สุดเอาไว้ยามที่ครุ่นคิดบางสิ่ง

ประหลาดที่เปี๋ยยั่งหงไม่เคลื่อนไหว เขามองไปยังที่แห่งหนึ่งบนที่ราบสูงเงียบๆ ราวกับกำลังครุ่นคิดข้อเสนอของเฉินฉางเซิงอยู่

ไม่ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร เมื่อภรรยาลงมือฆ่าศัตรูที่ฆ่าลูกชายของตน เขาก็ควรที่จะมองดู

เขากำลังคิดอะไร เขามองไปที่ไหน หรือว่ากำลังรอใครอยู่