อูเจวี๋ยไม่สนใจและยังคงกล่าวคำเดิมด้วยท่าทีเอาแต่ใจ “ม่อหลี เจ้าต้องแก้แค้นให้ข้า แก้แค้นให้ข้า!”
ภาพตรงหน้าทำให้จูเซวียนไม่อารมณ์ยิ่งขึ้นไปอีก คนที่มีนิสัยเป็นเด็กเช่นนี้น่ะรึจะมาเป็นสามีของนาง?
ม่อหลีพยักหน้าและกล่าว “อืม!”
นี่เจ้าจะลงมือจริงๆ?
ทุกคนรู้สึกสงสัยและตื่นเต้น ชื่อเสียงของม่อหลีนั้นเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนานและไม่มีใครกล้าท้าประลองด้วย แต่ตอนนี้หลิงฮันที่มีกายหยาบอันไร้เทียมทานได้ปรากฏตัวขึ้นมา ทุกคนต่างสงสัยว่าเขาจะต้านทานการโจมตีของม่อหลีได้หรือไม่?
“ข้าจะลงมือสามกระบวนท่า” ม่อหลีกล่าวกับหลิงฮันด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “พวกเราไม่ได้มีความบาดหมาง เหตุใดต้องสู้กันด้วยกัน?”
ใครหลายคนส่ายหัว หากม่อหลีลงมือใครจะสามารถต้านทานได้? เมื่อไม่กี่ล้านปีก่อนมีข่าวลือว่าตราบใดที่ม่อหลีลงมือ ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ระดับใดก็ต้องพินาศ สามหมัดสามารถกำราบจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ได้แทบจะทุกคน และสิบหมัดสามารถกำราบสุดยอดราชาในหมู่ราชาได้อย่างราบคาบ
ไม่แสดงสีหน้าใดๆและกล่าวอีกครั้ง “สามกระบวนท่า”
“ก็ได้ๆ ข้าจะเล่นกับเจ้าก็ได้!” หลิงฮันครุ่นคิดชั่วครู่ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาจึงได้กล่าวออกไป “มาเดิมพันกัน หากข้ารับสามกระบวนท่าของเจ้าไม่ได้เจ้าจะสังหารหรือทำอะไรกับข้าก็ได้ แต่ว่าหากข้ารับสามกระบวนท่าของเจ้าได้ เจ้าต้องบอกว่าแท้จริงแล้วเจ้าเป็นบุรุษหรือสตรี”
ทันทีที่ได้ยินข้อเสนอเดิมพันของหลิงฮัน ทุกคนก็สูดหายใจลึกด้วยความตะลึง
เจ้าไม่รู้รึไงว่านั่นคือม่อหลี จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์อันดับหนึ่ง!
หากอีกฝ่ายต้องการเปิดเผยว่าตนเองเป็นเพศใด เจ้าจะจำเป็นต้องถามเองรึไง? เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ต้องการเปิดเผยให้ใครรู้! การที่เจ้าไปจี้จุดตรงเช่นนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการรนหาที่ตายหรอกรึ?
ม่อหลียังคงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และเหินขึ้นฟ้า “มาสู้ได้แล้ว”
“ไม่ต้องกังวลนะน้องชาย ถ้าเจ้าตาย พี่ชายคนนี้จะเก็บศพให้เจ้าเอง” โก้วลี่เดินเข้ามา กายหยาบและความเร็วในการฟื้นฟูบาดแผลของเขาน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
“ไสหัวไป!” หลิงฮันแทบจะไล่เตะอีกฝ่าย
ร่างของเขาค่อยเหาะเหินขึ้นไปใกล้ม่อหลีบนท้องฟ้า
“กระบวนท่าแรก” ม่อหลีผลักฝ่ามือขวาเข้าใส่หลิงฮัน
แววตาของหลิงฮันส่องกระกายสู้รบ อีกฝ่ายเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าพวกเริ่นเฟยอวิ๋นและเป็นไปได้สูงมากกว่าอีกฝ่ายจะเป็นราชาระดับสาม! ราชาระดับนั้นหาตัวจับได้ยากมาก
เขากระตุ้นใช้งานรูปแบบอาคมเก้าผสานพินาศทั้งสิบเอ็ด ‘ครืน’ ทั่วร่างของเขาปลดปล่อยคลื่นพลังรุนแรงอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา
หลิงฮันลงมือตอบโต้ เขายังไม่ใช้พลังทั้งหมดโดยจู่โจมด้วยพลังเพียงสามส่วนเท่านั้น
เพียงแต่ว่าแค่สามส่วนนี้ก็น่าสะพรึงกลัวมากแล้ว
เขาปล่อยหมัดออกไป พลังทำลานอันไร้ก้นบึ้งถูกปลดปล่อยออกมาราวกับจะสามารถบดขยี้ได้ทุกสรรพสิ่ง
ทุกคนที่เห็นเช่นนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว!
ก่อนหน้านี้หลิงฮันแสดงให้เห็นเพียงกายหยาบที่ไร้เทียมทาน พลังต่อสู้ของเขาไม่นับว่าแข็งแกร่งอะไร ตอนนี้พลังต่อสู้ของหลิงฮันกลับไปเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน
มีเพียงเป่ยไคคนเดียวที่เหมือนจะรู้อยู่แล้ว ในตอนที่เขาถูกหลิงฮันโจมตีครั้งสุดท้ายเขาสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงที่ทำให้โลหิตในร่างหยุดไหลมาจากการโจมตีของหลิงฮัน แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
ใบหน้าของม่อหลียังคงนิ่งเฉยดังเดิม ที่เปลี่ยนไปมีเพียงแค่มุมปากที่กระตุกเล็กน้อย ผมสีเงินของอีกฝ่ายสยายออก วิถีดาราจักรที่อัดแน่นไปด้วยดวงดาวนับไม้ถ้วนปรากฏออกมาที่ด้านหลัง
“เหลือเชื่อ!” ใครบางคนอุทานออกมา เขาตกตะลึงจนแทบเป็นลม “จำนวนของดวงดาวในวิถีดาราจักรมีมากกว่าหนึ่งล้านดวง!”
ว่าไงนะ!
ทุกคนตกตะลึงจนพูดไม่ออก
ดวงดาราหนึ่งล้านดวงหมายถึงระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดที่พร้อมจะทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่ง แต่การจะก้าวสู่ระดับสร้างสรรพสิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จึงมีจอมยุทธที่มีพรสวรรค์ราวกับสัตว์ประหลาดบางคนสามารถควบแน่นดวงดาราในระดับวารีนิรันดร์ได้เกินกว่าหนึ่งล้านดวง
การทำเช่นนี้จะทำให้พลังต่อสู้ของพวกเขาเพิ่มขึ้น แต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์จะยังคงแข็งแกร่งเท่าเดิมเนื่องจากยังไม่บรรลุระดับสร้างสรรพสิ่ง
ที่น่าตกตะลึงก็คือม่อหลีถึงขนาดต้องเปิดเผยวิถีดาราจักรออกมาให้เห็น นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากหลิงฮันขนาดไหนจนต้องทำแบบนี้
ตูม!
การโจมตีของทั้งสองเข้าปะทะกัน ร่างของพวกเขาลอยกระเด็นถอยไปด้านหลังพร้อมกัน
ใบหน้าของม่อหลีซีดขาวเล็กน้อยในขณะที่หลิงฮันไม่รู้สึกอะไรเลย แค่กายปะทะในระดับนี้จะทำให้กายหยาบของเขาสั่นไหวได้?
หลิงฮันไม่รีรอและลงมือโจมตีต่อทันที
ครั้งนี้เขาเพิ่มพลังของรูปแบบอาคมเก้าผสานพินาศเป็นเจ็ดส่วน!
ม่อหลีกัดฟันและโจมตีปะทะ
ตูม!
ร่างของทั้งสองลอยกระเด็นอีกครั้ง ม่อหลีทรงพลังเป็นอย่างมาก อีกฝ่ายสามารถโจมตีตอบโต้ได้โดยไม่เสียเปรียบแม้แต่นิดเดียว มีเพียงใบหน้าเท่านั้นที่ซีดขาวกว่าเดิมนิดหน่อย
หลิงฮันลงมืออีกครั้ง คราวนี้เขาไม่ปกปิดอีกต่อไปและใช้พลังทั้งหมดของสิบเอ็ดรูปแบบอาคมเก้าผสานพินาศ
ตูมมมม!
การโจมตีของทั้งสองรุนแรงจนท้องฟ้าแทบจะพังทลายร่วงลงมา เสียงปะทะกันส่งผลให้เกิดเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วบริเวณ
ม่อหลีแข็งแกร่งอย่างแท้จริง อีกฝ่ายสามารถต้านทานการโจมตีเต็มพลังของรูปแบบอาคมเก้าผสานพินาศทั้งสิบเอ็ดได้! แต่เมื่อคิดอีกทีก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อีกฝ่ายควบแน่นดวงดาราได้เกินหนึ่งล้านดวง ตามทฤษฎีพลังบ่มเพาะของอีกฝ่ายก็คือระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์หรือกึ่งจ้าวอสูร!
พลังของม่อหลีเปรียบเสมือนจ้าวอสูรที่ไร้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์
ทุกคนรู้จักม่อหลีในนามของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์อันดับหนึ่ง การที่หลิงฮันต่อสู้ได้ทัดเทียมหรือแม้กระทั่งเป็นฝ่ายบุกจู่โจมม่อหลีของเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่อาจยอมรับได้
ตามจริงแล้วหลิงฮันต้องเป็นฝ่ายรับสามกระบวนท่า แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นหลิงฮันเป็นคนโจมตีสามประบวนก่อนเสียเอง
หลิงฮันลืมไปแล้วว่าจะตัดสินกันด้วยสามกระบวนท่า เขาลงมือโจมตีต่อโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
ทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงจนดวงตะวันและจันทราหม่นหมอง ราชาเช่นพวกเขาสองคนไม่มีฝ่ายใดยอมแพ้ให้กัน เพียงแต่ว่าเมื่อเวลาผ่านพ้นมาถึงอีกวันพวกเขาก็ต้องหยุดมืออย่างเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากที่ห้วงอากาศเหนือท้องฟ้าขึ้นไปได้มีพลังผันผวนอันน่าสะพรึงกลัว การปะทะกันของจ้าวอสูรได้เริ่มขึ้นแล้ว
หลิงฮันจ้องมองไปยังห้วงอวกาศ จ้าวอสูรทรงพลังยิ่งนัก ขนาดพวกเขาปะทะกันที่ดวงดาวที่ห่างไกลออกไปหลายล้านดวงก็ยังสามารถมองเห็นการต่อสู้ของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
“เจ้าชนะเดิมพัน” ม่อหลีกล่าวอย่างไร้อารมณ์ก่อนจะบอกคำพูดบางอย่างกับหลิงฮันผ่านสัมผัสสวรรค์
ใบหน้าของหลิงฮันแสดงออกถึงความรู้สึกประหลาดใจ