บทที่ 2241 ให้ฉันเป็นฮีโร่ของพี่บ้าง
เวลานี้ เนี่ยอู๋หมิงราวกับปีนขึ้นมาจากขุมนรก สองตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง ราวกับกลายเป็นดวงตาสวรรค์ กวาดมองไปทั่วทั้งรัฐอิสระได้
สำหรับเรื่องราวในปีนั้น...เขาต้องการให้จ่ายหนี้แค้นด้วยเลือด!
“กฎของรัฐอิสระ สมควรเปลี่ยนได้แล้ว” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ห้ามแต่งกับคนนอกอะไรกัน น่าขำจะตายชักจริงๆ คนรักกันชอบกัน เป็นเรื่องธรรมชาติ ใช่เรื่องที่ไอ้พวกสวะโง่เง่าอย่างพวกแกสามารถขัดขวางได้งั้นเหรอ…”
“น่าขำ!” ทันใดนั้น ผู้อาวุโสจากตระกูลเก่าแก่คนหนึ่งก็หัวเราะเยาะขึ้นมา “นับตั้งแต่รัฐอิสระก่อตั้งขึ้น ก็วางกฎเกณฑ์ไว้แต่แรกแล้ว ต้องเกรงใจแกด้วยรึไง!”
“ไม่ผิด พวกเราคือตัวแทนอำนาจสูงสุดของรัฐอิสระเขตนี้ พวกเราคือตัวแทนของราชาสวรรค์ กฎก็ต้องเป็นแบบนี้!” เจียงอิงประมุขของสายหลักเอ่ยเสียงเย็น
พอเนี่ยอู๋หมิงได้ยินก็ตกอยู่ในความเงียบ
ผ่านไปพักใหญ่ เนี่ยอู๋หมิงจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น กวาดสายตามองสายหลักและสายรองแวบหนึ่ง “พวกแกคือราชาสวรรค์งั้นเหรอ…”
ระหว่างที่พูด มุมปากของเนี่ยอู๋หมิงก็ยกขึ้นนิดๆ “ถ้างั้นฉันก็คือ…เขตต้องห้ามสำหรับราชาสวรรค์”
“อย่ามัวพูดไร้สาระกับเขาเลย ฆ่าเขาซะ!”
ตอนนี้ กลุ่มอำนาจน้อยใหญ่ในรัฐอิสระต่างก็โห่ร้องด้วยเสียงโกรธเกรี้ยว
“มาสิ พวกเรามาวัดกันดู” เนี่ยอู๋หมิงยืนอยู่ที่เดิม พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“พี่…” เสียงของเยี่ยหวันหวั่นดังขึ้นมา
เมื่อเนี่ยอู๋หมิงได้ยิน แผ่นหลังก็แข็งเกร็งเล็กน้อย ไม่มองไปทางพ่อแม่และน้องสาว ไม่หันไปมองสายตาที่ผิดหวังอย่างมากของพวกเขา
หลังจากเงียบอยู่นาน เนี่ยอู๋หมิงก็เอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าเฉยเมย “กลับไปเถอะ ถือซะว่าฉันตายไปแล้ว”
เมื่อได้ฟัง เยี่ยหวันหวั่นก็จ้องมองเนี่ยอู๋หมิงอยู่หลายวินาที ทันใดนั้น มือข้างหนึ่งก็วางลงบนไหล่ซ้ายเนี่ยอู๋หมิง “ครั้งนี้…ให้ฉันได้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ของพี่บ้างนะ”
เนี่ยอู๋หมิงยังไม่ทันได้สติกลับมา เยี่ยหวันหวั่นก็พลันร้องตะโกนเข้าไปในฝูงชนแล้ว “คนของพันธมิตรอู๋เว่ยและเดธโรสอยู่ไหม!”
“อยู่!”
พอสิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น เสียงประสานเซ็งแซ่สะเทือนหูก็แว่วดังขึ้น
“ดี” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ตอนนี้ ฉันขอประกาศในนามพันธมิตรอู๋เว่ยและเดธโรสว่า จะถอนตัวจากกลุ่มสายหลักและสายรอง วันนี้…จะสนับสนุนเนี่ยอู๋หมิงโดยไม่มีเงื่อนไข ใครกล้าแตะผมสักเส้นของเขา ฉันจะส่งมันไปสู่เส้นทางปรโลก!”
วินาทีนี้ เหล่าผู้อาวุโสและสมาชิกระดับสูงของพันธมิตรอู๋เว่ย ต่างก็พากันเดินออกมา เป่ยโต่วและชีซิงก็รีบวิ่งเข้ามาอยู่ข้างๆ เยี่ยหวันหวั่นทันที
อีกด้านหนึ่ง คนของเดธโรสก็ก้าวออกมาจากฝูงชน ทั้งหมดไปอยู่รอบๆ ตัวเยี่ยหวันหวั่น
“พวกแก! พวกแกมันวอนหาที่ตาย…”
ใบหน้าของประมุขสายหลักเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมกับตวาดด้วยเสียงเยียบเย็น
“งั้นเหรอ ก็ลองดูสิ”
ทันใดนั้น น้ำเสียงของผู้ชายที่เย็นยะเยือกเข้าไปถึงในกระดูกก็พลันดังก้องขึ้น
ชายหนุ่มที่ราวกับก้อนน้ำแข็งหมื่นปีคนนั้น ไม่รู้ว่าไปโผล่อยู่ข้างกายเยี่ยหวันหวั่นอย่างเงียบๆ ตั้งแต่ตอนไหน แววตาเฉยชา ไม่มีระลอกคลื่นเลยสักนิด
“นายแห่งอาชูร่า…”
เมื่อเห็นดังนั้น พวกสายหลักต่างก็มองหน้ากันพลางขมวดคิ้วนิดๆ
“ซือเยี่ยหาน นายทำอะไร!”
เมื่อเห็นดังนั้น ประมุขของตระกูลซือก็ตะโกนใส่ซือเยี่ยหานทันที
“ผมจะทำอะไร ต้องได้รับความเห็นชอบจากคุณด้วยรึไง” ซือเยี่ยหานตอบกลับทันควัน
“นาย…” ความหวาดหวั่นวาบผ่านในดวงตาของประมุข แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดมากอีก
“เวรแล้ว เจ้าเก้า…บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริงๆ…” เจียงหลีเฮิ่นเผยสีหน้าตกตะลึง
“กองกำลังคุกคนบาป เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด กลายเป็นศัตรูของรัฐอิสระทั้งรัฐ นี่เป็นความฝันของฉันอยู่แล้ว” เซี่ยเชียนชวนหัวเราะดังลั่นครั้งหนึ่ง แล้วเดินนำกลุ่มนักเชือดก้าวออกไป
เจียงหลีเฮิ่นมองดูคนบ้าสองคนนี้อย่างพูดไม่ออกแล้ว จากนั้นก็เดินออกไปอย่างเอ้อระเหย กวาดสายตามองสถานการณ์อย่างเด็ดเดี่ยว “อยากเล่นงั้นเหรอ ได้…พวกนายเลือกกันแล้วนี่ คุกคนบาปของพวกเรา จะเคียงบ่าเคียงไหล่กันไปจนถึงที่สุด!”
—————————————————————————————
บทที่ 2242 อยากถล่มสวรรค์ก็ไม่เป็นไร
เมื่อสังเกตเห็นสายตาของซือเยี่ยหานที่มองเข้ามา เจียงหลีเฮิ่นก็เบือนหน้าหนีพลางพ่นลมหายใจเสียงดังฮึ “ไม่ต้องซึ้งใจกับฉันนักหรอก กฎเกณฑ์เน่าๆ พวกนี้ ผู้เฒ่าอย่างฉันก็ไม่ชอบมานานแล้ว!”
เดิมทีเจียงหลีเฮิ่นก็มีนิสัยชอบก่อความวุ่นวายอยู่แล้ว นิสัยของเนี่ยอู๋หมิง ถูกจริตเขาอย่างมาก
เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่พวกเจียงหลีเฮิ่นด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็มองไปที่ซือเยี่ยหานด้วยสายตาลำบากใจ “คุณเก้า…”
ซือเยี่ยหานลูบหัวหญิงสาว พลางส่งสายตาให้เยี่ยหวันหวั่นวางใจได้ “ไม่เป็นไร”
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีกเหรอ
เจียงหลีเฮิ่นที่อยู่ด้านข้างกัดฟันกรอดเหล่มองพวกเขาแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างฟึดฟัดว่า “ต่อให้แม่คนนี้คิดจะถล่มสวรรค์ น่ากลัวว่านายก็คงคอยยื่นไม้พลองส่งให้จากข้างล่างอยู่ดี!”
“ใครมันกล้าแตะต้องลูกชายหญิงของฉัน!”
หลังจากสถานการณ์เงียบงันอยู่พักหนึ่ง จู่ๆ หัวหน้าตระกูลและนายหญิงตระกูลเนี่ยก็เปล่งเสียงออกมาพร้อมกัน สาวเท้าก้าวเข้าไปอยู่ข้างๆ เนี่ยอู๋หมิง
พอได้ยินเสียงของพ่อกับแม่ ม่านตาของเนี่ยอู๋หมิงพลันหดตัวเล็กน้อย
“อู๋หมิง…” หัวหน้าตระกูลเนี่ยมองไปที่เนี่ยอู๋หมิง ถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น “ตอนนั้นพ่อไม่เห็นด้วยกับเรื่องของลูกและหลิงเหมี่ยวจริงๆ เรื่องนี้ไม่โทษลูกหรอก พ่อเห็นแก่ตัวเอง นึกถึงตระกูลเนี่ยอย่างเดียว…พ่อทำผิดต่อลูก!”
พอหัวหน้าตระกูลเนี่ยพูดจนจบ ร่างของเนี่ยอู๋หมิงก็สั่นไหวนิดๆ
ปีนั้น เป็นเพราะหัวหน้าตระกูลเนี่ยห่วงชื่อเสียงตระกูลเนี่ย จึงยืนกรานไม่ให้เขาไปมาหาสู่กับหลิงเหมี่ยวที่เป็นผู้นำของเดธโรส สุดท้ายจึงก่อให้เกิดเรื่องที่ทำให้เนี่ยอู๋หมิงต้องเสียใจไปทั้งชีวิต
“ลูกแม่…เป็นความผิดของแม่ด้วย…” นายหญิงเนี่ยมองเนี่ยอู๋หมิง ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ
แม้ว่าย่ารองจะเป็นญาติห่างๆ ของผู้นำตระกูลหลิง แต่นั่นเป็นเรื่องเมื่อหลายชั่วอายุคนแล้ว ไม่มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือดมาตั้งนานแล้ว อีกอย่าง อายุของหลิงเหมี่ยวก็พอๆ กันกับเนี่ยอู๋หมิง…
แต่ในช่วงเวลานั้น เป็นเพราะเนี่ยอู๋หมิงเรียกหลิงเหมี่ยวว่าอาหญิงเป็นการกำหนดความสัมพันธ์ของคนทั้งสองไว้อย่างเด็ดขาดแล้ว นายหญิงเนี่ยถึงขั้นที่ไม่ให้หลิงเหมี่ยวได้ย่างเท้าผ่านประตูใหญ่บ้านตระกูลเนี่ยเลยแม้แต่ครึ่งก้าว…
ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว พวกเขาในตอนนั้น ทำผิดจริงๆ…
ถ้าพวกเขามีเหตุผลมากกว่าสักหน่อย บางที เนี่ยอู๋หมิงคงไม่ต้องเสียใจไปชั่วชีวิต จนตกอยู่ในความอาฆาตแค้น!
เนี่ยอู๋หมิงมองหัวหน้าตระกูลและนายหญิงตระกูลเนี่ย เผยอปากนิดๆ คล้ายอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา
“ให้ฉันดูสิว่าใครมันจะกล้าแตะต้องหลานชายกับหลานสาวของฉัน!”
เวลานี้เอง หัวหน้าตระกูลหลิงที่เงียบมาโดยตลอด จู่ๆ ก็ลุกออกมาแล้ว
“พ่อ…”
หัวหน้าตระกูลเนี่ยมองไปที่หัวหน้าตระกูลหลิง แล้วเอ่ยเรียกตามสัญชาตญาณ
“ใครพ่อแก หัวหน้าตระกูลเนี่ยแซ่เนี่ย ผู้เฒ่าแซ่หลิง อย่าทักส่งเดชเลยดีกว่า ฉันทำเพื่อหลานชายหลานสาวของฉันเท่านั้น” หัวหน้าตระกูลหลิงปรายตามองหัวหน้าตระกูลเนี่ยแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเย็น
“พวกเราสนับสนุนตระกูลเนี่ย”
จากนั้น ชาวตระกูลจี้ก็ก้าวออกมาเช่นกัน
“เวรเอ้ย ฉันเป็นตัวแทนตระกูลเสิ่นของพวกเรา สนับสนุนเนี่ยอู๋โยว สนับสนุนเทพธิดาของฉัน เทพธิดาฉันรักเธอ!”
คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นราวกับสุนัขป่าที่เริงร่า ทำท่าจะวิ่งเข้าไปทางเยี่ยหวันหวั่น
ทว่า กลับถูกสายตาที่เยือกเย็นเข้าไปถึงกระดูกสายหนึ่งทำให้ผวาจนต้องถอยกรูดไปหลายก้าว
“อย่ามาอวดดีต่อหน้าฉัน!”
หัวหน้าตระกูลเสิ่นถลึงตาใส่เสิ่นเทียนเฉินอย่างดุดันแวบหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ยกับทุกคนว่า “ฮ่าๆ…สี่ตระกูลใหญ่เดิมทีก็เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอยู่แล้ว…รวมทั้งตระกูลเนี่ยก็เป็นผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่ พวกเราตระกูลเสิ่นไม่มีทางขัดแย้งกับอีกสามตระกูลที่เหลืออยู่แล้ว…เช่นเดียวกัน สายรองทุกท่าน พวกเราสายรองเป็นแค่คนทำการค้า ถ้าทุกท่านต้องการอะไรก็บอกกล่าวมา ถ้าช่วยได้ พวกเราจะช่วยแน่นอน…แต่เรื่องออกกำลังคน พวกเราไม่มีคนให้หรอก ”
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กลับไม่มีใครใส่ใจคำพูดของตระกูลเสิ่นเลย
กลุ่มอำนาจทั้งหมดมองไปทางพวกเนี่ยอู๋หมิงและเยี่ยหวันหวั่น
ในเวลานี้เอง ห่างออกไปไกลลิบ ซือเซี่ยกำลังถือกล้องส่องทางไกล มองเห็นทุกความเคลื่อนไหว ด้วยใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้มชั่วร้าย “น่าสนใจจริงๆ…ยังไงก็ตาม ยังมีเรื่องที่น่าสนุกกว่านี้รออยู่…พวกเรามารอดูกัน”
—————————————————————————————