บทที่ 2239 เป้าหมายที่แท้จริง
เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองเนี่ยอู๋หมิงที่อยู่ใกล้แค่คืบ หลังจากเงียบอยู่นาน ถึงได้เปิดปากพูด “จริงๆ แล้ว ที่จี้ซิวหร่านสะกดจิตพี่ไว้คงเสื่อมผลไปนานแล้วใช่ไหม”
เนี่ยอู๋หมิงพยักหน้า “ถึงแม้การสะกดจิตจะร้ายกาจ แต่คงอยู่ไม่นานเท่าไรจริงๆ มีผลอยู่ประมาณครึ่งปีเท่านั้น”
“ดังนั้น ช่วงที่ไปตามหาฉันที่จีนตอนนั้น ก็ไม่ได้ตกอยู่ภาวะถูกสะกดจิตแต่แรกแล้วใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างใช้ความคิด
เมื่อได้ฟัง เนี่ยอู๋หมิงก็ยิ้มน้อยๆ ตอบว่า “ใช่แล้ว เพียงแต่ ตอนแรกที่เจอแกในจีน แค่รู้สึกว่าแกค่อนข้างเหมือนอู๋โยวเท่านั้น แต่ยังจำไม่ได้จริงๆ”
“ถ้างั้น พี่ไปตามหาฉันที่จีน เพื่ออะไรกันแน่” เยี่ยหวันหวั่นถาม
“ไปหาแกก็คือไปหาแก ไม่มีเหตุผลมากขนาดนั้นหรอก และแน่นอน เพื่อเอาแหวนคืนด้วย” เนี่ยอู๋หมิงตอบไปตามจริง
เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้โต้แย้งอะไร แหวนวงนั้นที่สวมอยู่บนมือของเนี่ยอู๋หมิง ถึงจะเป็นของที่เขาทำขึ้นเอง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเดธโรส แต่สำหรับเนี่ยอู๋หมิง มันเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างมหาศาล
แหวนวงนี้ เป็นตัวแทนความรักของเขากับหลิงเหมี่ยว
เยี่ยหวันหวั่นเชื่อว่า ต่อให้ตัวเองเอาแหวนวงนี้ ไปแลกกับวงนั้นของเนี่ยอู๋หมิง เขาก็คงไม่ยอมแน่
“’งั้น…ทำไมพี่ถึงให้สายหลักไปชิงแหวนอีกวงล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นถามพลางมองเนี่ยอู๋หมิง
“ง่ายมาก” เนี่ยอู๋หมิงหัวเราะนิดๆ แล้วเอ่ยตอบ “ถ้าแหวนวงนั้นอยู่ในมือฉัน…ฉันจะสามารถใช้พลังอำนาจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ามาถล่มรัฐอิสระได้ง่ายๆ ไงล่ะ”
“แล้ว ทำไมตอนหลังพี่ถึงเปลี่ยนใจล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นถามต่อไป
พอได้ยินคำถามนี้ของเยี่ยหวันหวั่น เนี่ยอู๋หมิงก็เงียบไป
“ช่วยไม่ได้นี่” ผ่านไปพักใหญ่ เนี่ยอู๋หมิงถึงได้ส่ายหน้าแล้วเอ่ยออกมา “ถึงตายแกก็ไม่ยอมเอาออกมา หรือจะให้ฉันฆ่าแกเพื่อแหวนวงนั้นจริงๆ รึไง”
“ฉันเข้าใจแล้ว…” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้านิดๆ
ดูเหมือนว่าตอนนี้ความจริงจะชัดเจนมากแล้ว
ปีนั้น หลังจากหลิงเหมี่ยวตาย เนี่ยอู๋หมิงตกอยู่ในภาวะคุ้มคลั่ง ต้องการล้างแค้นให้หลิงเหมี่ยว ทำลายล้างกองกำลังทั้งหมดที่มีส่วนร่วมในการปิดล้อมหลิงเหมี่ยว
และกองกำลังเหล่านี้ ครอบคลุมแทบทั้งรัฐอิสระแล้ว
เดิมที เนี่ยอู๋หมิงไปหาจี้ซิวหร่าน เพราะต้องการให้จี้ซิวหร่านให้การสนับสนุนเขา แต่จี้ซิวหร่านกลับหักใจไม่ลง และไม่อยากเห็นเนี่ยอู๋หมิงเป็นทุกข์แบบนี้ จึงใช้วิชาสะกดจิต ทำให้เนี่ยอู๋หมิงหลงลืมความทรงจำในส่วนนี้ และปรับเปลี่ยนนิสัยของเนี่ยอู๋หมิงให้กลายเป็นคนรักเงินยิ่งชีพ เป็นพ่อค้าที่ชอบหาเงินเท่านั้น
พอเป็นแบบนี้ เนี่ยอู๋หมิงจึงวิ่งวุ่นอยู่ทุกวัน ยุ่งง่วนกับการหาเงิน ไม่ได้หยุดนิ่ง สำหรับเนี่ยอู๋หมิงแล้ว น่าจะนับได้ว่าเป็นเรื่องดี
ทว่า จี้ซิวหร่านกลับไม่คิดเลยว่า พลังจิตของเนี่ยอู๋หมิง จะแข็งแกร่งเกินไปแล้วจริงๆ เพียงแค่ครึ่งปีวิชาสะกดจิตของจี้ซิวหร่านก็เสื่อมประสิทธิภาพแล้ว
เมื่อเนี่ยอู๋หมิงจำทุกอย่างได้ เขาก็ใช้ตัวตนของชายชุดดำ กลายเป็นกุนซือของสายหลัก เพื่อที่จะช่วยให้สายหลักได้ปกครองรัฐอิสระอีกครั้ง
แต่สุดท้ายแล้วเป็นยังไง ตอนนี้ก็เห็นกันชัดเจนแล้ว
ปีนั้น ทางด้านสายหลักก็มีส่วนรวมในการปิดล้อมหลิงเหมี่ยวเช่นกัน
เหตุผลที่เนี่ยอู๋หมิงยอมช่วยเหลือสายหลัก เพราะคิดจะยั่วยุให้เกิดศึกใหญ่ระหว่างสายหลักและสายรอง
เนี่ยอู๋หมิงรู้ดีแก่ใจว่า เมื่อสายหลักและสายรองเปิดศึกกัน กลุ่มอำนาจน้อยใหญ่ในรัฐอิสระต่างก็ไม่อาจลอยตัวอยู่เหนือเรื่องราวได้ ทั้งหมดจะต้องเข้าร่วมอย่างแน่นอน
แต่เป้าหมายที่แท้จริงของเนี่ยอู๋หมิง คือคิดจะทำให้สายหลักและสายรองฆ่ากันเอง ลงหลุมไปด้วยกัน รวมถึงกลุ่มอำนาจน้อยใหญ่ที่สนับสนุนสายหลักและสายรองด้วย
พอคิดมาถึงจุดนี้ หน้าผากของเยี่ยหวันหวั่นก็มีหยาดเหงื่อเย็นเฉียบผุดพรายอย่างไม่อาจควบคุมได้
—————————————————————————————
บทที่ 2240 เคยรุ่งโรจน์บนจุดสูงสุด
แผนการของเนี่ยอู๋หมิง เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ อีกทั้งโหดเหี้ยมมาก
ในวันปกติ เนี่ยอู๋หมิงแสร้งเป็นตัวหิวเงินอยู่ตลอด แต่ความจริงแล้ว นี่เป็นการแสดง และได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ทั่วทั้งรัฐอิสระ ไม่มีใครให้ความสนใจทายาทรุ่นที่สองคนนี้ แม้ว่าในอดีตเขาจะเคยรุ่งโรจน์อยู่บนจุดสูงสุด แต่ทุกคนใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น
ถึงขั้นที่ว่า สุดท้ายเนี่ยอู๋หมิงใช้แผนแกล้งตาย บดฟ้าบังสมุทร ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ศึกใหญ่ระหว่างสายหลักและสายรองฉากนี้ ทั้งหมดจะเป็นแผนการของเนี่ยอู๋หมิง
“เนี่ยหลิงหลงรู้ตัวตนของพี่ไหม…” ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นก็เอ่ยถามอีกครั้ง
เนี่ยอู๋หมิงร้องเฮอะเบาๆ แล้วส่ายหน้าพลางตอบว่า “ยัยนั่นจะรู้ได้ยังไง เนี่ยหลิง…ก็แค่หมากตัวหนึ่งของฉัน อันที่จริง…ตอนแรกฉันคิดจะปล่อยให้ยัยนั่นเข้าควบคุมตระกูลเนี่ยก่อน จากนั้นค่อยร่วมมือกับกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ ทำลายล้างสี่ตระกูลใหญ่ และสุดท้ายก็ทำให้สี่ตระกูลใหญ่กลายเป็นไพ่ตายในมือฉัน ให้ฉันใช้เอาตัวรอด แต่เสียดายที่เนี่ยหลิงหลงโง่เกินไป”
“เพราะงั้น…พี่เลยไม่ได้ครอบครองสี่ตระกูลใหญ่ สุดท้ายก็ทำได้แค่ใช้แผนแกล้งตายมาปกปิด หลบหนีจากการตรวจสอบของสภาตุลาการ…” เยี่ยหวันหวั่นวิเคราะห์ต่อไป
เมื่อได้ฟัง เนี่ยอู๋หมิงก็เอ่ยยิ้มๆ “ใช่แล้ว…ฉันแกล้งตายเพราะคิดจะตบตาสภาตุลาการจริงๆ แต่ไม่ใช่เพราะกลัวสภาตุลาการจะตรวจสอบ แต่มันเกี่ยวข้องกับแผนการต่อไปของฉัน ถ้าแผนการครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ฉันจะจัดการสภาตุลาการ พวกเขาต้องคิดไม่ถึงแน่ว่าคนตายคนหนึ่ง…จะลอบชักใยเล่นพวกเขาอยู่เบื้องหลัง”
เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิง มุ่นคิ้วนิดๆ เป็นเพราะตัวเองที่เปิดโปงฐานะของเนี่ยอู๋หมิง
ถ้าเธอมีโอกาสอีกครั้ง เธอจะไม่ทำแบบนี้
สำหรับเรื่องที่เนี่ยอู๋หมิงสามารถวางแผนการใหญ่โตขนาดนี้ได้ เยี่ยหวันหวั่นไม่ประหลาดใจเท่าไร ความรักระหว่างเนี่ยอู๋หมิงกับหลิงเหมี่ยว ใจเธอรู้ดี
ตอนแรก หลังจากถูกจี้ซิวหร่านสะกดจิต เนี่ยอู๋หมิงไม่รู้ความเป็นมาแหวนวงนั้นของเขา รู้สึกว่าไม่เข้าตา ดังนั้นจึงโยนทิ้งไว้ที่บ้านตระกูลเนี่ย
ประจวบเหมาะกับที่เยี่ยหวันหวั่นพาพันธมิตรอู๋เว่ยไปยกเค้าบ้านตระกูลเนี่ยรอบหนึ่ง แต่ที่บังเอิญยิ่งกว่าก็คือ แหวนที่เนี่ยอู๋หมิงโยนทิ้งไว้ในบ้านตระกูลเนี่ย ได้ถูกเยี่ยหวันหวั่นขโมยไปด้วย
ดังนั้น หลายปีมานี้ เนี่ยอู๋หมิงจึงไม่ได้ตามหาแค่เธอ แต่ตามหาแหวนคู่รักวงนั้นของเขาที่เป็นตัวแทนความรักระหว่างเขาและหลิงเหมี่ยวด้วย
“พี่…ฉันขอถามพี่อีกอย่างสิ…คุณตา เป็น…ฝีมือพี่ใช่ไหม”
เยี่ยหวันหวั่นเดินไปหยุดข้างกายเนี่ยอู๋หมิง แล้วเอ่ยเสียงเบา นี่เป็นบทสนทนาส่วนตัวของเธอกับเนี่ยอู๋หมิง จะให้คนอื่นได้ยินไม่ได้
“ใช่หรือไม่ใช่ มาถึงตอนนี้แล้ว สำคัญด้วยเหรอ” เนี่ยอู๋หมิงตอบอย่างคลุมเครือเพียงประโยคเดียว
“ได้ พี่ไม่ต้องพูดแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันอ้าปากพูดต่อ หัวหน้าตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งของสายรองก็กล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวว่า “ประมุขเจียง เรื่องระหว่างพวกเราสายหลักสายรอง ทิ้งไว้ก่อนชั่วคราวเถอะ วันนี้มากำจัดไอ้เดรัจฉานน้อยคนนี้กันก่อน เขาคิดจะทำให้กลุ่มอำนาจน้อยใหญ่ในรัฐอิสระพินาศย่อยยับไปพร้อมกัน ส่วนตัวเองก็รอเก็บเกี่ยวประโยชน์!”
พอสิ้นเสียงของหัวหน้าตระกูลเก่าแก่จากสายรองคนนั้น ประมุขสายหลักก็หรี่สองตาลง หัวเราะเสียงเย็น “ได้ ฉันก็มีความคิดแบบนี้ ไม่ว่ายังไง สายหลักและสายรองก็มีรากเหง้าเดียวกัน ต่อให้แตกแยกชิงดีกัน ก็ไม่ยอมให้ถูกคนนอกหลอกใช้ประโยชน์!”
ไม่นาน กลุ่มอำนาจน้อยใหญ่ที่สนับสนุนสายหลักและสายรอง ต่างก็พากันมองไปที่เนี่ยอู๋หมิงด้วยสายตาเยียบเย็น แววตาแข็งกร้าว
“ฮ่า…อาศัยแค่พวกกระจอกกลุ่มหนึ่งอย่างพวกแก ก็คิดจะมาเอาชีวิตคนอย่างฉันแล้วงั้นเหรอ” เนี่ยอู๋หมิงยกมุมปากขึ้นนิดๆ พลางกวาดสายตามองทุกคน ต่อให้ตอนนี้จะกลายเป็นศัตรูของทั้งรัฐอิสระไปแล้ว ก็ยังไม่มีความหวั่นเกรงใดๆ
————————————————————————————–