บทที่ 985 ออกเดินทาง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 985 ออกเดินทาง

สุดท้ายแสงดาวก็กด “ตี๊ด” ตัดสาย

ไม่มีใครรู้ว่าเธอคิดยังไง

แต่ก่อนที่คณาธิปจะวางโทรศัพท์แล้วเข้านอนก็ส่งข้อความไปว่า “แจ้งจารุณี สามารถจัดการนัดคนคนนั้นมาเจอได้แล้ว”

“…”

วันต่อมา

ณ เดอะวิวซี เมืองหลวง ครอบครัวของเส้นหมี่ตื่นแต่เช้า ทานอาหารเช้า เก็บของแล้วเตรียมจะออกเดินทาง

“คุณผู้หญิงคะ คุณจะกลับมาอีกเมื่อไร?”

“ใช่ค่ะคุณผู้หญิง พวกคุณไม่อยู่ที่นี่คงหนาวเย็นแย่ คุณท่านอยู่ที่นี่คนเดียว พวกคุณไม่รู้หรอกว่ามันเหงาแค่ไหน”

“…”

หลังจากคนใช้ในห้องโถงเห็นทั้งครอบครัวเก็บกระเป๋าเดินทางมารวมกันเสร็จแต่เช้า ต่างก็แสดงสีหน้าเสียใจอาลัยอาวรณ์ ไม่อยากให้พวกเขาไป

คนใช้เหล่านี้ไม่เหมือนกับที่เคยอยู่หิรัญชากรุ๊ป ตั้งแต่ที่เส้นหมี่มา พวกเธอก็ดูแลเธออย่างดี อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

เส้นหมี่เห็นท่าทางเสียใจของพวกเขาก็ทนไม่ได้

“ก็ต้องกลับมาแน่นอนอยู่แล้ว ที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกเรานี่ พวกเธอไม่ต้องห่วง ถ้าหากมีเวลาพวกเราจะมาแน่นอน”

เธอปลอบพวกเธอ

แน่นอนว่าที่มากกว่านั้นคือเธอตั้งใจพูดให้คุณท่านที่ตื่นมาด้วยตั้งแต่เช้าแต่ตอนนี้นั่งอารมณ์เสียอยู่บนโซฟาฟัง

แสนรักก็อุ้มลูกสาวลงมาแล้ว

“เสร็จแล้วเหรอ?”

“เสร็จแล้ว” เส้นหมี่รีบพยักหน้า ชี้ไปที่ทางกระเป๋าเดินทางที่เริ่มย้ายออกไปแล้วและเด็กชายทั้งสอง

สำหรับการกลับเมืองA คิวคิวและชินจังก็ดีใจมาก เพราะที่นั่นเป็นที่ที่พวกเขาโตมา ต่อให้คิวคิวก็ไม่ใช่ แต่เขาก็อาลัยอาวรณ์ต่อสถานที่ที่แด๊ดดี้กับพี่ชายอยู่

สีหน้าของคุณท่านที่นั่งอยู่ในห้องโถงดูบึ้งตึงกว่าเดิม

แต่ในตอนนั้นเองพอแสนรักเห็นว่ากระเป๋าเดินทางถูกย้ายไปแล้วก็อุ้มลูกสาวออกไป

เขานี่ช่างจริงๆเลย…

เส้นหมี่ที่คอยสังเกตคุณท่านที่อยู่ในห้องโถงมาโดยตลอดจึงทำได้เพียงไปดึงเขาไว้

“พี่ พี่จะไปโดยไม่ลาคุณท่านสักคำเหรอคะ?”

“…”

เอ่ยเตือนไปหนึ่งประโยค

ในที่สุดชายหนุ่มก็หยุดแล้วเหลือบตามองตาแก่อย่างเรียบเฉย

จากนั้นไม่กี่นาทีหลังจากที่เส้นหมี่พาลูกสาวและหิ้วกระเป๋าสองใบออกไป ในที่สุดแสนรักก็เดินไปตรงหน้าไชยันต์

“อะไรที่ต้องพูด ผมก็บอกคุณอย่างชัดเจนแล้ว เพียงแค่คุณทำตามที่ผมพูดก็สามารถรับรองได้ว่าตระกูลเทวเทพจะไม่เป็นอะไรแน่นอน คุณไม่ต้องทำหน้าทุกข์ใจขนาดนั้น”

คิดไม่ถึงเลยว่าไอ้หลานเวรคนนี้ไม่ได้มาเพื่อบอกลาไชยันต์

แต่ทำท่าทีราวกับตัวเองเป็นหัวหน้าใหญ่ในบ้านนี้มองเขาจากข้างบนแล้วพูดออกมาอย่างรำคาญ

พอไชยันต์ได้ฟังก็ระเบิดทันที!

“แกบอกอะไร? แค่บอกฉันไม่ต้องไปยุ่งกับการเลือกผู้นำคนใหม่ที่ไวท์ พาเลซ? ไม่ต้องผลักพี่ชายแกให้เข้าไวท์ พาเลซ? แกคิดว่าแกเป็นใคร? ถึงได้กล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับฉัน”

“…”

ความอดทนอันน้อยนิดสุดท้ายค่อยๆหมดไป

แสนรักหมุนตัวเดินจากไป

ไชยันต์โกรธจนตัวสั่น!

แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้แสดงออกอะไรอีก เพียงแค่หลังจากกำไม้เท้าจ้องแผ่นหลังเขาเขม็งก็หันหน้ากลับมามองที่อื่นอย่างแรง

ต่อให้ในตาเริ่มแดงก่ำ

หรือต่อให้ใบหน้าเขาแสดงความเศร้าออกมา เขาก็ไม่พูดอะไรอีก

“คุณคิดจะเอายังไงต่อกันแน่?”

จู่ๆชายหนุ่มที่จะเดินจากไปก็หยุดฝีเท้า

ไชยันต์หันขวับกลับมา หลังจากเห็นว่าไอ้หลานเวรคนนี้หันกลับมาจริงๆ ตอนนี้ใบหน้าสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าที่มองดูเขา ในใจก็รู้สึกดีใจ อารมณ์เหล่านั้นก็พลันหายไปทันที

“ยังไงแกก็เป็นหลานชายฉัน”

“จากนั้นล่ะ?”

“แกจะกลับเมืองAก็ได้ แต่ความรับผิดชอบของตระกูลเทวเทพที่แกต้องรับผิดชอบก็ยังคงต้องรับผิดชอบ อีกอย่าง ถ้าไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรพิเศษ ทางที่สุกก็ควรกลับมาอย่างน้อยเดือนละครั้ง แกดูแลทรัพย์สมบัติของทั้งตระกูลเทวเทพ ฉันต้องการรู้สภาพการณ์ว่าเป็นยังไง? เดอะวิวซีต้องการคนส่งข่าว”

สุดท้ายไชยันต์ก็บอกเงื่อนไขของตัวเอง

เขาพูดออกมาอย่างแข็งกระด้าง ห้วนๆราวกับกำลังออกคำสั่งแสนรัก

หลังจากพูดจบเขานึกว่าเด็กเวรคนนี้จะขัดขืนเขา ยังไงซะเขาก็ไม่ใช่คนที่นิสัยดีอะไร

แต่ที่แปลกคือครั้งนี้พอเขาฟังจบกลับไม่ได้แสดงหน้าบึ้งตึง

“เรื่องเล็กๆแค่นี้ยังต้องกลับมาเดือนละครั้ง? ผมไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้วเหรอ?”

“แต่ว่า…”

“โอเค ถ้าหากคุณอยากดูก็ไปดูเองได้ เดี๋ยวออกค่าตั๋วเครื่องบินให้!”

ชายหนุ่มทิ้งท้ายประโยคแล้วหมุนตัวเดินจากไป

ทำเอาไชยันต์โกรธจนหายใจไม่ทัน…

ไม่สิ เหมือนว่าเขาจะแย้งแค่เรื่องที่เขาต้องการให้เขากลับมาเดือนละครั้ง ส่วนที่เขาให้เขารับผิดชอบหน้าที่ของตระกูลเทวเทพ เรื่องที่ให้เป็นคนดูแลทรัพย์สมบัติตระกูลเทวเทพต่อ เขาไม่ได้เอ่ยถึง

งั้นก็หมายความว่า เขาไม่ได้คิดจะทิ้งเรื่องนี้ตั้งแต่แรก?

แต่เอาไปที่เมืองAด้วย?

ทันใดนั้นตาแก่ก็สบายใจ

พอขบคิดถึงประโยคสุดท้ายที่ไอ้เด็กบ้านี่พูดว่าให้เขาไปหาเขาได้เลย ในใจก็รู้สึกอิ่มเอม

จริงๆสิ่งที่เขาต้องการก็คือสิ่งนี้!