เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1581

หลังผ่านไปสามวัน

ลู่ฝานนั่งอยู่บนหอที่เมืองในเมฆ กลั่นยาพลางคุยกับหลิงเหยาในห้าธาตุสรวงสวรรค์

“จริงหรือเปล่า ผู้อาวุโสห้าให้สวนยาวิเศษเราสิบแห่งเลยเหรอ แน่ใจเหรอว่าให้เราดูแลทั้งหมด”

ลู่ฝานถามอย่างไม่อยากเชื่อ

หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “จริงสิ นายดูสิ ฉันใส่ชุดคลุมสีทองแล้ว เขาบอกว่าฉันเป็นนักบู๊คนแรกในตระกูลหั่วที่ใส่ชุดคลุมสีทอง ลู่ฝาน นี่เป็นความดีความชอบของนายเลยนะ!”

หลิงเหยาพูดแล้วหมุนตัวรอบหนึ่ง ให้ลู่ฝานเห็นชัดๆ

พูดตามตรงว่าหลิงเหยาเหมาะกับชุดคลุมสีทองมาก มีทรวดทรงองค์เอว เผยให้เห็นรูปร่างดีของเธอ ลู่ฝานเห็นแล้วร่างกายเร่าร้อนเล็กน้อย

ชะงักไปครู่หนึ่งลู่ฝานพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ รวบรวมสมุนไพรที่ควรเก็บไว้ก่อนเถอะ ไม่ว่ายังไงเอาผลประโยชน์ไว้ก่อนก็ไม่ผิด ทางฉันก็ได้เยอะเหมือนกัน ยังกลั่นยาออกมาหนึ่งเม็ดด้วย ดูว่ามีวิธีส่งให้เธอหรือเปล่า”

หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “นายหมายถึงยาเซียนร้อยเทพที่นายกลั่นเหรอ ไม่ต้องรีบหรอก เก็บยาไว้ให้ดีมันไม่หนีไปไหนหรอก นายค่อยให้ฉันตอนเราออกไปก็ยังทัน อีกทั้งนายเก็บยาเม็ดนี้ไว้ก่อน ไม่แน่มันอาจช่วยชีวิตนายก็ได้”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “โอเค งั้นฉันเก็บไว้ก่อน นี่ถ้าอยู่ประเทศอู่อานฉันคงไม่มีโอกาสกลั่นยาแบบนี้ตลอดชีวิต”

หลิงเหยาพูดว่า “ดังนั้นนายอยู่ประเทศตันเซิ่งก็กลั่นยาเยอะๆ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม รอนายกลับไป ไม่แน่อาจเอาให้คนในครอบครัวด้วย ลู่ฝาน นายบอกว่าจะพาฉันแวะไปตระกูลลู่ นายห้ามลืมนะ!”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ตระกูลลู่เหรอ ใช่สิ ฉันก็ไม่ได้กลับไปนานมากแล้ว อืม ฉันพาเธอกลับไปแน่นอน”

หลิงเหยายิ้มกว้าง โบกมือไปมาแล้วพูดว่า นี้ฉันเจอคนฝีมือดีสองคนที่พึ่งพาอาศัยได้ หลังจากนายกลับมาจะเห็นว่าลูกน้องนายมีคนที่สามารถช่วยนายได้เป็นกลุ่มเลยล่ะ!”

ลู่ฝานพยักหน้า สะบัดมือเตรียมเก็บห้าธาตุสรวงสวรรค์ จู่ๆ เขาคิดอะไรขึ้นได้จึงถามว่า “หลิงเหยา เธอไม่ถามเรื่องของฉันกับสุ่ยโม่หรานเหรอ”

หลิงเหยาหัวเราะเบาๆ “มีตรงไหนจำเป็นต้องถามล่ะ”

ลู่ฝานมองหลิงเหยา จู่ๆ เขาหัวเราะออกมา

“ไม่มี ไม่มีตรงไหนที่เธอต้องถาม”

หลิงเหยาพูดว่า “งั้นก็โอเค นายไปทำงานเถอะ ระวังตัวตอนประลองวิชาด้วย อย่าให้คนชั่วเล่นงาน!”

“เข้าใจแล้ว!”

ลู่ฝานพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น

เมื่อพูดจบ เขาสะบัดมือเบาๆ เก็บห้าธาตุสรวงสวรรค์แล้วเดินลงจากหอ

ด้านล่าง หั่วหลงชิ่งกับหั่วหลงจู้กำลังเก็บตัวก่อนการประลองวิชา ประตูห้องทั้งสองคนปิดสนิท

หั่วตันซูก็ไม่รู้ไปทำอะไรที่ไหน

ผู้อาวุโสสามนั่งจิบชาอยู่หน้าประตูคนเดียว เหม่อมองเมฆด้านนอก มีความสุขและพึงพอใจมาก

ลู่ฝานเดินเข้าไป มองผู้อาวุโสสามด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสสามอารมณ์สุนทรีย์จริงๆ!”

ผู้อาวุโสสามเห็นลู่ฝานเดินเข้ามา ก็กวักมือแล้วพูดว่า “ลู่ฝานมานั่งสิ มาชิมชาที่ฉันปลูกเอง เป็นชาชั้นยอดในบรรดาชา เหมือนวิชายาของนายเลย!”

ลู่ฝานนั่งด้านหน้าผู้อาวุโสสามแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “งั้นฉันต้องชิมอย่างดีแล้วล่ะ”

ลู่ฝานรับแก้วชาแล้วจิบเล็กน้อย

ผู้อาวุโสสามหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “เป็นไง ไม่เลวใช่ไหม!”

ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ อันที่จริงเขาไม่รู้รสชาติอะไรเลย

ลู่ฝานขมวดคิ้วมองผู้อาวุโสสาม “ก็พอได้นะ”

ผู้อาวุโสสามหัวเราะร่า “อันที่จริงนายไม่รู้รสชาติอะไรเลยใช่ไหม ไม่ต้องมาเสแสร้งหรอก”