ตอนที่ 1071: ไปเมืองทหารรับจ้าง
พระอาทิตย์สีแดงเลือดอยู่ใกล้ใกล้ที่เส้นขอบฟ้า เจี้ยนเฉินยืนตรงเหมือนดาบที่จุดสูงสุดของยอดแนวภูเขาในชุดขาว เขาจ้องไปที่เมฆสีแดงเหมือนกำลังเคลิบเคลิ้มโดยไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย ทะเลเมฆสีขาวลอยอยู่เบื้องล่างของเขา
ที่ที่เขายืนอยู่เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของแนวภูเขาซึ่งเป็นที่ที่ตระกูลหวงตั้งอยู่ ภูเขาสูงชันและอันตราย
ลมแรงพัดเขาสูงขึ้นไปในอากาศ เสียงคำรามของสัตว์อสูรดังมาจากป่าแต่ไกล เสียงของพวกมันเหมือนเสียงร้องที่น่ากลัวของภูตผีซึ่งกลมกลืนไปกับสายลม
ร่างสีขาวพุ่งผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็วแต่ไกลและมาถึงที่ยอดของภูเขาที่เจี้ยนเฉินยืนอยู่ หลังจากนั้น นางก็เดินมาที่ข้าง ๆ เขาและจับแขนของเจี้ยนเฉินเอาไว้อย่างนุ่มนวล นางเอาหัวของนางซบไปที่ไหล่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสุขและความพอใจ
นางคือหวงหลวน หวงหลวนแต่งกายน่ารักเป็นพิเศษในวันนี้ นางแต่งหน้าเพื่อเพิ่มความงดงามของนาง ตาของนางสดใสและดูเหมือนมีเสน่ห์อย่างมหัศจรรย์ มันน่ามองมาก ผมมันดำของนางตกลงมาประบ่าของนางเหมือนน้ำตก นางตั้งใจใส่ชุดสีขาวที่ดูหรูหราในวันนี้ นางจึงดูเหมือนเทพธิดา นางยืนอยู่ข้างเจี้ยนเฉินที่อยู่ในชุดขาวเหมือนกัน ทั้งคู่มีกลิ่นอายที่เหมือนคู่อมตะ
หวงหลวนซบไปใกล้สาบเสื้อของเจี้ยนเฉิน นางดูพระอาทิตย์ตกกับเจี้ยนเฉินไปด้วยความสุขและความยินดี ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ในขณะที่พระอาทิตย์สีแดงเลือดค่อย ๆ ลับตาไป ความมืดก็ค่อย ๆ กล้ำกลายเข้ามา ในขณะที่โลกกำลังจะถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ลมแรงก็พัดมาแต่ไกลและร่างหนึ่งก็พุ่งมาเหมือนดาวหาง เขาพุ่งมาที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วดุจสายฟ้า และมาถึงในไม่กี่วินาทีต่อมา
“น้องรักของข้า เจ้าเรียกข้ามาที่นี่ทำไมงั้นหรือ ? ” หวงเทียนป้าหัวเราะคิกคักพร้อมยิ้ม เขาเรียกเจี้ยนเฉินว่าน้องรักแทนที่จะเรียกว่าน้องเฉยเฉยอย่างที่ผ่านมา เขารู้สึกมีความสุขมาก โดยเฉพาะเวลาที่เขาได้เห็นหวงหลวนและเจี้ยนเฉินอยู่ด้วยกัน
หวงหลวนรู้สึกอายที่นางยังเกาะหนึบอยู่กับเจี้ยนเฉินในตอนที่ท่านทวดของนางมาถึง นางปล่อยแขนเจี้ยนเฉินไปอย่างลังเลก่ อนที่จะมองไปที่หวงเทียนป้าด้วยแก้มที่แดงเล็กน้อย นางพูดอย่างนุ่มนวล “ท่านทวด ! “
หวงเทียนป้าหัวเราะคิกคักอีกครั้งเมื่อเขาเห็นหวงหลวนที่เอียงอายเหมือนเด็กสาว เขาพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร
เจี้ยนเฉินหันไปช้า ๆ และมองไปที่หวงเทียนป้าอย่างสงบ เขายิ้ม “ผู้อาวุโสหวง ข้าเรียกท่านมาที่นี่ครั้งนี้เพราะว่าข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องหารือกับท่าน”
หวงเทียนป้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อเขาได้ยินว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ เขาพูด “โปรดว่ามาเลย”
เจี้ยนเฉินพูดต่อ “ผู้อาวุโสหวง ข้าต้องการที่จะพาท่านไปที่เมืองทหารรับจ้างและให้จิตวิญญาณม่านพลังดึงเอาความลึกลับของโลกมาเพื่อที่จะให้ท่านศึกษาและตัดผ่านระดับ ท่านอยากจะไปหรือไม่ ? “
“อะไรนะ! ให้จิตวิญญาณม่านพลังที่เมืองทหารรับจ้างดึงเอาความลึกลับของโลกมาเพื่อที่จะให้ข้าศึกษาและตัดผ่านระดับ ? ” หวงเทียนป้าประหลาดใจ เขาจ้องเขม็งตาโตไปที่เจี้ยนเฉิน ความเหลือเชื่อปรากฏบนหน้าของเขา เขารู้สึกตกใจในใจและยากที่จะทำให้ตัวเองเชื่อในสิ่งที่เจี้ยนเฉินได้พูดออกมา
หวงเทียนป้ารู้เรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาไม่รู้เรื่องมากแต่เขาก็รู้อย่างหนึ่งว่า จิตวิญญาณม่านพลังที่มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลและอยู่จนมาถึงทุกวันนี้ มันทรงพลังมากและมีบทบาทในฐานะเทพคุ้มครองของเมืองทหารรับจ้าง
สิ่งที่เขายากจะเชื่อคือ การที่เจี้ยนเฉินให้จิตวิญญาณม่านพลังดึงเอาความลึกลับของโลกมาและช่วยให้คนอื่นตัดผ่านระดับได้ มันน่าตกตะลึงเกินไป
ไม่มีข่าวลือแบบนี้เกิดขึ้นในทวีปมาก่อน อย่าว่าแต่เรื่องที่มีคนรู้ว่าจิตวิญญาณม่านพลังสามารถทำแบบนี้ได้เลย
“ผู้อาวุโสหวง ท่านจะมาด้วยหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะยิ้มให้กับหวงเทียนป้าผ่านทางสายตา
“ข้าอยากไป ข้าอยากไป แน่นอนข้าอยากไป ข้าจะพลาดเรื่องดีดีแบบนี้ไปได้อย่างไร ? ” หวงเทียนป้าได้สติและรีบตอบกลับอย่างไว เขากลัวว่าการตอบกลับช้าจะทำให้เขาพลาดโอกาสที่หาได้ยากนี้
หวงเทียนป้าจากไปหลังจากที่เขาแสดงความยินดี เขามอบงานบางอย่างให้กับตระกูลก่อนที่จะจากไปพร้อมกับเจี้ยนเฉินในเช้าวันต่อมา เขาไปที่ตระกูลเจียงหยางในเมืองลอร์พร้อมกับเจี้ยนเฉิน
หวงหลวนก็ออกไปพร้อมกับเจี้ยนเฉินด้วย แม้ว่าปัญหาเกี่ยวกับร่างจิตวิญญาณน้ำของนางจะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผนึกที่อยู่ในหัวของนางที่บรรพชนตระกูลหวงกู่ทิ้งเอาไว้ก็ยังคงอยู่
ในขณะที่เจี้ยนเฉินอยู่ที่ตระกูลหวง เขาได้ไปหาบรรพชนตระกูลหวงกู่ที่ถูกขังอยู่ในมิติวัตถุเซียน เขาต้องการที่จะเรียกรู้วิธีการที่จะปลดผนึก อย่างไรก็ตาม บรรพชนนั้นก็เหมือนจิ้งจอกเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์ที่อยู่มานานกว่าสองพันปี ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าทักษะลับนี้เป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ เขาจะไปบอกวิธีปลดผนึกกับคนอื่นง่าย ๆ ได้อย่างไร ? ในท้ายที่สุด เจี้ยนเฉินก็ไม่รู้ถึงวิธีการปลดผนึกจากเขาไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน
เจี้ยนเฉินไม่กล้าที่จะทำอะไรบรรพชนตระกูลหวงกู่เนื่องด้วยทักษะลับ เขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาปล่อยชายชราไป เขาจะกลับมาเพื่อจัดการกับบรรพชนเมื่อเขาหาทางปลดเอาผนึกออกได้แล้ว
เจี้ยนเฉินกลับไปถึงตระกูลเจียงหยางอย่างรวดเร็วพร้อมกับหวงหลวนและหวงเทียนป้า ทั้งสองไม่ได้เป็นคนนอกสำหรับตระกูลมานานแล้วเพราะพวกเขารู้จักกันก่อนหน้านี้มานานแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทันทีที่พวกเขามาถึง
ไป๋ไฮออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นพิเศษ เพราะว่าเขาเป็นสหายรักกับหวงเทียนป้า เขาแยกตัวออกไปเพื่อไปดื่มกันทันทีที่พวกเขาได้พบกัน
เจี้ยนเฉินอยู่ที่ตระกูลเจียงหยางอีกหนึ่งวัน ก่อนที่จะเดินทางไปที่เมืองทหารรับจ้างพร้อมกับ ไป๋ไฮ หวงเทียนป้า หยางหลิง หวงหลวน และลุงเจียง พวกเขาเดินทางผ่านประตูมิติที่รุยจินสร้างขึ้นมา
คนที่อยู่ข้างเจี้ยนเฉินในตอนนี้เป็นกลุ่มคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด ยังมีเจียเต๋อไท่อีก แต่เจี้ยนเฉินไม่ได้เชื่อใจเขาอย่างสนิทใจ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงไม่พาเจียเต๋อไท่ไปด้วยในครั้งนี้
ผนึกในหัวเจียงหยาง ซู หยุนคงยังคงอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้เลย มิฉะนั้นมันจะเป็นอันตรายกับเขาแทน
“พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็มา” ทันทีที่เจี้ยนเฉินมาถึงที่เมืองทหารรับจ้าง เสี่ยวหลิงก็ปรากฎขึ้นมาตรงหน้าเขาในรูปแบบภาพมายา บางทีอาจะเป็นเพราะการที่นางได้เห็นเจี้ยนเฉิน ใบหน้าที่บริสุทธิ์ของนางจึงเต็มไปด้วยความสุข
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเขาได้เห็นเสี่ยวหลิง เขาเห็นเสี่ยวหลิงเป็นเหมือนน้องสาวคนเล็กสุดมานานแล้ว “เสี่ยวหลิง หมิงตงเป็นอย่างไรบ้าง ? “
“ขนสัตว์อสูรทั้งสามที่อยู่กับสหายของท่านไม่ธรรมดาเลย พี่ใหญ่ ความลึกลับของโลกที่ซ่อนอยู่ในนั้นจริงจริง ข้าใช้พลังของข้าในการปลุกมันจากด้านในขึ้นมา และจากนั้นข้าก็พยายามอย่างหนัก ข้าดึงเอาความลึกลับของโลกจากรอบ ๆ มาด้วยเหมือนกัน ดังนั้นสหายของท่านจึงกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เขากำลังฝึกฝนอยู่ในตอนนี้” เสี่ยวหลิงพูด นางภูมิใจในตัวเอง
“หมิงตงก็กลายเป็นเซียนผู้คุมกฎแล้ว” เจี้ยนเฉินพึมพำ เขารู้สึกดีใจกับหมิงตงในใจ
“เจี้ยนเฉิน เจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร ? ” เสียงที่น่าฟังดังขึ้นมาจากข้างข้างเขา หวงหลวนถามเจี้ยนเฉินในขณะที่นางเกาะแขนเจี้ยนเฉินอยู่ ตาของนางเป็นประกายด้วยความสงสัย
ไม่ได้มีแค่นางเท่านั้น แม้แต่หวงเทียนป้า ไป๋ไฮ หยางหลิงและเจียงวูจี่ก็จ้องมองเขาอย่างสงสัย
เจี้ยนเฉินรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเห็นเสี่ยวหลิงได้ แต่เขาก็ไม่อธิบายการกระทำของเขา เขาพูดกับเสี่ยวหลิง “พวกเขาทั้งหมดเป็นสหายของข้าและเป็นผู้อาวุโสของข้า ข้าหวังว่าเสี่ยวหลิงจะช่วยพวกเขาในการฝึกฝนได้ในภายภาคหน้า”
เสี่ยวหลิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ได้พี่ใหญ่ อย่ากังวลไปเลย เสี่ยวหลิงจะพยายามเพื่อที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขา” หลังจากนั้น นางก็โบกมือและกลุ่มของเจี้ยนเฉินก็รู้สึกเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปเป็นสีดำ พวกเขาถูกลากลงไปยังใต้ดินด้วยความสามารของเสี่ยวหลิง แม้แต่รุยจินก็ตามไปด้วย
เมื่อภาพรอบ ๆ พวกเขาสว่างขึ้นอีกครั้ง พวกเขาก็พบว่า พวกเขามาถึงยังห้องที่ปิดสนิทอยู่ ไม่มีรอยแตกที่ผนังเลย มันไร้ที่ติเหมือนธรรมชาติ มันไม่มีแม้แต่ประตูทางออก
เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ เล็กน้อย เขารู้ว่าห้องนี้นั้นสร้างมาจากพลังงาน และอาจจะถูกเสี่ยวหลิงเตรียมขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อไป๋ไฮและคนอื่น ๆ
“พี่ใหญ่ ท่านสามารถฝึกฝนที่นี่ได้ในอนาคต เสี่ยวหลิงจะดึงเอาความลึกลับของโลกมาให้ท่าน แต่หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับพวกของท่าน” ร่างมายาของเสี่ยวหลิงปรากฎขึ้นอีกครั้งตรงหน้าเจี้ยนเฉินในขณะที่นางลอยอยู่กลางอากาศ
ในครั้งนี้ ไป๋ไฮ หวงเทียนป้า หยางหลิง หวงหลวน และเจียงหวูจี่ ทั้งหมดสามารถเห็นนางได้แล้ว
“น้องรักของข้า นั่นคือจิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างอย่างนั้นหรือ ? ” หวงเทียนป้าอดไม่ได้ที่จะถามออกมา ในขณะที่เขาจ้องตาไม่กระพริบไปที่เสี่ยวหลิง เขาเต็มไปด้วยความสงสัย
เจี้ยนเฉินพยักหน้าก่อนที่จะแนะนำทุกคนให้กับเสี่ยวหลิง เขาทิ้งหวงเทียนป้า ไป๋ไฮ หยางหลิง และเจียงหวูจี่เอาไว้ที่นั้น
เจี้ยนเฉินก็เอาขนสัตว์อสูรทั้งสามชิ้นมาจากหมิงตงก่อนที่จะมอบมันให้กับเจียงหวูจี่ด้วย เขาหวังให้เจียงหวูจี่เป็นเซียนผู้คุมกฎให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ความสามารถของเจียงหวูจี่นั้นธรรมดา เขายังไม่ได้เป็นเซียนผู้คุมกฎแม้จะผ่านมาเกือบพันปีแล้ว ในตอนนี้ เนื่องด้วยเขาชราเกินไปและใกล้ที่จะหมดอายุขัยแล้ว ผลของสมบัติสวรรค์จะน้อยมาก การช่วยเหลือจากเสี่ยวหลิงและจากขนสัตว์อสูรทั้งสามเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้เขากลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ
ถ้าเขาไม่สามารถตัดผ่านได้ภายในสถานารณ์แบบนี้ มันก็คงเป็นไปไม่ได้ในอนาคตด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ถามเสี่ยวหลิงว่านางสามารถเอาทักษะลับที่อยู่ในหัวของหวงหลวนออกได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นก็น่าผิดหวังมาก
เสี่ยวหลิงเป็นจอมยุทธในขอบเขตดั้งเดิม แต่นางก็ไม่ใช่พระเจ้าที่มีอำนาจทุกอย่าง มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะทำลายทักษะลับโบราณที่ลึกซึ้งที่ถูกฝังไว้ในวิญญาณของบางคนแม้ว่าคนคนนั้นจะมีความสามารถขนาดไหน
เสี่ยวหลิงอยู่ในขอบเขตดั้งเดิม พลังในการต่อสู้ของนางนั้นยอดเยี่ยมมาก และนางก็ไร้เทียมทานในทวีปเทียนหยวน อย่างไรก็ตาม นางนั้นยังอ่อนประสบการณ์ ตั้งแต่อดีต นางให้เวลาทั้งหมดไปกับการหลับไหล ความสามารถที่นางรู้นั้นน้อยมาก ดังนั้นนางจึงทำอะไรกับทักษะลับที่ผูกชะตาระหว่างคนเอาไว้ไม่ได้
เทียบกับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลแล้ว เสี่ยวหลิงอาจจะทรงพลังกว่าเล็กน้อย แต่นางก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเลยในด้านความรู้ ประสบการณ์และทักษะลับ
ในเรื่องบางอย่าง เสี่ยวหลิงไม่สามารถเทียบได้เลยกับทหารรับจ้างที่ใช้เวลาในการเดินทางไปทั่วทวีปเทียนหยวน