“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร?”
เสียงของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างร้องขึ้นมาตาม ๆ กัน
คำพูดของหลงฉือนี้มันย่อมจะทำให้ผู้คนทั้งหลายตื่นตะลึงจนไม่คิดอยากเชื่อถือ
“หึ ๆ เจ้าคิดว่าอย่าถาม หมากล้อมนิรันดร์กระดานนั้นมันเป็นเกมง่าย ๆ หรือ? หากไม่มีพรสวรรค์เหนือล้ำฟ้าดินแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะเดินออกมาจากอย่าถามได้?” หลงฉือร้องบอก
จนถึงเวลานี้หลงฉือก็ยังคงจดจำภาพของเย่หยวนในวันนั้นได้ดี
คนทั้งหลายที่ได้เห็นเย่หยวนคลี่คลายอย่าถามลงกับตานั้นย่อมจะชื่นชมเลื่อมใสในตัวเย่หยวนอย่างสุดหัวใจ
ภายใต้แรงกดดันของโอสถบรรพกาลและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลแล้ว จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายมันจะไปมีค่าใด?
“เด็กน้อย เจ้าหลอกข้าเรอะ?” หลงจื่อที่ได้ยินจึงร้องลั่นขึ้นมาอย่างโกรธแค้นทันที
หลังจากที่เย่หยวนเข้ามาถึงเขาก็ท้าทายให้ใช้พลังสายเลือดกดดันตัว แต่แท้จริงเย่หยวนนั้นรู้ดีแก่ใจว่าต่อให้หลงจื่อผู้นี้จะมีพลังสายเลือดสูงส่งหนักหน่วงปานใด มันก็คงไม่อาจจะเอาชนะสายเลือดของตนไปได้
สุดท้ายมันจึงเป็นการหลอกให้หลงจื่อเสียค่าโง่!
ทั้งอย่างนั้นตัวหลงจื่อก็ยังติดกับ
เย่หยวนนั้นสามารถปะทะกับมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลได้ ปะทะกับยอดฝีมือระดับนั้นด้วยเจตจำนงมังกรฟ้าของตน สายเลือดของเขามันจะต้องบริสุทธิ์สูงล้ำปานใด?
การเอาพลังสายเลือดต่ำต้อยของตัวหลงจื่อมาใช้ต่อหน้าเย่หยวนนี้มันจะไม่เหมือนเป็นสอนหนังสือสังฆราชไปหรือ?
ไม่ว่าจะดูอย่างไรเย่หยวนก็ต้องจงใจหลอกเขาแน่!
“หึ ๆ เจ้าเองก็ไม่ได้โง่ไปเสียทีเดียวนี่” เย่หยวนหัวเราะขึ้น
‘อะไรคือไม่โง่ไปเสียทีเดียว? ไม่ว่าจะดูอย่างไรมันก็โง่เง่าไร้สิ้นดี!’
หลงจื่อได้แต่ร้องร่ำอยู่ในใจหลังรู้ความจริง การกระทำของตัวเขานี้มันจะเป็นอะไรไปได้นอกจากแสดงความโง่ออกมา?
“เด็กน้อย จักรพรรดิผู้นี้จะฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”
หลงจื่อร้องขึ้นอย่างคลั่งแค้น
เขานั้นแยกเขี้ยวยกกรงเล็บในร่างมังกรคิดปล่อยพลังลงมาจัดการเย่หยวนให้สูญสิ้น
แต่ในเวลานั้นเองที่มันกลับมีสาวงามผู้หนึ่งปรากฏกายออกมาจากความว่างเปล่า “หลงจื่อ เจ้าคิดจะทำอะไร? คิดอยากให้ปราการมังกรพิรุณเราเป็นคนบาปแห่งเผ่ามังกรไปชั่วฟ้าดินสลายหรือ?!”
ผู้มาถึงนี้ใส่ชุดสีขาวนวลพร้อมด้วยผมยาวดำสลวย ไม่ว่าจะมองมุมใดก็นับเป็นหญิงงามผู้หนึ่ง
เย่หยวนมองดูที่หญิงงามตรงหน้านี้และพบว่าใบหน้านั้นมันดูคล้ายหลงเสี่ยวฉุนอยู่ไม่น้อย
หลงจื่อที่ได้ยินก็รีบหันไปทำความเคารพด้วยท่าทีไม่พอใจ “คารวะท่านจ้าวมังกร!”
เมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเห็นหญิงนางนี้ พวกเขาทั้งหลายก็ก้มหัวลงให้นางตาม ๆ กัน
เย่หยวนเองก็ไม่คาดคิดว่าแท้จริงแล้วจ้าวมังกรแห่งปราการมังกรพิรุณนี้จะเป็นหญิง!
จ้าวมังกรยกมือขึ้นมาโบกปัด “พวกเจ้าจะกลับคืนร่างเดิมกันเพื่อการใด? คิดข่มขู่ผู้คนหรือ? รีบ ๆ เก็บมันไปได้แล้ว!”
หลงจื่อและพวกจึงรีบเปลี่ยนกลับสู่ร่างมนุษย์ตาม ๆ กันด้วยท่าทางอับอายไม่น้อย
แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นคิดคืนร่างเพื่อข่มขู่ผู้คน เพียงแค่ว่าคนที่มาถึงมันกลับไม่แสดงท่าทีเกรงกลัวใด ๆ จนทำให้พวกเขาทั้งหลายต้องเสียหน้าแทน
“เจ้าคือเย่หยวน?” จ้าวมังกรหันมามองทางเย่หยวน
“เย่หยวนขอคารวะท่านจ้าวมังกร!” เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะอีกฝ่าย
หลงจื่อที่อยู่ไม่ไกลรีบสอดปากเข้ามาทันที “ท่านจ้าวมังกร เจ้าเด็กคนนี้มันไม่รู้จักขาวรู้จักดำ คิดฆ่าสังหารพวกหลงห่าวสามคนตั้งแต่ก้าวมาถึงเผ่ามังกรเรา มันนั้นทำความผิดใหญ่หลวงอย่างที่ไม่อาจให้อภัยได้!”
จ้าวมังกรได้แต่ขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยิน นางตอบกลับไป “เรื่องราวครั้งนี้มันล้วนเป็นพวกหลงห่าวทั้งสามที่ก่อเรื่องใส่ตัว นี่ผู้อาวุโสหลงจื่อจะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ?”
เรื่องที่หลงห่าวทำร้ายลู่เอ๋อและหยางเฟยเอ๋อทั้งยังคิดจะฉุดพวกนางไปเป็นนางบำเรอนั้นมันย่อมจะปรากฏแก่สายตาทุกผู้คนที่ผ่านไปมา หากจ้าวมังกรคิดอยากสืบสาวมันย่อมจะปรากฏความจริงออกมาไม่ยาก
เว้นเสียแต่ว่ากับยอดฝีมืออย่างหลงจื่อแล้ว มันจะมีความผิดถูกใด ๆ?
เขานั้นแข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นเขานี่แหละคือความถูกต้อง!
หลงจื่อหัวเราะขึ้น “ไร้เหตุผล? หึ ๆ ต่อให้พวกห่าวเอ๋อจะทำผิดจริงมันก็มิใช่หน้าที่ของมันเสียหน่อยที่จะมาตัดสิน! ที่สำคัญไปกว่านั้นเพียงแค่กับหญิงมนุษย์สองคน ที่ห่าวเอ๋อคิดถูกใจพวกนางนั้นมันนับเป็นโชคดีเสียด้วยซ้ำ!”
เย่หยวนที่ได้ยินจึงหรี่ตาลงมองทันที “เยี่ยมจริง ๆ ลูกไม้มันหล่นไม่เคยไกลต้น ชั่วตั้งแต่ตัวยันเงา! ในสายตาข้าแล้วหลานเจ้ามันก็แค่ขยะขี้หมา ตายก็ตายไปสิ มีค่าใดเล่า? หรือเจ้ากล้าสังหารข้า?”
“เจ้า!”
หลงจื่อร้องลั่นขึ้นมาด้วยความคับอกคับใจจนแทบกระอักเลือด
เย่หยวนนั้นมีตัวตนที่ยิ่งใหญ่จนเกินกว่าที่เขาจะกล้าทำอะไร
บาปของการก่อสงครามศักดิ์สิทธิ์นั้นมันเป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าแบกรับ!
“หึ! เจ้าคิดว่าจักรพรรดิผู้นี้จะทำอะไรเจ้าไม่ได้?” หลงจื่อร้องตอบ
“เจ้าจะทำอะไรข้าได้เล่า?” เย่หยวนหัวเราะ
เย่หยวนนั้นได้เห็นอย่างชัดเจนว่าหลงจื่อผู้นี้ดูไม่ได้เคารพจ้าวมังกรมากมาย
ราวกับว่าคนที่มีอำนาจอย่างแท้จริงในที่นี้มันคือตัวเขา
หลงจื่อหัวเราะขึ้นมา “ต่อให้ข้าจะสังหารเจ้าไม่ได้ แต่ผู้ติดตามทั้งหลายของเจ้า…จักรพรรดิผู้นี้สังหารมันลงได้!”
นั่นทำให้เย่หยวนต้องเบิกตากว้างด้วยความรุ่มร้อน คลื่นพลังสายเลือดของเขาเดือดพล่าน “หากเจ้ากล้าแตะต้องพวกเขาแล้ว เย่ผู้นี้จะกลับมาขยี้ปราการมังกรพิรุณของพวกเจ้าทั้งหลายให้แหลกละเอียดคาแผ่นดินในวันหน้า! หากเจ้าไม่เชื่อก็รอดู!”
หลงจื่อหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยิน เพราะเขานั้นเห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในสายตานั้นของเย่หยวน
เขาย่อมจะไม่คิดสงสัยว่าเย่หยวนทำได้หรือไม่ ด้วยพรสวรรค์ระดับเย่หยวนแล้วการขึ้นไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์มันย่อมมิใช่ยากใด!
ฟุบ!
ในเวลานั้นเองมันได้มีเงาร่างของคนอีกผู้หนึ่งพุ่งตัวเข้ามายังห้องประชุมนี้
“หลงจื่อ หากเจ้ากล้ารังแกเย่หยวน หลงเสี่ยวฉุนผู้นี้จะไม่ปล่อยเจ้ารอดไปเช่นกัน!”
หลงเสี่ยวฉุนมาถึง!
เมื่อจ้าวมังกรเห็นหลงเสี่ยวฉุนนางก็ต้องขมวดคิ้วแน่น “หลงเสี่ยวฉุน! เจ้ากล้าเข้ามาขัดการประชุมของเหล่าผู้อาวุโสได้อย่างไร มีมารยาทบ้างหรือไม่?”
เมื่อหลงเสี่ยวฉุนได้ยินคำว่าของจ้าวมังกรนางก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจออกมา “ท่านแม่ เรื่องนี้มันเป็นความผิดของพวกหลงห่าวโดยแท้ แค่ตายมันยังไม่พอใช้ความผิดเลย มีเหตุใดให้ต้องลงโทษเย่หยวนด้วย?”
เมื่อหลงจื่อได้เห็นการมาถึงของหลงเสี่ยวฉุน ตัวเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคืองใด ๆ แต่กลับยิ้มร่าขึ้นมาแทน
จากนั้นเขาก็พูดกล่าวขึ้น “ท่านจ้าวมังกร หลงเสี่ยวฉุนเข้ามายุ่งย่ามไม่เคารพผู้อาวุโสทั้งหลายเช่นนี้เราจะลงโทษนางอย่างไรดีเล่า!”
นั่นทำให้สีหน้าของจ้าวมังกรเปลี่ยนไปทันที “หลงเสี่ยวฉุน! ยังไม่ออกไปอีกจักรพรรดิผู้นี้จะสั่งขังเจ้าพันปีแล้ว!”
หลงเสี่ยวฉุนนั้นได้แต่กัดฟันแน่น “ต่อให้ท่านจะขังข้าพันปี ข้าก็จะไม่ปล่อยให้พวกท่านทำอะไรเย่หยวน เขานั้นคือแขกที่ข้าพามา ข้าต้องรับรองความปลอดภัยของเขา!”
เมื่อได้เห็นท่าทางนั้นของหลงเสี่ยวฉุนเย่หยวนก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาในใจ
แต่เขากลับหัวเราะขึ้น “เสี่ยวฉุน เจ้าออกไปก่อนเถอะ เฒ่าทั้งหลายนี้มันไม่กล้าจะทำอะไรข้าหรอก”
หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินต้องหรี่ตาลงมอง “จริงหรือ?”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “แน่นอนว่ามันจริง! หากเฒ่าทั้งหลายนี้มันกล้าสังหารทำร้ายข้าแล้วมันจะมาเรียกประชุมกันเพื่อการใดเล่า?”
หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินก็ต้องส่ายหัวเอียงคอลงทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้าตอบรับออกมา “อืม ข้าจะไปรอเจ้าที่ด้านนอก!”
หลังจากหลงเสี่ยวฉุนจากไปหลงจื่อก็หัวเราะขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้าจะมีชีวิตถึงเวลานั้นหรือไม่มันยังไม่แน่! ท่านจ้าวมังกร ต่อให้ข้าจะไม่อาจทำอะไรตัวเย่หยวนนี้ได้แต่ท่านก็คงไม่คิดจะไปปกป้องคนรอบตัวมันหรอกใช่หรือไม่? ท่านคง…ไม่คิดจะมาขวางทางระบายแค้นของข้าหรอกนะ?”
เมื่อจ้าวมังกรได้ยินดังนั้นนางก็แสดงสีหน้ากลุ้มใจออกมา
แต่ท่าทางนี้มันกลับเปลี่ยนสีหน้าของเย่หยวนไปทันที เมื่อเห็นสีหน้าของจ้าวมังกรเย่หยวนก็เริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมา
เมื่อหลงจื่อเห็นสีหน้านั้นของเย่หยวนเขาก็อมยิ้มขึ้น
เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังอวดตน ไม่คิดยอมฟังก้มหัวให้ใคร แต่ในที่สุดตัวเขาก็สามารถหาจุดอ่อนของเย่หยวนจนเจอ
จุดอ่อนของเขานั้นคือคนรอบ ๆ ตัว!
เมื่อได้เห็นว่าจ้าวมังกรยังทำท่าลังเลอยู่หลงจื่อก็ร้องบอกขึ้น “หากท่านจ้าวมังกรยังคิดจะช่วยเหลือปกป้องชีวิตมนุษย์ไร้ค่าทั้งหลายนั้น จักรพรรดิผู้นี้คงได้แต่ต้องเรียกการออกเสียงจากเหล่าผู้อาวุโสแล้ว!”
เมื่อเย่หยวนเห็นว่าสถานการณ์มันเริ่มไม่เข้าที เขาก็ร้องตอบออกไป “งูเฒ่า เจ้าอยากได้อะไร?”
หลงจื่อยิ้มตอบกลับมา “หึ ๆ จักรพรรดิผู้นี้ก็นึกว่าเจ้ามันจะไม่กลัวฟ้าดินเสียแล้ว ที่ไหนได้เจ้าเองก็มีสิ่งที่กลัวอยู่นี่! วางใจเถอะ ตราบเท่าที่เจ้าสัญญาเรื่องหนึ่งกับจักรพรรดิผู้นี้ จักรพรรดิผู้นี้จะปล่อยให้คนทั้งหลายนั้นได้อยู่รอด!”
เย่หยวนหรี่ตาลงถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เจ้าต้องการอะไร?”
หลงจื่อหัวเราะขึ้นมาด้วยรอยยิ้มแห่งความชั่วร้าย “เจ้าต้องทำข้อตกลงเป็นตาย! เพียงแค่สัญญาออกมาว่าเจ้านั้นจะเข้าไปยังถ้ำเนตรมังกรและให้เรื่องราวทั้งหลายทั้งสิ้นนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเผ่ามังกรใด ๆ! ตราบเท่าที่เจ้ายอมทำเรื่องนั้น ข้าก็จะไว้ชีวิตพวกมันทั้งหลายให้!”
……………….