บทที่ 998 คุณผู้ชาย คุณเป็นอะไรหรือเปล่า

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 998 คุณผู้ชาย คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?

“ตาคนนี้ช่าง!!”

เส้นหมี่กระทืบเท้าแล้วกระทืบอีก เธอโมโหจนเส้นเอ็นตรงหน้าผากนั้นกระตุกขึ้นมา

นี่เป็นเรื่องที่เธอคาดไม่ถึงมาก่อน

แต่ว่าเธอนั้นยังไม่รู้ ว่าตอนที่เขาขับรถสปอร์ตคันเท่ห์สีบลอนซ์เงินออกไป แต่ยังไม่ทันพ้นโค้งนั้นไป เขาที่อยู่ในรถกลับพอก้มหน้าลงก็มีเลือดแดงเข้มไหลลงมาเป็นทางจากจมูกของเขา

“คุณผู้ชาย——”

เด็กสาวที่ขับรถอยู่ด้านหน้า เมื่อเห็นเขาแล้วเธอตกใจมากจนรีบเหยียบเบรครถทันที

รถคันนี้จู่ๆก็จอดลงบนท้องถนน

“คุณผู้ชาย คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เธอรีบดึงทิชชู่จากกล่องออกมาเป็นกำ ตอนที่กำลังวิ่งเข้ามา น้ำเสียงของเธอนั้นปนไปด้วยเสียงร้องไห้

แล้วคณาธิปก็ใช้ทิชชู่กำนั้นห้ามเลือกที่ไหลจากจมูกเขา ใบหน้าที่ซีดเซียวของเขากลับเมินเฉย ไม่ได้รู้สึกว่านี่จะเป็นเรื่องใหญ่อะไร

“ตื่นตูมไปได้? ยังไม่ขั้นตายง่ายๆหรอก!”

“คุณผู้ชาย……”

เมื่อเด็กสาวได้ยินเช่นนั้น ปากของเธอนั้นเกิดอาการสั่น และสายตาของเธอที่มองเขานั้นยิ่งแดงก่ำขึ้นไปอีก

แต่เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เมื่อเห็นเขาห้ามเลือดไม่ให้ไหลแล้ว เธอกลั้นความเสียใจไว้กลับรถออกไป และรถของเธอก็มุ่งไปข้างหน้าออกไปอย่างไว

หลังจากนั้นสี่สิบนาที ที่ตึกหิรัญชากรุ๊ป

“ฐานิษ? ทำไมเธอกลับมาคนเดียว? ท่านประธานคณาธิปหละ?”

เมื่อเคมีเห็นเลขาท่านประธานกลับมาตามลำพัง เขารู้สึกแปลกประหลาดใจมาก

ใช่แล้ว ตอนนี้ เธอคือเลขาของคณาธิปชื่อฐานิษ หรือชื่ออากิโกะ นากาจิมะในภาษาญี่ปุ่น

หลังจากที่คณาธิปย้ายมาหิรัญชากรุ๊ป ฐานิษนั่งหงอยอยู่ในบาร์เหล้า เขาจึงพาเธอย้ายมาด้วย เพื่อดูแลอาหารการกินของเขา แต่เคมีนั้นเป็นผู้ช่วยพิเศษเขาในเรื่องงาน

ฐานิษพยักหน้าตอบ สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก

“อืม เขาไปพบลูกค้าคนหนึ่งอย่างกะทันหัน เขาให้ฉันกลับมาเอาของ ผู้ช่วยเค ตารางนัดบ่ายนี้ต้องยกเลิกทั้งหมด ท่านประธานบอกว่าวันนี้ไม่มีเวลาแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”

ฐานิษรีบพูดออกมา

จากนั้น เคมียืนมองเธอเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน เธอเก็บข้าวของบางอย่างของคณาธิป หลังจากนั้นเธอก็รีบเร่งออกจากบริษัทไป

ไปพบลูกค้าอย่างกะทันหัน?

ทำไมเขาถึงไม่รู้? เรื่องแบบนี้ถึงแม้จะกระทันหัน ก็ควรจะต้องมีการส่งข่าวให้ผู้ช่วยพิเศษอย่างเขามิใช่เหรอ?

แล้วยังเลื่อนนัดทั้งหมดของช่วงบ่าย!

ช่วงนี้ทำไมเขาถึงได้ทำเรื่องเช่นนี้บ่อยนัก? เมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นแบบนี้

เคมีในใจเต็มไปด้วยคำถาม

แต่ว่า เมื่อคณาธิปไม่อยู่บริษัท เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงได้ทำเลื่อนนัดของบ่ายวันนั้นออกไปทั้งหมด

——

เรือนรอง ตึกวังฬาหนึ่ง

เส้นหมี่เมื่อกลับถึงบ้าน เมื่อเธอเห็นแสนดีก็กลับมาแล้วเช่นกัน เธอไม่รีรอที่จะเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง

“คุณพี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะไปหาเขา บังเอิญเจอเขาในห้างสรรพสินค้า แล้วเขาก็บอกกับฉันว่าจะกลับญี่ปุ่นแล้ว เขาให้เวลาคุณเพียงสามวัน แล้วจะทำยังไงกันดี?”

เธอมองเขาอย่างรอคอยคำตอบ

แน่นอนว่าก่อนที่เธอจะเล่าเรื่องนี้ เธอไม่ลืมที่จะอธิบายเขาว่าไม่ได้ตั้งใจไปเจอคณาธิป

เธอได้แสดงเจตนาบริสุทธิ์ของเธอ และเมื่อเธอเล่าจบ แต่ผลกลับปรากฏว่า แสนดีรู้สึกไม่พอใจที่ถูกข่มขู่ ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขานั้นเปลี่ยนสีหน้าไปเหมือนถูกเมฆดำปกคลุมเต็มไปหมด

“เขารนหาที่ตาย?”

“……”

เส้นหมี่ขนลุกซู่ ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปาก

แสนดีเมื่อได้ยินเช่นนั้น อารมณ์เขายิ่งคร่ำเครียดขึ้นไปอีก: “ได้ คุณบอกเขาไป หลังสามวันผมจะคอยดูเขาไสหัวกลับไป ถ้าไม่ฉันแสนดีผู้นี้จะขับเครื่องบินส่งเขากลับญี่ปุ่นด้วยตัวเอง”

เขาเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ เขากัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา แล้วจ้ำอ้าวกลับห้องไป

เส้นหมี่ที่เห็นเช่นนั้นแล้ว รู้สึกปวดหัวอกสั่นขวัญแขวนไปหมด

มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน!

ตาบ้านี้ดูท่าทีก็รู้ว่าไม่เห็นด้วย ดูจากอารมณ์เขาก็บ่งบอกได้ชัดเจน หลังจากนี้สามวันถ้าคณาธิปกลับไปจริง เขาจะหาวิธีจัดการ

คณาธิปอย่างแน่นอน

ทำไม่ทั้งสองคนนี้ ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไป?!!

ตอนนี้เส้นหมี่น้ำท่วมปากจนจะล้นออกมาแล้ว

ในสถานการณ์ที่หมดหนทางเช่นนี้ เธอนึกไม่ออกว่าต้องหาใครแล้ว สุดท้าย เธอก็ได้แต่หาแสงดาว

【เส้นหมี่:พี่ พี่อยู่ที่ไหน?】

【แสงดาว:?】

แค่ไม่ได้เจอหน้ากันสองวัน เมื่อส่งข้อความทางวีแชทให้เธอ เธอกลับตอบกลับมาอย่างเย็นชา ด้วยการส่งเครื่องหมายคำถามกลับมาให้

เส้นหมี่พยายามอดทนไว้

【เส้นหมี่: เรื่องราวเป็นแบบนี้ ที่บ้านเกิดเรื่องแล้ว วันนี้ฉันบังเอิญเจอคณาธิป เขาบอกว่าจะไม่ทำงานที่บริษัทแล้ว จะกลับญี่ปุ่น เขาบอกให้น้องชายของพี่กลับไปที่บริษัทอีกครั้ง ตอนนี้น้องชายของพี่ก็ไม่ยอมกลับไป ทำยังไงดี? ถึงเวลานั้นบริษัทก็จะไร้ผู้นำไป】

【แสงดาว:……】

แสงดาวที่กำลังนั่งดื่มอยู่ในบาร์ เมื่อก้มหน้าดูข้อความทางวีแชทแล้ว “เพล้ง” เสียงดังขึ้น เธอปล่อยแก้วในมือตกลงบนพื้น

“แม่ง เป็นบ้าอะไรกันไปหมด!” เธอด่าด้วยความโมโห

ผู้คนข้างๆที่มองเห็นก็ไม่กล้าที่จะเข้ามา

เพราะทุกคนต่างรู้จักเธอดี คุณหนูผู้มีชื่อเสียงของตระกูลหิรัญชา

มีเพียงชายหนุ่มที่สวมแว่น ท่าทีดูอ่อนโยนเดินเข้ามาหาเธอ เมื่อเขามองเห็นเธอ ก็ยืนนิ่งๆอยู่ข้างๆเธอ

“คุณแสงดาว คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”