ในโลกแสงจักรภพ สิ่งที่หลัวซิวต้องเผชิญคือเทพสงครามเอกภพอายุสี่สิบกว่าปีเช่นกัน

ทายาทสวรรค์ของเผ่าเทพสงคราม เมื่ออายุสี่สิบปีได้บรรลุแดนฝึกตนเทพสงครามเอกภพและพุ่งทะยานเข้าสู่ยุคทอง

พรสวรรค์ของเขา หากเทียบในบรรดามหาโลกาพันสามก็ยังถือได้ว่ามีพรสวรรค์เป็นอันดับต้นๆ

ทุกๆ คนที่อยู่ในเผ่าเทพสงครามพออายุได้สามสิบปีก็จะเริ่มฝึกกระดูก ฝึกวรยุทธ์และฝึกความสามารถพื้นฐานอื่นๆ

เป็นมกุฎยุทธ์อายุสิบขวบ เป็นเจ้ายุทธจักรตอนอายุยี่สิบ และเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ตอนสามสิบปี และเมื่ออายุได้สี่สิบปี เทพสงครามเอกภพก็ได้บรรลุแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นหก อยู่ห่างจากมหาจักรพรรดิยุทธิ์ช่วงปลายเพียงขั้นเดียว

แม้ว่าจะเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นหกเหมือนกัน แต่เทพสงครามเอกภพไม่ใช่คนที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ที่มาจากโลกแสงดาวจะสามารถเปรียบเทียบได้ เพราะแม้แต่เทพมารธรรมดาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขาก็ยังต้องหน้าซีด

“รบกับข้า หากเอาชนะข้าได้ นับแต่นี้โลกแสงจักรภพก็จะเป็นของเจ้า!”

ราวกับเวลาหยุดอยู่ในโซนที่เวิ้งว้างว่างเปล่า ร่างของเทพสงครามเอกภพทั้งร่างกับเปล่งแสงสีทองออกมา ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าแม้จะอยู่ในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ แต่ก็เป็นเทพที่ไร้คู่ต่อกร

“ตู้ม!”

เขาก้าวเท้าออกมา โดยไม่ต้องอาศัยอาวุธยุทโธปกรณ์ใด เขาเพียงยื่นมือออกมา ซึ่งไม่ต่างกับภูเขาสีทองลูกหนึ่งถล่ม เพียงชั่วพริบตาเดียวทุกสรรพสิ่งก็หายวับไปเหลือเพียงภาพการพังทลายที่น่าหวาดผวา

ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจอย่างยิ่ง!

สีหน้าของหลัวซิวหนักอึ้ง ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ดวลกับเทพสงครามเอกภพที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกัน

ถูกต้อง ความรู้สึกของเขาตอนนี้คือตื่นเต้น ราวกับว่าในตัวของเขาไหลเวียนไปด้วยเลือดของเผ่าเทพสงคราม ความฮึกเหิมเอ่อล้นพุ่งทะยาน รอบกายของเขาวนเวียนไปด้วยความบ้าคลั่ง

เขายกมือขึ้น หอกยุทธ์มังกรดำปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาก้าวเท้าขึ้นไปยืนกลางท้องฟ้า และเหวี่ยงหอกออกไป หอกมังกรได้ทำลายสิ่งขวางกั้นทุกอย่างพังทลายทั้งหมด

“ตู้ม!”

นี่คือการโจมตีที่สะเทือนแผ่นดิน อานุภาพสูงกว่าที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ธรรมดาจะสามารถทำได้ หากไม่ใช่โลกแสงจักรภพที่เวลาจากกฎดั้งเดิมมาจากรูปแบบของโซนเฉพาะ แต่เป็นห้วงกาลแดนทั่วๆ ไป ป่านนี้คงจะระเบิดกลายเป็นจุลไปแล้ว

เมื่อหอกมังกรปะทะเข้ากับฝ่ามือของเทพสงครามเอกภพก็ก่อเกิดเป็นประกายไป แต่ไม่สามารถทำลายการป้องกันของเทพสงครามได้

เขาแบมือของเขาออก นิ้วทั้งห้าของเขาไม่ต่างอะไรกับเทือกเขาห้าสาย ก่อนจะผลักฝ่ามือโจมตีเข้าใส่หลัวซิวอีกครั้ง

เห็นได้อย่างชัดเจน การโจมตีของเทพสงครามเอกภพแฝงไว้ด้วยพลังอมตะ ซึ่งห่างชั้นจากทักษะการต่อสู้ของวิชายิ่งเลิศมากนัก

และที่น่ากลัวไปยิ่งกว่านั้นคืออานุภาพในการโจมตีนี้ สูงไปถึงขั้นเทพมาร จึงไม่ใช่สิ่งที่จักรพรรดิยุทธิ์จะมีความสามารถในการต่อกรได้

“หมื่นจักรวาลไร้รูป!”

หลัวซิวตะโกน คนกับหอกรวมเป็นหนึ่งกลายเป็นมังกรดำพุ่งทะยานออกมา

“ตู้ม!”

การระเบิดของพลังอมตะยังคงทิ้งควันหลงอันน่าหวาดหวั่นเอาไว้ พลังคลื่นสีทองและสีดำโจมตีไปทั่วทุกด้าน ราวกับน้ำป่าที่ระเบิดออกมา

“ตราประทับนิพพาน!”

เทพสงครามเอกภพก้าวอาดๆ ขึ้นมาด้านหน้าอย่างเย็นชา เขาพลิกมือและปล่อยวิชาตราประทับพลังอมตะออกมาอีก

ภายในชั่วพริบตาก็เกิดฉากทัศน์ที่น่าหวาดผวาปรากฏขึ้น ราวกับวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึง ฟ้าดินพังทลาย ทั่วสารทิศพังถล่ม ทั่วพื้นดินเต็มไปด้วยเลือด สรรพสิ่งในโลกนับหมื่นดับสูญ สิ่งที่เหลือมีเพียงความว่างเปล่าและความตาย

นี่คือเผ่าเทพสงครามที่มีความสามารถพิเศษ การโจมตีแข็งแกร่งอย่างยิ่ง มีเพียงผู้อาวุโสของเทพแต่ละรุ่นเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติฝึกฝนได้

“ตราธรรมจุติมรณะ!”

หลัวซิวก็ใช้ตราเช่นกัน รูเล็ตที่ได้ความเป็นตายสองขั้วรวมเป็นหนึ่งพุ่งทะยานออกมา ราวกับเครื่องบดที่บดขยี้พลังการทำลายล้างของตราประทับนิพพาน

“บุก!”

เทพสงครามเอกภพก้าวทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว รอบกายของเขาปรากฏภาพโลหิตที่ละเลงไปทั่วแผ่นดิน เป็นสิ่งแสดงพลังสังหารของเขาที่ไม่มีวันหมดสิ้น เหยียบย่ำร่างไร้วิญญาณของผู้แข็งแกร่งขึ้นไปสู่จุดสูงสุดแห่งโลกยุทธ์