ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา จอมราชันย์ฟู่เหมิงใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อบ่มเพาะราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติจ้าวหย่า ซึ่งก็โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ทำให้เขาผิดหวัง ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติจ้าวหย่ามีความเก่งกาจปราดเปรื่องที่โดดเด่นจนเหนือชั้นกว่าราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติคนไหนๆที่เขาเคยพบ
หูเสี่ยวไม่แยแสเรื่องที่เขาสูญเสียทรัพย์สมบัติไป เพราะเขาอาจปล้นกลับมาจากนักรบคนไหนก็ได้ แต่ไม่อาจให้อภัยชายหนุ่มที่ดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างรุนแรงจนเกินจะรับไหว
ซึ่งหากเขาขอความช่วยเหลือจากราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติจ้าวหย่า ก็น่าจะเอาคืนหมอนั่นได้อย่างสาสม
เมื่อคิดได้ หูเสี่ยวรีบนำตราหยกสื่อสารที่ได้รับจากจอมราชันย์ออกมา มันเป็นของล้ำค่าที่ใช้งานได้แม้ในทะเลท่วมท้น
หลังจากส่งข้อความไป ราว 10 นาทีให้หลัง มิติรอบตัวเขาก็สั่นสะท้าน ร่างหนึ่งปรากฏตรงหน้า
เธอคือสาวน้อยท่าทางอาจหาญที่สวมชุดเกราะสีเงิน แม้จะสวยสดงดงามมาก แต่ความเย็นชาและทรงอำนาจของเธอก็ทำให้ไม่มีใครกล้าสู้หน้า
จ้าวหย่า!
“คุณมีธุระอะไรกับฉัน?” สาวน้อยตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบที่ทำให้ใครๆเข้าไม่ถึง
เพราะความช่วยเหลือของจอมราชันย์ฟู่เหมิง เธอจึงมีพละกำลังอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ซึ่งก่อนจะเข้าสู่ทะเลท่วมท้น จอมราชันย์ฟู่เหมิงได้สั่งการให้เธอดูแลเหล่าราชันย์เทพเจ้าและราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติของน่านฟ้าแห่งทองคำแข็งกล้าให้ดี
เพราะเหตุนี้ เธอจึงแยกตัวจากบรรดาศิษย์น้องโดยไม่ลังเลเมื่อได้รับข้อความจากหูเสี่ยว
“ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติจ้าวหย่า เมื่อครู่นี้ผมเพิ่งถูกราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติอีกคนหนึ่งปล้นทรัพย์สมบัติไป และน้ำทิพย์ปฐพีเข้มข้นที่ผมเสาะหามาให้จอมราชันย์ฟู่เหมิงด้วยความยากลำบากก็ถูกขโมยไปด้วย ผมขอวิงวอนให้คุณช่วยจัดการเจ้าคนอวดดีนั่น!” หูเสี่ยวโค้งคำนับอย่างนอบน้อมขณะรายงาน
แม้อีกฝ่ายจะอายุน้อยกว่าเขามาก แต่เขาก็ไม่กล้าวางโตโอหังต่อหน้าเธอ โดยเฉพาะเมื่อทั้งคู่มีพละกำลังห่างกันหลายเท่า
“มันเป็นใคร?” จ้าวหย่าถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เธอไม่เคยอ้อมค้อม จึงตรงเข้าประเด็นทันที
“ผมไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร แต่ดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่ได้รับตำแหน่งทรงเกียรติจากโลกเมื่อ 2-3 วันก่อน, ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้า” หูเสี่ยวตอบ
แม้ทุกคนจะรู้เรื่องของราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้า แต่ตัวตนของอีกฝ่ายก็ยังคงเป็นความลับ เว้นแต่กับเหล่าจอมราชันย์ เพราะถึงอย่างไร เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย
“ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้า?” จ้าวหย่าทวนคำด้วยแววตาเป็นประกาย
ก่อนจะเข้าสู่ทะเลท่วมท้น เหล่าจอมราชันย์ได้สั่งการให้เธอระมัดระวังตัวหากต้องเผชิญหน้ากับราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้า ในตอนนั้น เธอนึกอยากเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายขึ้นมาทันที แต่ใครจะไปคิดว่าหมอนั่นจะเล่นงานหนึ่งในพรรคพวกของเธอ?
ช่างอวดดีเหลือเกิน!
ดูเหมือนใครคนหนึ่งกำลังอยากได้บทเรียน!
“เขาอยู่ไหน?” จ้าวหย่าซักขณะแผ่รังสีเย็นเยือกออกมา
“ตอนนี้อยู่ที่ลำธารในหุบเขา ทางทิศเหนือของที่นี่…” หูเสี่ยวชี้นิ้วไป
“นำทางไปเลย!”
หูเสี่ยวลังเลครู่หนึ่ง “หมอนั่นแข็งแกร่งมาก ผมเกรงว่าพวกเราอาจเป็นอันตรายหากไปที่นั่นตามลำพัง”
“ไม่ต้องห่วงน่ะ นำทางไปเลย ถ้าฉันอยู่ด้วย จะไม่ปล่อยให้เขาแตะต้องคุณแม้ปลายเส้นผม” จ้าวหย่าตอบ
เห็นอีกฝ่ายยืนกรานหนักแน่น หูเสี่ยวถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะรีบนำทางไป
ไม่ช้าทั้งคู่ก็มาถึงบริเวณที่มีน้ำทิพย์ปฐพีเข้มข้น
มีแต่กลุ่มราชันย์เทพเจ้าที่ได้รับบาดเจ็บจากจิตวิญญาณหลอกหลอนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ เมื่อเห็นหูเสี่ยวกลับมาอีกครั้ง ทุกคนก็หน้าถอดสีด้วยความหวาดกลัวขณะถอยกรูด
จ้าวหย่าไม่แยแสสีหน้าของพวกนั้น เธอตั้งคำถาม
“ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้าอยู่ไหน?”
“เขาจากไปพร้อมกับราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติอ้าวเฟิง เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพวกเขาไปไหน”
ราชันย์เทพเจ้าที่อาวุโสที่สุดในกลุ่มเป็นผู้ให้คำตอบ
ไม่ใช่ว่าพวกเขาจงใจปิดบังความจริงเพื่อปกป้องจางเซวียน แต่บทสนทนาเรื่องหญ้าจิตวิญญาณจอมราชันย์เมื่อครู่นี้ถูกปิดกั้นไว้เพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล ดังนั้น ราชันย์เทพเจ้าที่เหลือจึงไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปไหน
หูเสี่ยวขมวดคิ้ว
เขาไม่คิดว่าทั้งคู่จะจากไปเร็วขนาดนี้ จึงตั้งข้อสังเกตอย่างหงุดหงิด “ก็เพิ่งไม่นานเท่าไหร่ ผมเชื่อว่าพวกเขายังไปไม่ได้ไกลหรอก…”
แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ จ้าวหย่าก็ตัวสั่นขึ้นมาขณะดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ เธอหันขวับไปถามเหล่าราชันย์เทพเจ้าอย่างร้อนใจ “พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้ามีชื่อว่าอะไร?”
“ผมก็ไม่แน่ใจ…แต่คิดว่าเขาใช้แซ่จาง มีผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มที่เขาสนิทสนมด้วยเรียกขานเขาว่า ‘ปรมาจารย์จาง’” ราชันย์เทพเจ้าคนหนึ่งตอบ
เมื่ออยู่ต่อหน้าราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติสองคนที่มีอำนาจบงการโชคชะตาของพวกเขา ก็ไม่มีใครกล้าโป้ปดมดเท็จ เพราะหวั่นเกรงอันตราย
“จาง…”
จ้าวหย่ามีสีหน้าที่บ่งบอกความเข้าใจขณะถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอรีบระงับความตื่นเต้นก่อนจะหันมาพูดกับหูเสี่ยว “เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างคุณกับราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้ามาให้หมด!”
“ฮะ?”
นึกไม่ถึงว่าจู่ๆจ้าวหย่าจะซักไซ้รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทนที่จะไล่ล่าชายหนุ่มคนนั้น หูเสี่ยวถึงกับหน้าเจื่อน
เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดที่พยายามปล้นทรัพย์สมบัติจากทั้งกลุ่ม จึงไม่รู้จะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร
เห็นหูเสี่ยวอ้ำอึ้ง จ้าวหย่าชี้นิ้วไปที่ราชันย์เทพเจ้าคนหนึ่งในกลุ่มและสั่งการ “คุณน่ะ, เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ให้ฉันฟัง”
“ได้!”
เพราะไม่กล้าขัดใจจ้าวหย่า ราชันย์เทพเจ้าผู้นั้นรีบอธิบายสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างละเอียด
“ที่เขาพูดมาเป็นความจริงหรือเปล่า?” จ้าวหย่าหันกลับมามองหูเสี่ยวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เอ่อ…คือ…เป็นความจริงทั้งหมด! ในทะเลท่วมท้นแห่งนี้ไม่มีกฎระเบียบ การเอาชีวิตรอดคือสิ่งสำคัญที่สุด ทุกอย่างที่ผมทำไปก็เพื่อน่านฟ้าแห่งทองคำแข็งกล้าของพวกเรา…” หูเสี่ยวรีบอธิบาย แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ ฝ่ามือหนึ่งก็ปะทะเข้าที่แก้ม
พลั่ก!
เขาเซถลาไปกระแทกกับโขดหินอย่างแรง หัวหมุนติ้วขึ้นมาทันที
“ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติจ้าวหย่า คุณทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? ถ้ามีปัญหากับผม คุยกันดีๆก็ได้…”
หูเสี่ยวรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า
แม่สาวคนนี้สติดีหรือเปล่า? ทำไมถึงตบเขาทั้งที่เขายังพูดไม่จบ?
ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราก็เป็นพวกเดียวกันไม่ใช่หรือ? ต่อให้ผมทำผิดที่ปล้นทรัพย์สมบัติจากนักรบที่อ่อนแอกว่า คุณก็ไม่เห็นต้องตบผมแบบนั้นเลยนี่ ใช่ไหม?
ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!
จ้าวหย่าไม่แยแสเสียงทักท้วงของหูเสี่ยว เธอปล่อยหมัดแล้วหมัดเล่าเข้าใส่ท้องน้อยของอีกฝ่าย หูเสี่ยวพยายามตอบโต้ แต่ก็อับจนหนทางจะต้านทานพละกำลังล้นเหลือของจ้าวหย่า
เพียงชั่วพริบตา เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดไหลโชกทั่วร่าง
ขณะที่ไอและกระอักเลือดออกมา น้ำตาก็ไหลเป็นทางอาบแก้มของหูเสี่ยว
เมื่อกี้นี้คุณพูดเองไม่ใช่หรือว่าจะไม่ปล่อยให้ใครมาแตะต้องผมแม้แต่ปลายผมสักเส้น?
แต่แล้วคนที่เล่นงานผมก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคุณ!
ราชันย์เทพเจ้าที่อยู่ตรงนั้นต่างมองหน้ากันอย่างสับสน พวกเขาไม่เข้าใจอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างปุบปับของสาวน้อย
ทุกคนคิดว่าหูเสี่ยวพาพรรคพวกมาช่วยกันล้างแค้น และสุดท้าย ทรัพย์สมบัติของพวกเขาคงถูกปล้นไปอีก
แต่ยังไม่ทันจะรู้ตัว ‘พรรคพวก’ ที่หูเสี่ยวพามาก็กลับซ้อมเขา
แถมการโจมตีของเธอก็ทั้งรุนแรงและโหดเหี้ยม บ่งบอกชัดว่าไม่คิดจะปรานี
ใครบอกได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น?
เราคือใคร? เราเป็นอะไร? เราอยู่ที่ไหน?
ทุกคนงงสุดขีดกับสถานการณ์ที่พลิกผัน
การถูกซ้อมอย่างปุบปับทำให้หูเสี่ยวแสนจะคับแค้นใจ เขาตวาดก้อง “ผมสู้คุณไม่ได้ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมจำนนกับอะไรก็ตามที่คุณจะทำกับผม แต่จอมราชันย์สั่งไว้ให้คุณดูแลทุกคนจากน่านฟ้าแห่งทองคำแข็งกล้า เพราะฉะนั้น อย่างน้อยที่สุด คุณบอกผมหน่อยได้ไหมว่าทำแบบนี้เพราะอะไร?”
นี่มันเกินไปแล้ว!
ผมเรียกคุณมาที่นี่ให้มาล้างแค้น ไม่ใช่มาซ้อมผม!
“เราควรจะคิดได้เสียนานแล้วตั้งแต่ได้ยินเรื่องราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้า” จ้าวหย่าพึมพำกับตัวเองก่อนจะหันมาส่งสายตาเย็นเยียบใส่หูเสี่ยว “คนที่คุณอยากแก้แค้นน่ะ…คือท่านอาจารย์ของฉัน!”
นอกเสียจากท่านอาจารย์ของเธอ ใครกันจะสร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ให้กับโลกใบนี้ได้?
จ้าวหย่าเคยคิดว่าในท้ายที่สุด เธออาจพัฒนาตัวเองไปจนเหนือชั้นกว่าท่านอาจารย์ และทำตัวให้เป็นประโยชน์กับเขาได้หลังจากที่ใช้เวลาเนิ่นนานหลายปีไปกับการฝึกฝนวรยุทธในกระจกเงาแห่งมิติและเวลา แต่ดูเหมือนเธอจะประเมินความเก่งกาจของท่านอาจารย์ต่ำไป
ลงท้าย ท่านอาจารย์ของเธอก็พัฒนาตัวเองได้รวดเร็วราวกับปีศาจเหมือนเดิม!
ด้วยเวลาเพียงเดือนเดียว เขากลายเป็นราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้าไปแล้ว ขนาดตัวเธอเองก็ยังอดรู้สึกไม่ได้ว่าเรื่องนี้เหลือเชื่อ
“ท่านอาจารย์ของคุณ?” หูเสี่ยวตัวสั่นขณะกระอักเลือดอีกกองหนึ่งออกมา “ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติจ้าวหย่า คุณหมายความว่า…เขาเคยชี้แนะคุณหรือ?”
“ที่ฉันพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วแบบนี้ก็เพราะรากฐานอันมั่นคงที่ท่านอาจารย์วางไว้ให้ หากไม่มีท่านอาจารย์ ฉันก็ไม่มีวันได้เป็นอย่างที่คุณเห็นในวันนี้หรอก” จ้าวหย่าตอบ “แล้วก็จะไม่มีหวังหยิ่ง เจิ้งหยาง หลิวหยาง หยวนเทา ลู่ชง เว่ยหรูเหยียน จางจิ่วเซี่ยว ขงซือเหยา ตั้นเฉี่ยวเทียน และไป๋เหรินชิงด้วย”
“เดี๋ยวก่อน นั่นคือราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติในสังกัดของจอมราชันย์คนอื่นๆไม่ใช่หรือ? พวกเขามีความสัมพันธ์อย่างไรกับราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแห่ง 9 น่านฟ้า?” หูเสี่ยวออกจะงุนงง
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจสิ่งที่จ้าวหย่าพูด แต่มันเหลือเชื่อเสียจนไม่อาจทำความเข้าใจทุกอย่างพร้อมกันได้ในคราวเดียว
“พวกเราทุกคนคือศิษย์สายตรงของเขา!” จ้าวหย่าตอบ
“พวกคุณทุกคน…เป็นศิษย์สายตรงของเขา? ตะ-แต่…พวกคุณคือราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติที่แข็งแกร่งที่สุดใน 9 น่านฟ้านะ ถ้าทุกคนคือศิษย์สายตรงของเขา ก็หมายความว่า…” หูเสี่ยวอุทานอย่างสับสน
เขาพลันเข้าใจเดี๋ยวนั้นว่าทำไมถึงถูกจ้าวหย่าซ้อม
โชคดีเหลือหลายที่เพิ่งบอกจ้าวหย่าเพียงคนเดียวว่าพยายามปล้นทรัพย์สมบัติจากท่านอาจารย์ของเธอ เพราะหากศิษย์สายตรงคนอื่นๆรู้เรื่องนี้ เขาคงจบเห่แน่…