ฉิบหาย!
นั่นคือความคิดที่พวกหลงซุนมีหลังได้ยินคำพูดของหลงฉุน พวกเขาแทบจะหน้ามืดเป็นลมลงตรงนั้น
เวลานี้ใบหน้าของพวกหลงซุนทั้งสามซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด
ตุบ!
หลงซุนนั้นเขกหัวหลงฉุนลงอย่างแรงจนแทบทำให้อีกฝ่ายหน้าจมดิน
“เสียมารยาท! กล้าพูดเช่นนี้กับท่านเย่หยวนได้อย่างไร เจ้าเบื่อชีวิตแล้วหรือ?”
หลงซุนลงโทษหลงฉุนอย่างรุนแรงก่อนจะหันไปปั้นหน้ายิ้มให้เย่หยวน “นายท่าน อย่าไปว่าเด็กมันเลย ช่วยอย่าถือสามันด้วย”
“ท-ท่าน? เจ้าหมอนี่มันแค่มนุษย์เทพถ่องแท้แปดดาว ต่ำต้อยเสียกว่าข้า ทำไมพี่ซุนถึงไปเรียกมันว่าท่านเล่า?” หลงฉุนยังคงถามขึ้นอย่างมึนงง
เวลานี้มันมิใช่แค่หลงฉุน แต่คนทั้งหลายเองก็ได้แต่มองดูหลงซุนอย่างมึนงง
คนอย่างพี่ซุนของพวกเขานี้มีนิสัยอย่างไร? แต่เขากลับมาก้มหัวให้กับมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ได้เก่งกาจใด ๆ มากมายทั้งยังรักษาท่าทางราวกับเป็นคนรับใช้
หลงซุนคิดอยากจะตีหัวหลงฉุนให้แตกตายลงไปตรงนี้ เขาร้องตะโกนด่าหลงฉุนออกมา “หะ? นี่เจ้าไม่คิดจะฟังคำพี่ซุนเจ้าอีกแล้วหรือ? ข้าบอกให้เรียกเขาว่านายท่าน! จากวันนี้ไปนายท่านเย่คือพี่ใหญ่ของพวกเจ้า!”
หลงฉุนและพวกได้แต่หันไปมองหน้ากันอย่างมึนงง
แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังฟังคำของหลงซุนและหันไปเรียกเย่หยวนตามที่ถูกบอก
“พี่ใหญ่!”
แต่เย่หยวนกลับยกมือขึ้นมาโบกปัด “พี่ซุนนั้นยังเป็นพี่ใหญ่ของพวกเจ้าเหมือนเดิมนั่นแหละ ข้าไม่มีเวลามาเป็นพี่ใหญ่เจ้าหรอก”
หลงซุนจึงรีบตอบกลับมา “นั่นสิ ๆ นายท่านนั้นยิ่งใหญ่ปานใด? เหตุใดต้องการเป็นพี่ใหญ่ให้พวกเราทั้งหลายด้วย? เพียงแค่ว่า…คำพูดที่นายท่านว่าเมื่อสักครู่นี้…หรือว่าท่านไม่เกรงกลัวใด ๆ เทพสวรรค์เลย?”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เกรงหรือไม่นั้นมันก็ต้องลองสู้กันดูสักตั้งก่อน เอาล่ะไปหาที่เงียบ ๆ ให้ข้าหน่อย ข้าจำเป็นต้องเก็บตัวแล้ว”
ตลอดทางมานี้เย่หยวนล่ามารนรกไปมากมาย ผลึกมารดำที่เขามีติดตัวในเวลานี้มันมากพอที่จะให้เขานั่งเก็บตัวไปพักใหญ่
หลังจากเย่หยวนจากไปแล้วพวกหลงฉุนทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะหันมาถาม “พี่ซุน นี่มัน…เรื่องอะไรกันแน่?”
หลงซุนหันไปมองอย่างดุดัน “หากพวกเจ้าไม่อยากตายก็หุบปากทำตามข้าสั่ง! เจ้าอย่าได้คิดว่าเขาเป็นแค่เทพถ่องแท้แปดดาวใด ๆ หากเขาอยากสังหารเราทั้งหลายแล้วแค่นิ้วเดียวมันก็คงเกินพอ!”
หลงฉุนตอบกลับมาอย่างไม่คิดอยากเชื่อ “เทพถ่องแท้แปดดาว? คิดสังหารเราด้วยนิ้วเดียว? ฮ่า ๆ พี่ซุน ท่านก็พูดเล่นไป!”
“ใครมามีเวลาล้อเล่นกับเจ้า? เจ้าไม่เคยเห็นนายท่านลงมือต่อสู้! เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเราทั้งสามกลับมาได้อย่างไร?” หลงชิงร้องขึ้นว่าด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“กลับมาอย่างไรเล่า? หรือว่าไม่ได้เดินกลับมา?”
หลงชิงยิ้มตอบไป “เดินน่ะเดินแน่ แต่นายท่านนั้นสังหารฆ่ามาตลอดทาง! ระหว่างทางกลับมานี้มารนรกที่นายท่านฆ่าสังหารไปมันคงมีมากกว่าพันตัว!”
“หะ? เป็นไปได้อย่างไรกัน!” ทุกผู้คนต่างไม่คิดอยากเชื่อ
หลงซุนหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เชื่อหรือไม่มันก็เรื่องของเจ้า! แต่เราทั้งสามนั้นได้เห็นมากับตา มีหรือที่มันยังจะปลอมแปลงได้? แล้วอย่ามาว่าข้าไม่เตือน หากพวกเจ้าคิดรนหาที่ตายแล้วก็ไปหาเรื่องท่านเอาเถอะ!”
หลงซุนเดินจากไปทันทีที่พูดจบ ทิ้งคนทั้งหลายยืนมึนงงอยู่ตรงนั้น
…
หลงซุนนั้นอยู่ในถ้ำเนตรมังกรมานานและมีความสามารถอยู่ไม่น้อย
หุบเขาที่เขามาตั้งฐานกันนี้มันเป็นหนึ่งในจุดที่ไม่มีมารนรกมารบกวน เป็นสถานที่สุดเงียบสงบเหมาะแก่การเก็บตัวอย่างมาก
เย่หยวนนั้นค่อย ๆ หลอมกลั่นผลึกมารดำไปเรื่อย ๆ จนมีพลังบ่มเพาะก้าวเข้าใกล้เทพถ่องแท้เก้าดาวเต็มที
สามเดือนจากวันนั้นหลงจ้าวเทียนก็ได้นำพาลูกน้องทั้งหลายมาหาเรื่องพวกหลงซุนถึงหน้าฐาน
“หลงซุน ดูท่าเจ้ามันจะเป็นพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! วันนี้พี่เทียนของเจ้านี้จะถล่มฐานเจ้าให้ราบ!” หลงจ้าวเทียนร้องบอก
หลงซุนนั้นก็ตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว “หลงจ้าวเทียน! เจ้าใช้โอกาสที่ข้าไม่อยู่มาทำร้ายน้อง ๆ ของข้าทั้งหลาย! เรื่องนี้เจ้าเตรียมรับโทษไว้ให้ดีเถอะ!”
หลงจ้าวเทียนที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะลั่น “หลงซุน ดูท่าเจ้ามันจะยังไม่รู้เรื่องราวสินะ! ข้าจะบอกให้ เวลานี้หัวหน้าของเรานั้นคือเทพสวรรค์ตัวจริงเสียจริง เจ้าลองไปต่อต้านนางดูเถอะ แล้วจะได้รู้จักความตาย!”
หลงซุนยิ้มตอบกลับไป “มันเป็นเจ้าต่างหากที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว! เจ้าคิดว่ามีแค่ฝ่ายตนหรือที่ได้เจอผู้ช่วยน่ะ? ในการเดินทางครั้งนี้ของพี่ใหญ่ซุนนี้ ข้าก็ได้เจอกับผู้ช่วยมาเหมือนกัน!”
หลงจ้าวเทียนหน้าถอดสีทันที ดูท่าคงตื่นตกใจอย่างมาก
เจ้าหมอนี่มันคงไม่ได้มากล่าวว่าท่าเฉย ๆ หรอกใช่หรือไม่?
“ฮ่า ๆ ๆ หลงซุน เจ้าคิดจะขู่ข้าให้กลัวหัวหดล่ะสิ? เจ้ามีหัวหน้าอีกหรือ? เช่นนั้นก็เรียกมันออกมา พ่อเจ้านี้จะตบให้หน้ามันกลายเป็นหัวหมูเอง!” หลงจ้าวเทียนหัวเราะลั่น
เขานั้นย่อมจะไม่เชื่อว่าหลงซุนไปเจอยอดฝีมือมาเช่นกัน เรื่องสุดบังเอิญเช่นนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไร?
เขาเจอยอดฝีมือและหลงซุนก็จะไปเจอยอดฝีมือแทบพร้อม ๆ กันหรือ?
“อ่า? เจ้านี่หรือที่บอกว่าจะตบให้หน้าข้ากลายเป็นหัวหมู?” เงาร่างหนึ่งปรากฏกายออกมาพร้อมมองดูหลงจ้าวเทียนอย่างเย็นเยือก แน่นอนว่ามันจะเป็นเย่หยวนแล้ว
“นายท่านเย่!” เมื่อหลงซุนเห็นเย่หยวนเขาก็รีบก้มหัวลงทันที
เมื่อหลงจ้าวเทียนได้เห็นเย่หยวนตัวเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
“ฮ่า ๆ ๆ …หลงซุน นี่หรือคือยอดฝีมือของเจ้า? มนุษย์แถมยังเป็นแค่เทพถ่องแท้แปดดาว? ฮ่า ๆ ๆ… เก่งแท้! ข้ากลัวแล้ว! น้อง ๆ ข้ากลัวแล้วมาช่วยข้าเก็บหางกลับบ้านหน่อยเร็ว หัวหน้าของคนพวกนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!”
หลงจ้าวเทียนหัวเราะลั่นออกมาอย่างไม่มีทีท่าจะหยุด คำพูดแต่ละคำนั้นมันมีแต่ความเหยียดหยามไร้ความกลัวใด ๆ
แค่เทพถ่องแท้แปดดาว ใครจะคิดเป็นจริงเป็นจัง?
ลูกน้องของหลงจ้าวเทียนเองก็หัวเราะขึ้นมาตาม ๆ กัน
“ใช่ ๆ เรากลัวแล้ว! หัวหน้าเจ้านี้อย่าได้ลงมือเลย เรากลับว่าจะตายเอา”
“ฮ่า ๆ ๆ…เทพถ่องแท้แปดดาว ข้ากลัวตายแล้ว!”
“หลงซุน เจ้านี่มันเพี้ยนไปทุกวัน กลับไปหาเทพถ่องแท้แปดดาวและมาบอกว่าเป็นยอดฝีมือผู้ช่วยจากที่ไหนมา”
…
คำพูดดูถูกของอีกฝ่ายนี้หลงซุนย่อมจะตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเบา ๆ
‘หัวเราะไป!’
‘หัวเราะให้สะใจ!’
‘เพราะอีกไม่นานเจ้าจะไม่มีแรงแม้แต่จะร้องไห้!’
เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่ตนเองเจอเย่หยวน ตัวเขาก็คงมีหน้าตาไม่ต่างจากคนทั้งหลายนี้
แต่ไม่นานจากนั้น สีหน้าของเขามันก็สีแต่ความหวาดกลัว
‘เจ้าพวกหลงจ้าวเทียนทั้งหลายนี้มาวางท่าต่อหน้านายท่าน ถึงขั้นบอกว่าจะตบหัวนายท่านให้กลายเป็นดั่งหัวหมู ฮ่า ๆ’
“หัวเราะพอหรือยัง?” เย่หยวนถาม
หลงจ้าวเทียนตอบกลับมาทั้ง ๆ ที่ยังหัวเราะอย่างไม่อาจหยุดได้ “ยังไม่พอ ๆ ขออีกนิด เจ้าดีใจไว้เถอะ ไม่เช่นนั้นเวลานี้หัวเจ้าคงได้กลายสภาพเป็นหัวหมูไปแล้ว!”
ปัง!
เสียงของเขายังไม่ทันจางหายมันก็มีหมัดหนึ่งพุ่งเข้าใส่หน้าของหลงจ้าวเทียนจนส่งร่างเขาลอยปลิวไป
หลงจ้าวเทียนนั้นมีพลังบ่มเพาะระดับหกขั้นสุด แต่เขากลับไม่อาจจะรับมือหมัดนี้ได้ทันเลย
หลายเดือนผ่านไปนี้เย่หยวนย่อมจะพัฒนาฝีมือขึ้นไปมากจนมาถึงเทพถ่องแท้แปดดาวขั้นกลาง พลังฝีมือของเขามันจะพัฒนาไปมากกว่าแต่ก่อนปานใด?
หากเขาไม่ได้ยั้งมือไว้ หลงจ้าวเทียนคงหัวหลุดจากบ่าไปแล้ว
เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าเมื่อยามมีภัยคนทั้งหลายนี้จะช่วยเหลือกันในถ้ำเนตรมังกรนี้
เพียงแค่ว่าทั้งสองฝ่ายนั้นชอบหาเรื่องกัน ไม่ได้คิดจะฆ่ากันให้ถึงตายใด ๆ
ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยจำนวนเพียงเท่านี้ต่อให้มารนรกจะไม่ฆ่าพวกเขา แต่หากพวกเขาคิดฆ่าสังหารกันเองมันก็คงไม่มีใครเหลืออยู่ในฐานแล้ว
ปัง ปัง ปัง…
เสียงหมัดดังลั่นขึ้นเมื่อปะทะกับร่างของหลงจ้าวเทียนและในแต่ละหมัดนี้มันไม่ได้หลุดออกจากกรอบใบหน้าของหลงจ้าวเทียนเลย
ในเวลาไม่กี่อึดใจ หลงจ้าวเทียนนั้นได้มีใบหน้าบวมบูดไม่ต่างจากหัวหมูเป็นที่เรียบร้อย
เหล่าลูกน้องของเขาทั้งหลายที่ยังยิ้มอยู่ไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ได้แต่ต้องอ้าปากค้างแทน
หลงจ้าวเทียนบอกว่าจะตบให้หน้าผู้คนกลายเป็นหัวหมู แต่คนที่กลายเป็นหัวหมูนั้นมันดันเป็นตัวเขาเอง…
………………..