ตอนที่ 1080: ไปที่ตระกูลผู้พิทักษ์

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1080: ไปที่ตระกูลผู้พิทักษ์

“เจี้ยนเฉิน ความล้มเหลวไม่ใช้เรื่องสำคัญหรอก ความสามารถของเจ้านั้นสุดยอด ดังนั้นเจ้าจะได้กลายเป็นเซียนราชาไม่ช้าก็เร็ว” หวงหลวนปลอบ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความห่วงใย นางดูเหมือนจะกังวลว่าความล้มเหลวของเจี้ยนเฉินจะมีผลกระทบต่อจิตใจของเขา

เจี้ยนเฉินยิ้มบูดบึ้งในใจเมื่อเขาได้ยินว่านางห่วงใย เมื่อเขาเริ่มเดินในเส้นทางแห่งกระบี่ จิตวิญญาณกระบี่จะกำจัดความเข้าใจในความลึกลับของโลกของเขา เขาจะสูญเสียความสามารถในฐานะเซียนผู้คุมกฎ ในตอนนี้ การพัฒนาการเป็นเซียนราชาไม่ใช่เรื่องที่สำคัญแล้ว

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินและหวงหลวนก็ไปหาผู้อาวุโสสูงสุดเทียนเจี้ยนเช่นกันกับเถี่ยต้าที่อยู่ที่นั่นมาตลอด พวกเขาพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนที่จะออกไปจากเมืองทหารรับจ้าง เจี้ยนเฉินและหวงหลวนกลับไปที่ตระกูลเจียงหยางผ่านประตูมิติที่รุยจินสร้างขึ้นมา

มันก็สามปีเต็มแล้วตั้งแต่ที่เจี้ยนเฉินไปที่ตระกูลเจียงหยางครั้งล่าสุด ในระหว่างช่วงเวลานี้ ตระกูลก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป นอกเหนือไปจากพี่รองของเจี้ยนเฉิน เจียงหยางเค่อ

หลังจากที่ขอความช่วยเหลือจากเจี้ยนเฉินในคืนนั้น เจี้ยนเฉินก็ได้สั่งให้นักปรุงยาของเมืองอัคนีมาสกัดสมบัติสวรรค์หมื่นปีให้เป็นเม็ด และส่งมันไปที่ตระกูลเจียงหยางในตอนที่เขาไปที่เมืองอัคนีครั้งล่าสุด หลังจากที่กินยาเข้าไปแล้ว เจียงหยางเค่อก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ความสามารถที่ธรรมดาของเขาได้ถูกยกระดับเป็นอัจฉริยะ ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นเท่านั้น ความเร็วในการฝึกฝนของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เขากลายเป็นเซียนปฐพีแล้วในตอนนี้ และเขาอยู่ในวัฏจักรที่สาม

ในตอนกลางคืน เจี้ยนเฉินและหวงหลวนได้มาถึงที่สวนน้ำหอมด้านหลังตระกูล หวงหลวนเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวหิมะหรูหราเพื่อพยายามที่จะแต่งตัวเหมือนคุณหนูของตระกูลใหญ่ ความกล้าหาญที่ปรากฏอยู่ที่นางได้หายไปโดยสิ้นเชิง นางดูเหมือนภรรยาที่น่ารัก มีการศึกษาและขี้เกรงอกเกรงใจในตอนนี้

หวงหลวนกอดแขนเจี้ยนเฉินเบา ๆ นางซบหัวของนางไปที่ไหล่ของเจี้ยนเฉินในขณะที่พวกเขาเดินเล่นในสวน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสุข

“เจี้ยนเฉิน ข้าต้องการที่จะไปที่อาณาจักรทะเลเพื่อที่จะฝึกฝนในภายภาคหน้า พลังงานธาตุน้ำที่นั่นหนาแน่นมาก ดังนั้นมันจึงเหมาะมากกับร่างจิตวิญญาณน้ำของข้า ข้าเชื่อว้าถ้าข้าได้ฝึกฝนที่นั่น อัตราการพัฒนาความแข็งแกร่งของข้าจะไม่ช้าไปกว่าที่เมืองทหารรับจ้างแน่” หวงหลวนมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างอ่อนโยนในขณะที่นางพูด เสียงของนางอ่อนโยนและดูน่าพอใจ

เจี้ยนเฉินไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอแนะของหวงหลวน ร่างจิตวิญญาณน้ำนั้นแตกต่างจากร่างธรรมดา ผลในการฝึกในที่ที่มีพลังงานธาตุน้ำหนาแน่นต้องน่าประทับใจแน่ และทำให้คนที่มีร่างกายแบบนั้นเข้าใจในความลึกลับของโลกได้ละเอียดมากขึ้น

“หลวนเอ๋อ เมื่อข้าหาทางที่จะเอาผนึกในหัวของเจ้าออกได้แล้ว ข้าจะพาเจ้าไปที่อาณาจักรทะเล สำหรับวิธีการฝึกฝนของเจ้า ข้าได้พบแบบแรกของคัมภีร์ทานตะวันที่อยู่ในแหวนมิติของบรรพชนตระกูลหวงกู่ อย่างไรก็ตาม มันเป็นแค่วิธีการฝึกฝนระดับเซียนขั้นต้นเท่านั้น ข้าจะดูว่าข้าจะสามารถเอาวิธีการฝึกฝนระดับเซียนที่ดีกว่าและเหมาะสมกับเจ้ามาจากเทพเจ้าแห่งท้องทะเลได้หรือไม่หลังจากที่ข้ากลับไปที่อาณาจักรทะเล ข้าคิดว่านางน่าจะรู้อะไรบ้างในฐานะที่เป็นหนึ่งในสี่สุดยอดจอมยุทธจากเมื่อครั้งโบราณกาล” เจี้ยนเฉินพูดอย่างห่วงใย หวงหลวนได้กลายเป็นผู้หญิงของเขาทั้งในชื่อและในความจริง ดังนั้นเขาจำเต็มต้องพยายามทุกอย่างเพื่ออนาคตของนาง

หวงหลวนพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและยิ้มหวาน นางรู้สึกตื้นตันกับความห่วงใยที่เจี้ยนเฉินแสดงออกมา ในเวลาเดียวกัน นางก็รู้สึกพอใจมาก

ในตอนนี้ จู่ ๆ สายตาของเจี้ยนเฉินก็แข็งทื่อไป คนที่ดูประณีตที่อยู่ชุดหรูหรากำลังนั่งอยู่ที่กระโจมด้านหน้า

“ท่านป้ารอง” เจี้ยนเฉินพูดในใจ แม้ว่าเขาจะเห็นเพียงแค่ด้านหลังของนาง แต่เขาก็บอกได้เพียงมองปราดเดียว่านางเป็นป้ารองที่รักเขาเหมือนเป็นลูกของนางเองตั้งแต่ที่เขายังเด็ก

เจี้ยนเฉินและหวงหลวนรับเข้าไปที่กระโจมและไปถึงตรงหน้านาง เจี้ยนเฉินถาม “ท่านป้า มันก็ดึกแล้ว ทำไมท่านถึงยังนั่งอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ ? “

หยูเฟิงหยานนั่งอยู่ด้วยท่าทางมืดมนมา นางดูเหมือนจะไม่เห็นการมาของเจี้ยนเฉินเลย ดังนั้นนางจึงสะดุ้งตัวลอยตกใจเมื่อได้ยินเสียงที่จู่ ๆ ก็ดังขึ้นมา นางมองกลับไปและเมื่อนางเห็นเจี้ยนเฉิน รอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าที่เศร้าโศกของนาง นางพูดอย่างอ่อนโยน “เซียงเทียนน่ะเอง” หยูเฟิงหยานดูเหนื่อยล้ามากกว่าแต่ก่อน และนางดูแตกต่างจากเมื่อหลายปีก่อนมาก สายตาของนางเต็มไปด้วยความโหยหาในอดีต

เจี้ยนเฉินรู้สึกแย่เมื่อเห็นหยูเฟิงหยานเป็นแบบนี้ ป้ารองของเขารักเขามากเมื่อเขายังเด็ก แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ลูกของนาง แต่นางก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนว่าเป็นลูก ซึ่งเป็นเหตุผลที่เจี้ยนเฉินถือว่านางเป็นคนสำคัญมานาน

“ท่านป้า ท่านเป็นไรหรือเปล่า ? ท่านคิดถึงพี่สาวของข้าหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างห่วงใย เขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่ชายและพี่สาวของเขาเองมานานแล้ว

ความเจ็บปวดที่สะสมมานานภายในหยูเฟิงหยานได้ระเบิดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อนางได้ยินเจี้ยนเฉินพูดถึงเจียงหยาง หมิงเยว่ นางเริ่มสะอื้นอย่างเจ็บปวดในขณะที่น้ำตาก็ไหลพลั่งพรูออกมาจากตาของนาง นางร้องไห้เพราะความเหงา

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินมืดมนเมื่อเขาได้เห็นหยูเฟิงหยานร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด เขาเป็นห่วงป้าของเขามาก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกย่ำแย่เมื่อเห็นนางเป็นแบบนี้

“ข้าไม่รู้ว่าหมิงเยว่อยู่ที่ไหนในตอนนี้ ข้าไม่ได้เจอนางมาเป็นสิบปีแล้ว หมิงเยว่ ข้ารู้ว่าเจ้าได้กลายเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของศาลาเทพเจ้าน้ำแข็งแล้วในตอนนี้ เมื่อไรที่เจ้าจะกลับมาหาแม่ของเจ้ า? มันก็เป็นสิบปีแล้วที่ข้าเจอเจ้าครั้งล่าสุด ข้าคิดถึงเจ้ามาก” หยูเฟิงหยานสะอื้นในขณะที่น้ำตาไหลออกมา

เจี้ยนเฉินดูป้าที่น้ำตาไหลของนางด้วยอารมณ์ต่างต่างนานา หลังจากที่เงียบไปสักพัก เขาก็ลอบถอนใจและก็เข้าไปปลอบนาง “ท่านป้า อย่าทำแบบนี้เลย ข้าไม่ได้เจอน้องของข้ามามากกว่าสิบปีเหมือนกัน ดังนั้นข้าก็คิดถึงนางมากเช่นกัน เมื่อข้าจบเรื่องของข้าในสองสามวันนี้แล้ว ข้าจะพาท่านไปที่ขั้วโลกเพื่อไปหาพี่สาวของข้ากัน”

ใบหน้าของหยูเฟิงหยานแข็งทื่อเมื่อนางได้ยินแบบนั้น สิ่งที่เจี้ยนเฉินพูดเป็นเหมือนประกายแห่งความหวังในความมืดต่อหยูเฟิงหยาน สายตาของนางที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและรำลึกถึงที่ผสมกันไป นางจับแขนของเจี้ยนเฉินด้วยอาการณ์สั่นเทาและพูดออกมาอย่างมีอารมณ์ “จริงหรือเปล่า ? เซียงเทียน เจ้าอยากจะพาข้าไปหาหมิงเยว่งั้นหรือ ? “

ขั้วโลกไม่ได้อยู่บนทวีปเทียนหยวน มันเหมือนเกาะสามเซียนที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อยู่ มันอยู่ห่างไกลจากทวีปลึกเข้าไปในทะเล ทวีปและขั้วโลกถูกแยกกันด้วยน่านน้ำและไกลกว่ามากเมื่อเทียบกับระยะทางที่ไปยังเกาะสามเซียน แม้ว่าหยูเฟิงหยานจะเป็นฮูหยินของหัวหน้าตระกูลเจียงหยาง แต่นางก็ไม่ได้มีพลังอะไรนอกเหนือไปจากสถานะในตระกูลของนาง บวกกับเรื่องที่ขั้วโลกนั้นไกลมาก มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะไปหาเจียงหยาง หมิงเยว่

ระยะทางมันไกลมากที่แม้แต่เซียนสวรรค์ยังไม่สามารถเข้าไปในขั้วโลกได้ มีเพียงเซียนผู้คุมกฎเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ แต่ถึงกระนั้นมันก็ใช้เวลานานมาก สถานะของหยูเฟิงหยานในตระกูลไม่อยู่ในระดับที่นางจะขอให้เซียนผู้คุมกฎพานางไปที่ขั้วโลกได้

“ท่านป้า อย่ากังวลไปเลย ในตอนที่ข้าจัดการกับทุกอย่างจบแล้ว ข้าจะไปที่ศาลาเทพเจ้าน้ำแข็งแน่” เจี้ยนเฉินสาบานออกมา เขาก็คิดถึงพี่สาวมากเช่นกัน

นอกเหนือไปจากไป๋หยุนเทียน พี่สาวของเขาก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีในตอนที่เขาเป็นเด็ก ดีมากกว่าพ่อของเขา เจียงหยางป้า เสียอีก

เจี้ยนเฉินและหวงหลวนพาหยูเฟิงหยานกลับไปที่ห้องหลังจากที่ปลอบนาง ก่อนที่จะแยกกับนางที่ห้อง

เช้าของวันถัดมา เจี้ยนเฉินก็ไปพบภรรยาของเคนดัลและลูก โรงเตี้ยมในเมืองลอร์ของพวกเขานั้นมีชื่อเสียงมาก ทุก ๆ คนในเมืองรู้จักมัน ชื่อของมันยังกระจายไปทั่วทั้งอาณาจักร

โรงเตี้ยมเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดในเมืองลอร์ อาจจะปลอดภัยที่สุดในอาณาจักรด้วยซ้ำ การต่อสู้และความขัดแย้งยากที่จะเกิดขึ้นที่นี่ และถ้ามีคนกล้าที่จะเริ่มต่อสู้กัน จอมยุทธลึกลับกลุ่มใหญ่ก็จะพุ่งเข้ามาจากด้านนอกและโยนพวกนั้นออกไปโดยไม่มีข้อยกเว้น บางทีถึงกับเอาชีวิตพวกนั้นด้วย

โรงเตี้ยมถูกคุ้มครองโดยกลุ่มจอมยุทธที่ลึกลับ ตัวตนของจอมยุทธพวกนี้นั้นเป็นความลับที่รู้กันดีในเมืองลอร์ หลายคนรู้ว่าพวกเขาเป็นคนของตระกูลเจียงหยาง

ทหารรับจ้างที่หนีมาบางคนถือว่าโรงเตี้ยมนี้เป็นที่พักที่ปลอดภัย

เจี้ยนเฉินได้ซ่อมอาวุธเซียนของซันที่ถูกทำลายโดยคนของนิกายหยางจิ และทำให้เขาฝึกฝนได้อีกครั้ง เขาไม่ได้อ่อนแอเหมือนแต่ก่อนแล้ว ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นจากสมบัติสวรรค์จากเจี้ยนเฉิน ดังนั้น ความเร็วในการฝึกฝนของเขาจึงเยี่ยมยอดมาก

เจี้ยนเฉินห่วงใหญ่แม่ลูกคู่นี้เป็นพิเศษจนถึงเรื่องเล็กน้อย นี่เป็นทั้งหมดที่เขาจะตอบแทนความมีน้ำใจของเคนดัลได้

เขาตอบแทนความมีน้ำใจของเคนดัลไปนับเท่าไม่ถ้วนให้กับซันและแม่ของเขา

เมื่อร่ำลากับพวกเขาแล้ว เจี้ยนเฉินก็กลับไปที่ตระกูลเจียงหยาง หลังจากนั้น เขาก็ออกเมืองไปกับเจียงหยาง ซู หยวนเซียว, เจียงหยาง ซู อวี้หยวน, เจียงหยาง ซู หยุนคง และหวงหลวน พวกเขาวางแผนที่จะไปที่ตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางเพื่อที่จะเอาผนึกในหัวของเจียงหยาง ซู หยุนคงออก เช่นเดียวกันกับการแก้ไขทักษะลับที่ติดอยู่ในหัวของหวงหลวน

เจียงหยาง ซู หยวนเซียวสร้างประตูมิติด้วยความสามารถของเซียนราชาของเขา หลังจากที่ผ่านประตูไป เจี้ยนเฉินและหวงหลวนก็พบว่าพวกเขามาถึงที่ท้องฟ้าเหนือแนวภูเขาโบราณที่ไม่รู้จัก