ตอนที่ 2142 พละกำลังพุ่งทะยาน

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

อาการบวมบนใบหน้าของหลงจ้าวเทียนนั้นมันเพิ่งจะลดลงไปได้ไม่นานแต่ด้วยหมัดนี้ของหลงเสี่ยวฉุนมันก็เริ่มกลับมาบวมขึ้นอีกครั้ง

“ห-หัวหน้า ท่านต่อยผิดคนแล้ว!” หลงจ้าวเทียนได้แต่ร้องขึ้นมาพร้อมน้ำตาที่ซึม

หลงเสี่ยวฉุนหันไปยิ้มมองเขา “ข้าต่อยไม่ผิดหรอก เย่หยวนนี้คือพี่น้องคนสนิทของข้า เจ้าคิดต่อยให้เขาหน้าบวมเป็นหัวหมู สมควรแล้วที่เจ้าจะกลายเป็นหัวหมูไปเอง”

“พ-พี่น้องคนสนิท?” หลงจ้าวเทียนร้องขึ้นอย่างตกตะลึง

เย่หยวนเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดกล่าวใด ๆ เขาจึงได้แต่ถามเรื่องที่สงสัยที่สุดขึ้น “เสี่ยวฉุน เจ้าเข้ามาในถ้ำเนตรมังกรด้วยเหตุใด?”

หลงเสี่ยวฉุนนั้นยกนิ้วขึ้นมาปัดจมูกตนก่อนจะตอบ “หึ! ข้ารู้อยู่แล้วว่าพวกหลงจื่อเฒ่ามันคงไม่ได้คิดเรื่องดี ๆ ไว้แน่และได้คิดจะไปหาท่านแม่ แต่สุดท้ายข้ากลับไปได้ยินท่านแม่กับลุงฉือพูดถึงเรื่องของเจ้าเสียก่อน เดิมทีข้านั้นคิดจะหยุดยั้งมันแต่กว่าจะทันรู้มันก็สายไปเสียแล้ว ข้าจึงได้ใช้โอกาสที่พวกเขาทั้งหลายไม่ทันรู้ตัวหลบพุ่งเข้ามาภายในนี้ เจ้านั้นถูกส่งลงมาในนี้เพราะข้าพาเจ้ามาแดนมังกรแต่แรก มีหรือที่ข้าจะปล่อยให้แขกที่ข้าชวนมาด้วยตนเองเจอความฉิบหายได้? แน่นอนว่าข้าต้องตามเข้ามาพาตัวเจ้าออกไปแล้ว!”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เอ่อขึ้นมาในใจ

ตั้งแต่ที่ตัวเขานั้นได้เห็นหลงเสี่ยวฉุนครั้งแรกเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงสายสัมพันธ์บางอย่างที่อธิบายไม่ได้ในสายเลือดของตน

บางทีพวกเขาทั้งสองอาจจะเป็นญาติกันจริง ๆ ก็ได้

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียมันก็ไม่มีใครรู้ว่าบรรพบุรุษของเผ่ามังกรมาจากที่ใด

บางทีเขาอาจจะเกิดในปราการมังกรพิรุณนี้ด้วยซ้ำ?

“เฮ้อ เด็กคนนี้ เจ้าเองก็เอาแต่ใจเสียเหลือเกิน เมื่อเจ้าลงมาเช่นนี้แล้วคนทั้งหลายในโลกภายนอกจะแตกตื่นกันปานใดแล้ว” เย่หยวนถอนหายใจยาว

หลงเสี่ยวฉุนนั้นหัวเราะตอบกลับมา “ใครสนเล่า! ไม่ว่าอย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้ชอบจะอยู่ในปราการมังกรพิรุณอยู่แล้ว ออกมาเช่นนี้ได้รับตำแหน่งหัวหน้ากองกำลังมันดูสนุกกว่าเป็นไหน ๆ เจ้าน่ะเทียนน้อยทำไมเจ้ายังไม่มากราบขอโทษเย่หยวนอีก?”

หลงจ้าวเทียนนั้นมาถึงด้วยความมั่นหน้า คิดแต่ว่าจะทำให้เย่หยวนหน้าบวมเป็นหัวหมูเหมือนที่ตนเป็น

ใครจะไปคาดคิดว่านอกจากจะไม่อาจทำให้หัวเย่หยวนบวมเป็นหมูได้แล้ว มันกลับเป็นหัวเขาเองที่บวมขึ้นอีกครั้ง

สุดท้ายเขาจึงได้แต่ต้องมาก้มหัวขอโทษเย่หยวนอย่างคับแค้นใจ!

แต่ทว่าคำสั่งของหลงเสี่ยวฉุนนั้นมีหรือที่เขาจะกล้าปฏิเสธ?

หลงเสี่ยวฉุนนั้นเป็นคนบ้ากำลัง หลายวันมานี้แน่นอนว่าหลงจ้าวเทียนย่อมจะถูกทรมานอย่างไม่มีหยุดเมื่อหลงเสี่ยวฉุนเกิดอารมณ์เสียขึ้นมา

“น-นายท่าน เทียนน้อยผิดไปแล้ว!” หลงจ้าวเทียนร้องขึ้นด้วยใบหน้าสุดขื่นขม

เมื่อได้เห็นสภาพนั้นของหลงจ้าวเทียน ตัวหลงซุนก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมา

เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกไล่ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดจะไปถือสาเอาความคนเช่นนี้มาแต่แรกแล้ว

“ในเมื่อเจ้าคิดอยากเล่นตำแหน่งหัวหน้านักนะเสี่ยวฉุน วันหน้าพวกเราก็มาผสานสองฐานนี้เข้าด้วยกันเถอะ ข้ายกตำแหน่งหัวหน้าให้เจ้า” เย่หยวนบอก

“ได้ ๆ!” หลงเสี่ยวฉุนยิ้มรับ

เวลานี้ฐานค่ายทั้งสองได้เริ่มทำการรวมกันเป็นฐานเดียวโดยมีหลงซุนและหลงจ้าวเทียนจัดการรายละเอียดเล็กน้อยต่าง ๆ แน่นอนว่าสุดท้ายทั้งสองนั้นก็ต้องหาเรื่องทะเลาะกันจนได้

ส่วนทางเย่หยวนนั้นได้พาตัวหลงเสี่ยวฉุนมานั่งคุยกันเป็นการส่วนตัว

หลงเสี่ยวฉุนมองดูเย่หยวนด้วยดวงตาที่ไม่คิดอยากเชื่อ “มันเหมือนได้เห็นผีจริง ๆ! ในสถานที่เช่นนี้เจ้ากลับไม่ได้บ่มเพาะช้าลง กลับกันกลับบ่มเพาะได้รวดเร็วขึ้นเสียอีก!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปพร้อมใช้บัญญัติเทพแห่งถงเทียนออกมาหมุนกลืนพลังงานคลื่นชั่วร้ายรอบ ๆ กาย

เมื่อหลงเสี่ยวฉุนเห็นภาพนั้นนางถึงกับต้องอ้าปากค้าง “จ-จ-เจ้า…เจ้ากลับใช้พลังงานชั่วร้ายนี้เป็นทรัพยากรบ่มเพาะได้? นี่…นี่มันยิ่งกว่าได้เห็นผีเสียอีก! ตั้งแต่ยังเล็กมาข้าคิดเสมอว่าตนนั้นเป็นตัวประหลาด วันนี้ได้มาเห็นเจ้าแล้วมันทำให้ข้าเป็นคนธรรมดาไปเลยจริง ๆ!”

เย่หยวนที่ได้ยินจึงหัวเราะตอบกลับมา “เจ้านั่นเป็นสาวน้อยสุดน่ารักน่าเอ็นดู มีส่วนใดเป็นตัวประหลาดเล่า?”

หลงเสี่ยวฉุนหัวเราะตอบกลับมา “ข้าแตกต่างจากคนทั้งหลาย”

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงความเศร้าเหงาและเจ็บปวดที่แฝงมากับเสียงหัวเราะนั้นอย่างชัดเจน

เย่หยวนนั้นได้ยินมาแสนนานแล้วว่าพวกหลงห่าวทั้งหลายนั้นเรียกหลงเสี่ยวฉุนว่าดาวหายนะ

ดูท่าตัวนางผู้นี้คงมีเรื่องราวที่เศร้าสร้อยปิดซ่อนไว้

เพียงแค่ว่าหากตัวหลงเสี่ยวฉุนไม่คิดอยากเล่า ตัวเย่หยวนก็ไม่คิดจะถามใด ๆ อีก

“หึ ๆ หากเฒ่าหลงจื่อทั้งหลายมันได้มาเห็นสภาพของเจ้าตอนนี้แล้วมันคงต้องโกรธแค้นจนกลับไปเกิดใหม่แน่!” หลงเสี่ยวฉุนพยายามพูดขึ้นมาเปลี่ยนเรื่อง

เย่หยวนเองก็อดหัวเราะขึ้นมาตามไม่ได้ “หึ ๆ ข้าเองก็คิดเช่นนั้น หากให้พูดตรง ๆ แล้วข้าชอบที่แห่งนี้มากทีเดียว ถึงขั้นไม่อยากจะออกไปเสียด้วยซ้ำ ถ้ำเนตรมังกรนี้มันเหมือนเป็นสวรรค์ในการบ่มเพาะของข้าโดยแท้”

หลงเสี่ยวฉุนได้แต่ตอบกลับมาด้วยสีหน้าหนักใจ “เจ้าทำเหมือนมันเป็นสวนหลังบ้านเช่นนี้ แต่…เจ้ามีวิธีออกไปหรือ?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “ข้าย่อมมี”

หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินจึงเบิกตากว้างขึ้น “เจ้ามีวิธีหรือ?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “แต่ตอนนี้ข้ายังคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับข้าคือการพัฒนาพลังฝีมือ! เสี่ยวฉุนหลายปีจากนี้ไปข้ามีเรื่องอยากไหว้วานเจ้าหน่อย”

หลงเสี่ยวฉุนยกมือขึ้นมาทาบอกพร้อมตอบกลับไป “ว่ามา จะให้ข้าทำอะไรดีเล่า?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ล่าพวกมารนรกทั้งหลายและเก็บผลึกมารดำมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้”

หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินถึงกับต้องอ้าปากค้าง “อ่า! วรยุทธบ่มเพาะของเจ้านี่มันพิเศษเสียจริง ๆ!”

หลังจากนั้นมาหลงเสี่ยวฉุนจึงได้นำพาคนจากค่ายทั้งสองที่รวมเข้าด้วยกันและออกเดินทางไปล่ามารนรกทั่วสารทิศ

ด้วยการนำของหลงเสี่ยวฉุนผู้มีกำลังเหนือล้ำธรรมดา เหล่ามารนรกหกดาวทั้งหลายมันจึงไม่อาจจะต้านทานใด ๆ ได้แม้แต่น้อย

ส่วนตัวเย่หยวนในเวลานี้มีหน้าที่แค่เรื่องเดียว นั่นคือการบ่มเพาะ

เมื่อไม่ต้องเสียเวลาไปล่าเองเย่หยวนจึงยิ่งได้พัฒนาพลังบ่มเพาะขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

สามปีจากนั้นเย่หยวนก็ได้บรรลุในสิ่งที่คนอื่น ๆ ไม่อาจผ่านได้ ก้าวขึ้นมาเป็นเทพถ่องแท้เก้าดาวในเวลาไม่ถึงสามพันปี!

หลังจากนั้นไปอีกห้าปี เย่หยวนก็ได้บรรลุขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้เก้าดาวขั้นสุดในคราเดียว ห่างจากอาณาจักรเทพสวรรค์เพียงเอื้อม!

ความเร็วในการบ่มเพาะของเขานี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

ไม่ว่าจะเป็นหลงซุนหรือหลงจ้าวเทียน ในเวลานี้พวกเขาต่างได้แต่ต้องยกเย่หยวนให้เป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง

ในวันนี้ เย่หยวนได้ออกมาจากการเก็บตัวแสนยาวนาน

หลงซุนที่สัมผัสได้จึงรีบพุ่งตัวออกมารับหน้าเย่หยวนทันที “นายท่านช่างเป็นดั่งเทพ! ในเวลาแค่เก้าปีมานี้ท่านกลับบ่มเพาะจากอาณาจักรเทพถ่องแท้เจ็ดดาวขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ก้าวดาวขั้นสุด คนเช่นนี้ต่อให้หาทั้งมหาพิภพถงเทียนมันก็คงไม่อาจพบเจอได้อีกแล้วใช่หรือไม่?”

คำพูดทั้งหลายนี้มันมิใช่แค่คำเยินยอ แต่มันเป็นความคิดของเขาจริง ๆ

ความเร็วในการบ่มเพาะของเย่หยวนนี้มันทำให้คนที่เห็นแทบบ้าตาย

ด้วยความเร็วในการกลืนปราณเทวะของเย่หยวนนี้หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาทั้งหลายคงแตกสลายไม่เหลือชีวิต แต่เย่หยวนนั้นกลับเป็นดั่งทะเลไร้ก้น กลืนไปเท่าไหร่ก็ไม่มีท่าทีจะอิ่มท้อง

บ้าเกินไป!

เขานั้นไม่เคยจะนึกฝันว่าโลกนี้กลับมีคนบ่มเพาะอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้เช่นนี้

เย่หยวนที่ได้ยินก็หันมาว่า “เลิกเลียแข้งเลียขาข้าเสียที!”

หลงซุนนั้นหัวเราะขึ้น “นายท่าน ออกจากการเก็บตัวครานี้ท่านจะพาเราออกไปแล้วหรือ?”

เย่หยวนตอบกลับไป “ไม่ต้องรีบ ในเมื่อทรัพยากรการบ่มเพาะในที่แห่งนี้มันสุดแสนอุดมสมบูรณ์ ข้าก็ย่อมจะคิดบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์เสียก่อนค่อยออกไป ไม่เช่นนั้นแล้วพอออกไปคงต้องเสียเวลาและกำลังไปอีกมากในการบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์”

ปริมาณพลังงานวิญญาณที่เย่หยวนต้องใช้ในการบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์นั้นมันมากมายจนน่ากลัว

หากออกไปยังโลกภายนอกแล้วการจะหาพลังงานวิญญาณให้มากพอนั้นคงต้องเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อย

แต่ในที่แห่งนี้มันมีผลึกมารดำมากมาย รวมไปถึงคลื่นพลังชั่วร้ายที่ล้นเปี่ยม

การบรรลุในนี้มันย่อมจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

“เรื่องนั้น…นายท่านเองจะไม่รีบร้อนบรรลุเกินไปหน่อยหรือ?” หลงซุนถามขึ้น

เพราะหากคนธรรมดาทั่วไปรีบร้อนทำการบรรลุจนเกินไปมันจะทำให้เกิดสภาวะอาณาจักรไม่เสถียรขึ้นได้

หากคิดอยากบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์นั้น มันย่อมจะต้องใช้การเตรียมการอย่างยาวนานสำหรับคนทั่ว ๆ ไป

ไม่เช่นนั้นแล้วมันอาจจะล้มเหลวลงได้ง่าย ๆ

เมื่อได้ยินคำของเย่หยวนนี้ ตัวเขาย่อมจะเข้าใจทันทีว่าเย่หยวนคิดบรรลุขึ้นในทันที

เย่หยวนได้แต่ตอบกลับไปอย่างไม่แยแส “ไม่จำเป็น! อ่า ข้าไม่ได้ขยับร่างกายเสียนาน คงต้องขอออกไปยืดเส้นยืดสายเสียหน่อยแล้ว”

………….