ตอนที่ 2326 มันคือของดี!

อัจฉริยะสมองเพชร

หลัวฉีฉีชักดาบออกมาแล้วโยนเข้าไป แค่พริบตาเดียว มันก็พุ่งฉิวไปมาทุกทิศทางราวกับแมลงวันที่บินส่ายไปมาโดยจับทิศทางไม่ได้

ฟึ่บ!

หลังจากเหวี่ยงซ้ายป่ายขวาไปมาโดยไม่มีทิศทางที่แน่นอนอยู่ครู่หนึ่ง แรงโน้มถ่วงที่ถาโถมเข้าใส่พร้อมกันทุกด้านอย่างไม่ลดละก็ทำให้จิตวิญญาณที่อยู่ในดาบสูญสลายไป สุดท้าย ดาบก็เสื่อมสภาพไปด้วย

ทั้งสามมองหน้ากันด้วยนัยน์ตาเบิกโพลง

แรงโน้มถ่วงนั้นมีความกดดันมหาศาล มากพอจะทำลายของล้ำค่าระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้นสูงได้สบาย เพียงแค่คิด ก็เล่นเอาทุกคนเย็นเยือกถึงกระดูกสันหลัง

“แล้วตอนนั้นคุณเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างไร?” หลัวฉีฉีถาม

“ที่จริงผมไม่เคยเข้าไปในนั้นหรอก ผมถูกโจมตีตอนที่อยู่ข้างนอก” อ้าวเฟิงตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ

เรื่องนั้นตอบข้อสงสัยของจางเซวียนได้

แค่ได้เห็นที่นี่ก็เกินพอจะทำให้เขาขนลุกขนชันทั้งตัวแล้ว นึกไม่ออกจริงๆว่านักรบที่มีประสิทธิภาพการต่อสู้ระดับอ้าวเฟิงจะเข้าไปในสถานที่แบบนั้นและออกมาอย่างปลอดภัยได้อย่างไร

“ผมจะเข้าไปแล้วรีบกลับออกมา รออยู่ข้างนอกนะ อย่าเพิ่งผลีผลามทำอะไร” จางเซวียนกำชับ

เขาใช้เจตจำนงเพลงดาบห่อหุ้มร่างกายไว้ก่อนจะเดินตรงเข้าสู่ทะเลสาบ

ทันทีที่เข้าไป จางเซวียนรู้สึกได้ถึงแรงดึงมหาศาลที่ฉุดกระชากร่างของเขา พยายามจะลากเขาไปที่ไหนสักแห่ง

จางเซวียนปลดปล่อยพละกำลังของร่างกายจนเต็มพิกัดเพื่อต้านทานแรงดึงนั้น ทำให้กล้ามเนื้อของเขาแทบจะฉีกขาด

สนามแรงโน้มถ่วงที่อยู่รอบตัวเขาเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่เพราะมีร่างกายที่แข็งแกร่ง จางเซวียนจึงยังทรงตัวและยืนอยู่กับที่ได้ เขารอครู่หนึ่งเพื่อให้ร่างกายปรับตัวให้คุ้นชินกับการเปลี่ยนแปลงของแรงโน้มถ่วงก่อนจะออกเดิน

ฟิ้วววว! ฟิ้วววว!

ดาวหาง 2 ดวงถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยแรงโน้มถ่วง มันพุ่งเข้าหาจางเซวียนอย่างรวดเร็ว

จางเซวียนชักดาบออกมาแล้วฟันดาวหาง 2 ดวงนั้น

ดาวหางทั้ง 2 ดวงแตกเป็นสองส่วนพร้อมๆกัน เกิดควันลอยโขมง

จางเซวียนตาโต ดาวหางพวกนี้แข็งแกร่งทนทานจนน่าทึ่ง…มันคือของดี!

ในเมื่อแม้แต่ดาบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้นสูงยังถูกแรงโน้มถ่วงทำลายได้อย่างง่ายดาย เขาก็ยังสงสัยอยู่ว่าดาวหางพวกนี้คงสภาพอยู่ได้อย่างไรในสภาพแวดล้อมที่เห็น แต่หลักฐานก็ปรากฏชัดแล้วว่าความแข็งแกร่งของพวกมันเทียบได้กับของล้ำค่าระดับราชันย์เทพเจ้า

น่าเสียดายที่นำมาหลอมเป็นอาวุธไม่ได้*…*แต่ถ้าเราเก็บสะสมดาวหางพวกนี้ไว้ ก็คงเกิดภาพน่าดูชมเมื่อขว้างมันใส่ศัตรู

ดวงตาหยั่งรู้ของจางเซวียนบอกเขาว่าไม่อาจหลอมดาวหางพวกนี้ให้กลายเป็นอาวุธได้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังเป็นอาวุธชั้นดีหากเขาขว้างมันใส่คู่ต่อสู้

ปัญหาเดียวก็คือ…

ดาวหางพุ่งเร็วเกินกว่าที่เขาจะจับมันได้ทัน

ถ้าเราจับมันมาเก็บไว้ในแหวนเก็บสมบัติตอนที่มันกำลังเคลื่อนไหว คงทำให้แหวนเก็บสมบัติทะลุเป็นรูและทำลายมิติที่อยู่ภายในจนหมด

แรงโน้มถ่วงทำให้ดาวหางพวกนี้ทั้งพุ่งเร็วและแรง เขาจึงไม่อาจเก็บมันไว้ในแหวนเก็บสมบัติในสภาพนี้ได้

อันดับแรก จะต้องหาทางทำให้มันช้าลงเสียก่อน แต่ตอนนี้ก็เกินกำลังของเขา!

เพราะแรงโน้มถ่วงที่สับสนปั่นป่วน แค่จะยืนนิ่งๆก็ยากแล้ว แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดดาวหางได้ในสภาพแบบนี้

ถึงจะหลอมดาวหางให้เป็นอาวุธไม่ได้แต่ถ้าเราใช้มันแทนก้อนอิฐก็คงถือเป็นอาวุธได้เหมือนกันถ้าอย่างนั้นเป็นไปได้ไหมที่จะได้ร่ายมนต์ใส่ดาวหาง?

ก้อนอิฐที่เขาเคยหลอมได้ก็ไม่มีดีอะไรนอกจากความแข็งแกร่งทนทานอย่างน่าทึ่ง ซึ่งก็เหมือนกับดาวหางพวกนี้ ถ้าเขาร่ายมนต์ใส่ก้อนอิฐได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่การร่ายมนต์ใส่ดาวหางจะไม่สำเร็จ

หากเขาร่ายมนต์ใส่มันได้เมื่อไหร่ ก็คงทำให้มันช้าลงจนหยุดนิ่งได้ แล้วค่อยเก็บไว้ในแหวนเก็บสมบัติ

ต้องลองดู*!*

จางเซวียนปล่อยตัวให้ลอยไปตามแรงโน้มถ่วงและพุ่งเข้าหาดาวหางดวงหนึ่ง ซึ่งทันทีที่เข้าใกล้ ก็ยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสมัน

…..

นอกทะเลสาบดาวหาง…

“ที่นี่มีดาวหางมากมายเหลือเกิน แถมสนามแรงโน้มถ่วงก็สับสนปั่นป่วนมาก…ผู้อาวุโสจางจะเป็นอะไรไหม?” อ้าวเฟิงเปรยอย่างหนักใจ

“ฉันก็ไม่แน่ใจ แรงโน้มถ่วงในทะเลสาบดาวหางปั่นป่วนเสียจนแม้ตัวฉันก็ทำให้มิติในนั้นหยุดนิ่งได้ยาก นึกเป็นห่วงปรมาจารย์จางอยู่เหมือนกัน” หลัวฉีฉีตอบ

การหลบหลีกดาวหางที่พุ่งเร็วขนาดนั้นก็ยากพออยู่แล้ว และสนามแรงโน้มถ่วงที่ผกผันอยู่ตลอดเวลาก็ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายกว่าเดิม คนที่รอดชีวิตออกมาได้คงดวงดีอย่างเหลือเชื่อ!

ในแง่ของอันตราย มันแย่กว่าการเผชิญหน้ากับจิตวิญญาณหลอกหลอนหลายเท่า

การที่หลัวฉีฉีซึ่งเชี่ยวชาญด้านการควบคุมมิติยังไม่อาจเคลื่อนไหวอย่างอิสระได้ในพื้นที่แบบนั้นก็บ่งบอกชัดแล้วว่าทะเลสาบดาวหางอันตรายแค่ไหน

“มันอันตรายเกินไป ผมคงอยู่ในนั้นได้ไม่ถึง 10 วินาทีด้วยซ้ำ เราควรเรียกผู้อาวุโสจางให้กลับมา…” อ้าวเฟิงถาม

แต่ยังไม่ทันที่อ้าวเฟิงจะพูดจบ ก็หน้าถอดสี

เขาเพิ่งเห็นสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้

ลึกเข้าไปในทะเลสาบดาวหาง ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่กับที่ ดาวหางมากมายโคจรเป็นวงกลมรอบตัวเขาอย่างเงียบเชียบ แต่ละดวงลอยโด่งขึ้นมาเป็นระยะๆราวกับกำลังพยายามทำตัวให้โดดเด่น พวกมันดูไม่ต่างอะไรกับสุนัขละครสัตว์ฝูงหนึ่งที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี

อ้าวเฟิงพลันรู้สึกว่าหัวสมองว่างเปล่าจนกลวงโบ๋ ไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย นี่คือสิ่งที่มักเกิดขึ้นเมื่อฟางเส้นสุดท้ายของการใช้เหตุผลของใครสักคนขาดผึง

ดาวหางที่โคจรเป็นวงกลมอยู่ตรงนั้น…พวกมันควรจะมีพละกำลังมหาศาลไร้ขีดจำกัดไม่ใช่หรือ?

แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?

“ดูเหมือนพวกมัน…จะถูกร่ายมนต์ใส่และถูกทำให้ยอมจำนนแล้ว…” หลัวฉีฉีกลืนน้ำลายด้วยความตกตะลึง

“ร่ายมนต์ใส่? แต่เขาเพิ่งเข้าไปในทะเลสาบดาวหางได้เพียงครู่เดียวเองนะ…ผมไม่เข้าใจ! เรื่องแบบนี้เป็นไปได้อย่างไร?” สองแก้มของอ้าวเฟิงกระตุกอย่างหนัก บ่งบอกถึงความปั่นป่วนในหัว

นักรบระดับราชันย์เทพเจ้าสามารถเรียกจิตวิญญาณเข้าสู่ข้าวของต่างๆได้ ซึ่งเขาก็ทำได้เหมือนกัน แต่ต้องใช้เรี่ยวแรงและความพยายามอย่างมาก บางทีอาจต้องใช้เวลายาวนานหลายเดือน และทั้งแรงกายแรงใจก็ถูกดูดออกไปหมดเกลี้ยงกว่าจะทำสำเร็จ

แต่ชายหนุ่มร่ายมนต์ใส่ดาวหางมากมายได้ภายใน 2 นาที…หรือ 3 นาที?

แถมยังทำให้พวกมันยอมจำนนได้ด้วย!

ที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือทั้งที่สร้างวีรกรรมมากมาย แต่อีกฝ่ายก็ยังดูสดชื่นกระชุ่มกระชวยดี ราวกับเพิ่งทำเรื่องขี้ปะติ๋วลงไปและแทบไม่ได้เสียอะไรเพราะการนั้น

ขณะที่ทั้งคู่ยังตกใจ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางทะเลสาบดาวหางก็กระโจนเข้าใส่ดาวหางอีกดวงหนึ่ง และเมื่อสัมผัสมัน ขบวนดาวหางที่ติดสอยห้อยตามเขาอยู่ก็เพิ่มขึ้นอีก 1 ดวง ด้วยวิธีนี้ ขบวนดาวหางก็ยืดยาวขึ้นเรื่อยๆ

เพียงชั่วพริบตา ดาวหางกว่าครึ่งในทะเลสาบก็หันมาติดสอยห้อยตามจางเซวียน

“ผู้อาวุโสจางจะทำให้ดาวหางพวกนั้นยอมจำนนเพื่ออะไร?” อ้าวเฟิงพึมพำอย่างอ่อนแรง

น้องชาย*…คุณมาที่นี่เพื่อตามหายาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศไม่ใช่หรือ?*

แล้วทำไมถึงมัวแต่เล่นกับดาวหางพวกนั้น*?*

“ฉันคิดว่า…เขาน่าจะกำลังพยายามทำให้ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศปรากฏตัว” หลัวฉีฉีคาดเดา

“อ๋อ!” อ้าวเฟิงอุทาน “ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศสามารถแปลงร่างเป็นยาเม็ดที่ซ่อนตัวได้แม้แต่จากสายตาของผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งหากมันซุ่มอยู่ในหมู่ดาวหางแล้วรอช่วงเวลาเหมาะๆเพื่อเข้าโจมตี ต่อให้นักรบที่แข็งแกร่งระดับผู้อาวุโสจางก็คงยากจะระวังตัว ดังนั้น ด้วยการทำให้ดาวหางทั้งหมดยอมจำนน, เขาก็จะค้นพบที่ซ่อนของยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศ…นี่เป็นแผนการที่เยี่ยมยอดจริงๆ! ทำไมก่อนหน้านี้ผมถึงคิดไม่ได้นะ?”

ทันทีที่สิ่งอื่นถูกกำจัดออกไป ก็จะไม่เหลือที่ทางให้ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศซ่อนตัวอีก ซึ่งนั่นจะทำให้รับมือกับมันได้ง่ายขึ้นมาก

“เขาคือคนจำพวกที่พบทางออกเสมอแม้ในสถานการณ์คับขัน” หลัวฉีฉีพูดยิ้มๆ

…..

“ใครบังอาจพังบ้านของผม? รนหาที่ตายแล้ว!”

ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน ก็มีเสียงตะโกนก้อง ทั่วทั้งทะเลสาบดาวหางปั่นป่วนขึ้นมาทันที จากนั้น ใบหน้าขนาดมหึมาก็ปรากฏบนท้องฟ้า

“จอมราชันย์?” หลัวฉีฉีหรี่ตาด้วยความตกใจ

เธอเคยเห็นเทพธิดาหลิงหลงใช้ความสามารถแบบนี้มาแล้ว มันเป็นทักษะพิเศษที่มีเฉพาะในหมู่จอมราชันย์

“นั่นคือยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศ! เป็นไปได้อย่างไร? ต่อให้ทะเลท่วมท้นมีทรัพยากรเพื่อการฝึกฝนวรยุทธอยู่มากมาย มันก็ไม่น่าจะง่ายดายขนาดนั้น…ตอนนี้มันฝ่าด่านวรยุทธสำเร็จแล้ว หมายความว่านั่นคือจอมราชันย์ตัวจริงใช่ไหม?” อ้าวเฟิงพึมพำอย่างไม่อยากเชื่อ

หลัวฉีฉีส่ายหน้าอย่างไม่อยากเชื่อเช่นกัน จากนั้นก็ตั้งข้อสงสัย “แต่การจะได้เป็นจอมราชันย์ ผู้นั้นจะต้องมีดินแดนในปกครองหรือได้รับกระแสจิตปรารถนาจากผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนไม่ใช่หรือ? แล้วยาเม็ดหนึ่งจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?”

เพื่อให้ได้เป็นจอมราชันย์เต็มขั้น นักรบคนหนึ่งจะต้องได้การยอมรับจากผู้คนจำนวนมากมายเพื่อให้ได้มาซึ่งกระแสจิตปรารถนาอย่างไม่สิ้นสุด โดยกระแสจิตปรารถนาถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการฝ่าด่านวรยุทธ

ยกตัวอย่าง เพื่อให้ได้เป็นจอมราชันย์ตัวจริง ปรมาจารย์ขงต้องท้าทายทั้ง 9 จอมราชันย์, ผ่านการดวลครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้ได้การยอมรับจากผู้คนในดินแดนต่างๆของสรวงสวรรค์

แล้วยาเม็ดหนึ่งที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการแบบนั้นจะกลายเป็นจอมราชันย์ได้อย่างไร?

อ้าวเฟิงครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะตอบว่า “อาจเป็นเพราะเราอยู่ในทะเลท่วมท้น ไม่ใช่สรวงสวรรค์”

“อยู่ในทะเลท่วมท้น ไม่ใช่สรวงสวรรค์” หลัวฉีฉีใคร่ครวญคำพูดนั้นครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

ทะเลท่วมท้นเคยเป็นดินแดนหนึ่งของสรวงสวรรค์ แต่ก็แยกขาดจากกันแล้ว ดังนั้น กฎเกณฑ์ต่างๆที่เคยใช้ก็ย่อมเปลี่ยนไป

“ยิ่งไปกว่านั้น จอมราชันย์พิชิตสวรรค์ยังได้ฝ่าด่านวรยุทธที่นี่ก่อนจะกลับสู่สรวงสวรรค์เพื่อท้าทาย 9 จอมราชันย์ และในที่สุดก็ได้การยอมรับจากทั่วทั้งสรวงสวรรค์” อ้าวเฟิงพูด

“เพียงแต่ผมรู้สึกว่ามันออกจะแปลกๆ ช่องว่างของราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติกับจอมราชันย์นั้นห่างกันมาก ถึงขนาดที่ตลอดระยะเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของสรวงสวรรค์ ผู้เดียวที่ก้าวข้ามช่องว่างนั้นได้ก็มีแต่จอมราชันย์พิชิตสวรรค์เท่านั้น ถึงอย่างไร ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศก็เป็นแค่ยา จะทำแบบนั้นได้อย่างไร?”

ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใจกลางทะเลสาบดาวหางก็คิดแบบเดียวกัน

แม้ด้วยวรยุทธระดับจางเซวียน เขาก็ยังไม่อาจสร้างใบหน้าขนาดใหญ่ให้ปรากฏกลางอากาศได้ ผู้ที่ทำได้จะต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจอย่างล้ำลึกเรื่องกฎเกณฑ์แห่งมิติเท่านั้น

หรือว่า…ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศฝ่าด่านวรยุทธสำเร็จแล้ว?