“พลังปราณ พลังกาย พลังจิตรวมเป็นหนึ่ง! นี่มัน…มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?”
“นี่มันคือพลังปราณ พลังกายและพลังจิตรวมเป็นหนึ่งหรือ? จะรุนแรงเกินไปแล้ว!”
“ตั้งแต่บรรพกาลมามียอดคนมากมายนับไม่ถ้วนคิดผสานทั้งสามพลังงานนี้เข้าหากัน แต่มันไม่เคยจะมีใครทำได้ เขาผู้นี้ทำได้อย่างไรกัน?”
…
ตอนนี้มันเกิดเสียงร้องขึ้นตาม ๆ กันจากปากคนทั้งหลาย ดูท่าคงตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้านี้มาก
ก่อนจะมีเต๋าศักดิ์สิทธิ์อาณาจักรพระเจ้าทั้งหลายนี้ ผู้คนจะต้องผสานทั้งปราณ กายและจิตเข้าด้วยกันให้ได้ก่อนจึงจะก้าวขึ้นถึงเต๋าศักดิ์สิทธิ์ได้
แต่หลังจากมีการสร้างแบบแผนเต๋าศักดิ์สิทธิ์อาณาจักรพระเจ้าขึ้นมาเหล่านักยุทธในมหาพิภพถงเทียนก็ต่างไม่อาจจะสามารถผสานพลังปราณ พลังกายและพลังจิตเข้าด้วยกันได้อีก
แม้แต่เหล่าเต๋าบรรพกาลก็ไม่อาจจะทำได้เช่นกัน!
และตั้งแต่โบราณกาลมามันมียอดฝีมือมากมายปานใดที่บ่มเพาะพลังทั้งสามอย่างนี้ขึ้นพร้อม ๆ กันจนถึงที่สุดและคิดจะเอามันทั้งสามมาผสานรวมกัน?
แต่เมื่อก้าวมาถึงเต๋าศักดิ์สิทธิ์ มันก็กลับกลายเป็นความยุ่งเหยิง!
ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามหนักหนาปานใดมันก็ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ
เพราะฉะนั้นการที่ไม่สามารถเอาพลังปราณ พลังกายและพลังจิตทั้งสามอย่างนี้มาผสานกันได้มันจึงเป็นกฎเหล็กแห่งมหาพิภพถงเทียนตลอดมา!
แต่ในวันนี้เย่หยวนกลับหักกฎเหล็กนั้นลง!
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะน่าหวาดกลัวจนเกินไป
หลงเสี่ยวฉุนและคนทั้งหลายนั้นต้องอ้าปากกว้างอย่างไม่คิดอยากเชื่อ
“เอกภพกว้างไกล ข้านั้นคือสวรรค์! ดาบชั่วลมปราณถงเทียน!”
เย่หยวนที่มีสภาพถึงขีดสุดนี้ได้ก้าวขึ้นไปถึงระดับของความลึกลับ
ภาพของเย่หยวนเวลานี้ในสายตาของพวกหลงซุนทั้งหลายนั้นมันเป็นดั่งผู้ปกครองโลกหล้าอย่างแท้จริง
ภายใต้พลังรุนแรงหนักหน่วงนั้น ต่อให้จะเป็นมารนรกเทพสวรรค์ใด ๆ มันก็ไม่อาจจะหลบรอดได้
ภายใต้ดาบเดียวนี้ มันได้แฝงอันล้นพลังที่สามารถล้างสวรรค์ทลายนรก เจ้ามารนรกเทพสวรรค์แตกสลายลงอย่างไม่เหลือแม้แต่ซากใด ๆ
เมื่อเย่หยวนจัดการมันลงและเดินเข้าไปหยิบผลึกมารดำนั้นขึ้นมาเขาก็ร้องกล่าวขึ้นอย่างชื่นชม “สมชื่อเป็นผลึกมารดำระดับเทพสวรรค์ ถึงกับสามารถทนรับพลังดาบชั่วลมปราณถงเทียนของข้าได้โดยไร้รอยขีดข่วนใด ๆ เจ้าผลึกมารดำเทพสวรรค์นี้มันช่างเหนือล้ำอย่างแท้จริง!”
ในเวลานี้เย่หยวนได้บ่มเพาะทั้งพลังปราณ พลังกายและพลังจิตขึ้นมาจนถึงที่สุดของอาณาจักรเม็ดต้นกำเนิดเป็นที่เรียบร้อย
เขานั้นอยู่ในจุดสูงสุดเท่าที่อาณาจักรนี้จะมีได้
และอยู่ห่างจากอาณาจักรต่อไปเพียงแค่ก้าวเดียว
ด้วยบัญญัติเทพแห่งถงเทียนที่เขาบ่มเพาะมาจนถึงวันนี้ ในที่สุดมันก็ได้แสดงความเหนือล้ำออกมาให้แก่โลกหล้า
คนอื่น ๆ ไม่อาจผสานปราณ กายและจิตเข้าด้วยกันได้แต่หลังจากที่พลังปราณของเย่หยวนก้าวขึ้นมาถึงระดับสุดของอาณาจักรเม็ดต้นกำเนิด มันก็ได้เข้าผสานกับพลังกายและพลังจิตอย่างเป็นธรรมชาติ
และสภาพเช่นนี้ยังคงเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องในเม็ดต้นกำเนิดในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของตัวเย่หยวนจนถึงขั้นที่อธิบายได้ยาก
มันราวว่าภายในเม็ดต้นกำเนิดนั้นมันจะให้กำเนิดอะไรสักอย่างออกมา
เย่หยวนนั้นเข้าใจได้ทันทีว่าตัวเขาแค่ขาดโอกาสที่อีกเล็กน้อยก็จะสามารถบรรลุขึ้นอาณาจักรต่อไปได้แล้ว
“เย่หยวน เจ้าทำได้อย่างไรกัน? ข้าไม่เคยจะได้ยินเลยว่ามันมีคนที่สามารถผสานปราณ กายและจิตเข้าเป็นหนึ่งได้! หากเรื่องราวนี้แพร่กระจายออกไปในมหาพิภพถงเทียนแล้วมันคงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่!”
หลงเสี่ยวฉุนนั้นแสดงสีหน้าเป็นกังวลออกมา
นางนั้นเข้าใจดีถึงความอันตรายที่ข่าวนี้จะนำพามา หากคนอื่น ๆ ได้รู้ถึงมันแล้วเย่หยวนคงต้องได้เจอเรื่องราวสุดแสนอันตรายยากจะหลบพ้น
เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะให้คนภายนอกรู้ไม่ได้! พวกเจ้าน่าจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรใช่หรือไม่?”
สายตาของเขานั้นหันไปมองเหล่าพวกหลงซุนทั้งหลายทำให้พวกเขานั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายเหมือนเข้าใจอะไรขึ้นมาได้
จากนั้นหลงซุนจึงได้คุกเข่าลงกับพื้นดินและร้องร่ำ “น-นายท่าน ไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะ! เมื่อสักครู่ซุนน้อยผู้นี้กลัวจนหลับตาปี๋และไม่ได้เห็นเรื่องราวใด ๆ ทั้งสิ้น”
เมื่อหลงซุนนำคนทั้งหลายก็ย่อมจะคุกเข่าลงตามพร้อมร่ำร้องกราบขอให้เย่หยวนไว้ชีวิต
เย่หยวนที่ได้เห็นต้องเบิกตากว้างก่อนจะส่ายหัวออกมา “ข้าไปบอกตั้งแต่เมื่อใดว่าอยากได้ชีวิตพวกเจ้า?”
หลงซุนนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะถามกลับมา “นายท่านไม่ได้หมายความว่าให้เราฆ่าตัวตายปิดความลับหรอกหรือ?”
เย่หยวนจึงตะคอกออกมา “เจ้าโง่! คิดฆ่าพวกเจ้าข้าแค่ขยับนิ้วก็จบเรื่อง จะมาเสียน้ำลายพูดให้มากความเพื่อสิ่งใด?”
และเป็นทางหลงจ้าวเทียนที่ฉลาดกว่าหน่อยคิดขึ้นมาได้ด้วยรอยยิ้มกว่า เขารีบยกมือขึ้นสาบานต่อเต๋าสวรรค์ในทันที ทั้งยังสาบานโทษที่สุดแสนร้ายแรงเกินจะรับหากผิดคำ
คนทั้งหลายเมื่อได้เห็นก็ต้องเบิกตากว้างร้องกล่าวสาบานต่อเต๋าขึ้นตาม ๆ กัน
นั่นทำให้สายตาของพวกหลงซุนทั้งหลายเปลี่ยนแปลงจากหวาดกลัวกลายเป็นเคารพเย่หยวน
หากเป็นคนอื่นแล้วเพื่อความปลอดภัยของตน พวกเขาย่อมจะฆ่าสังหารปิดปากอย่างไม่เลือกหน้า
เพราะหากเรื่องเช่นนี้แพร่ออกไปในมหาพิภพถงเทียนแล้ว มันย่อมจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตตามมา
ทั้งมหาพิภพถงเทียนคงได้ตกสู่ความโกลาหล
ในเวลานั้นถึงจะเป็นเหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายก็คงต้องมาตามหาตัวเย่หยวนกันไม่ขาดสาย
ทุกคนต่างจะอยากรู้ว่าเย่หยวนนั้นใช้วิธีการใช้ถึงสามารถผสานปราณ กายและจิตเข้าด้วยกันได้
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดปิดปากพวกเขา!
นี่คือเจ้านายที่ควรค่าติดตามอย่างแท้จริง!
หลงเสี่ยวฉุนเองก็กำลังจะยกมือขึ้นสาบานต่อฟ้าแต่นางกลับถูกเย่หยวนเดินมาห้ามไว้เสียก่อน
“เจ้าไม่ต้องสาบานใด ๆ ไป” เย่หยวนบอก
หลงเสี่ยวฉุนจึงถามขึ้น “ทำไมเล่า?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “คนที่กระโดดลงถ้ำเนตรมังกรมาช่วยเหลือข้าอย่างไม่ลังเลนี้ มีหรือที่ข้าจะยังไม่เชื่อถือได้?”
หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินก็ยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นมาตบบ่าของเย่หยวน “ดีมาก! แต่…ข้าจะยังขอสาบานต่อเต๋าสวรรค์อยู่ดี นอกจากนั้นแล้ว…พวกมันทั้งหลายนี้คงต้องตาย! เย่หยวนเรื่องราวผลที่ตามมานั้นมันจะมากจนเกินกว่าจะรับได้นะ”
เมื่อหลงเสี่ยวฉุนพูดขึ้นมาหัวใจของพวกหลงซุนก็กลับมาเต้นแรงผิดจังหวะอีกครั้ง
แม้ว่าพวกเขานั้นจะสาบานต่อเต๋าสวรรค์ไปแล้วและมีการห้ามจากเต๋า แต่ไม่ว่าอย่างไรคำสาบานนี้มันก็มีความเสี่ยงของมัน
เพราะหากมีใครคิดยอมปล่อยความลับของเย่หยวนนี้แลกชีวิตแล้ว มันย่อมจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดา
แต่ทว่าไม่ว่าอย่างไรเย่หยวนก็ส่ายหัวปฏิเสธออกมา “เมื่อข้าเย่หยวนทำเรื่องราวใด ๆ ข้าย่อมจะมีหลักการของตน! หลงซุนทั้งหลายนี้มันไม่ได้มีความแค้นใด ๆ กับข้ามากมาย สังหารพวกมันลงไปเพื่อปิดปากนั้นมันเป็นสิ่งที่คนอย่างเย่หยวนผู้นี้จะไม่ขอทำ! เรื่องนี้อย่าได้เอามาพูดกล่าวอีกเลย!”
ด้วยคำพูดนี้ของเย่หยวนพวกหลงซุนทั้งหลายก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมาจนคับอก
หัวหน้าของพวกเขานี้แตกต่างจากผู้คนเสียเหลือเกิน
ตอนนี้แม้แต่หลงเสี่ยวฉุนผู้ไร้เดียงสาก็ยังคิดจะฆ่าคนปิดปาก เรื่องนั้นมันมากพอจะแสดงให้เห็นว่าเรื่องราวในครั้งนี้มันหนักหนาปานใด
แต่ทว่าเย่หยวนนั้นกลับไม่คิดจะทำอันตรายใด ๆ ต่อพวกเขาและยืนยันอย่างหนักแน่น
“นายท่านโปรดวางใจ ต่อให้ข้าซุนน้อยผู้นี้จะตาย ข้าก็จะไม่เปิดปากพูดเรื่องนี้ออกมา!” หลงซุนร้องบอก
“นายท่าน เทียนน้อยผู้นี้เองก็ขอตายดีกว่าเปิดปากพูดเรื่องนี้เช่นกัน!”
“นายท่าน ข้าก็เช่นกัน!”
…
ทุกผู้คนต่างยืนยันคำพูดออกมาด้วยสีหน้าสุดแสนหนักแน่น
ที่ด้านข้างเวลานี้หลงเสี่ยวฉุนเองก็ต้องผงะไปเช่นกัน เพราะตัวนางเองก็เคยเห็นนิสัยของคนทั้งหลายนี้มาก่อน
ช่างฉวยโอกาส ชอบเลียแข้งขา ทิ้งให้ผู้อื่นตายตกลงไปเพื่อจะเอาชีวิตตนเองรอด
ไม่ว่าจะอย่างไรหลงเสี่ยวฉุนก็ไม่อาจทำใจชอบคนทั้งหลายนี้ลง
แต่เวลานี้สีหน้าที่คนทั้งหลายนั้นแสดงออกมามันกลับหนักแน่นราวกับว่าคำพูดที่กล่าวนี้มันออกมาจากจิตใจของพวกเขาจริง ๆ
“แต่ทว่าก่อนจะไปกังวลใด เราต้องออกไปให้ได้เสียก่อน!” หลงซุนยิ้มขึ้นมาอย่างขื่นขม
ภายในถ้ำเนตรมังกรนี้ การจะออกไปสู่โลกภายนอกมันช่างเป็นเรื่องยากเย็น
และหากไม่ได้ออกไป ไม่ว่าจะเป็นความลับยิ่งใหญ่ปานใดมันก็ไร้ค่าที่จะกังวล
เพราะต่อให้พวกเขาคิดจะพูด มันก็ไม่มีใครให้ไปบอก
เย่หยวนยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะหาร่องมิติพาพวกเจ้าทั้งหลายออกไปเอง!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวหัวใจของคนทั้งหลายก็สั่นสะท้าน
“นายท่าน ท่านมีวิธีจริง ๆ?” หลงซุนถามขึ้นอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก
“น-นายท่าน เรื่องเช่นนี้อย่าได้เอามาล้อเล่นกับผู้คนเชียวนะ!” หลงจ้าวเทียนกล่าวขึ้นตามอย่างตื่นเต้น
เย่หยวนตอบกลับไปอย่างไม่คิดสนใจมากมายใด ๆ “แน่นอน แต่…ข้าต้องบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์เสียก่อน!”
……………