แต่แน่นอนว่าอาณาจักรที่เย่หยวนจะบรรลุขึ้นไปนั้นมันย่อมมิใช่อาณาจักรเทพสวรรค์
ส่วนเรื่องที่ว่ามันจะเป็นอาณาจักรใดนั้น แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อาจบอกได้แน่
แต่สิ่งที่เย่หยวนรู้สึกได้ชัดเจนก็คืออาณาจักรต่อไปของตัวเขานี้มันจะต้องแตกต่างอย่างเหนือล้ำจากที่ผ่าน ๆ มา
แค่พริบตาเดียวนี้เวลาก็ได้ผ่านไปอีกนับปี ตอนนี้เย่หยวนได้ออกไล่ล่าฆ่าสังหารเหล่ามารนรกเทพสวรรค์ทั้งหลายพร้อมด้วยความช่วยเหลือจากตัวหลงเสี่ยวฉุน ทำให้เวลานี้ตัวเขานั้นมีผลึกมารดำระดับเทพสวรรค์อยู่ในครอบครองไม่น้อยทีเดียว
และคลื่นพลังชั่วร้ายที่เจ้าผลึกมารดำทั้งหลายนี้ปล่อยออกมามันก็สุดแสนจะหนาแน่นบริสุทธิ์ มากกว่าผลึกมารดำระดับเทพถ่องแท้นับร้อย ๆ เท่า
ด้วยผลึกมารดำทั้งหลายในมือนี้เย่หยวนจึงได้ตัดสินใจที่จะเริ่มทำการบรรลุฐานของอาณาจักรต่อไป
ภายในห้องหินที่ว่างเปล่านั้นเย่หยวนได้นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกลางพร้อมด้วยจิตใจที่ปั่นป่วนไม่น้อย
“พลังปราณ พลังกายและพลังจิตของข้านั้นขึ้นมาถึงขั้นสุดของอาณาจักรเม็ดต้นกำเนิดจนเริ่มผสานเข้าหากันแล้ว เวลานี้เองเม็ดต้นกำเนิดภายในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของข้าก็มาถึงจุดขีดสุดแล้ว สงสัยเหลือเกินว่าหากยังปล่อยปราณเทวะโกลาหลจำนวนมหาศาลใส่เข้าไปมันจะเกิดสิ่งใดขึ้นต่อกัน?”
ภายในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนนั้นเจ้าเม็ดต้นกำเนิดนี้มันได้ย่อขนาดลงมาจนเหลือขนาดเท่า ๆ กับเม็ดถั่ว แต่พลังที่แฝงอยู่ภายในของมันนั้นกลับหนักแน่นจนน่ากลัว
เวลานี้รอบ ๆ เม็ดต้นกำเนิดนั้นเองมันก็มีลายพระเจ้าวนอยู่รอบสภาพราวกับเป็นทะเลสายฟ้า
“ได้เวลาเริ่มเสียที!”
เย่หยวนพลิกฝ่ามือชักเอาผลึกมารดำออกมาหมุนวนรอบกาย
บัญญัติเทพแห่งถงเทียนของเขาเริ่มเคลื่อนไหว ตัวเย่หยวนได้ดูดซับพลังจากเจ้าผลึกมารดำนั้นอย่างบ้าคลั่งและปล่อยมันลงใส่เม็ดต้นกำเนิดอย่างต่อเนื่อง
พลังของผลึกมารดำเทพสวรรค์นี้ย่อมจะหนักหน่วงเหนือล้ำและหนาแน่นจนไม่อาจอธิบาย
แต่เย่หยวนกลับดูดกลืนพวกมันลงไปราวกับเป็นหลุมไร้ก้น แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวน
เวลานี้เม็ดต้นกำเนิดของเขานั้นถูกกดดันอย่างถึงที่สุด เวลานี้บัญญัติเทพแห่งถงเทียนเองก็ยังคงไม่หยุดที่จะอัดพลังปราณเทวะทั้งหลายนั้นเข้าไปภายในเม็ดต้นกำเนิด
แต่จู่ ๆ เจ้าเม็ดต้นกำเนิดมันกลับสั่นสะท้านไหวขึ้น
นั่นทำให้จุดตันเถียนของเย่หยวนเกิดเจ็บปวดขึ้นทันทีจนต้องมีเหงื่อไหลย้อยลงกลางหน้าผาก
แต่ทว่านี่มันยังแค่การเริ่มต้น!
บัญญัติเทพแห่งถงเทียนนั้นไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยว่าเม็ดต้นกำเนิดนั้นจะทนแรงกดดันไหวหรือไม่ มันยังคงอัดปราณเทวะเข้าไปอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดยั้ง
นั่นทำให้เม็ดต้นกำเนิดที่เดิมทีเสถียรตัวเริ่มค่อย ๆ เสียสมดุล
และยิ่งเป็นแบบนั้นมากเท่าใดเย่หยวนก็ยิ่งจะรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
“ช่างเป็นคลื่นพลังอันรุนแรงใดปานนี้! นี่…นี่มันเป็นการบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์จริง ๆ หรือ?”
ที่ด้านนอกห้องหินนั้นหลงเสี่ยวฉุนและพวกคนทั้งหลายต่างมาเฝ้ายามรอบ ๆ ให้แก่เย่หยวน
เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังหนักหน่วงรุนแรงนี้ หลงเสี่ยวฉุนก็ตื่นตกใจขึ้นไม่น้อย
ตัวนางนั้นเป็นเทพสวรรค์ ย่อมจะเคยผ่านการบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์มาก่อนและย่อมรู้ดีว่ามันเป็นเช่นไร
แต่คลื่นพลังความปั่นป่วนที่เย่หยวนสร้างขึ้นมานี้มันมากกว่าตอนที่นางบรรลุไปมาก
“นายท่านจะสร้างคลื่นพลังความโกลาหลมากไปหรือไม่! หากพวกมารนรกระดับสูงทั้งหลายออกมาแล้วเราคงไม่อาจทำอะไรได้!” หลงซุนร้องบอกขึ้น
ก่อนที่จะเข้าเก็บตัวบรรลุนี้เย่หยวนได้ร่วมมือกับหลงเสี่ยวฉุนไล่ล่าสังหารมารนรกในพื้นที่โดยรอบไปสิ้น ในระยะนับหมื่น ๆ กิโลเมตรรอบฐานนี้มันย่อมจะไม่เหลือมารนรกอยู่แม้สักตัว
แต่ดูท่าคลื่นพลังในเวลานี้แล้ว ทำแค่นั้นมันไม่น่าจะพอ!
เพราะคลื่นพลังความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในเวลานี้มันได้ดูดดึงเอาคลื่นพลังชั่วร้ายในระยะนับแสน ๆ กิโลเมตรรอบ ๆ มารวมกันในที่นี้สิ้น
ความปั่นป่วนยิ่งใหญ่ปานนี้ หากเหล่ามารนรกระดับสูงทั้งหลายไม่ออกมาต่างหากที่มันจะเป็นเรื่องแปลก
เวลานี้เย่หยวนที่อยู่ภายในห้องกำลังค่อย ๆ ดูดกลืนพลังจากผลึกมารดำอันแล้วอันเล่าจนทำให้มีคลื่นพลังพุ่งสูงทะยานและมันยังทำให้เม็ดต้นกำเนิดของเขาเสียความเสถียรไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย
แต่จู่ ๆ สีหน้าของเย่หยวนก็ต้องซีดลงและร้องกล่าวขึ้น “ให้ตาย! ทำไมมันจึงได้เกิดขึ้นเวลานี้? หากเป็นเช่นนี้ผลึกมารดำที่ข้าเตรียมไว้มันคงไม่พอเสียแน่!”
เพราะเวลานี้มันกลับกลายเป็นว่าเม็ดต้นกำเนิดที่ถูกปราณเทวะอัดเข้าไปเรื่อย ๆ นี้มันได้ไปกระตุ้นร่างกายเนื้อของเขาขึ้น
นั่นทำให้ตอนนี้กายเนื้อของเขาเองมันก็เริ่มจะทำการบรรลุขึ้นมาพร้อม ๆ กันและตัวเขาก็กำลังจะเข้าสู่สภาวะทุกขจุติ!
ทุกขจุติระดับเจ็ด!
ความน่ากลัวของเจ้าทุกขจุติระดับเจ็ดนี้มันน่ากลัวจนทำให้ผู้คนขนลุก มันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าการบรรลุทุกขจุติระดับหกพร้อม ๆ กันสิบครั้ง!
ในช่วงเวลาสำคัญนี้หากตัวเขาต้องผ่านทุกขจุติไปด้วยแล้วมันคงเป็นเรื่องที่อาจถึงตายได้!
ปัง!
เย่หยวนใช้บัญญัติเทพแห่งถงเทียนออกมาอย่างต่อเนื่องและดูดกลืนพลังงานชั่วร้ายจากผลึกมารดำอย่างไม่มีพัก
แต่เวลานี้ความเร็วของการดูดกลืนมันยิ่งหนักหน่วงรุนแรงมากขึ้น
เพื่อการบรรลุครั้งนี้เย่หยวนย่อมจะเตรียมการเผื่อไว้ไม่น้อย แต่ภายใต้สถานการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้เจ้าผลึกมารดำมันกลับกลายเป็นเหมือนแค่เนื้อชิ้นเดียวกลางฝูงกาที่หิวโหย
ตูม!
คลื่นพลังอันรุนแรงระเบิดขึ้นอีกครั้งส่งให้ห้องหินนั้นแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงไป
หลงเสี่ยวฉุนถึงกับต้องเบิกตาร้องขึ้น “ไม่ดีแล้ว! เขา…เขากำลังจะผ่านทุกขจุติไปพร้อม ๆ กัน! เจ้านี่มันบ้าไปแล้วหรือ?”
ด้วยความเป็นยอดฝีมือเทพสวรรค์เผ่ามังกร แน่นอนว่านางย่อมจะเข้าใจความน่ากลัวของทุกขจุติระดับเจ็ด
เพราะต่อให้เป็นตัวนางนี้เอง นางก็ยังไม่กล้าจะท้าทายมัน
แต่เวลานี้เย่หยวนกลับคิดจะท้าทายทุกขจุติไปในช่วงเวลาสำคัญของการบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์! เรื่องเช่นนั้นมันคือการรนหาที่ตายโดยแท้!
แต่มีหรือที่นางจะเข้าใจว่าเวลานี้เย่หยวนไม่อาจควบคุมมันได้เลย?
ในโลกหล้านี้เขาเป็นคนแรกที่ผสานสามพลัง ปราณ กาย จิตเข้าด้วยกัน เพราะฉะนั้นตัวเขาเองก็ย่อมจะไม่รู้ว่าเบื้องหน้ามันมีอะไรรออยู่กันแน่ ไม่อาจทราบได้ว่าปัญหาเช่นนี้มันจะเกิดขึ้นมา
แต่ในเวลานี้จะมาพูดกล่าวใด ๆ มันก็สายเกินแก้
“นี่มัน…บ้าคลั่งเกินไปแล้ว! นายท่านนี่ช่างเป็นดั่งเทพโดยแท้ ถึงขั้นสามารถที่จะท้าทายทุกขจุติไปพร้อม ๆ กับการบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์!” หลงซุนมองดูภาพตรงหน้าราวกับมันเป็นเรื่องสุดแสนเหนือคน แต่ไร้ซึ่งอันตรายใด ๆ
เพราะตั้งแต่ที่เขาได้รู้ถึงเรื่องที่เย่หยวนผสานสามพลังเข้าด้วยกันนั้นเขาก็ไม่อาจจะมองเย่หยวนเป็นคนเดินดินได้อีกต่อไป ความเชื่อมั่นที่เขามีในตัวเย่หยวนนั้นมันเป็นดั่งแม่น้ำใหญ่ที่ไหลลงทะเล ไม่ขาดสาย ไม่เหือดแห้ง
ในเมื่อนายท่านเขากล้าทำ เขาก็ย่อมจะผ่านไปได้ ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแม้แต่น้อย
“ในโลกหล้านี้มีใครบ้างแล้วที่ไม่ระวังตัวอย่างถึงที่สุดเวลาจะบรรลุอาณาจักรเทพสวรรค์? แต่นายท่านนั้นกลับทำการบรรลุสองอย่างพร้อม ๆ กัน! มันทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริง ๆ!” หลงจ้าวเทียนเองก็กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าราวคนคลั่งศาสนา
“หึ ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดวรยุทธเผ่ามังกรของนายท่านจึงได้เหนือล้ำแข็งแกร่งนัก! ที่แท้เขานั้นก็มีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับหก! แค่ผ่านทุกขจุติระดับหกมาได้มันก็นับว่าหายากเหลือแล้ว ตอนนี้เขากลับคิดจะผ่านทุกขจุติระดับเจ็ดขึ้นไปอีก ข้าเกรงว่าเมื่อเขาก้าวขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์แล้วแม้จะเป็นเทพสวรรค์สองดาวก็คงไม่อาจต้านทานนายท่านได้” หลงซุนพูดกล่าวขึ้นด้วยดวงตาที่ส่องประกาย
“หึ ยิ่งกว่านั้นอีก! เจ้าอย่าได้ลืมไปว่านายท่านนั้นยังมีดาบชั่วลมปราณถงเทียน!” หลงจ้าวเทียนร้องบอกขึ้นมาพร้อมเสียหัวเราะ
คนทั้งหลายนั้นต่างเข้ามากล่าวชื่นชมเย่หยวนกันคนละคำสองคำ ยกย่องเขาราวกับเป็นเทพบนสวรรค์ แต่ตัวเย่หยวนนั้นเป็นคนเดียวที่เข้าใจความทรมานของตน บรรลุสองอย่างพร้อม ๆ กันในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้มันย่อมทำให้ผลึกมารดำที่เขารวบรวมไว้ไม่พอที่จะใช้งานอีกต่อไป!
แต่จู่ ๆ หลงเสี่ยวฉุนก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าไป “ไม่ดีแล้ว! พวกมารนรกระดับเทพสวรรค์มาถึงแล้ว!”
ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างหน้าถอดสีลงก่อนจะสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงที่ล้อมเข้ามาจากรอบทิศ
แน่นอนว่าคลื่นพลังความปั่นป่วนในระดับนี้มันย่อมจะเรียกเหล่ามารนรกเทพสวรรค์มาจนได้
“นี่มัน…จะทำอย่างไรดี?” สีหน้าของหลงซุนขาวซีดลงด้วยความตื่นตะลึง
เพราะต่อหน้าเหล่ามารนรกเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้ พวกเขาไม่อาจจะเป็นได้แม้แต่สิ่งกีดขวางเครื่องถ่วงเวลา
แค่ลมหายใจของมารนรกเทพสวรรค์มันก็พอจะฉีกร่างของพวกเขา!
หลงเสี่ยวฉุนได้แต่ทำหน้าหนักใจออกมาก่อนจะกัดฟันบอก “หากมันไม่ไหวจริง ๆ ข้าคงได้แต่ต้องร้องไห้แล้ว!”
หลงซุนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยใบหน้าซีดขาวนั้น “ย่าทวดข้า ถึงเวลาเช่นนี้แล้วท่านยังจะมาล้อเล่นอีกหรือ? หากร้องไห้มันช่วยแก้ปัญหาใด ๆ ได้จริง ข้าจะเริ่มนั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้สามวันสามคืนเลย”
แต่หลงเสี่ยวฉุนนั้นกลับตอบมาด้วยใบหน้าจริงจัง “ข้าไม่ได้ล้อเจ้าเล่น เมื่อใดที่ข้าร้อง แม้แต่ข้าก็ยังกลัวตัวเอง เพียงแค่ว่าข้าเกรงว่า…เย่หยวนนั้นจะไม่อาจทนมันได้!”
“ฮ่า ๆ ๆ …เจ้ามนุษย์โง่โอหังกล้ามาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายขนาดนี้ตอนบรรลุอาณาจักร ช่างรนหาที่ตายจริง ๆ!”
“ใช่ ๆ! เจ้ามนุษย์นี้มันเก่งไม่เบา น่าจะอร่อยไม่น้อย!”
“ถึงเวลานั้นแล้วก็ตัวใครตัวมันล่ะ! ใครกัดก่อนก็ได้กินก่อน!”
…
เหล่ามารนรกทั้งหลายต่างแสดงรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาบนใบหน้าขน ๆ นั้นพร้อมจ้องมองเย่หยวนราวกับเป็นเหยื่ออันโอชะ
…………………