บทที่ 1011 สะสางบ่วงกรรม

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

หลังจากหลิงตู้ฉิงเดินทางออกจากเผ่าอีกาทองคำ ผู้คนจากฝ่ายที่ลอบสังเกตอยู่ต่างก็รู้สึกประหลาดใจไปตาม ๆ กัน

ทำไมไอ้ปีศาจนั่นถึงไม่ทำอะไรเผ่าอีกาทองคำเลย?

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตำหนักไร้หทัยและเผ่าอีกาทองคำนับได้ว่าเป็นศัตรูกันมาโดยตลอดโดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่หลิงตู้ฉิงเพิ่งจะฆ่าองค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอีกาทองคำไป สถานการณ์ทุกอย่างมันควรจะดุเดือดขึ้นไม่ใช่เหรอ?

ทำไมเผ่าอีกาทองคำถึงไม่ตอบโต้อะไรบ้างเลย? หรือไม่ทำไมตำหนักไร้หทัยถึงได้นิ่งขนาดนี้?

หรือว่าข่าวลือที่เจ้าตำหนักไร้หทัยได้เปลี่ยนนิสัยกลายเป็นเหมือนคนละคนไปแล้วจะเป็นความจริง?

หลิงตู้ฉิงไม่ได้ใส่ใจกับเหล่าผู้คนที่แอบดูเขาแม้แต่น้อย สถานที่ถัดไปที่เขามุ่งหน้าไปก็คือยอดเขาเต๋าเทวะ

บนยอดเขาเต๋าเทวะ เจ้าแห่งพรตเต๋ามองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาขัดแย้ง ความรู้สึกของเขาในตอนนี้มันมีหลายอย่างที่ผสมปนเปกันอยู่ มันมีทั้งความคาดหวัง โกรธเคืองและกังวล

หลิงตู้ฉิงไม่ได้เริ่มพูดอะไรก่อน เขารอให้เจ้าแห่งพรตเต๋าเป็นฝ่ายเริ่ม

หลังจากจ้องอยู่นาน เจ้าแห่งพรตเต๋าก็เอ่ยขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทั้งเจ้าและศิษย์ของเจ้าทั้งหมดล้วนสารเลว!”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “เพื่อชดใช้ในสิ่งที่พวกข้าก่อ ข้าจะมอบเคล็ดวิชาเทวะลอกเลียนให้กับเจ้า แต่มีข้อแม้คือเจ้าถ่ายทอดมันให้กับศิษย์ของเจ้าได้แค่รุ่นละหนึ่งคนเท่านั้น และทุกคนที่ได้รับถ่ายทอดเคล็ดวิชานี้ไปจะถือว่าติดหนี้บุญคุณใหญ่ต่อสำนักเทวะลอกเลียน ข้าเชื่อว่าเจ้าคงรู้เหตุผลใช่ไหมว่าทำไมมันต้องเป็นแบบที่ข้าพูด?”

“เนี่ยน่ะเหรอสิ่งที่เจ้าชดใช้ให้กับข้า?” เจ้าแห่งพรตเต๋ากระแทกเสียง

“ถ้าเจ้าไม่อยากได้มัน งั้นก็ถือว่าข้าไม่ได้พูดอะไรไปก็แล้วกัน” หลิงตู้ฉิงพูดกลับ

เมื่อได้ยินเช่นนี้เจ้าแห่งพรตเต๋ารู้สึกหนังหัวชาทันทีจนไม่รู้จะเอ่ยอะไรต่อ

แน่นอนว่าเขาต้องการเคล็ดวิชาเทวะลอกเลียน แต่ที่เขาต้องการมันไม่ใช่สำหรับตัวเขาเอง แต่เขาต้องการมันให้กับศิษย์ในสำนักของเขา สำหรับเขาในตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องลอกเลียนการโจมตีของใครเพื่อโจมตีสวนกลับ แต่ในทางกลับกันที่ผ่านมายอดเขาเต๋าเทวะของเขาขาดเคล็ดวิชาที่เอาไว้ใช้ต่อสู้โดยเฉพาะมาโดยตลอด ซึ่งเคล็ดวิชาเทวะลอกเลียนนี้มันตอบโจทย์สำนักของเขามากที่สุด เพราะมันเป็นวิชาที่สร้างขึ้นเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะแถมมันยังสามารถช่วยเกื้อหนุนในเรื่องการศึกษาเต๋าต่าง ๆ ที่มีอยู่บนโลกจากวิชาที่พวกเขาลอกเลียนได้อีกต่างหาก

เจ้าแห่งพรตเต๋าไม่รู้จะตอบอะไรกลับหลิงตู้ฉิง ดังนั้นเขาจึงเดินไปตามหลิงว่านถิงให้มาแก้ไขสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนนี้

“ท่านพ่อ ท่านมาแล้วงั้นเหรอ!” หลิงว่านถิงหัวเราะ

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพยักหน้า “เอาล่ะ จงถ่ายทอดเคล็ดวิชาเทวะลอกเลียนและร่ำลาอาจารย์ของเจ้าซะ นับจากนี้เจ้าและยอดเขาเต๋าเทวะจะไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกันอีก”

หลิงว่านถิงพยักหน้า จากนั้นนางหันกลับถ่ายทอดเคล็ดวิชาเทวะลอกเลียนให้กับเจ้าแห่งพรตเต๋า และร่ำลาเจ้าแห่งพรตเต๋ารวมไปถึงซวนหยวน

ในยอดเขาเต๋าเทวะทั้งหมด นางไม่รู้จักคนอื่นเลยนอกจากซวนหยวนและเจ้าแห่งพรตเต๋า ดังนั้นนางจึงร่ำลาแค่ 2 คนนี้เท่านั้น

หลังจากหลิงว่านถิงร่ำลาเจ้าแห่งพรตเต๋าเสร็จ หลิงตู้ฉิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาพูดกับเจ้าแห่งพรตเต๋าว่า “เพื่อเป็นการทดแทนในสิ่งที่เจ้าเสียไปเพิ่มเติม ข้าจะถ่ายทอด 36 รูปแบบแปลงเปลี่ยนจากวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่งให้เจ้าเพิ่ม!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเจ้าแห่งพรตเต๋าที่น่าเกลียดอยู่ตลอดตั้งแต่หลิงตู้ฉิงมาถึงก็เปลี่ยนเป็นเบิกบานทันที เขาหัวเราะและตะโกนลั่นว่า “มันต้องแบบนี้สิถึงจะสมน้ำสมเนื้อ!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ จากนั้นเมื่อเขาถ่ายทอด 36 รูปแบบแปลงเปลี่ยนจากวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่งให้กับเจ้าแห่งพรตเต๋าเสร็จ เขาพาหลิงว่านถิงจากไปในทันที ซึ่งสถานที่ถัดไปที่เขามุ่งหน้าไปก็คือเผ่าเงานิรันดร์

เผ่าเงานิรันดร์นั้นต้อนรับหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างดีแตกต่างจากเจ้าแห่งพรตเต๋าโดยสิ้นเชิง ในทันทีที่หลิงตู้ฉิงไปถึง ผู้ปกครองเผ่าเงานิรันดร์เรียกให้หลิงเทียนหยุนออกมาพบกับหลิงตู้ฉิงทันที

“สหายเต๋า ข้ามีคำถามบางอย่างอยากจะถามท่านสักหน่อย” ผู้ปกครองเผ่าเงานิรันดร์เอ่ยถามหลิงตู้ฉิง

“เชิญถามมาได้เลย!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า

ผู้ปกครองเผ่าเงานิรันดร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาถามว่า “คนผู้นั้นที่คอยดูแลเทียนหยุนในโลกเบื้องล่างเป็นคนเดียวกับที่ข้าคิดเอาไว้รึเปล่า? และท่านเป็นสามีของนางจริง ๆ งั้นเหรอ? ถ้าเป็นแบบนี้มันก็เท่ากับว่าข้าและคนในเผ่าของข้าก็นับได้ว่าเป็นลูกของท่านงั้นเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ถูกต้อง หยิงหยิง คือผู้ที่ทำให้เผ่าเงานิรันดร์ของเจ้าบังเกิดขึ้น แต่อย่าเข้าใจผิดไป นางไม่ใช่บรรพบุรุษของเจ้าทางสายเลือด นางเป็นคนสร้างพวกเจ้าขึ้นมาต่างหาก ส่วนเคล็ดวิชาหมื่นดวงใจปีศาจนางก็เป็นคนคิดค้นขึ้น ซึ่งนับจากนี้มันจะกลายเป็นมรดกตกทอดให้กับเผ่าเงานิรันดร์ของเจ้า และความสัมพันธ์ของนางกับข้านั้นในอนาคตนางจะมาเป็นภรรยาของข้า แต่เจ้าไม่ต้องเอาเรื่องความสัมพันธ์ของข้ากับนางมาใส่ใจ เจ้าไม่จำเป็นต้องเคารพข้าและทำตัวตามปกติอย่างที่เคยเป็นได้เลย”

ผู้ปกครองเผ่าเงานิรันดร์แสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย จากนั้นเขาเปลี่ยนเรื่องคุย “เมื่อนานมาแล้วในอดีตบรรพบุรุษของข้าได้ไปเจอชิ้นส่วนของ ‘มายาเที่ยงแท้’ ในแม่น้ำมหาดารา ซึ่งถ้ารวมกับชิ้นส่วนที่เทียนหยุนมีในร่างกายของเขามันก็จะครบสมบูรณ์พอดี ท่านมีความคิดเห็นว่าข้าควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี?”

หลิงตู้ฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าเกรงว่ามันจะดีที่สุดที่เจ้าจะมอบชิ้นส่วนเหล่านั้นทั้งหมดให้กับเทียนหยุน!”

ผู้ปกครองเผ่าเงานิรันดร์พยักหน้าและไม่ถามอะไรต่ออีก

ตั้งแต่แรกเริ่มเผ่าเงานิรันดร์นั้นไม่เคยมีความเกี่ยวข้องอะไรกับตำหนักไร้หทัยเลย ทั้งสองฝ่ายไม่เคยมีความแค้นใด ๆ ต่อกันและไม่เคยเจอกันเลยสักครั้ง ถ้าหากไม่เป็นเพราะพวกต้วนฉิงลักพาตัวหลิงเทียนหยุน พวกเขาทั้งสองฝ่ายก็คงไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันแม้แต่น้อย และเมื่อตอนนี้ทุกอย่างถูกแก้ไขจนกระจ่างชัดหมดแล้ว มันจึงนับว่าทั้งคู่ไม่มีความเกี่ยวพันธ์ใด ๆ กันอีก

หลังจากคุยกันเสร็จ หลิงตู้ฉิงก็ร่ำลาผู้ปกครองเผ่าเงานิรันดร์และพาหลิงเทียนหยุนจากไป

สถานที่ถัดไปที่หลิงตู้ฉิงมุ่งหน้าไปก็คือวังจักรพรรดิมังกร

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างทางไปวังจักรพรรดิมังกร หลิงตู้ฉิงก็แวะสำนักเทวะลอกเลียนก่อน ซึ่งมันเป็นทางผ่านพอดี

จักรพรรดิเทพเหรินเซี่ยง ผู้ซึ่งเป็นเจ้าสำนักเทวะลอกเลียนนั้นโด่งดังมากในโลกเบื้องบนเมื่อในอดีต แต่หลังจากที่เขาตายจากไป สำนักเทวะลอกเลียนก็ตกต่ำลงเรื่อย ๆ จนกลายไปเป็นสำนักระดับกลางของโลกเบื้องบน

ตอนนี้เมื่อตำหนักไร้หทัยมาเยือน ถึงแม้ว่าพวกเขายังคงแค้นเคืองอยู่แต่เมื่อเผชิญหน้ากับกองกำลังที่มีจักรพรรดิเทพถึง 4 องค์พวกเขาจะไปทำอะไรได้?

“ผู้อาวุโส ท่านมาเยือนสำนักอันต่ำต้อยของข้าเช่นนี้ไม่ทราบว่าท่านมีธุระใดงั้นเหรอ?” เจ้าสำนักเทวะลอกเลียนคนปัจจุบัน เจียงเซียนซิง เอ่ยถามขึ้น

“หรือว่าวันนี้ท่านตัดสินใจที่จะทำลายล้างพวกเราให้สิ้นซากเพื่อจบความแค้นของพวกเราทั้งหมด?” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาผู้หนึ่งเอ่ยถามขึ้นเสริม

หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาและตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “หากข้าต้องการทำลายสำนักของพวกเจ้าจริง ๆ ข้าจำเป็นต้องถ่อมาถึงที่นี่เพื่อฆ่าพวกเจ้าด้วยงั้นเหรอ? สภาพของพวกเจ้าในตอนนี้ต่อให้ข้าอยู่เฉย ๆ พวกเจ้าก็คงอยู่รอดกันได้ไม่เกิน 500,000 ปีหรอก”

เจียงเซียนซิงพยักหน้า “ข้าทราบดีว่าผู้อาวุโสคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาสร้างความยากลำบากให้กับพวกข้าเพิ่มแน่นอน ข้าขออภัยที่คนของข้าล่วงเกินถามท่านไปแบบนั้น ในอดีตตอนที่ท่านกับอาจารย์ของข้าประลองกัน ข้าเองก็อยู่ด้วยและข้าก็ชื่นชมผู้อาวุโสเสมอมาถึงแม้ว่าอาจารย์ของข้าจะตายลงด้วยน้ำมือของผู้อาวุโส ในวันนั้นข้าเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นการต่อสู้ที่ขาวสะอาดและยุติธรรม แต่คนอื่น ๆ ทั้งหมดไม่ได้เห็นเหตุการณ์การประลองในวันนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงไม่เข้าใจเรื่องราวและยังพาลมีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่ ว่าแต่ผู้อาวุโสข้าขอถามได้สักหน่อยหรือไม่ว่าวันนี้ที่ท่านมาที่นี่ท่านต้องการอะไรจากพวกเรา?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและถามกลับ “ตอนนี้เหรินเซี่ยงเกิดใหม่แล้วรึยัง?”

“ข้ายังไม่พบตัวอาจารย์ของข้าเลยผู้อาวุโส” เจียงเซียนซิงส่ายหัว

หลิงตู้ฉิงกวาดสายตามองไปที่ผู้คนของสำนักเทวะลอกเลียนทั้งหมด จากนั้นเขาพูดกับเจียงเซียนซิง “ก่อนหน้านี้ข้าได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาเทวะลอกเลียนให้กับเจ้าแห่งพรตเต๋า แต่เหตุผลที่ข้าทำไปเช่นนั้นเพราะข้าต้องการสร้างพันธะเชื่อมโยงให้พวกเจ้ากับยอดเขาเต๋าเทวะและพวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงว่าเคล็ดวิชาของพวกเจ้าจะถูกเผยแพร่ไปแบบส่ง ๆ เพราะข้าได้สร้างเงื่อนไขให้เจ้าแห่งพรตเต๋าถ่ายทอดวิชาของพวกเจ้าให้กับศิษย์ของเขาได้แค่รุ่นละ 1 คนเท่านั้น และศิษย์ผู้นั้นจะกลายเป็นติดหนี้บุญคุณอย่างใหญ่หลวงต่อพวกเจ้า”

“นับจากนี้มันจะเป็นการดีที่สุดที่เจ้าจะส่งคนไปทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับยอดเขาเต๋าเทวะเพื่อประโยชน์ของพวกเจ้าเอง และนอกเหนือจากเรื่องนั้น ตัวเจ้าเองข้าเห็นว่าเจ้านั้นมีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาแถมยังเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ทะลุปรุโปร่ง รวมไปถึงดูแลสำนักได้ไม่เลว นับจากนั้นข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นจักรพรรดิเทพเพื่อที่หลังจากนี้บ่วงกรรมที่ข้ามีต่อพวกเจ้าจะได้สิ้นสุดลง”

เจียงเซียนซิงตกตะลึงไปอยู่พักใหญ่ แต่แล้วเมื่อเขาได้สติเขารีบโค้งตัวคารวะทันที “ขอบคุณมากผู้อาวุโส!”