ตอนที่ 1084: เข้ารับตำแหน่ง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1084: เข้ารับตำแหน่ง

เขาคำรามออกมา แล้วพลังบรรพกาลอันทรงพลังที่พุ่งพวยอยู่ในร่างของเจี้ยนเฉินก็พุ่งออกไป มันสลัดเซียนผู้คุมกฎทั้งสามที่จับเขาอยู่ให้กระเด็นออกไป

เจี้ยนเฉินระเบิดพลังของร่างบรรพกาลขั้นที่สามออกมา มันเทียบเท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 และมันมากกว่าที่เซียนผู้คุมกฎจะสามารถต้านทานเอาไว้ได้ เซียนผู้คุมกฎทั้งสามคนกระเด็นถอยไปพร้อมกระอักเลือดออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัสในตอนนี้

หลายคนบินออกมาจากฝูงคนเพื่อที่จะรับคนที่บาดเจ็บเอาไว้ ในตอนที่พวกเขาตรวจอาการบาดเจ็บ ท่าทางของพวกเขาก็เกิดประหลาดใจทันที

“พวกเจ้าคิดว่าข้าจะไม่ทำอะไรเพียงเพราะพวกเราอยู่ในตระกูลผู้พิทักษ์อย่างนั้นหรือ? ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าในครั้งนี้เพราะถือว่าพวกเราเป็นตระกูลและมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน ถ้าอะไรแบบนี้เกิดขึ้นบนทวีปเทียนหยวน พวกเจ้าก็เหมือนลูกไก่ในกำมือของข้า” เจี้ยนเฉินพูดออกมาอย่างเย็นชา ในขณะที่เขามองไปที่เซียนผู้คุมกฎทั้งห้าคน เขาไม่แสดงความเคารพหรือถามว่าพวกนั้นมาจากสาขาไหนเลย

สำหรับเจี้ยนเฉินแล้ว เขาไม่สนใจผู้ใดในตระกูลผู้พิทักษ์นอกจาก เจียงหยาง ซู หยวนเซียวและเจียงหยาง ซู อวี้หยวน

เขาโบกมือแล้วเจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงก็กระเด็นไปเหมือนเศษขยะ สายตาของเขาเย็นชาและแหลมคมเหมือนมีด เขาพูดออกมา “เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวง มันจะดีที่สุดถ้าเจ้าเก็บความเย่อหยิ่งของเจ้าในฐานะคนของตระกูลผู้พิทักษ์เอาไว้และไม่มาคุยโวถึงเรื่องความอาวุโส ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าถึงแม้ว่าเจ้าจะมีมารราคะมาช่วยก็ตาม”

ไม่มีใครไปช่วยรับเจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงเอาไว้ นางกระแทกลงกับพื้นอย่างแรงในตอนท้ายเหมือนเค้กที่ตกลงบนพื้น นางอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่

แม้ว่าจะมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็มีแต่ความเงียบสงัด ไม่มีใครพูดอะไร ทั้งหมดอึ้งในความยโสโอหังและแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน

เซียนผู้คุมกฎทั้งห้าคนได้เคลื่อนไหวพร้อมกัน แต่พวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บอย่างง่ายดาย พวกเขาเปราะบางยิ่งกว่าเต้าหู้ นอกเหนือไปจากนั้น คนคนนี้ยังไม่กลัวแม้แต่มารราคะ ซึ่งทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตระกูลผู้พิทักษ์ ตระกูลเจียงหยางเป็นหนึ่งในสิบตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดบนทวีปเทียนหยวน การมีอยู่ของพวกเขานั้นคือความมีเกียรติ ความศักดิ์สิทธิ์ และความสุดยอด พวกเขาถูกชื่นชมและเทิดทูน พวกเขายังต้อนรับผู้เยาว์คนนี้ด้วยระฆังแห่งความชัดแจ้งทั้งเก้า ถ้างั้นผู้เยาว์คนนี้เป็นเซียนจักรพรรดิอย่างนั้นหรือ ?

เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงนั้นมีความภาคภูมิใจในตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก บวกกับพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมของนาง นางจึงเป็นคนโปรดของเจียงหยาง ชิง หยุน และในความเป็นจริงที่สาขาชิงนั้นเป็นสาขาที่แข็งแกร่งที่สุดในสามสาขา นางเชื่อจึงเชื่อว่านางเป็นศูนย์กลางของทุกคน นางสูญเสียความเป็นเหตุผลของนางเนื่องจากความโกรธ นางถูกทำให้อับอายต่อหน้าทุกคน ดังนั้นนางจึงไม่สนใจคำข่มขู่จากเจี้ยนเฉินและนางจึงกรีดร้องออกมา “เจียงหยาง เซียงเทียน เจ้ากล้าดียังไงที่มาแตะต้องผู้อาวุโสของเจ้า ! ผู้อาวุโสคุมวินัยอยู่ไหน ? พวกเขาอยู่ที่ไหน ? ทำไมพวกเขาไม่รีบมาจับเอาเจ้าคนไร้ความเคารพนี้และส่งไปให้ผู้อาวุโสสูงสุดลงโทษกัน ! ? ” เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงผู้สง่างามเหมือนก่อนหน้านี้ นางกระเซอะกระเซิงและเสื้อของนางก็เปื้อนดินไปหมด และเสื้อนางยังขาดบางที่อีกด้วย นางดูเหมือนขอทานในตอนนี้

เซียนผู้คุมกฎวัยกลางคนปิดปากของนางเอาไว้ แต่มือของเขาก็โบกไปมาอยู่ นางเหมือนสิงโตที่กำลังโกรธในตอนนี้ เว้นเสียแต่ว่านางยังไม่พุ่งเข้าไปขย้ำเจี้ยนเฉินเท่านั้น

ชายชราที่มีเกียรติและแต่งตัวอย่างดี 6 คนเดินออกมาจากฝูงชนพร้อมกัน พวกเขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยท่าทางแสดงความมีปัญหา

พวกเขาทั้งหกเป็นผู้อาวุโสคุมวินัยของตระกูลเจียงหยาง พวกเขาทั้งหมดเป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 และฐานะและอำนาจของพวกเขาเป็นรองเพียงแค่ผู้อาวุโสสูงสุดเท่านั้น

“ผู้อาวุโสคุมวินัย ทำไมพวกท่านไม่รีบลงโทษเจ้าคนไร้ความเคารพผู้นี้ล่ะ ? ” เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงไม่สนใจเหตุผลเนื่องจากความโกรธของนาง แต่นางก็ยังรู้อยู่ว่านางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจี้ยนเฉิน ดังนั้น นางจึงตะคอกใส่ชายชราทั้งหกคน

ผู้อาวุโสคุมวินัยทั้งหมดลอบถอนใจ พวกเขาเข้าใจในตัวเจี้ยนเฉินดี ในตอนที่เจี้ยนเฉินกลับมาจากอาณาจักรทะเลเมื่อหลายปีก่อน พวกเขาได้เห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในทวีปด้วยตัวของพวกเขาเอง พวกเขารู้ว่าเจี้ยนเฉินยังเด็ก แต่เขาก็เป็นคนที่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบไม่อยากไปทำให้โกรธ

ผู้อาวุโสคุมวินัยมาที่ตรงหน้าเจียงหยาง ชิง เลิ่งชวง และหนึ่งในนั้นก็ยื่นนิ้วไปที่คอของนาง เสียงของนางหายไปและชายชราก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ “เลิ่งชวง เจ้าไปหาเรื่องแขกที่มีเกียรติที่ได้รับการต้อนรับจากระฆังแห่งความชัดแจ้งทั้งเก้าได้อย่างไร ? วันนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดกลับมาแล้ว พวกเราจะบอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น” ทั้งหกคนไม่ได้พูดแบบเดียวกันกับเซียนผู้คุมกฎทั้งห้าคนที่ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้น็ไม่ได้โง่ พวกเขารู้ดีว่าใครที่พวกเขาควรยั่วยุหรือไม่

พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลเจ็ดดวงปรากฏขึ้นมาแต่ไกล ผู้อาวุโสสูงสุดเจ็ดคนของตระกูลได้กลับมาจากด้านนอกและมาถึงที่ผืนดินลอยฟ้าอย่างรวดเร็ว พวกเขามองไปรอบ ๆ และพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ หนึ่งในนั้นถามออกมาเสียงทุ้ม “เกิดอะไรขึ้น ? “

ผู้อาวุโสคุมวินัยทั้งหกรายงานพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นทันที พวกเขารายงานการกระทำของเจี้ยนเฉินน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และโยนความผิดเกือบทั้งหมดให้กับเจียงหยาง ชิง เลิ่งชวง

ผู้อาวุโสคุมวินัยทั้งหกโดยปกติจะเป็นคนตรงไปตรงมา แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าควรจะพูดอย่างไรในตอนนี้

เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงกระทืบเท้าและหงุดหงิดอยู่อีกฝั่ง ใบหน้าของนางเหมือนไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นและนางกำลังรู้สึกผิด น่าเสียดายที่นางพูดไม่ได้และนางถูกผู้อาวุโสคุมวินัย 2 คนคุมตัวไว้อยู่ นางไม่มีสิทธิ์แก้ตัวในสิ่งที่พวกเขาพูดเลย

เจียงหยาง ชิง หยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย กลังจากที่ผู้อาวุโสคุมวินัยรายงานออกไป อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกไป เจียงหยาง ซู เซียวก็คำรามออกมา “เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวง ยกโทษให้เจ้าไม่ได้ที่ไปข่มขู่แขกที่มีค่าของพวกเราแบบนี้ ผู้อาวุโสคุมวินัย จองจำนางในถ้ำน้ำแข็งพันปีเป็นเวลาร้อยปีเดี๋ยวนี้”

“ขอรับ ! ” ผู้อาวุโสคุมวินัยคำนับและรีบทำตามคำสั่ง

ผู้อาวุโสสูงสุดสามคนของสาขาชิงขมวดคิ้วมากกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจียงหยาง ชิง หยุน แววแห่งความโกรธปรากฏในแววตาของเขา เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงเป็นหนึ่งในคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดของสาขาชิง การจองจำนางในถ้ำน้ำแข็งพันปีเหมือนเป็นการเอาเวลาฝึกเป็นร้อยปีของนางไป

“คนอื่นอีก 7 คนที่กล้าโจมตีแขกที่มีเกียรติของพวกเราก็จะถูกจองจำร้อยปีเช่นกัน” เจียงหยาง ซู เซียวพูดต่อ เขาเคร่งเครียดมากจนไม่มีใครกล้าที่จะปฏิเสธเขา

ในตอนท้าย เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวง หญิงสองคนที่ติดตามนาง และเซียนผู้คุมกฎทั้งห้าคน ก็ได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง ใครที่ตอนนั้นคิดที่จะโจมตีเจี้ยนเฉินแต่ถูกหยุดเอาไว้ก่อนก็ลอบถอนใจให้กับความโชคดีของตัวเอง

“เหลนข้า เจ้าพอใจกับคำตัดสินหรือไม่ ? ” ความเครียดของเจียงหยาง ซู เซียวหายไป ในขณะที่เขายิ้มอย่างเป็นกันเองให้เจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินพยักหน้าเล็กน้อย “ผนึกที่อยู่ในหัวของท่านทวดหยุนคงถูกเอาออกไปหรือยัง ? “

“เหลนข้า ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าที่ทำให้ผนึกที่ทรมานคงเอ๋อมาหลายปีถูกเอาออกไปอย่างสำเร็จ จากวันนี้ไป คงเอ๋อจะสามารถฝึกฝนต่อได้แล้ว” เจียงหยาง ซู หยุนเซียวหัวเราะคิกคักออกมาดังด้วยความโล่งใจ

หลังจากที่พูดคุยกันสักพัก เจี้ยนเฉินก็ถูกผู้อาวุโสสูงสุดพาไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ หวงหลวนรออยู่ด้านนอกพร้อมกับเจียงหยาง ซู อวี้หยวน

ไม่นานหลังจากนั้น เสียงดังก็ระเบิดมาจากข้างใน และดังสะท้อนไปทั่วมิติที่แยกตัวอยู่นี้

“จากวันนี้เป็นต้นไป เจียงหยาง ซู เซียงเทียนของสาขาซูจะเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเจียงหยางของพวกเรา ผู้อาวุโสสูงสุดคนที่ 8..”

การประกาศถูกกล่าวโดยผู้อาวุโสสูงสุดทั้งเจ็ดคนพร้อมกัน พวกเขาประกาศชื่อของเจี้ยนเฉิน แต่เติมคำว่า ‘ซู’ เข้าไปในคำว่าเจียงหยาง เซียงเทียนเพื่อที่จะระบุว่าเขาเป็นคนของสาขาซู

เมื่อข่าวกระจายออกไป ทั้งตระกูลก็ตกอยู่ในความโกลาหลทันที การพูดคุยเกิดขึ้นทุกที่ แต่ประมาณครึ่งหนึ่งก็ไม่เห็นด้วย เพราะว่าเจี้ยนเฉินนั้นยังคงเป็นคนนอกในสายตาของทุกคนอยู่

ทันใดนั้นเอง กลุ่มคนจำนวนมากที่ไม่ยอมรับในตำแหน่งของเจี้ยนเฉินในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดก็มารวมตัวกันเพื่อคัดค้านด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตาม การคัดค้านของพวกเขาก็ไร้ค่าต่อหน้าผู้อาวุโสสูงสุดทั้งเจ็ด พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งเจ็ดคนออกมาพร้อมกันเพื่อปรามฝูงชน

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งเจ็ดมีอำนาจเด็ดขาดในตระกูลเจียงหยาง พวกเขาเป็นตัวแทนของทุกสิ่ง เมื่อพวกเขาทั้งหมดเห็นด้วยกันแล้ว พวกเขาก็สามารถตัดสินใจทุกสิ่งให้ตระกูลได้

เจี้ยนเฉินมีความแข็งแกร่งเท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 และเขายังมีพยัคฆ์ปีกเทวะ เช่นเดียวกันกับที่รุยจินและเฮยยู่ สองจอมยุทธทรงพลังที่สุดยอดอยู่ข้าง ๆ อีก มันเป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลผู้พิทักษ์จะไม่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อที่จะดึงให้คนแบบนี้เข้ามาอยู่ที่ฝ่ายเดียวกับพวกเขา เมื่อเจี้ยนเฉินกลายเป็นคนของตระกูลผู้พิทักษ์แล้ว พลังที่ยิ่งใหญ่ในมือของเขาก็คงจะตกเป็นของตระกูลผู้พิทักษ์ด้วย

ยังไม่กล่าวถึงคู่หมั้นของเจี้ยนเฉิน โหยวเยว่ที่นางฟ้าเฮายู่รับเอาไปเป็นศิษย์อีก นางได้รับโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มและความสำเร็จในอนาคตของนางคงยากที่จะหยั่งถึงเป็นแน่

ที่ชั้นบนสุดของโถงศักดิ์สิทธิ์มีโถงที่โอ่อ่าและยิ่งใหญ่ มันถูกตกแต่งอย่างดีเหนือกว่าพระราชวังของจักรวรรดิใหญ่ทั้งสามเสียอีก นี่เป็นโถงบรรพชนของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง

ในโถงนั้นเต็มไปด้วยแผ่นภาพแห่งความทรงจำนับไม่ถ้วน คนพวกนี้ทั้งหมดคืออดีตผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล และพวกเขาก็ไม่เคยขาดแคลนเซียนจักรพรรดิเลย อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดก็ตายไปแล้ว

เจี้ยนเฉินยืนอยู่เป็นแถวกับผู้อาวุโสสูงสุดทั้งเจ็ดตรงหน้าแผ่นความทรงจำจำนวนมาก พวกเขานับถือคนที่อยู่ในแผ่นเพราะว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นบรรพบุรุษของตระกูล

เจี้ยนเฉินคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเข้ามาที่ตระกูลแล้ว เขาไม่ต้องการที่จะรับตำแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล แต่ประโยคหนึ่งจากเจียงหยาง ซู หยุนคงก็เปลี่ยนใจเขา

“เหลน เจ้าเป็นคนของสาขาซูของพวเรา เจ้าจะเป็นเกียรติประวัติของสาขาพวกเรา”

เจี้ยนเฉินเปลี่ยนใจเพราะคำพูดประโยคนั้น เขาไม่ปฏิเสธตำแหน่งของเขาในฐานะผู้อาวุโสสูงสุด เพราะว่าทั้งหมดจะเป็นการให้เกียรติกับทวดของเขา เจียงหยาง ซู หยุนคง

“เอาล่ะ พิธีก็ได้สิ้นสุดแล้ว เหลนข้า พวกเราควรจะพาเจ้าไปที่ห้องสมุดของตระกูลต่อไป บันทึกทั้งหมดที่เก็บมาตลอดของตระกูลอยู่ที่นั่น รวมถึงความลับหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตด้วย ยังมีวิธีการฝึกฝนอีกหลายอย่าง ทักกษะการต่อสู้ระดับเซียน ประสบการณ์และความเข้าในที่บรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ ในตอนนี้ เจ้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลแล้ว เจ้ามีสิทธิ์ที่จะดูบันทึกเหล่านั้นได้” เจียงหยาง ซู เซียวยิ้ม เขาลอบยินดีในใจ

เจี้ยนเฉินฉุกสนใจขึ้นมา เขาสนใจในบันทึกความลับในอดีตมาก เขาไม่สนวิธีการฝึกฝนหรือทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเพราะมันไม่เหมาะกับเขาเลย

เจี้ยนเฉินไม่ได้ไปที่ห้องสมุดทันที เขากล่าวขึ้นมา “ผู้อาวุโสสูงสุด มีบางคนใช้ทักษะลับโบราณกับหลวนเอ๋อซึ่งมันผูกชะตาของเขากับหลวนเอ๋อเอาไว้ ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านมีวิธีการในการเอามันออกรึเปล่า ? “