มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1007

วิธีการในการฉีกขาดอนัตตาของมหาจักรพรรดิยุทธ์ เพียงชั่วครู่เดียวก็ข้ามระยะทางไปได้หลายหมื่นลี้ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเทเลพอร์ต

แม้ว่าการฝึกตนของหลัวซิวจะยังไปไม่ถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ แต่พลังยุทธ์ของเขากลับสูงกว่านั้นมากนัก ดังนั้นการฉีกขาดอนัตตาจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

จากอาณาจักรเหนือจนถึงอาณาจักรใต้ที่เป็นระยะทางเกือบหมื่นลี้นั้น ทำให้ต้องฉีกขาดอนัตตาหลายร้อยครั้ง แม้ว่าผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์จะทำได้แต่ก็ต้องสูญเสียพลังงานไปไม่น้อย

แต่หลัวซิวกลับเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ ทุกครั้งที่เขาเดินออกมาจากแดนอนัตตา ไม่เคยมีแม้แต่สักครั้งเดียวที่เขาหยุดฝีเท้า จากนั้นเขาก็จะเริ่มฉีกอนัตตาใหม่ เป้าหมายของเขานั้นชัดเจนคือมุ่งหน้าไปที่แดนตำหนักจื่อสำนักไท่เสวียน

ในใจของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความแค้น

หลังจากฉีกขาดอนัตตาไปแล้วหลายร้อยครั้ง ในที่สุดตัวเขาก็มาเหยียบลงในแผ่นดินของประเทศเทียนหวู

เขากลับมาอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไปห้าปี และกลับมาทำให้พายุฝนโหมกระหน่ำอีกครั้ง

คราวที่แล้วเขากลับมาจากโลกเชิ่งถิง และลงมือจัดการแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนโดยไม่มีใครกล้าพูดอะไร ศึกครั้งแรกเริ่มขึ้นที่ตำหนักอัคคีนภา ศึกครั้งที่สองเขาพังป่าอู๋ถงจนราบ

อนัตตารอบๆ แดนตำหนักจื่อ หลัวซิวได้ทำการวางค่ายกลระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เอาไว้ทั้งหมดถึง 34 แห่ง

ภายใต้การนำของเผ่าหงส์ ผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนต่างรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ทั้งยังมีผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ลงมือเองด้วย ใช้เวลาอยู่หลายวันในการโจมตี สุดท้ายจึงทำลายค่ายกลทั้งหมด 34 แห่งลงได้สำเร็จ

ทุกกองกำลังรวมพลกันได้หลายหมื่นคน ภายในชั่วพริบตาเดียวก็เหมือนกับมีภัยพิบัติถาโถมเข้ามา โดยมีมหาจักรพรรดิยุทธ์หลายคน บวกกับเจ้ายุทธจักรอีกนับสิบและมหายุทธ์หลายพันคนเป็นผู้นำการบุกทลายเข้าไปในแดนตำหนักจื่อ

หากเทียบกับกองกำลังนี้หลายหมื่นคนนี้แล้ว เหล่าลูกศิษย์ที่มีเพียงหลักร้อยคนของสำนักไท่เสวียนดูอ่อนแอยากจะต้านทาน

ฝูงสุนัขจิ้งจอกหิวกระหาย และเหล่าแกะน้อยอ่อนแอต่อสู้กัน ผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่ยากที่จะคาดเดา

ก่อนที่หลัวซิวจะกลับก็ได้ทิ้งแส้มังกรฟ้าสยบเทพและกระบี่ยุทธ์ที่ชิงมาจากมือของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธิ์แดนศักดิ์สิทธิ์ไว้ให้เหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่

ทุกวันนี้หากสมบัติวิเศษของมหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสองชิ้นนี้ปรากฏ ก็จะทำให้ผู้แข็งแกร่งเขาชะตาเทพและแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างแน่นอน

“เอื้อ!”

เจ้ายุทธจักรหงส์เป็นคนลงมือด้วยตนเอง ทำเอาเหยียนเยว่เอ๋อร์ที่ครอบครองกระบี่ยุทธ์มหาจักรพรรดิยุทธ์เอาไว้ลอยกระเด็น พร้อมกระอักเลือดออกมา ร่างกายของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส

อีกด้านหนึ่ง เหยียนซีโรว่ถูกผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์เขาชะตาเทพทำร้าย และถูกชิงแส้มังกรฟ้าสยบเทพไป

เกาเหลียนหงลงมืออย่างโกรธจัด แต่การฝึกตนของเขายังคงไปไม่ถึงขั้นแดนเจ้ายุทธจักร และถูกเจ้ายุทธจักรของเผ่าหงส์คนหนึ่งโบกมือทำเอานางลอยกระเด็นไป ราวกับร่างกายของนางถูกฉีกทึ้ง โลหิตไหลริน

“ฆ่ามัน!”

เจ้ายุทธจักรหงส์ค่อยๆ ยกมือขึ้นช้าๆ ภายในชั่วพริบตาเดียวมหายุทธ์หลายคนก็เริ่มลงมือจัดการลูกศิษย์ของสำนักไท่เสวียนไปเป็นจำนวนมาก

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง นางก็ยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น นางผนึกรวมกฎเพลิงอัคคีขึ้นเป็นกรงเพื่อที่จะกักขังเหยียนเยว่เอ๋อร์เอาไว้ในนั้น

คนอื่นๆ ในสำนักไท่เสวียนสามารถตายได้ มีเพียงผู้ที่เป็นเลือดเนื้อของเทพหงส์คนนี้เท่านั้นที่ไม่สามารถตายได้

“เปรี้ยง!”

ในตอนนั้นเอง เกิดเสียงราวฟ้าผ่าดังสนั่นขึ้นมาจากอนัตตา

ทุกคนต่างอกสั่นขวัญแขวน และพากันเงยหน้าขึ้นมอง จึงเห็นว่าท้องฟ้าถูกฉีกขาดเป็นรูกว้าง ภายในรูกว้างขนาดใหญ่กลางท้องฟ้านั้นเองก็มีคนสวมใส่ชุดสีดำยาวก้าวออกมา สีหน้าของเขาเย็นชาและเต็มไปด้วยความอำมหิต

“ตายซะ!”

หลังจากที่หลัวซิวฉีกอนัตตาจนกลับมาถึงแดนตำหนักจื่อแล้วก็เห็นสภาพอันวุ่นวายโกหาหล เขาจึงลงมือทันทีด้วยความโกรธแค้น

เมื่อเขาวาดมือออกไป ฝ่ามือของเขามีกฎพลังเทพล้อมรอบ ทำให้เกิดเป็นแรงระเบิดขนาดใหญ่ ยอดฝีมือในกองกำลังหลายร้อยคนกลายเป็นเถ้าธุลีไม่เหลือร่างทิ้งไว้ให้เห็น

“เจ้ายุทธจักรหงส์ ตายซะเถิด!”

เขาก้าวแหวกผ่านอากาศไป จากนั้นพลิกมือหยิบหอกยุทธ์มังกรดำออกมา หอกยุทธ์รูปมังกรพุ่งทะยานผ่านท้องฟ้า ทำลายสิ่งกีดขวางทุกอย่างจนหมดสิ้น

“เจ้า……”

เมื่อเจ้ายุทธจักรหงส์เห็นหลัวซิวสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมถึงกลับมาปรากฏตัวได้อีกเล่า