คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1809

เมื่อเขาได้เห็นว่าทัพทหารโมอาน่าเหนือถอยทัพออกไปแดร์ริลก็ถอนใจอย่างโล่งอก สุดท้ายเขาก็สามารถไล่พวกนั้นไปได้ ต่อมาเขาก็พูดไม่ออกเมื่อเห็นแฟนนี่และคนอื่น ๆ ต่างยืนนิ่งอย่างตกตะลึง

‘เจ้าโง่พวกนี้ มีโอกาสดี ๆ ให้หนีแล้วแท้ ๆ แต่ดันไม่คว้าไว้ มัวแต่ยืนทำอะไรกันอยู่?’ เขาคิดขณะกระแอม

จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกทุกคน “พวกเจ้าจากจักรวาลโลกจงฟังให้ดี ไม่ว่าเจตนาในการมาที่นี่ของพวกเจ้าคืออะไรข้าไม่สนใจ ข้าจะให้โอกาสเจ้าจากไปซะตอนนี้”

แดร์ริลแสร้งเป็นเคร่งขรึม “ครั้งต่อไปข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปง่าย ๆ แบบนี้อีกแน่ ไปซะ”

จากนั้นเขาก็โบกมือไล่อย่างใจกว้าง

แฟนนี่และจอมยุทธ์ของจักรวาลโลกต่างพากันยินดี พวกเขาโค้งคำนับให้แดร์ริลเป็นการขอบคุณ

“ขอบพระทัย ฝ่าบาท”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท ที่ทรงไว้ชีวิตพวกกระหม่อม…”

“ฝ่าบาททรงมีทั้งพระอัจฉริยภาพและน้ำพระทัยกว้างขวาง พระองค์ควรค่าแก่การเคารพ…”

เสียงชื่นชมและขอบคุณแดร์ริลเซ็งแซ่ไปทั่ว แฟนนี่คุกเข่าลงกับพื้นขณะที่เธอคำนับเพื่อขอบคุณเขา เธอตัวสั่นเทาเพราะว่าไม่อาจเก็บกลั้นความซาบซึ้งใจและความรู้สึกเต็มตื้นไว้ได้

‘พวกเราโชคดีที่จักรพรรดิโฮ่วอี้นั้นใจกว้าง ไม่อย่างนั้นฉันและคนอื่นคงตายแน่ ๆ’ เธอคิด

หลังจากโค้งคำนับอยู่อีกหลายครั้ง แฟนนี่ก็รีบรวบรวมทุกคนและจากไปทันที เพียงพริบตาพวกเขาก็หายเข้าไปในป่า

หยางเจียนนั้นกังวลใจ ร้อนรน และโมโหเมื่อได้เห็นเช่นนั้น

ทั้งเก้าทวีปรวมตัวกันมามากกว่าสิบปีและทวีปโมอาน่าเหนือนั้นแข็งแกร่งมาก การที่จักรวาลโลกเสนอหน้ามาที่โมอาน่าเหนือเองนี้เป็นโอกาสอันดีงามที่จะได้แสดงให้เห็นแสนยานุภาพของพวกเขา

แต่จักรพรรดิโฮวอี้กลับปล่อยให้โอกาสดีงามนี้หลุดมือไป

เวลาเดียวกันนั้นแดร์ริลก็ถอนใจอย่างโล่งอก ความหนักอึ้งที่กดทับในใจเขาหายไปแล้ว ในที่สุดเขาก็วางใจได้

ที่จริงการปลอมเป็นจักรพรรดิโฮ่วอี้และตวาดหยางเจียนนั้นเป็นการกระทำที่หยามหมิ่นมาก หากแดร์ริลบอกว่าเขาไม่กังวลเลยก็คงจะโกหก เขานั้นกระวนกระวายว่าหยางเจียนจะไม่ทำตามที่เขาสั่งและยืนกรานจะสังหารคนจากจักรวาลโลก

เขาไม่คาดคิดว่าแผนจะฉลุยแบบนี้ มันเกินคาดจริง ๆ

ตอนนั้นเองหยางเจียนก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาแล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า “ฝ่าบาท คนที่มาจากจักรวาลโลกจากไปหมดแล้ว ให้กระหม่อมพาพระองค์กลับไปที่พระราชวังเถอะพะย่ะค่ะ”

หยางเจียนก้มหัวลงและพูดต่อ “มีบางเรื่องที่กระหม่อมต้องขอประทานอภัยโทษ ก่อนหน้านี้ตอนที่พระองค์สวรรคตไป กระหม่อมเห็นมีคำสลักไว้ที่แท่นหยกในห้องลับ กระหม่อมคิดว่าท่านหญิงฉางเอ๋อและจูปาเจี๋ยร่วมมือกันเพื่อทำร้ายพระองค์ ดังนั้นกระหม่อมจึงขังพระมเหสีไว้ในคุก แต่ว่าพระนางหนีไปได้และเราไม่รู้ว่าตอนนี้พระนางอยู่ที่ใด ฝ่าบาทได้โปรดลงโทษกระหม่อมด้วยพะยะค่ะ”

เมื่อเขาพูดประโยคสุดท้ายจบ หยางเจียนก็คุกเข่าลงหนึ่งข้าง เขานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

แดร์ริลตะลึงไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าให้อย่างชื่นชม ‘นี่สิสุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลาง ไม่เพียงแข็งแกร่งเท่านั้นแต่เขายังตรงไปตรงมาและกล้าที่จะรับความผิดที่กระทำลงไป ความภักดีที่เขามีให้ทวีปโมอาน่าเหนือนั้นหาที่เปรียบไม่ได้จริง ๆ จักรพรรดิโฮ่วอี้คงยิ้มอยู่บนสวรรค์ที่มีขุนนางจงรักภักดีแบบเขา’

เขายกมือขึ้นและพูดกับหยางเจียน “ดังที่มีคำกล่าวว่าผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ด้วยการตัดสินใจกระทำเช่นนั้นถือว่าเจ้าได้พิสูจน์ความภักดีที่มีต่อข้า แล้วข้าจะไม่พอใจเจ้าได้อย่างไร?”

“ส่วนเรื่องของพระมเหสีฉางเอ๋อนั้นก็ไม่ต้องกังวล ข้าได้ส่งคนไปตามหานางแล้ว”

ขณะที่พูดเช่นนั้นแดร์ริลก็มีน้ำเสียงอ่อนโยนและดูท่าทางสบาย ๆ

หยางเจียนยืนอยู่ตรงนั้นจ้องแดร์ริลด้วยสายตาว่างเปล่า เขายังคงตั้งสติไม่ได้

‘นี่คือเรื่องจริงเหรอ? ข้าฝันไปหรือเปล่า?’