คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1810
’ข้าไม่เพียงแต่เกือบยึดบัลลังก์ของจักรพรรดิโฮ่วอี้ แต่ข้ายังขังพระมเหสีฉางเอ๋อด้วย แล้วเขาไม่ลงโทษอะไรข้าเลยหรือ? การที่จัดรพรรดิโฮ่วอี้ไม่โมโหเรื่องที่ข้าจะครองบัลลังก์ยังพอเข้าใจได้ แต่เรื่องของพระมเหสีฉางเอ๋อมันต่างกัน’
หยางเจียนไม่สามารถทำความเข้าใจได้
ตอนนั้นเขาก็รู้สึกว่า ‘จักรพรรดิโฮ่วอี้’ ที่อยู่ต่อหน้าเขานั้นไม่คุ้นเคย เขาเหมือนคนอื่นที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง
‘เป็นไปได้ไหมว่านี่ไม่ใช่จักรพรรดิโฮ่วอี้ แต่ว่าเป็นตัวปลอม?’ เขาคิด
ตอนนั้นหยางเจียนก็ได้ความคิดบ้าระห่ำขึ้นมา มันอุกอาจมากเสียจนตัวเขาเองก็กลัวเมื่อคิดขึ้นมาได้ แต่หลังจากที่ได้คิดทบทวนแล้วก็เป็นสิ่งเดียวที่สามารถอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้
ฝ่าบาททำตัวแปลกไป ข้อแรกเขาปล่อยให้คนของจักรวาลโลกไป จากนั้นก็ให้อภัยความผิดของหยางเจียน ซึ่งหากว่านี่เป็นจักรพรรดิโฮ่วอี้ตัวจริง ทุกคนจากจักรวาลโลกก็คงโดนฆ่าตายไปหมดแล้วและหยางเจียนเองก็คงถูกส่งเข้าคุกไปด้วย
แดร์ริลรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเมื่อเขาเห็นว่าหยางเจียนจ้องเขาและกลอกตาไปมา
‘หยางเจียนเริ่มสงสัยแล้วเหรอเปล่า? ฉันต้องหาทางหนีไปแล้ว’ เขาคิด
แดร์ริลกระแอมให้คอโล่งและพูดจริงจัง “หยางเจียนตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เจ้าไปได้”
เมื่อพูดจบแดร์ริลก็หันหลังและเริ่มเดินออกจากเมือง ‘ฉันต้องไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ยิ่งอยู่กับหยางเจียนนานเท่าไร ตัวตนก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายเท่านั้น’
ตอนนั้นแดร์ริลยังไม่รู้ว่าหยางเจียนสงสัยเขาแล้ว
เมื่อเดินไปได้เพียงสองก้าว เขาก็ได้ยินร้องเรียกเขาอย่างสิ้นหวัง “ฝ่าบาท ทรงรอก่อน ฝ่าบาท”
แดร์ริลหยุดฝีเท้า หันกลับมามองหยางเจียนและดูไม่พอใจ “หยางเจียน เจ้ายังมีอะไรที่อยากรายงานอีกเหรอ?”
หยางเจียนจ้องตาแดร์ริลและพูดช้า ๆ ว่า “ฝ่าบาท หากว่าพระองค์จะกลับพระราชวัง พระองค์ก็ไปผิดทางแล้วพะยะค่ะ”
ขณะที่พูดหยางเจียนก็จับสังเกตอาการของแดร์ริล
แดร์ริลตะลึงไปแต่ก็ตอบนิ่ง ๆ ว่า “ใครบอกเจ้าว่าข้าจะกลับพระราชวัง ข้าอยู่ในพระราชวังนานเกินไปแล้วข้าจะไปเดินเล่นสักหน่อย”
พอได้ยินดังนั้นหยางเจียนก็เดินเข้ามาหาสองสามก้ามและพยายามจะรักษากริยา “หากว่าเป็นเช่นนั้น ให้กระหม่อมไปด้วยเพื่ออารักขาพระองค์เถอะพะยะค่ะ”
ตอนที่พูดหยางเจียนก็เผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว
เวลานี้เขาแน่ใจแล้วว่า จักรพรรดิโฮ่วอี้ที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นตัวปลอม เพราะว่าโฮ่วอี้ตัวจริงไม่มีทางออกจากพระราชวังเพียงเพื่อเดินเล่นแน่
“ไม่จำเป็นหรอก” แดร์ริลตอบอย่างรักษาอาการเพราะเขาไม่อยากจะเสียเวลา ก่อนที่เขาจะหันหลังและเดินจากไป
ทันใดนั้นหยางเจียนก็เข้ามาขวางหน้าแดร์ริลไว้ ขณะเดียวกันเขาก็ถือกระบี่สองคมสามแฉกกระชับไว้ในมือ สุนัขคำรณสวรรค์ก็จ้องแดร์ริลอย่างดุร้ายตามคำสั่งของหยางเจียน
บรรยากาศเปลี่ยนเป็นตึงเครียดทันที
“หยางเจียน” แดร์ริลทั้งแปลกใจและเดือดดาล เขาจ้องหยางเจียนอย่างโมโห “เจ้ากล้าขวางทางข้างั้นรึ? เจ้าคิดทรยศข้าหรืออย่างไร?”
ขณะที่พูดเช่นนั้น แดร์ริลก็เริ่มตื่นตระหนก
หยางเจียนยิ้มและพูดชัดเจนหนักแน่นว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่มีความกล้ามากพอที่จะขวางทางพระองค์ แต่ว่ากระหม่อมมีบางอย่างที่อยากให้พระองค์ช่วย”