บทที่ 1014 ความวุ่นวายที่ใกล้จะเกิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

เมื่อเสร็จธุระจากเผ่าเทพมิติ หลิงตู้ฉิงพาทุกคนออกจากช่องว่างมิติกลับสู่โลกภายนอกทันที ซึ่งทางด้านของหลิงฟ่างหัวเองก็ได้แต่หวังลึก ๆ ว่าในตอนนี้พ่อของนางได้กลายเป็นจักรพรรดิเทพแล้วและมีอายุขัยอยู่ได้เป็นล้านปี ดังนั้นมันอาจจะมีสักวันในอนาคตที่นางอาจจะได้เจอกับพ่อของนางอีกครั้ง

ส่วนทางด้านของหนูมิติก็ไม่แน่ใจว่ามันควรจะทำอะไรต่อดี มันควรจะติดตามหลิงตู้ฉิงออกไปดีรึเปล่า หรือว่ามันควรจะอยู่ในช่องว่างมิติเหมือนเดิมเพราะหลิงตู้ฉิงไม่ได้สั่งอะไรมันเลยทั้งนั้น

แต่แล้วในท้ายที่สุด มันก็ตัดสินใจตามหลิงตู้ฉิงออกไปและบินตามเขาด้วยสีหน้าลังเลไม่แน่ใจว่าการที่มันทำเช่นนี้จะถูกใจหลิงตู้ฉิงรึเปล่า

ส่วนทางด้านของหลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นว่าหนูมิติตามเขามา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรปล่อยให้มันตามมาด้วย

ไม่นานหลังจากนั้น กลุ่มของหลิงตู้ฉิงก็ไปหยุดอยุ่ที่หน้ามหาพระราชวังแห่งมวลมนุษย์

ราชันแห่งมวลมนุษย์และหลิงยี่เทียนต่างก็นั่งรอหลิงตู้ฉิงอยู่ในท้องพระโรงด้วยสีหน้าสงบ

เมื่อเห็นว่ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงเดินเข้ามาในท้องพระโรง ราชันแห่งมวลมนุษย์ลุกขึ้นและเอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทันที “แขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย เชิญนั่งก่อน!”

หลังจากนั่งลงกันครบทุกคน ราชันแห่งมวลมนุษย์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังทันที “ข้าเกรงว่าอีกไม่นานจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับพวกเรา”

“อืม” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า

ราชันแห่งมวลมนุษย์เอ่ยขึ้นช้า ๆ “ในโลกนี้เผ่ามนุษย์ของเราแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ จนเผ่าอื่น ๆ เริ่มจะวิตกกังวลกับการดำรงอยู่ของพวกเรา ซึ่งข้าเองสัมผัสได้อยู่ตลอดว่าอีกไม่นานนี้มันจะต้องมีเรื่องใหญ่บางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเราเผ่ามนุษย์ ส่วนท่านเองในฐานะที่ชีวิตก่อนท่านก็เป็นมนุษย์ ดังนั้นเรื่องที่เกิดกำลังจะขึ้นครั้งนี้มันคงพัวพันไปถึงตัวของท่านด้วย”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ในชีวิตนี้ของข้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเผ่ามนุษย์มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าอีกแล้ว! ส่วนเรื่องใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเจ้าเดาได้ถูกต้องและสาเหตุที่เรื่องใหญ่ที่เจ้าพูดถึงมันกำลังจะเกิดขึ้นนั้นก็เป็นเพราะเผ่ามนุษย์แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เป็นส่วนหนึ่ง แต่มันก็ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด หากข้าเดาไม่ผิดเรื่องที่กำลังจะเกิดมันน่าจะเป็นเพราะมีใครบางคนกำลังเตรียมการพิสูจน์เต๋า”

ราชันแห่งมวลมนุษย์มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าตกตะลึง จากนั้นเขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านรู้ไหมว่าเป็นใครกันที่กำลังจะพิสูจน์เต๋าในโลกเบื้องบน?”

ทุกครั้งที่ใครสักคนพยายามพิสูจน์เต๋าของตนเอง โลกทั้งโลกจะตกอยู่ในความวุ่นวาย

แม้แต่ในอดีตตอนที่หลิงตู้ฉิงพิสูจน์เต๋าของเขา เขาก็ได้สังหารจักรพรรดิเทพไปหลายองค์ แต่ถ้าเทียบกับการพิสูจน์เต๋าของตัวตนอื่น ๆ ในอดีต ยกตัวอย่างเช่น เทพบรรพกาลผู้สร้างเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ความเสียหายที่หลิงตู้ฉิงก่อขึ้นนั้นนับว่าเล็กน้อยไปเลย

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร แต่ที่รู้แน่ ๆ ก็คือเขาผู้นั้นไม่ใช่คนของเผ่ามนุษย์แน่นอน”

ตี้จ้างถูกเขาสังหารไปแล้ว ส่วนเต๋าของพระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซางก็เสียหายอย่างย่อยยับจนต้องใช้เวลาอีกเท่าไรก็ไม่รู้ถึงจะสามารถกลับมาฟื้นฟูได้เหมือนเดิม ดังนั้นผู้ที่พิสูจน์เต๋าคราวนี้จะต้องเป็นคนของเผ่าอื่นแน่นอน

ราชันแห่งมวลมนุษย์ถอนหายใจ “เฮ้อ ทุกครั้งที่มีคนพิสูจน์เต๋า ข้าล่ะปวดหัวทุกที และในเวลาเดียวกันข้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา ทั้งชีวิตของข้าคงไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปอยู่จุดนั้นแน่นอน…”

หลิงตู้ฉิงไม่ได้ใส่ใจอะไรกับความคิดของราชันแห่งมวลมนุษย์ เขาพูดเข้าประเด็นของตัวเองทันที “เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า ที่ข้ามาที่นี่เพราะข้ามารับตัวหลิงยี่เทียน”

จากนั้นเมื่อร่ำลากันเสร็จเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงก็จากไปพร้อมกับหลิงยี่เทียน

สถานที่ที่เขามุ่งหน้าต่อไปก็คือภูเขาฟีนิกซ์

ภูเขาฟีนิกซ์ของโลกเบื้องบนนั้นแตกต่างกับในโลกเบื้องล่างอย่างสิ้นเชิง

ภูเขาทั้งลูกนั้นมีไฟอันรุนแรงที่ลุกท่วมอยู่ตลอดเวลาไม่ต่างอะไรกับดวงอาทิตย์ที่ถูกแปะติดอยู่กับพื้นผิวของโลก

เมื่อเดินทางไปถึงภูเขาฟีนิกซ์ ฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาต้อนรับกลุ่มของหลิงตู้ฉิงทันที นางคุกเข่าลงคารวะและพูดว่า “คารวะผู้อาวุโส ข้าขอขอบคุณท่านอีกครั้งที่ชี้แนะให้ข้าเมื่อตอนที่อยู่ในโลกเบื้องล่าง”

หลิงตู้ฉิงถ่ายทอดบทเพลงแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ให้กับนาง เมื่อขึ้นมาโลกเบื้องบนไม่เพียงแค่นางจะสามารถใช้บทเพลงแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ขัดเกลาร่างของนางให้บริสุทธิ์ได้แล้ว ตอนนี้นางยังทะลวงระดับมาอยู่ที่ขอบเขตเทวะราชาขั้นสูงสุดอีกต่างหาก

“ลุกขึ้นเถอะ” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น “การที่เราได้เจอกันอีกครั้งในวันนี้นับได้ว่ามันเป็นโชคชะตาที่ถูกกำหนดมา ดังนั้นในอนาคตข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นจักรพรรดิเทพ”

ฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์แส้งสีหน้าโง่งมไปอยู่พักหนึ่ง จากนั้นนางถามกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ผู้อาวุโสข้าสามารถเป็นจักรพรรดิเทพได้งั้นเหรอ?”

“หลังจากนี้พันปีข้าทำให้เจ้าเป็นแน่นอน!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ

“ขอบคุณ ๆ ผู้อาวุโส” ฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์กล่าวขอบคุณซ้ำ ๆ อีกหลายรอบ

จากนั้นจู่ ๆ เสียงของจักรพรรดินีฟีนิกซ์ก็ดังขึ้น “แขกทั้งหลายขึ้นมาเถอะ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนจึงบินขึ้นไปยังยอดเขาฟีนิกซ์ทันที

หลังจากเจอหน้ากัน จักรพรรดินีฟีนิกซ์พูดเข้าประเด็นทันที “ข้ารู้ว่าทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ และถึงแม้ว่าข้าเองจะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่การที่ลูกของข้าได้ติดตามเจ้านับว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อนางมากที่สุด และอีกอย่างเจ้าเองก็สัญญาว่าจะมอบจักรพรรดิเทพให้กับเผ่าข้าเพิ่มอีกหนึ่ง ดังนั้นข้าถือว่าเจ้าได้ตอบแทนให้กับเผ่าข้าอย่างสมน้ำสมเนื้อแล้ว เอาล่ะนี่คือเมล็ดพันธุ์ต้นฟีนิกซ์ที่เจ้าอยากได้รับมันไปซะ!”

หลิงตู้ฉิงรับเมล็ดพันธุ์มาในทันที จากนั้นเขารอให้หลิงไช่หยุนร่ำลาคนของนางจนเสร็จแล้วก็พานางจากไป

เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงจากไปไกลแล้ว จักรพรรดินีฟีนิกซ์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่อยากจะให้หลิงไช่หยุนจากไป แต่ในเวลาเดียวกันนางก็รู้ดีว่าสิ่งนี้มันดีต่อลูกของนางมากที่สุด

ทางด้านของหลิงตู้ฉิง เมื่อเขาออกจากภูเขาฟีนิกซ์สถานที่ถัดไปที่เขามุ่งหน้าไปก็คืออาณาจักรแสงสวรรค์

ผู้คนของอาณาจักรแสงสวรรค์ต่างแสดงสีหน้าตรึงเครียดทันทีเมื่อพวกเขาเห็นว่าหลิงตู้ฉิงจู่ ๆ ก็มาปรากฏกายขึ้นที่อาณาจักรของพวกเขา พวกเขาไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงมาหาพวกเขาด้วยจุดประสงค์อะไร

หลิงตู้ฉิงจ้องไปที่จักรพรรดิเทพของอาณาจักรแสงสวรรค์ และเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “กับคนอื่นข้าเข้าใจว่าพวกเขาคงไม่รู้ แต่สำหรับเจ้า ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าจะแสดงสีหน้าเหมือนไม่รู้ว่าข้ามาที่นี่เพราะอะไรไปทำไม เจ้ารู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าคนของเจ้าทำอะไรกับข้าเอาไว้?”

“สหายเต๋า ตัวตนของท่านนั้นนับได้ว่าเหนือล้ำและสูงส่ง ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมท่านถึงต้องการใช้วิธีที่มันดูไม่สมกับฐานะของท่านแบบนี้?” จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่สินะ…” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขามองลึกเข้าไปยังอาณาจักรแสงสวรรค์และตะโกนขึ้นว่า “เจ้าจะออกมาเองหรือจะให้ข้าบุกเข้าไปลากตัวเจ้าออกมา?”