ตอนที่ 2353

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,353 : ดั่งอัสนียามแล้ง!

 

“ในเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้าถึงกับมีเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อยู่งั้นเหรอ?”

 

ต้วนหลิงเทียนมองถามเฉินอี้หรูด้วยสีหน้าตกใจ

 

เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์! นั่นคือตัวตนทรงพลังที่ใกล้เคียงกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์มากที่สุด! นับว่าเป็นตัวตนที่ทรงพลังระดับแนวหน้าของเหล่าเซียนอมตะเสเพล!

 

ถึงแม้ว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนจะมั่นใจพลังตัวเองในระดับหนึ่ง แต่เขารู้ตัวดีว่าต่อให้บรรลุขอบเขตสุดท้ายของยอดใจกระบี่อย่าง ‘ใจกระบี่รวมหนึ่ง’ รวมทั้งแตกฉานเวทย์พลังที่มีทั้งหมดให้บรรลุถึงขั้นตอนไร้ตำหนิ…แต่อย่างดีเขาก็คงเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เท่านั้น!

 

สำหรับเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ เขาคิดว่าเขาคงสู้มันไม่ไหว!!

 

กล่าวได้ว่าก่อนที่ตัวเขาจะขึ้นสู่แดนสวรรค์นั้น เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะสามารถเอาชนะตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ได้!

 

“ในยุคสมัยนั้น เผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้า ล้วนมีตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์!”

 

เฉิ้นอี้หรูพยักหน้าด้วยเคารพ “กระทั่งในยุคนี้…ข้าคาดว่าในเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้าก็น่าจะมีเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ดำรงอยู่ด้วย!”

 

ฟืด!

 

ได้ยินประโยคนี้ของเฉินอี้หรู ต้วนหลิงเทียนอดหยุดหายใจไปอีกครั้งไม่ได้

 

ในยุคสมัยนี้ เผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้าก็น่าจะยังมีเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์งั้นเหรอ?

 

ต้องกล่าวเลยว่านี่เป็นข่าวที่ทำให้เขาประหลาดใจนัก!

 

ตอนยังอยู่ในภูมิภาคเบื้องล่าง ต้วนหลิงเทียนก็ได้ฟังมาว่า

 

ตลอดประวัติศาสตร์ของเผ่าปีศาจเอง ก็มีตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย…และส่วนมากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าปีศาจ ก็คือเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์!

 

สาเหตุที่ไฉนเป็นเช่นนี้นั้น เพราะเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ยากบรรลุยิ่ง!

 

สภาพการณ์ของเซียนอมตะเสเพลของเผ่าปีศาจ ก็สมควรไม่ต่างจากสภาพการณ์ของมนุษย์สักเท่าไหร่…

 

ในเมื่อในเผ่าปีศาจยากบรรลุเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ เช่นนั้นมนุษย์ก็ยากจะบรรลุเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เช่นกัน…ทำให้ผู้เข้มแข็งที่ปรากฏให้เห็นมักเป็นเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์!

 

ทว่าเมื่อครู่เฉินอี้หรูพึ่งบอกเขาว่า

 

ในยุคนี้เผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้า สมควรมีเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่ว่านั่นอยู่!

 

แล้วเรื่องนี้จะไม่ให้เขาประหลาดใจได้อย่างไรไหว?

 

‘หากเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้ามีเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ดำรงอยู่…คำสั่งของเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้าก็คงไม่ต่างประกาศิตฟ้ามิอาจขัดขืนสำหรับพวกเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายในภูมิภาคเบื้องบน…’

 

ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ

 

และตอนนี้เองเสียงของเฉินอี้หรูพลันดังขึ้นสืบต่อ “ด้วยความที่เผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้าสมควรมีตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ดำรงอยู่ ทำให้ผู้ฝึกตนพเนจรที่กลายเป็นเซียนอมตะเสเพลอย่างข้า มิกล้าขัดขืนคำสั่ง…”

 

“เพราะสุดท้ายแล้วในประวัติศาสตร์ลับๆของเหล่าเซียนอมตะเสเพล ก็มีเซียนอมคะเสเพลที่ไม่เชื่อฟังคำของเผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้าเป็นกรณีตัวอย่างมากมาย ถูก 2 เผ่าส่งยอดฝีมือเซียนอมตะเสเพลออกมาไล่ฆ่ากวาดล้าง…”

 

สิ่งที่เฉินอี้หรูพูด ก็เป็นสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนกำลังคิดอยู่

 

ด้วยความที่เผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้ามีพลังอำนาจครอบงำถึงขนาดนี้ ย่อมสะกดเหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งแดนดินให้ไม่กล้าเหิมเหริมขัดคำ ทำให้พวกมันไม่กล้าไปซ้ายหากเผ่ามังกรหงส์ฟ้าสั่งให้พวกมันไปขวา…!

 

“ลัทธิบูชาไฟของพวกเรา…เป็นเพียงหุ่นเชิดของเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้า?”

 

แต่ต้นจนจบก่านหรูเยี่ยนที่ถูกต้วนหลิงเทียนใช้พลังหอบหิ้วอยู่ด้านข้าง ย่อมได้ยินบทสนทนาทั้งหมด…

 

ด้วยเหตุนี้สีหน้าของนางจึงเต็มไปด้วยความตกตะลึงอึ้งทึ่งนัก!

 

3 ลัทธิใหญ่อันเป็นขุมพลังอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของภูมิภาคเบื้องบน กลับเป็นเพียงหุ่นเชิดผู้อื่นเขา?

 

ในฐานะที่ก่านหรูเยี่ยนเองก็เป็นคนของลัทธิบูชาไฟ นางย่อมมีปัญหากับการยอมรับความจริงดังกล่าว

 

แต่นางก็รู้ดีแก่ใจ

 

เฉินอี้หรูไม่มีทางกล่าววาจาผายลมไร้สาระอะไรแน่นอน เพราะอีกฝ่ายได้กล่าวคำสานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าจะรับใช้ต้วนหลิงเทียนไปแล้ว เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกล่าวหลอกลวงต้วนหลิงเทียน!

 

“แล้วใน 3 ลัทธิใหญ่…มีเซียนอมตะเสเพลเท่าไหร่?”

 

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวถามเปลี่ยนเรื่อง

 

แน่นอนว่าความตื่นตระหนกตกตะลึงกับเรื่องเผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้ายังไม่หายไปจากใจ

 

“ในลัทธิใหญ่ทั้ง 3 มิมีเซียนอมตะเสเพลอยู่แม้แต่คนเดียว”

 

เฉินอี้หรูส่ายหัวพลางกล่าว

 

“หือ? ไม่มีเซียนอมตะเสเพลอยู่เลย?”

 

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะมองสบตาเฉินอี้หรูเขม็งอีกครั้ง ลูกตายังหดเล็กลงกล่าวถามด้วยทีท่าเหลือเชื่อ “เป็นไปได้ยังไงกัน? เท่าที่ข้ารู้ในบรรดา 3 ลัทธิใหญ่ก็มีบันทึกเรื่องข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ล้มเหลวมากมาย…ทำไมจะไม่มีเซียนอมตะเสเพลแม้แต่คนเดียวได้?”

 

ได้ยินคำของเฉินอี้หรู ก่านหรูเยี่ยนเองก็แปลกใจไม่น้อย นางเองก็ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่ามหาอำนาจอย่างลัทธิใหญ่ทั้ง 3 จะไม่มีเซียนอมตะเสเพลแม้แต่คนเดียว!

 

ไม่ต้องกล่าวถึงความจริงที่ว่า 3 ลัทธิใหญ่ดำรงอยู่มานานเป็นหมื่นปีด้วยซ้ำ ต่อให้พึ่งก่อตั้งได้ไม่กี่พันปี ไฉนจะไม่มีเซียนอมตะเสเพลได้?

 

“3 ลัทธิใหญ่นั้นสืบทอดมรดกต่อๆกันมานับพันนับหมื่นปี แน่นอนว่าย่อมมีเหล่าผู้ที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ไม่สำเร็จจนต้องกลายเป็นเซียนอมตะเสเพล…”

 

เผชิญกับสีหน้าสงสัยและไม่อยากจะเชื่อของต้วนหลิงเทียนกับก่านหรูเยี่ยน เฉินอี้หรูเร่งอธิบายออกมาทันที “อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเซียนอมตะเสเพลเกิดขึ้นใน 3 ลัทธิ พวกมันจะตกเป็นเป้าของเผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้าทันที! ทุกคนที่พึ่งกลายเป็นเซียนอมตะเสเพลจะถูกจับตัวกลับไปยังเผ่า เพื่อบีบคั้นให้กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าจะเป็นข้ารับใช้ของเผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้า…”

 

“ในระหว่างดำเนินการตามนี้ หากเซียนอมตะเสเพลคนใดคิดแข็งข้อต่อต้านไม่ยอมรับ เผ่ามังกรกับเผ่าหงศ์ฟ้าก็จะฆ่าทิ้งทันที!”

 

“เหตุผลที่ไฉนเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้ากระทำเช่นนี้ ด้วยเพราะไม่คิดให้ 3 ลัทธิบังเกิดตัวตนเซียนอมตะเสเพลขึ้นมา เพื่อเป็นปัญหาจนหลุดพ้นการควบคุม”

 

“ด้วยเหตุนี้ทำให้ในบรรดาลัทธิใหญ่ทั้ง 3 ไม่มีเซียนอมตะเสเพลอยู่เลยแม้แต่คนเดียว…กล่าวให้ถูกคือพวกมันไม่มีเซียนอมตะเสเพลเป็นของตัวเอง!”

 

หลังได้ฟังคำของเฉินอี้หรู ต้วนหลิงเทียนก็เข้าใจเรื่องราวได้ทันที

 

“เป็นแบบนี้นี่เอง”

 

ตอนนี้ไม่ใช่แค่ต้วนหลิงเทียนเท่านั้น ก่านหรูเยี่ยนเองก็เช่นกัน ‘ที่แท้เซียนอมตะเสเพลที่สมควรปรากฏขึ้นในประวัติศาสตร์ของลัทธิบูชาไฟ กลับถูกเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้าจับไปเป็นข้ารับใช้…’

 

‘แต่ในเมื่อที่ลัทธิไม่มีเซียนอมตะเสเพล เช่นนั้นการกลับไปล้างแค้นของมันคราวนี้ก็สมควรไร้ปัญหาอันใด…’

 

ขณะเดียวกันก่านหรูเยี่ยนก็ลอบมองไปยังต้วนหลิงเทียนพลางกล่าวในใจ

 

“ในลัทธิบูชาไฟมิมีเซียนอมตะเสเพลอยู่เลยหรือ…”

 

อันที่จริงไม่ใช่แค่ก่านหรูเยี่ยนเท่านั้น ที่กลัวว่าในลัทธิบูชาไฟจะมีภัยคุกคามต้วนหลิงเทียนซ่อนเร้นอยู่ เค่อเอ๋อยิ่งห่วงต้วนหลิงเทียนกว่านางมากนัก

 

พอมาได้ฟังเฉินอี้หรูบอกว่าในลัทธิบูชาไฟไร้เซียนอมตะเสเพล นางก็อดโล่งใจไม่ได้

 

“แน่นอนว่าถึงแม้ใน 3 ลัทธิจักมิมีเซียนอมตะเสเพล…หากแต่บรรดาเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายย่อมรู้กันดีว่าเบื้องหลังทั้ง 3 ลัทธิคือเผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้า จึงไม่มีผู้ใดหาญกล้าสร้างปัญหาให้ลัทธิใหญ่ทั้ง 3”

 

เฉินอี้หรูกล่าวต่อ

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ เขาเองก็กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

 

ขณะเดียวกันอารมณ์ของเขาก็กลายเป็นหนักอึ้งไม่น้อย

 

เพราะฟังจากเฉินอี้หรู นั่นหมายความว่าเบื้องหลังของ 3 ลัทธิใหญ่ กลับมีเงาของเผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้าปกคลุมอยู่…ที่สำคัญเลยก็คือในเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้าสมควรมีเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์!

 

หากเขาคิดทำลายทั้ง 3 ลัทธิทิ้ง เช่นนั้นก็คงมิอาจหลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องกับเผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้า!

 

เรื่องนี้ประหนึ่ง ‘อัสนียามแล้ง’ ที่ฟาดผ่าลงมาโดยไร้ซึ่งการตั้งเค้าใดๆมาก่อน!!

 

“เผ่ามังกร…เผ่าหงส์ฟ้า”

 

ต้วนหลิงเทียนจึงได้ตระหนัก…ว่าเขาคิดตื้นเกินไปยังไร้เดียงสาแค่ไหน! สำหรับความคิดอุกอาจที่จะทำลายล้าง 3 ลัทธิ!!

 

หลังสูดลมหายใจเข้าลึกๆไม่กี่ครั้ง สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดความรู้สึกยากยอมรับ กระทั่งใจยังยากจะปล่อยวาง

 

“พี่เทียน กระทั่งท่านผู้อาวุโสฟงชิงหยางยังมิอาจทำลาย 3 ลัทธิลงได้…ท่านก็มิต้องยึดติดและรู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจเช่นนี้”

 

ด้วยเฝ้ามองและใส่ใจต้วนหลิงเทียนอยู่เสมอ เค่อเอ๋อจึงรู้ได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนกำลังคิดอะไรจากสีหน้าไม่ยินยอมที่ฉายออกชัด

 

เห็นได้ชัดว่านางรู้ใจต้วนหลิงเทียนดี

 

“ก็นะ”

 

ได้ยินคำปลอบโยนของเค่อเอ๋อต้วนหลิงเทียนก็พยักหน้ารับเบาๆ แม้สีหน้าไม่ยินยอมจะสลายหายไป หากแต่ในใจยังรู้สึกยึดติดจากจะปล่อยมือจากเรื่องนี้

 

และเมื่อเค่อเอ๋อกล่าววาจาประโยคนี้ออกมา ก่านหรูเยี่ยนที่อยยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง เร่งหันขวับมาจับจ้องต้วนหลิงเทียน กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ “เจ้า…เจ้าคิดทำลายล้าง 3 ลัทธิ…รวมถึงลัทธิบูชาไฟของพวกเราด้วยงั้นเหรอ?!”

 

“ก็ไอ้พวก 3 ลัทธิมันเข่นฆ่าคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ไปตั้งเท่าไหร่ ข้าในฐานะผู้นำจะปล่อยไปได้ยังไง? เป็นธรรมดาที่ข้าคิดจะทำลายพวกมันให้หมด”

 

ต้วนหลิงเทียนหันไปมองตอบก่านหรูเยี่ยน น้ำเสียงยังสงบราวกับสนทนาเรื่องดินฟ้าอากาศ

 

“เจ้า…เจ้า”

 

ก่านหรูเยี่ยนถึงกับพูดไม่ออกมื่อได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน เพราะหากนางเป็นต้วนหลิงเทียน นางเองก็คงทำแบบนี้เหมือนกัน

 

“นายท่าน…นี่ท่านคิดทำลาย 3 ลัทธิใหญ่งั้นเหรอ?!”

 

ขณะเดียวกันทางด้านเฉินอี้หรูก็ตกใจกับคำพูดของต้วนหลิงเทียนไม่น้อย

 

“อืม”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

 

“นายท่าน หากท่านคิดทำลายล้าง 3 ลัทธิใหญ่ เรื่องนี้ข้าเกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้…”

 

เฉินอี้หรูคลี่ยิ้มเหยเกกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “ในตอนนั้นแม้จะเป็นท่านอาวุโสเซียนกระบี่ที่พลังฝีมือสูงส่งถึงขั้นปลิดปลงศีรษะเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ลงได้ ก็ยังมิอาจทำลาย 3 ลัทธิใหญ่ได้เลย! ขุมพลังของพวกเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้านั้นยิ่งใหญ่สุดที่ผู้คนธรรมดาจะจินตนาการได้ออก!!”

 

“อะไร! ท่านอาวุโสฟงชิงหยางถึงกับฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ได้!?”

 

แทบจะพร้อมกันกับที่เฉินอี้หรูกล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็หันมามองถามด้วยความตื่นตระหนก

 

ใบหน้ายังฉาบไว้ด้วยความตกใจและนึกไม่ถึง “เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์…นั่นมันเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์!”

 

อาวุโสฟงชิงหยางถึงกับฆ่าได้!?

 

“เป็นไปได้ยังไง!?”

 

ก่านหรูเยี่ยนที่ตกใจก็หันไปมองถามเฉินอี้หรูอย่างเหลือเชื่อ “เท่าที่ข้ารู้มาท่านผู้อาวุโสฟงชิงหยางมิใช่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จจนกลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะมิใช่เซียนอมตะเสเพลหรือไร…แล้วครึ่งก้าวเซียนอมตะไฉนตัดหัวเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ได้เล่า!?”

 

“นายหญิง…”

 

เฉินอี้หรูหันไปมองก่านหรูเยี่ยนด้วยสีหน้านอบน้อม โค้งศีรษะให้คราหนึ่งค่อยกล่าวว่า “สำหรับคนทั่วไปในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอาจมิเคยได้ยินเรื่องราวนี้มาก่อน…”

 

“แต่สำหรับบรรดาเซียนอมตะเสเพลอย่างพวกเรา เรื่องนี้มิใช่ความลับแต่อย่างใด!”