ตอนที่ 2148 จุดเริ่มต้นของพิภพ!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ภายในถ้ำเนตรมังกรนี้พวกหลงเสี่ยวฉุนทั้งหลายที่เพิ่งผ่านรอดพ้นความหายนะมาได้ต้องถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

แรงระเบิดที่เกิดขึ้นมานั้นมันสุดแสนรุนแรงจนทำให้หลงเสี่ยวฉุนต้องหักแผ่นหยกไปอีกหลายชิ้นเพื่อที่จะพาคนทั้งหลายออกมาให้พ้นจากระยะของแรงระเบิดนั้น

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายต่างก็มีสภาพราวได้ลงไปคลุกฝุ่นดินมาก็ไม่ปาน เป็นสภาพสุดแสนมอมแมม

“ท-ท่านเสี่ยวฉุน พลังที่ท่านเย่ปล่อยออกมานี้มันจะไม่รุนแรงเกินไปหรือ?” หลงซุนร้องถามขึ้นอย่างกังวล

“น่ากลัว! ต่อให้เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แต่หากไปอยู่ในที่นั้นแล้วพวกเขาก็คงได้ตายอย่างไร้ที่กลบฝังแน่ ท่านเย่คง…ท่านคงไม่…” หลงจ้าวเทียนพูดออกมาอย่างติดขัดด้วยใบหน้าขาวซีด

“หุบปาก!”

หลงเสี่ยวฉุนรีบพูดตัดบทหลงจ้าวเทียนลงพร้อมกล่าวขึ้นอย่างหนักแน่น “เย่หยวนต้องยังไม่ตาย!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างเงียบปากลงทันที เพราะพวกเขาทั้งหลายนั้นไม่อาจจะคิดได้เลยว่าเย่หยวนจะรอดได้อย่างไร

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเย่หยวนก็อยู่ในจุดศูนย์กลางการระเบิดมหาศาลนี้ และแรงระเบิดถึงขนาดนี้เย่หยวนจะไปรอดได้อย่างไร?

“แรงระเบิดมันเริ่มเบาบางลงแล้ว ไปดูให้เห็นกับตาเถอะ!” หลงเสี่ยวฉุนร้องบอกมาด้วยสีหน้ากังวลอย่างที่ไม่เคยแสดงมาก่อน

“นี่คือโลกของข้าอย่างนั้นหรือ?”

ท่ามกลางผืนดินกว้างไกล ในเวลานี้จิตของเย่หยวนได้จ้องมองลงไปยังโลกเบื้องล่างด้วยใจที่สั่นสะท้าน

ในที่สุดจนมาถึงวันนี้ ตัวเขาก็ได้เปิดสร้างโลกของตนขึ้นมาในที่สุด

พิภพใหม่นี้มันกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุด ไร้ซึ่งชีวิตใดๆ และที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังคงแผ่ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ ค่อยๆ กว้างใหญ่ขึ้นอย่างไม่มีหยุด

“โลกของข้านี้มันเกิดขึ้นมาช้ากว่าผู้คนไปถึงสามอาณาจักร แต่เมื่อได้เห็นมันตรงหน้าเช่นนี้ มันก็แตกต่างจากโลกของคนอื่นๆ ไปจริงๆ!” เย่หยวนมองดูที่พิภพเบื้องล่างพร้อมกล่าวขึ้น

เพราะแม้เย่หยวนจะไม่เคยผ่านอาณาจักรราชันพระเจ้ามาก่อนแต่ตัวเขาก็อยู่ในมหาพิภพถงเทียนมานาน ได้เห็นโลกของเหล่ายอดฝีมือมามากมายอย่างนับไม่ถ้วน

เมื่อนักยุทธคนหนึ่งก้าวขึ้นถึงอาณาจักรราชันพระเจ้า พวกเขาทั้งหลายนั้นก็จะเริ่มสร้างจุดแยกจากมหาพิภพถงเทียนและสร้างโลกใบน้อยของตนเองขึ้นมา

หากจะให้พูดตรงๆ แล้วยอดฝีมือในมหาพิภพถงเทียนที่ได้สร้างโลกขึ้นมานั้นมันมีนับไม่ถ้วน เพียงแค่ว่าสุดท้ายแล้วมันก็เป็นแค่โลกที่แยกออกไปจากมหาพิภพถงเทียน เป็นแค่ส่วนขยายของมหาพิภพถงเทียนนี้

เรื่องนั้นมันรวมไปถึงเมืองบูรพาโลกเสมือนนี้ก็เช่นกัน สุดท้ายแล้วมันก็เป็นแค่โลกเสมือนที่ตั้งอยู่บนมหาพิภพถงเทียนเท่านั้น

แต่วิธีการของเย่หยวนนี้มันได้สร้างเส้นทางใหม่ขึ้นมา สร้างเต๋ารูปแบบใหม่ขึ้นมา

โลกใบนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยตัวเขาเพียงผู้เดียว!

ไม่มีรอยแตกแยกจากพิภพอื่น ไม่มีกาลเวลา ไม่มีมิติ

เจ้าพิภพตรงหน้าของเขานี้มันคือโลกใบใหม่อย่างแท้จริง!

ในช่วงต้นของการสร้างพิภพนั้น โลกสวรรค์แผ่นดินยังไม่ได้มีการแบ่งแยกใดๆ

ทุกสิ่งอย่างนั้นมันรกร้างและไร้การพัฒนา เป็นดั่งกระดาษเปล่าๆ แผ่นหนึ่ง

การจะพัฒนาพิภพนี้ต่อไปอย่างไรนั้นมันล้วนแล้วขึ้นอยู่กับตัวเย่หยวน

การควบคุมนี้มหาพิภพถงเทียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ!

เย่หยวนรู้สึกได้ว่าพิภพตรงหน้านี้มันเหมือนเป็นโลกที่แยกจากมหาพิภพถงเทียน เป็นโลกคู่ขนาน ไม่ยุ่งเกี่ยวต่อกันและกัน

และมันก็แตกต่างจากโลกใบน้อยอื่นๆ ที่เป็นแค่ส่วนแยกจากมหาพิภพถงเทียน

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือปราณเทวะโกลาหลที่เย่หยวนมีนั้นมันอยู่ในโลกใบนี้อย่างหนาแน่นมากกว่าปราณเทวะบนมหาพิภพถงเทียนไปนับพันนับหมื่นเท่า

ต่อให้จะเป็นส่วนที่มีพลังปราณเบาบางที่สุดมันก็คงพอเทียบเคียงกับส่วนที่หนาแน่นที่สุดของมหาพิภพถงเทียนได้

โลกใบน้อยอื่นๆ อย่างเช่นดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นมันย่อมจะมีพลังวิญญาณเบาบางกว่าบนมหาพิภพถงเทียนไปมาก

เพราะฉะนั้นการจะบรรลุขึ้นอาณาจักรพระเจ้ามันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับนักยุทธในโลกเบื้องล่างทั้งหลาย ไม่อาจจะขึ้นมาถึงมหาพิภพถงเทียนได้ง่ายๆ

ต่อให้จะเป็นโลกเสมือนยิ่งใหญ่อย่างเมืองบูรพาโลกเสมือนนี้เองมันก็มีพื้นที่น้อยกว่ามหาพิภพถงเทียนไปมาก

เย่หยวนได้แต่มองดูภาพตรงหน้าอย่างคิดหนัก “เหมือนว่า…ข้าจะได้เข้าใจแล้ว! ดูท่าเส้นทางที่ข้าเดินมานี้มันจะเป็นเส้นทางสู่สรวงสวรรค์ที่แท้! พวกเขาทั้งหลายไม่อาจจะผสานปราณ กายและจิตเข้าด้วยกันได้เพราะว่าพื้นฐานของพวกเขาแต่เดิมมันผิด! เส้นทางของพวกเขานั้นพึ่งพามหาพิภพถงเทียนมาแต่แรก มีหรือที่พวกเขาจะหลุดพ้นไปจากมหาพิภพถงเทียนได้? ต่อให้จะเป็นเต๋าบรรพกาลเองก็คงเป็นได้แค่สุดยอดสิ่งมีชีวิตในมหาพิถงเทียนเท่านั้น ไม่อาจจะก้าวข้ามสวรรค์ขึ้นไปได้! แต่การที่ข้าเดินมาในเส้นทางนี้ สุดท้ายมันก็ยังต้องขอบคุณเจ้าเขาน้อยแห่งถงเทียน!”

ตั้งแต่ที่ตัวเขาเริ่มบ่มเพาะบัญญัติเทพแห่งถงเทียนมาจนถึงวันนี้ เย่หยวนได้พบเจอเรื่องราวยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายเขาก็สามารถจะสร้างโลกของตนขึ้นมาได้

ต่อให้โลกใบนี้มันจะยังเล็กน้อยเหลือเกิน มีขนาดไม่เท่าโลกของเหล่าราชันพระเจ้าเสียด้วยซ้ำไป แต่มันกลับรุนแรงแข็งแกร่งกว่าโลกของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์นับหมื่นๆ เท่า

ที่สำคัญไปกว่านั้นโลกใบนี้ของเย่หยวนมันยังมีความเป็นไปได้ไร้สิ้นสุด!

แต่จู่ๆ เย่หยวนก็ต้องเงยหน้าขึ้นเพราะมันมีเงาร่างอีกผู้คนเข้ามายังโลกใบนี้ของเย่หยวน แน่นอนว่าเขาย่อมเป็นหวู่เฉินแล้ว!

เมื่อหวู่เฉินเห็นโลกใบนี้ที่มีขนาดแค่ไม่กี่พันกิโลเมตรตัวเขาก็ต้องเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง

“นี่…นี่คือโลกของเจ้า? จ-จะยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว!” หวู่เฉินได้แต่ร้องขึ้นอย่างตื่นตะลึง

เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “ก่อนที่จะบรรลุอาณาจักรขึ้นมาตัวข้านั้นก็ไม่อาจจะคาดฝันได้เลยว่าโลกของตนมันจะกลายมาเป็นเช่นนี้ไป!”

หวู่เฉินก้มหน้าลงอย่างครุ่นคิด “ผิด! ที่แท้แล้วทั้งโลกหล้ามันผิด! ราชันพระเจ้าให้กำเนิดโลกใบใหม่ เทพสวรรค์ควบคุมโลก จักรพรรดิเทพสวรรค์ปกครอง ที่แท้แล้ว…มันไม่มีสิ่งใดถูกต้องเลย! เย่หยวน เต๋าของเจ้านี้แหละคือเส้นทางที่แท้จริงที่จะนำไปสู่สวรรค์!”

หวู่เฉินมองดูเย่หยวนมาตลอดเวลา เห็นความไม่มั่นใจ ความวิตก ความยากลำบากอย่างไร้สิ้นสุด!

แต่ในวันนี้ ในที่สุดตัวเขาก็กล้าจะเปิดปากพูดออกมาว่าเส้นทางที่เย่หยวนเดินนี้มันคือคำตอบที่ถูกต้อง!

โลกเช่นนี้มันเป็นสิ่งที่หวู่เฉินไม่เคยจะพบเจอมาก่อน

เพียงแค่มองเขาก็สามารถรับรู้ถึงความเหนือล้ำของโลกใบนี้ได้ทันที

“การเดินขึ้นมาจนถึงวันนี้ได้มันย่อมต้องขอบคุณจอมเทพนิรันดร์! หากไม่ได้เขาแล้ว หากไม่ได้เขาน้อยแห่งถงเทียนแล้ว ข้าคงได้แต่จางหายไปกับผู้คนทั้งหลายเช่นกัน” เย่หยวนกล่าว

แต่หวู่เฉินกลับส่ายหัวออกมา “มิใช่! ทุกสิ่งมันล้วนเป็นชะตาลิขิต! เจ้ายังจำคำของนิรันดร์ก่อนที่ตัวเขาจะจางหายไปได้หรือไม่?”

เย่หยวนพยักหน้าออกมา เพราะก่อนที่จอมเทพนิรันดร์จะจางหายไปนั้นตัวเขาได้กล่าวออกมาว่าความหมายในชีวิตของเขาคือการให้สร้างโลกที่ให้กำเนิดเย่หยวนขึ้น!

“นายของเขาน้อยแห่งถงเทียนนั้นมันไม่ได้มีแค่เจ้า! แต่ไม่ว่าจะเป็นนิรันดร์หรือฟางเทียน พวกเขาต่างก็ไม่อาจก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ นิรันดร์นั้นได้เฝ้าทำความเข้าใจศึกษาเขาน้อยแห่งถงเทียนนับล้านๆ ปีแต่กลับไม่อาจเข้าใจมันได้เท่าเจ้านี้! มันมิใช่ว่าตัวเขาไม่สามารถพอ แต่เพียงแค่…เจ้านั้นเก่งจนเกินไป! เจ้านั้นคือคนที่เต๋าสวรรค์เลือกอย่างแท้จริง!” หวู่เฉินร้องบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เย่หยวนนั้นได้แต่ถอนหายใจยาว “หัวใจที่มุ่งสู่เต๋าของข้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่สุดท้ายแล้วเวลานี้สิ่งที่ข้าต้องการที่สุดก็คือการรักษาหลินเสวีย!”

หวู่เฉินกล่าว “เด็กโง่ เจ้านั้นทำได้ดีมากแล้ว! สองพันปีแห่งการศึกษาเต๋ากลับสามารถสร้างโลกใบใหม่เช่นนี้ขึ้นมาได้ ใครยังจะทำได้อีกเล่า? แต่อาณาจักรใหม่ของเจ้านี้มันย่อมมิใช่เทพสวรรค์แน่ๆ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะเรียกมันว่าอย่างไร?”

เส้นทางของเย่หยวนนี้มันเป็นเส้นทางใหม่ของโลกหล้า แน่นอนว่าอาณาจักรใดๆ มันก็ย่อมไม่เหมือนผู้คนทั้งหลาย

เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะตอบขึ้น “ในเมื่อเวลานี้พิภพมันกำลังเริ่มกำเนิดขึ้น เช่นนั้นก็เรียกมันว่าอาณาจักรพิภพโกลาหล!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังบ้าคลั่งในอากาศหวู่เฉินก็หัวเราะขึ้นมาทันที “อาณาจักรพิภพโกลาหล สมชื่อ! แต่หลังจากวันนี้ไปพลังวิญญาณที่เจ้าจะใช้ในการบ่มเพาะมันคงเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว!”

เย่หยวนเองก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “เรื่องนั้นมันย่อมไม่อาจเลี่ยง หากไม่ติดว่าข้าปล่อยให้พวกลู่เอ๋อรออยู่ภายนอกพร้อมสัญญาสิบปีนี้ ข้าคงไม่อาจทำใจจากที่แห่งนี้ไปได้จริงๆ!”

เพราะตั้งแต่ที่ตัวเขาเข้ามาในถ้ำเนตรมังกรนี้มันก็เกือบจะครบเวลาสิบปีแล้ว

เย่หยวนนั้นกลัวว่าพวกลู่เอ๋อจะเป็นห่วงตัวเขาจนทำเรื่องอะไรไม่เข้าท่าขึ้น จึงได้เลือกที่จะทำการบรรลุเสียแต่ตอนนี้ก่อนออกไป

เขานั้นรู้ดีว่าเวลาสิบปีมานี้ลู่เอ๋อคงลำบากมาก

แต่ตัวเขานั้นกลับได้พัฒนาอาณาจักรบ่มเพาะของตนขึ้นอย่างก้าวกระโดดในเวลาสิบปีนี้ ก้าวขึ้นมาจากอาณาจักรเม็ดต้นกำเนิดเจ็ดดาวจนบรรลุอาณาจักรใหม่ได้!

กับของขวัญชิ้นนี้ที่หลงจื่อให้มา ตัวเย่หยวนแทบไม่อยากจะปล่อยมันไป!

ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังอีกสายก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “หืม? ทุกขจุติเองก็กำลังจะผ่านพ้นแล้ว กายเนื้อของข้ากำลังจะบรรลุขึ้นระดับเจ็ดแล้วเช่นกัน!”

……………..