บทที่ 1016 เปิดฉากโจมต

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

จักรพรรดิเทพแทบจะทุกคนต่างอยากจะจัดการหลิงตู้ฉิงให้ได้ เนื่องจากหลิงตู้ฉิงเคยฆ่าจักรพรรดิเทพมาแล้วถึงสิบกว่าคน หากพวกเขาสามารถฆ่าคนเช่นนี้ได้พวกเขาจะได้รับชื่อเสียงและอาจจะทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับจากสวรรค์จนสามารถก้าวไปสู่ระดับต่อไปได้สำเร็จ

แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นที่คิดเช่นนี้ก็คือจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์

เพื่อจัดการกับหลิงตู้ฉิง เขาวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ส่งคนของเขาลงไปที่โลกเบื้องล่าง เขาย้ำให้นางหาวิธีการใดก็ได้เพื่อสร้างบ่วงกรรมให้เกิดขึ้นระหว่างนางกับหลิงตู้ฉิง เพื่อที่ตอนหลิงตู้ฉิงขึ้นมาบนโลกเบื้องบน เขาจะได้มีเหตุผลในการจัดการกับหลิงตู้ฉิงได้อย่างไม่น่าเกลียด

แต่แล้วเมื่อหลิงตู้ฉิงปรากฏตัวขึ้นที่โลกเบื้องบน จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์กลับรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก เพราะเขาสัมผัสได้ว่าบ่วงกรรมที่คนของเขาผูกมัดเอาไว้กับหลิงตู้ฉิงนั้นไม่มีน้ำหนักพอให้เขาไปลงมือ เขาจึงจำเป็นต้องรอลุ้นให้หลิงตู้ฉิงมาหาแค่เพียงอย่างเดียว

ดังนั้นเมื่อหลิงตู้ฉิงมาถึง ในใจของเขาจึงมีแต่ความรู้สึกตื่นเต้นและเบิกบาน

แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไร้หนทางอีกครั้งก็คือ เมื่อหลิงตู้ฉิงปรากฏขึ้นที่ข้างกายกลับมีจักรพรรดิเทพอีก 3 คนติดตามมาด้วย

ด้วยกำลังรบขนาดนี้ เขาจะกล้าเปิดศึกได้ยังไง? หากเขาโดนรุม 4 ต่อ 1 แบบนี้เขาตายแน่นอน

แต่แล้วจู่ ๆ หลิงตู้ฉิงกลับเสนอที่จะสู้กับเขาตัวต่อตัว ความหวังของเขาก็กลับมาทันที ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่รีรอเลยที่จะตอบตกลง

“ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก!” จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ตะโกนขึ้น

เมื่อพูดจบ จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์สำแดงเต๋าแห่งแสงของตนเองทันที เขาเรียกดวงแสงดวงยักษ์ออกมาอยู่บนท้องฟ้าและบังคับให้ดวงแสงเปล่งประกายแสงสีขาวสว่างจ้าปกคลุมไปถึงครึ่งหนึ่งของพื้นที่โลกเบื้องบน

เมื่อเผชิญกับอำนาจแสงของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ บรรดาผู้คนที่ตกอยู่ในบริเวณที่แสงส่องถึงต่างก็เริ่มปกป้องตัวเอง จักรพรรดิเทพกองกำลังอื่น ๆ ต่างโคจรพลังสร้างม่านป้องกันปกป้องคนของตัวเองให้หลุดพ้นจากอำนาจของแสง

“เจ้านี่มันน่ารังเกียจจริง ๆ!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น “ข้าล่ะเกลียดคนแบบเจ้าที่สุดที่ใช้พลังของตัวเองแบบไม่สนว่าโลกจะได้รับผลกระทบแค่ไหน”

“อย่าพูดอะไรไร้สาระนอกเรื่อง ตอนนี้เจ้าควรจะตั้งใจสู้กับข้ามากกว่า!” จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ตวาดกลับ

เมื่อพูดจบ จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ลงมือต่อทันที แต่รอบนี้เขาร้องเพลงแทน ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ก็คือเขากำลังขับร้องบทเพลงแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาสูงสุดของตัวเอง!

บทเพลงที่เขาขับร้องนั้นเจาะเข้าไปในโสตประสาทของสิ่งมีชีวิตทุกตัวตนที่อยู่ในระยะที่แสงของเขาส่องไปถึง

เมื่อได้ยินบทเพลงนี้ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่ไม่ได้รับการคุ้มครองจากบรรดาจักรพรรดิเทพของเผ่าตัวเองต่างควบคุมตัวเองไม่ได้ คุกเข่าลงให้กับจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์พร้อมกับแสดงความจงรักภักดี

เมื่อเห็นเช่นนี้ บรรดาจักรเทพทั้งหลายของฝ่ายอื่น ๆ ที่ดูเหตุการณ์อยู่ต่างขมวดคิ้วแน่น เพราะมีสิ่งมีชีวิตมากมายได้รับผลกระทบจากบทเพลงของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายต่างถูกครอบงำจนจงรักภักดีต่ออาณาจักรแสงสวรรค์ เช่นนี้แล้วในอนาคตเมื่อจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ลากสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เข้าร่วมกับตัวเอง มันจะกลายเป็นว่าโลกไม่ยิ่งยุ่งเหยิงมากกว่าเดิมงั้นเหรอ?

ต้วนฉิง เสี่ยเฟิงและจิ๋นหลง เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่สู้ดี พวกเขาจึงรีบโคจรพลังของตัวเองสร้างม่านป้องกันให้กับบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้รับการคุ้มครองจากจักรพรรดิเทพของเผ่าอื่น ๆ ทันที เพื่อให้พ้นจากอำนาจบทเพลงของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์

“ไอ้สารเลวผู้นี้คงวางแผนที่จะทำแบบนี้มานานแล้ว!” ต้วนฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล “มันคิดจะใช้ประโยชน์จากการต่อสู้ครั้งนี้กับท่านอาจารย์ครอบงำสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ให้ยอมศิโรราบต่อมันด้วย!”

ในเวลาเดียวกัน หลิงตู้ฉิงพูดกับจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ “ข้าก็คิดอยู่ว่าเจ้ายังมีแผนอะไรอีก ที่แท้เจ้าก็คิดจะใช้การต่อสู้กับข้าในการหาผลประโยชน์เข้าตัวเองแบบนี้ด้วยนี่เอง”

จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์วางแผนนี้เอาไว้นานแล้ว เขาต้องการใช้ผลกระทบทางอ้อมในการต่อสู้นี้กับหลิงตู้ฉิงเพื่อเปลี่ยนให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายเข้าร่วมกับอาณาจักรแสงสวรรค์ของเขา เพื่อที่จะเสริมสร้างให้ฝ่ายของเขาแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งการทำเช่นนี้ถึงแม้ว่ามันจะดูน่าเกลียด แต่ด้วยข้ออ้างที่เขาใช้มันเพื่อสู้กับหลิงตู้ฉิง คนอื่น ๆ จึงไม่สามารถครหาเขาได้เต็มปาก

แผนการที่เขาวางเอาไว้ทั้งหมดที่สู้กับหลิงตู้ฉิงก็เพื่อทำให้ตนเองโด่งดัง และทำให้อาณาจักรแสงสวรรค์ของตนเองแข็งแกร่งขึ้น

หรือไม่ต่อให้วันนี้เขาจะฆ่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้ แต่เขาก็ยังได้ประโยชน์จากการต่อสู้นี้อยู่ดี

แน่นอนว่าถ้าเขาฆ่าหลิงตู้ฉิงได้ ผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับมันก็จะยิ่งมากขึ้น

“แต่เจ้าคิดบ้างรึเปล่าว่าถ้าหากเจ้าตาย ทุกอย่างที่เจ้าทำมามันก็ไม่มีค่าอะไร?” หลิงตู้ฉิงเอ่ยถามขึ้น

จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์อึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นเขาหัวเราะและเอ่ยขึ้นว่า “ข้ายอมรับว่าในอดีตเจ้าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้เจ้าไม่ใช่! ด้วยขอบเขตเทวะราชาของเจ้าในตอนนี้เจ้าคิดว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้งั้นเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม จากนั้นเขาเรียกง้าวเทวะพินาศขึ้นมาอยู่ในมือ

เมื่อเห็นง้าวเทวะพินาศปรากฏขึ้น จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ขมวดคิ้วแน่นทันที

จักรพรรดิเทพมากมายได้ตายลงเพราะง้าวเล่มนี้ ด้วยชื่อเสียงของมันต่อให้หลิงตู้ฉิงตอนนี้จะไม่แข็งแกร่งเท่าเดิม แต่เมื่อมันปรากฏขึ้นก็ทำให้จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า

จากนั้นร่างของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์หายไปในทันที เขาหลอมรวมตัวเขาเองเข้ากับเต๋าแห่งแสงที่ปกคลุมอยู่ครึ่งโลกเบื้องบน

จากนั้นจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ก็เปลี่ยนบทเพลงที่เขาขับร้องใหม่เป็น บทเพลงแห่งการพิพากษา

เมื่อบทเพลงแห่งการพิพากษาถูกขับร้องขึ้น จู่ ๆ แสงที่ปกคลุมรอบกายหลิงตู้ฉิงกลับร้อนแรงขึ้นไม่ต่างอะไรกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมันสามารถเผาทุกสิ่งทุกอย่างให้วอดวายได้ภายในพริบตา

“เจ้าไม่รู้งั้นเหรอว่าข้าเองก็เข้าใจในเต๋าแห่งแสงเช่นกัน!” จู่ ๆ ร่างของหลิงตู้ฉิงก็เปล่งแสงสีขาวเจิดจ้าขึ้นมาไม่ต่างอะไรกับแสงที่จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ปลดปล่อยออกมา “แสงของข้าบริสุทธิ์ไม่ต่างอะไรกับของเจ้า เจ้าคิดว่าแสงของเจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นเหรอ?”

จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “ข้ายอมรับว่าเจ้าไม่ธรรมดาเลยที่สามารถเข้าใจเต๋าแห่งแสงได้ถึงระดับนี้ ไม่น่าแปลกใจที่เจ้ากล้าสู้กับข้าตรง ๆ เจ้าคงเตรียมการมานานแล้วสินะ? แต่ต่อให้บทเพลงแห่งการพิพากษาจะทำอะไรเจ้าไม่ได้ แต่ข้าก็ยังมีบทเพลงอื่นที่สามารถจัดการกับเจ้าได้!”

จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์เข้าใจว่าการที่หลิงตู้ฉิงบ่มเพาะเต๋าแห่งแสงได้ขนาดนี้ เพราะว่าหลิงตู้ฉิงต้องเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้วแน่นอน และสาเหตุที่หลิงตู้ฉิงเตรียมพร้อมมาได้ขนาดนี้น่าจะเป็นเพราะว่าหลิงตู้ฉิงรู้ว่าเขามีแผนกำลังจะทำอะไรมาตั้งแต่โลกเบื้องล่าง

เขาเริ่มจะรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองที่ส่งคนของเขาลงไปยังโลกเบื้องล่างเพื่อให้ไปเจอกับหลิงตู้ฉิง เพราะถ้าเขาไม่ส่งคนลงไป หลิงตู้ฉิงก็คงเดาแผนการของเขาไม่ได้จริงไหม?

“เจ้าคิดว่าข้าจำเป็นต้องเตรียมตัวเพื่อจัดการกับเจ้าด้วยงั้นเหรอ? เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว!” เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงโบกง้าวเทะพินาศในมือและตะโกนขึ้นว่า “ถึงแม้ว่าเจ้าจะใช้เต๋าแห่งแสงในการขับเคลื่อนพลังของเจ้าเอง แต่จริง ๆ แล้วพลังที่เจ้าส่งออกมามันคือพลังที่ไปบังคับความรู้สึกให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายรู้สึกหวาดกลัวต่อเจ้าจนต้องยอมศิโรราบให้ต่อเจ้า ซึ่งการกระทำเช่นนี้ของเจ้ามันไม่ยากเลยสำหรับข้าตอนนี้ที่จะแก้ไขมันได้! ในนามของข้า ข้าขอโมฆะความกลัวที่สถิตอยู่ในใจสิ่งมีชีวิตที่ถูกครอบงำทั้งหมด!”

ในตอนนี้พลังของหลิงตู้ฉิงเหนือกว่าแต่ก่อนหลายหมื่นเท่า ดังนั้นทักษะเขตแดนประกาศิตจึงไม่ได้จำกัดในรูปแบบพื้นที่อีกต่อไป มันมีผลตามเงื่อนไขใด ๆ ก็ตามแต่ที่หลิงตู้ฉิงบังคับขึ้น และโชคดีที่บรรดาเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ถูกครอบงำด้วยความกลัวนั้นเป็นพวกที่อยู่ในระดับไม่สูงเท่าไหร่ หลิงตู้ฉิงจึงยังสามารถแก้ไขได้ แต่ถ้าเป็นพวกจักรพรรดิเทพที่โดนครอบงำ เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ไม่มีอำนาจพอที่จะครอบงำพวกตัวตนระดับจักรพรรดิเทพอยู่แล้ว ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงไม่ได้ห่วงอะไรกับพวกจักรพรรดิเทพที่เฝ้ามองอยู่สักเท่าไหร่

ในทันทีที่หลิงตู้ฉิงใช้เขตแดนประกาศิตลบล้างความกลัวออกไปจากบรรดาสิ่งมีชีวิต สีหน้าของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที

ก่อนหน้านี้เขามั่นใจเป็นอย่างมากในการรับมือกับหลิงตู้ฉิง

ต่อให้หลิงตู้ฉิงจะเข้าใจเต๋าแห่งแสงพอ ๆ กับเขา แต่ระดับการบ่มเพาะของเขาเหนือกว่า ทักษะทัณฑ์ฟ้าดินของหลิงตู้ฉิงนั้นเขาแก้ได้ด้วยการซ่อนตัวอยู่ในเต๋าแห่งแสง ส่วนเขตแดนประกาศิตนั้นด้วยระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงในขณะนี้ไม่มีทางที่จะโมฆะเต๋าแห่งแสงที่ได้รับการเกื้อหนุนจากอาวุธเต๋าของเขาเองได้แน่นอน

แต่แล้วในตอนนี้หลิงตู้ฉิงกลับไม่โมฆะเต๋าแห่งแสง แต่กลับโมฆะความกลัวได้ หากเป็นแบบนี้ต่อไปแผนของเขาทั้งหมดคงพังทลายลงจนหมด!