หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “แผนของเจ้าไม่มีวันสำเร็จ จะไม่มีสิ่งมีชีวิตทั้งหลายหน้าไหนที่เข้ามายุ่มย่ามแน่นอน”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงใช้ทักษะหกปรารถนาก่อเกิดเจ็ดอารมณ์วิบัติทันที!
หลิงตู้ฉิงครอบงำเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่กำลังพุ่งเข้ามาหาพวกเขาให้ตกอยู่ในภวังค์และสั่งให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดถอยออกไป จากนั้นหลิงตู้ฉิงยกเลิกการหลอมรวมกับเต๋าแห่งแสงและปรากฏกายขึ้น
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ดวงแสงยักษ์ดวงสายตาอาฆาต จากนั้นเขาโบกง้าวเทวะพินาศในมือพร้อมกับตะโกนว่า “ในนามของข้า ข้าขอโมฆะเต๋าแห่งแสงในบริเวณนี้ทั้งหมด!”
ทันทีที่อำนาจของเขตแดนประกาศิตสำแดงขึ้น เต๋าแห่งแสงก็ค่อย ๆ มอดลงทีละน้อย ๆ อย่างช้า ๆ
“ลืมไปแล้วรึไงว่าระดับการบ่มเพาะตอนนี้ของเจ้าอยู่แค่ขอบเขตเทวะราชา เจ้าไม่มีอำนาจพอที่จะโมฆะเต๋าแห่งแสงของข้าได้แน่นอน!” จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
มันเป็นจริงอย่างที่จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์บอกเอาไว้ หลังจากแสงที่แผ่ขยายกินพื้นที่ไปก่อนหน้านี้ถูกดับลงได้ 3 ใน 10 ส่วน แต่แล้วการดับมันก็หยุดลง
ในทางกลับกัน หลิงตู้ฉิงกลับแสดงสีหน้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาหัวเราะและพูดว่า “ข้าไม่ได้หวังว่าจะดับแสงของเจ้าทั้งหมดสักหน่อย ข้าแค่ทำให้มันอ่อนลงบ้างเล็กน้อยเพื่อเปิดโอกาสให้ข้าได้ใช้ทักษะที่สามที่ข้าคิดค้นขึ้นในชีวิตนี้ได้อย่างสะดวกก็เท่านั้น!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงโบกมือของเขาใช้พลังของตัวเองบังคับให้เต๋าทั้งสามพันรูปแบบปรากฏขึ้น จากนั้นเขาสั่งให้เต๋าสามพันแบบเชื่อมกันเป็นบ่วงโซ่ล้อมรอบแสงที่จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ปลดปล่อยออกมาและสั่งให้บ่วงโซ่กระชับแน่นขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อบีบให้พลังแสงหดตัวลงกลับไปยังจุดศูนย์กลางให้ได้มากที่สุด
ในตอนนี้บรรดาผู้คนที่ยังคงสังเกตการณ์อยู่เห็นการกระทำของหลิงตู้ฉิงได้อย่างชัดเจนว่าเขาสามารถควบคุมเต๋าทั้งสามพันแบบได้อย่างใจนึก
อันที่จริงพวกเขารู้อยู่แล้วว่าหลิงตู้ฉิงสามารถใช้ง้าวเทวะพินาศควบคุมเต๋าทั้งสามพันแบบได้ ไม่อย่างนั้นหลิงตู้ฉิงคงไม่สามารถสร้างทักษะอย่างเช่นเขตแดนประกาศิตที่สามารถโมฆะได้ทุกเต๋าแบบนั้น
แต่ในตอนนี้สิ่งทำให้พวกเขาตกตะลึงก็คือ หลิงตู้ฉิงไม่ได้ใช้ง้าวเทวะพินาศในการควบคุมเต๋าทั้งสามพันแบบ แต่เขาควบคุมมันด้วยตัวเองโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากปัจจัยภายนอกใด ๆ เลย
เมื่อเห็นเช่นนี้ พวกเขาต่างก็นึกสงสัยว่าคนที่มีความสามารถขนาดนี้ทำไมถึงพิสูจน์เต๋าไม่สำเร็จ?
แต่ถึงแม้ว่าทุกคนจะทึ่งในความสามารถการควบคุมเต๋าของหลิงตู้ฉิงขนาดไหน ทุกคนก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงกับจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์นั้นต่างกันเกินไป ต่อให้หลิงตู้ฉิงจะควบคุมเต๋าทั้งสามพันแบบได้ดีขนาดไหน แต่ด้วยพลังที่ต่างกันมากขนาดนี้ มันก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะลบล้างอำนาจเต๋าแห่งแสงของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ได้สำเร็จแน่นอน
“เจ้าตำหนักไร้หทัย นี่น่ะเหรอทักษะใหม่ของเจ้า? เจ้าทำได้แค่นี้งั้นเหรอ?” จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์หัวเราะเยาะเย้ย
เมื่อเห็นสีหน้าของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ที่ยังคงหัวเราะได้ หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จงใช้เวลาที่เหลือนี้หัวเราะต่อไป เพราะอีกไม่นานเจ้าจะหายไปตลอดกาล!”
จากนั้นเต๋าทั้งสามพันแบบที่คล้องกันเป็นบ่วงโซ่ก็พยายามรัดแน่นขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันก็ดูเหมือนว่าไม่ได้ผลอะไรเท่าไหร่
จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์เห็นภาพเช่นนี้ก็หัวเราะ “ยังจะพยายามอีกงั้นเหรอ? นี่เจ้าคิดจะทำแบบนี้ไปอีกนานสักเท่าไหร่? เจ้าตาบอดหรือว่าเจ้าโง่มากจนไม่เห็นว่ามันไม่ได้ผลกับข้า!”
แต่แล้วในทันทีที่เขาพูดจบ จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันเริ่มไม่เข้าท่า
เต๋าทั้งสามพันแบบที่ล้อมอยู่ในตอนนี้มันเริ่มที่เปลี่ยนไป
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?” จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์อุทานขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
หลิงตู้ฉิงยิ้มและเอ่ยขึ้นว่า “นี่แหละคือทักษะที่สามของข้า บัญญัติดับสูญ!”
ทักษะนี้ของหลิงตู้ฉิงเกิดขึ้นจากแนวความคิดอันเรียบง่ายของเขาเอง ในตอนแรกที่เขาสร้างเต๋าต่าง ๆ ขึ้นมา เขาสร้างมันขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นที่มีแต่ความว่างเปล่า ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงทวนกระบวนมันกลับสร้างปฏิกิริยาสลายตัวของเต๋าทั้งสามพันแบบให้เป็นลูกโซ่เกี่ยวพันไปถึงเต๋าแห่งแสงของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ เพื่อสลายทุกสิ่งทุกอย่างหมดให้เหลือเอาไว้แค่ความว่างเปล่า
ในเวลานี้จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์พอจะรู้ได้คร่าว ๆ แล้วว่าหลิงตู้ฉิงต้องการทำอะไร เขาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยันว่า “ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเข้าใจเต๋าทั้งสามพันแบบได้ถึงระดับนี้ แต่ข้าบอกเอาไว้เลยว่าแค่นี้มันไม่เพียงพอที่จะฆ่าข้าแน่นอน”
เมื่อพูดจบ เขาเรียกอาวุธเต๋าของตนเองออกมาทันที ซึ่งมันก็คือคทาแห่งแสง จากนั้นเขาส่งมันเข้าไปในดวงแสงขนาดยักษ์ที่เขาสร้างขึ้นเพื่อเกื้อหนุนให้อำนาจแห่งแสงแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
ในตอนนี้เขาจำเป็นต้องทุ่มสุดตัวเพราะสัมผัสได้ว่าอันตรายที่เขากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้มันอันตรายถึงชีวิต
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เต๋าทั้งสามพันรูปแบบที่เป็นโซ่คล้องกันของหลิงตู้ฉิงมันสลายกลายเป็นหมอกสีเทาที่กลืนกินได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะพลังแห่งแสงของเขาที่ถูกกลืนกินไปเรื่อย ๆ ด้วยความเร็วที่น่าตื่นตะลึง และสิ่งที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นหลังจากพลังแสงของเขาถูกกลืนกินไป มันกลับไม่เหลือร่องรอยของมวลพลังอะไรไว้เลยมันเหมือนกับว่าหายไปเฉย ๆ ซะอย่างนั้น
สีหน้าของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ตื่นตระหนกขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถหยุดหยั้งการกลืนกินนี้ได้เลย ไม่ว่าเขาจะเสริมพลังมากไปเท่าไหร่มันก็ดูเหมือนว่าไม่มีทางจะเพียงพอ
ท้ายที่สุดเขาจึงจำเป็นต้องยอมรับว่าถ้าหากเขายังคงสู้ต่อไปเขาจะต้องตายแน่นอน เขาไม่มีทางต่อต้านกับอำนาจการกลืนกินที่แปลกประหลาดนี้ได้เลย
“เอาล่ะพอได้แล้ว ข้ายอมแพ้ให้เจ้า! เจ้าอยากได้อะไรเจ้าจงบอกมา ข้าจะมอบให้เจ้าเป็นการขอขมา!” จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์รีบตะโกนขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลิงตู้ฉิงกลับไม่ตอบอะไรเขาเลยและหมอกสีเทานั่นก็ยังคืบคลานเข้ามาใกล้ ๆ เรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งมันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลิงตู้ฉิงมุ่งมั่นมากที่จะฆ่าเขาให้ตาย
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงไม่ยอมรับการจำนนใด ๆ ทั้งสิ้น จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์จึงเตรียมที่จะระเบิดร่างตัวเอง เนื่องจากเขาคิดแผนที่ดีกว่านี้ไม่ออกแล้ว เขาคิดได้แค่แผนอาศัยผลจากแรงระเบิดเปิดช่องว่างของหมอกออก จากนั้นเขาที่เหลือแต่ดวงวิญญาณจะฉวยโอกาสนั้นหลบหนีไปในทันที ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นอย่างมากที่สุดเขาก็แค่ต้องเริ่มบ่มเพาะใหม่
เมื่อสัมผัสได้ว่าจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์กำลังจะทำอะไร หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ารังเกียจ “ไอ้โง่เอ๊ย!”
หากจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ไม่ระเบิดตัวเอง เขาคงจะสามารถทนอยู่ได้อีกพักใหญ่ แต่ถ้าหากจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ระเบิดตัวเองเมื่อไหร่มันจะไม่มีสิ่งใดคอยค้ำจุนเต๋าแห่งแสงในทันที และเมื่อถึงเวลานั้นหมอกสีเทาจะย่อยสลายเต๋าแห่งแสงได้ง่ายกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า
ดังนั้นการระเบิดตัวเองเช่นนี้มันไม่ต่างอะไรกับเร่งความเร็วให้ตัวเองตายไวยิ่งขึ้น