บทที่ 1019 ความเงียบสงบของโลกเบื้องบน

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

ในสายตาของผู้คนที่เฝ้าสังเกตสถานการณ์อยู่นั้น ภาพที่พวกเขาเห็นทั้งหมดก็คือหลิงตู้ฉิงสร้างบ่วงโซ่ขนาดยักษ์จากเต๋าสามพันรูปแบบล้อมกั้นแสงของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์

จากนั้นบ่วงโซ่ก็เริ่มบีบวงให้แคบลง แต่เมื่อผ่านไปสักพักการบีบวงให้แคบลงก็หยุดลงและเมื่อบ่วงโซ่ไม่สามารถบีบวงให้แคบไปได้มากกว่าเดิมอีก จู่ ๆ โซ่ที่สร้างขึ้นจากเต๋าสามพันรูปแบบก็สลายตัว

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมากก็คือ การสลายตัวของโซ่นั้นมันกลับสร้างหมอกสีเทาปริศนาขึ้นมา และหมอกสีเทานั้นกลับกลืนกินแสงที่ส่องออกมาจากเต๋าแห่งแสงของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ได้ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างหมดจดไม่เหลือมวลพลังใด ๆ ทิ้งไว้เลยราวกับว่าแสงเหล่านั้นไม่มีอำนาจใด ๆ แฝงอยู่หรือแสงเหล่านั้นไม่เคยมีตัวตนมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

แสงเหล่านั้นที่จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ปลดปล่อยออกมามันถูกกลืนกินแล้วหายไปไหน? หลิงตู้ฉิงดูดซับไปงั้นเหรอ? ไม่น่าใช่! ทำไมมันถึงให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าจู่ ๆ มันก็ถูกลบหายออกไปราวกับว่าไม่เคยมีมันอยู่มาตั้งแต่แรก?

ในตอนนี้ผู้คนที่ดูสถานการณ์อยู่ต่างมั่นใจว่าจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์วันนี้ต้องตายแน่นอน

ส่วนทางด้านของหลิงตู้ฉิง ในขณะนี้ก็บินกลับมารวมกลุ่มกับคนของเขาและนั่งลงเพื่อดูดพลังวิญญาณจากพื้นที่บริเวณโดยรอบมาเติมเต็มในส่วนที่หายไปจากการต่อสู้ ซึ่งต้วนฉิง และคนอื่น ๆ ต่างก็ยืนคุ้มกันเขาเป็นอย่างดี

การต่อสู้ครั้งนี้หลิงตู้ฉิงใช้พลังวิญญาณในร่างไปมากถึง 7 ส่วน

ทางด้านของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ เมื่อผ่านไปได้ราวครึ่งชั่วยาม หมอกสีเทาก็ได้กลืนกินทั้งเต๋าแห่งแสงและอาวุธเต๋าไปจนหมดสิ้น เหลือแต่ดวงวิญญาณของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ที่ยังคงดิ้นรนไม่ยอมถูกกลืนกิน

“เจ้าโหดเหี้ยมเกินไปหน่อยรึเปล่า! เจ้าไม่ให้โอกาสข้าไปเกิดใหม่ด้วยซ้ำ!” ดวงวิญญาณของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์กู่ร้องขึ้นด้วยความเดือดดาล

หลิงตู้ฉิงถอนหายใจและพูดว่า “ข้ามีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ เจ้าสามารถวางแผนจัดฉากข้าได้ เจ้าสามารถสู้กับข้าได้ ซึ่งถ้ามันเป็นแค่นั้นข้าคงให้โอกาสเจ้าได้ไปเกิดใหม่ แต่วันนี้สิ่งที่เจ้าทำมันเกินให้อภัยได้ เจ้าบังอาจใช้วิธีการที่ชั่วช้าเช่นบทเพลงแห่งความรัก ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องลบเจ้าให้หายไปตลอดกาล!”

จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ตวาดกลับด้วยน้ำเสียงไม่ยินยอม “นี่มันคือการต่อสู้เป็นตาย ข้าต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะเจ้าข้าผิดตรงไหน! แล้วอีกอย่างตัวเจ้าเองในอดีตสร้างความวอดวายไปทั่วทุกแห่งหนมากกว่าข้าหลายสิบเท่า เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาตัดสินข้า!?”

“ในเมื่อเจ้ายังคงดื้นรั้น งั้นข้าจะให้เจ้าดูอะไรบางอย่าง!” หลิงตู้ฉิงจ้องไปที่จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ จากนั้นร่างของเขาก็หายไปจากสายตาผู้คนและไปโผล่อีกทีที่ตรงหน้าดวงวิญญาณของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์

หลิงตู้ฉิงจิ้มนิ้วไปที่ดวงวิญญาณของจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ จากนั้นร่างของเขาก็แตกออกกลายเป็นภาพต่าง ๆ ซึ่งมีแค่จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ผู้เดียวเท่านั้นที่เห็นว่าภาพที่หลิงตู้ฉิงแสดงให้ดูมันคือภาพอะไร

หลังจากผ่านไปพักใหญ่ เมื่อแสดงภาพเรื่องราวทั้งหมดให้กับจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์ได้เห็นแล้ว ร่างของหลิงตู้ฉิงก็กลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง

จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์เงียบไปอีกพักหนึ่ง จากนั้นเขาเอ่ยขึ้นว่า “ที่แท้เจ้าก็บรรลุไปถึงระดับนั้นแล้วนี่เอง ถ้างั้นผลลัพธ์ที่ออกมาตอนนี้มันก็ถือว่าสมควรแล้ว…”

“ระดับ 15 ข้าตั้งชื่อให้มันว่า ขอบเขตผู้สรรสร้าง!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยกับจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์เสียงเบา

“ช่างเหนือล้ำจริง ๆ เหนือล้ำจนข้าแทบไม่เข้าใจมันเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!” จักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์หัวเราะ จากนั้นเขายกเลิกการดิ้นรนทั้งหมดปล่อยให้ดวงวิญญาณของเขาถูกหมอกสีเทากลืนกินไปจนหมดไม่หลงเหลือสิ่งใดเอาไว้เลย แม้แต่อำนาจแห่งความรักที่เขาเคยสร้างขึ้นก็ถูกทำให้หายไปเช่นกัน

บึม!!!

หลังจากนั้นจู่ ๆ เสียงระเบิดก็ดังกึกก้องจากเหนือชั้นฟ้าและตามมาด้วยฝนโลหิตก็เริ่มโหมกระหน่ำตกลงมา

นี่คือสัญญาณของการสูญสิ้นจักรพรรดิเทพ!

เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เกิดขึ้นมาหมื่นปีแล้ว ซึ่งในยุคนั้นคือยุคที่หลิงตู้ฉิงกำลังโลดแล่นอยู่ แต่ตอนนี้ความน่ากลัวเดิม ๆ มันกลับมาอีกแล้ว แล้วคราวนี้ใครจะยับยั้งเหตุการณ์นี้ได้อีก? คราวนี้เทพปีศาจผู้นี้แข็งแกร่งมากกว่าเมื่อในอดีตเป็นร้อยเท่า

เมื่อในอดีตเทพปีศาจผู้นี้ยังต้องใช้ความแข็งแกร่งจักรพรรดิเทพของตัวเองในการสังหารจักรพรรดิเทพคนอื่น ๆ แต่ตอนนี้แค่เพียงขอบเขตเทวะราชาขั้นต้นเท่านั้น เขากลับสามารถสังหารจักรพรรดิเทพขั้นสูงสุดได้สำเร็จ แล้วแบบนี้หากเขาเป็นจักรพรรดิเทพเมื่อไหร่ โลกนี้คงไม่มีใครที่สามารถทำอะไรเขาได้แน่นอนจริงไหม?

“เอาอีกแล้ว ปีศาจร้ายนั่นเริ่มลงมือสังหารเทพอีกแล้ว!”

“ปีศาจนั่นไม่เคยเปลี่ยนเลย!”

“……”

ผู้คนมากมายต่างอุทานขึ้นกับตัวเองด้วยสีหน้าหวาดหวั่น ส่วนทางด้านของกองกำลังใหญ่ ๆ ต่างก็คิดหาแผนรับมือกับหลิงตู้ฉิงกันจ้าละหวั่น

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่เศร้าที่สุดคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้คนของอาณาจักรแสงสวรรค์

จักรพรรดิเทพของพวกเขาได้ตายลงไปต่อหน้าต่อตา แล้วอนาคตที่ไม่มีจักรพรรดิเทพคอยค้ำจุนมันจะเป็นยังไงกัน?

ในเวลาเดียวกัน หลิงตู้ฉิงพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือหมู่เมฆ

“นี่คือครั้งที่สามแล้ว!” หลิงตู้ฉิงเอามือไพล่หลังและแหงนหน้ามองขึ้นไปราวกับว่าเขากำลังพูดกับใครบางคนที่อยู่เหนือขึ้นไปอีก “ข้าคิดว่าข้าทำมามากพอแล้วกับการชดใช้ในสิ่งต่าง ๆ ที่ข้าเคยกระทำลงไปในอดีต นับแต่นี้ต่อไปข้าจะทำเพื่อตัวของข้าเองทั้งหมด!”

ครั้งแรกที่เขาชดใช้ให้กับโลกและสวรรค์ก็คือการยับยั้งพระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซาง ครั้งที่สองคือสังหารตี้จ้าง และครั้งที่สามนี้ก็คือการสังหารจักรพรรดิเทพอาณาจักรแสงสวรรค์

หลังจากพูดจบ หลิงตู้ฉิงบินกลับมาหากลุ่มของเขาและเอ่ยปากสั่งทันที “พวกเรากลับกันเถอะ!”

หลังจากนั้นกลุ่มของหลิงตู้ฉิงเดินทางกลับไปยังจุดที่ตั้งเดิมของตำหนักไร้หทัย และเมื่อเดินทางไปถึงแล้ว กิเลนก็เอาตำหนักไร้หทัยที่อยู่บนหลังมันค่อย ๆ วางกลับไปที่เดิมเหมือนเก่าก่อน

เมื่อจัดการตั้งตำหนักไร้หทัยคืนที่เดิมเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงก็ทำสิ่งที่ทำให้คนทั้งโลกรู้สึกตกตะลึงโดยการสั่งให้ต้วนฉิงเปิดรับสมัครศิษย์เข้าร่วมกับตำหนักไร้หทัยทันที

กองกำลังที่มีจักรพรรดิเทพ 4 คน แถม 1 ในนั้นยังสามารถฆ่าจักรพรรดิเทพได้แบบสบาย ๆ กองกำลังแบบนี้หากเปิดรับสมัครคนใครกันจะไม่อยากเข้าร่วม?

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการเข้าร่วมกับตำหนักไร้หทัยจะน่าสนใจขนาดไหน แต่บรรดาผู้คนที่มาเข้าร่วมทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้สังกัดทั้งหมด ไม่มีผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายใหญ่ ๆ ย้ายเข้ามาเลยสักคน

เวลาผ่านไปอีก 1,000 ปีภายในพริบตา

1,000 ปีที่ผ่านมานี้อารมณ์ของผู้คนในอาณาจักรแสงสวรรค์ต่างอยู่ในความมืดหม่น เพราะหลังจากที่พวกเขาไม่มีจักรพรรดิเทพแล้ว อาณาจักรของพวกเขาก็เริ่มเสื่อมถอยไปเรื่อย ๆ ไม่มีผู้ใดเกรงใจเหมือนแต่เก่าก่อน

แต่แล้วในระหว่างที่พวกเขากำลังสิ้นหวังกันอยู่นั้น จู่ ๆ เต๋าแห่งแสงของพวกเขากลับส่องประกายเจิดจ้าเป็นสัญญาณว่ามีผู้บ่มเพาะเต๋าแห่งแสงบางคนได้กลายเป็นจักรพรรดิเทพคนใหม่

ผู้ที่เป็นจักรพรรดิเทพคนใหม่ไม่ใช่ใครอื่น คนผู้นั้นคือฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์ที่จู่ ๆ ก็สัมผัสได้ว่าโอกาสที่นางจะทะลวงระดับเป็นจักรพรรดิเทพได้มาถึง ซึ่งนางก็รีบคว้าโอกาสเอาไว้ในทันที

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นางกลายเป็นจักรพรรดิเทพอย่างเต็มตัวแล้วนางก็สัมผัสได้ถึงภาระหน้าที่ใหม่ของนาง ซึ่งมันทำให้นางบินตรงไปที่อาณาจักรแสงสวรรค์เพื่อกลายเป็นผู้นำคนใหม่ของอาณาจักรแสงสวรรค์

แน่นอนว่าหลังจากอาณาจักรแสงสวรรค์มีจักรพรรดิเทพคอยดูแลเหมือนเดิม บรรดากองกำลังต่าง ๆ ที่คอยรังแกอาณาจักรแสงสวรรค์ก่อนหน้านี้ก็รีบถอยร่นกลับไปยังต้นสังกัดของพวกเขาทันที

อันที่จริงหากเป็นคนจากเผ่าอื่นขึ้นมาเป็นจักรพรรดิเทพของอาณาจักรแสงสวรรค์ พวกเขาอาจจะไม่ถอยร่นไปง่ายขนาดนี้ แต่บังเอิญว่าจักรพรรดิเทพคนใหม่ของอาณาจักรแสงสวรรค์คือเผ่าฟีนิกซ์ และเผ่าฟีนิกซ์ในขณะนี้ก็มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับตำหนักไร้หทัย ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาไม่อยากถอยก็ต้องถอย!

ทางด้านของฟีนิกซ์แสงสวรรค์ก็ได้รับการต้อนรับจากอาณาจักรแสงสวรรค์เป็นอย่างดี บรรดาผู้คนของอาณาจักรแสงสวรรค์ต่างยกที่นั่งผู้นำให้นางด้วยความเต็มใจ

ท้ายที่สุดโลกเบื้องบนกลับไม่วุ่นวายเหมือนกับที่ใครหลายคนกังวลกันไปเอง ทุกสิ่งทุกอย่างมันกลับสงบลงเหมือนเดิมตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ความสงบนี้เป็นเพียงแค่หน้าฉากเท่านั้น ไม่มีใครรู้เลยว่าอีกไม่นานบางอย่างที่อยู่ในมุมมืดกำลังจะเผยตัวออกมา และนั่นคือเวลาแห่งความวุ่นวายอันแท้จริง!